หุ่นยนต์กลายเป็นกำลังหลักดูแลผู้สูงอายุญี่ปุ่นแทนคนภายในปี 2020

หุ่นยนต์กลายเป็นกำลังหลักดูแลผู้สูงอายุญี่ปุ่นแทนคนภายในปี 2020

รัฐบาลญี่ปุ่นต้องการที่จะเพิ่มการยอมรับในการใช้เทคโนโลยีแก้ปัญหาขาดแคลนพยาบาล ขณะเดียวกันญี่ปุ่นซึ่งอยู่ในสังคมผู้สูงอายุกำลังเผชิญกับปัญหาขาดแคลนผู้ที่ดูแลคนป่วย โดยคากการณ์ว่าภายในปี 2025 จะขาดแคลงผู้ดูแลสูงถึง 370,000 คน  ดังนั้นรัฐบาลญี่ปุ่นจึงต้องการที่จะกระตุ้นให้สังคมหันมายอมรับการใช้เทคโนโลยีในการแก้ปัญหาขาดแคลนเจ้าหน้าที่พยาบาล โดยรัฐบาลต้องการที่จะเห็นหุ่นยนต์ที่มีประสิทธิภาพ และสามารถช่วยงานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งล่าสุดได้มีปรับปรุงสิ่งที่หุ่นยนต์ควรทำเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระ ซึ่งครอบคลุมถึงหุ่นยนต์สามารถคาดการณ์ได้ว่าผู้ป่วยต้องการที่จะเข้าห้องน้ำหรือไม่ และต้องการเข้าเมื่อไหร่ Dr Hirohisa Hirukawa ผู้อำนวนการศูนย์วิจัยนวัตกรรมหุ่นยนต์ที่สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรมแห่งประเทศญี่ปุ่น (National Institute of Advanced Industrial Science and Technology: AIST) กล่าวว่าเป้าหมายของเราในการพัฒนาเพื่อลดภาระของพยาบาล และช่วยให้ผู้ป่วยสามารถดูแลตัวเองขณะอยู่ที่บ้านได้ด้วย หุ่นยนต์อาจไม่สามารถแก้ปัญหาทั้งหมดได้ แต่อย่างน้อยหุ่นยนต์สามารถช่วยแก้ปัญหาบางเรื่องที่ยุ่งยากนี้ได้ เขากล่าว

Tesla รุกตลาดบ้านแสงอาทิตย์ เซาธ์ ออสเตรเลีย ติดตั้ง Powerwall จำนวน 5 หมื่นหลัง

Tesla รุกตลาดบ้านแสงอาทิตย์ เซาธ์ ออสเตรเลีย ติดตั้ง Powerwall จำนวน 5 หมื่นหลัง

Tesla ปรับตัวครั้งยิ่งใหญ่ก้าวเข้าสู่ตลาดพลังงานแบตเตอรี่ในออสเตรเลีย โดยเข้าไปมีบทบาทในโปรเจคใหม่ ช่วยติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ และ Powerwall แบตเตอรี่ให้บ้าน จำนวน 50,000 หลัง Jay Weatherill ผู้ว่าการรัฐเซาธ์ ออสเตรเลีย (South Australia) ประกาศแผนสร้างเครือข่ายบ้านพลังงานแสงอาทิตย์จำนวน 50,000 หลัง โดยใช้แบตเตอรี่ของบริษัท Tesla ที่เรียกว่า Powerwall โดยบ้านแต่ละหลังที่เข้าร่วมโครงการนี้จะได้รับแผงพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 5 กิโลวัตต์ และแบตเตอรี่ Powerwall ขนาด 13.5 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ภายใต้ระบบ Powerwall 2 ปัจจุบัน 40% ของพลังงานที่ใช้ในรัฐนี้มาจากพลังงานลม และคาดว่าวิธีนี้จะช่วยสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับ South Australia ได้ในระดับหนึ่ง หลังจากรัฐนี้เคยประสบปัญหาไฟฟ้าดับมาแล้วหลายครั้งเนื่องจากผลิตไฟฟ้าไม่เพียงพอความต้องการ

จีนเสริมทัพหุ่นยนต์ 2 หมื่นตัวปีนี้ เพิ่มความแข็งแกร่งภาคการผลิต

จีนเสริมทัพหุ่นยนต์ 2 หมื่นตัวปีนี้ เพิ่มความแข็งแกร่งภาคการผลิต

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า มณฑลกวางตุ้ง (Guangdong) ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจสำคัญทางใต้ของจีน วางแผนนำหุ่นยนต์อุตสาหกรรมมาใช้งานเพิ่มขึ้นอีก 20,000 ตัวในปีนี้ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมการผลิต Ma Xingrui ผู้ว่าการมณฑลกวางตุ้ง กล่าวว่า “มณฑลกวางตุ้งจะเพิ่มความพยายามในการพัฒนาภาคการผลิตให้เป็นดิจิทัล และสร้างอุตสาหกรรมอัจฉริยะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” เขากล่าวว่า “การพัฒนากวางตุ้งจะเน้นไปที่เศรษฐกิจโดยแท้จริง โดยมีภาคการผลิตเป็นรากฐาน” อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ได้ถูกบรรจุไว้เป็นหนึ่งในการพัฒนาที่สำคัญตามยุทธศาสตร์ของประเทศ “Made in China 2025” ซึ่งจีนถือเป็นตลาดหุ่นยนต์อุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของโลก จากข้อมูลของกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ (Ministry of Industry and Information Technology) พบว่า จีนผลิตหุ่นยนต์อุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นถึง 100,000 เครื่อง ในช่วง 10 เดือน แรกของปี 2017 เพิ่มขึ้น 70% จากปี 2016 ขณะที่มูลค่าการตลาดของหุ่นยนต์อุตสาหกรรมจีนเพิ่มขึ้นแตะ 4.2 พันล้านดอลลาร์ในปี 2017 และคาดว่าเพิ่มขึ้นเป็น 5.9 พันล้านดอลลาร์ในปี […]

ซัมซุง เปิดนวัตกรรมอัจฉริยะ ชูความล้ำหน้าจาก IoT แบบไร้รอยต่อ

ซัมซุง เปิดนวัตกรรมอัจฉริยะ ชูความล้ำหน้าจาก IoT แบบไร้รอยต่อ

ซัมซุงเปิดตัวผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ SmartThings App ที่เชื่อมต่อผู้บริโภคด้วยอุปกรณ์ต่างๆ อย่างไร้รอยต่อในชีวิตประจำวัน ทั้งที่บ้าน สำนักงาน และทุกๆ ที่ วิธีใหม่สำหรับผู้บริโภค ในการจัดการและควบคุมอุปกรณ์ไอโอทีของตน แอพใหม่นี้จะรวมแอพไอโอทีไว้ในที่เดียว (Single Touchpoint) อำนวยความสะดวกสำหรับชีวิตแห่งการเชื่อมต่อ นอกจากนี้ ซัมซุงยังได้วางแผนผนวก HARMAN Ignite แพลตฟอร์มระบบคลาวด์ที่เพิ่มความสามารถให้รถยนต์อัจฉริยะเชื่อมต่อเข้ากับคลาวด์สมาร์ทธิงส์ โดยเห็นว่า รถยนต์เป็นอีกส่วนประกอบสำคัญของไอโอที พร้อมทุ่มงบวิจัย 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ เดินเครื่องพัฒนานวัตกรรมไอโอที ตั้งเป้าสร้างการเชื่อมต่ออัจฉริยะ เข้ากับน็อกซ์ แพล็ตฟอร์มรักษาความปลอดภัย สามารถใช้งานได้ทุกดีไวซ์ภายในปี 2020

มือถือ คอมพิวเตอร์ โดนแฮ็คได้ทุกเครื่อง

มือถือ คอมพิวเตอร์ โดนแฮ็คได้ทุกเครื่อง

นักวิจัยทางความมั่นคงทางไซเบอร์ได้ค้นพบว่า มีจุดบกพร่องในรักษาความปลอดภัยทางข้อมูลทำให้แฮ็คเก้อร์สามารถขโมยข้อมูลที่อ่อนไหวจากอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่ใช้ไมโครชิปของบริษัทอินเทล บริษัทแอดแวนซ์ไมโครดีไวซ์ และบริษัทเออาร์เอ็มโฮลดิ้ง ไวรัสตัวหนึ่งเล่นงานเฉพาะชิปของอินเทล ไวรัสอีกตัวจะมีผลกระทบต่อแล็ปท็อป คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ สมาร์ทโฟน แท็ปเล็ต และอินเทอร์เน็ตเชิร์ฟเวอร์ ทั้งบริษัทอินเทล และเออาร์เอ็มออกมาบอกว่า ปัญหาไม่ได้เกิดจากการความผิดพลาดในดีไชน์ของไมโครชิป แต่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดคำสั่งในภาษาเครื่องเพื่อที่จะอัพเดทระบบทำงาน “โทรศัพท์ เครื่องพีซี ทุกอย่างจะได้รับผลกระทบ ขึ้นอยู่กับเครื่องแต่ละอย่าง” นาย Brian Krzanich ซีอีโอของอิลเทลกล่าว นักวิจัยในโครงการ Google Project Zero ของบริษัทอัลฟาเบทได้ร่วมมือกับนักวิจัยจากหลายประเทศได้พบข้อบกพร่องใหญ่ 2 ประเด็นด้วยกัน ข้อพกพร่องแรกเรียกว่า Meltdown ซึ่งมีผลกระทบต่อชิปของอินเทล และเปิดโอกาสให้แฮ็คเก้อร์สามารถข้ามอุปสรรคของฮาร์ดแวร์ระหว่างแอปพลิเคชั่นที่ผู้ใช้ใช้งาน และเมมโมรี่ของคอมพิวเตอร์, ซึ่งทำให้แฮ็คเก้อร์อ่านเมมโมรี่ได้และขโมยรหัสพาสเวิร์ดไป ข้อบกพร่องที่ 2 เรียกว่า Spectre ซึ่งมีผลกระทบกับชิปของอินเทล เอเอ็มดี และเออาร์เอ็ม โดยแฮ็คเก้อร์สามารถหลอกให้แอปพลิเกชั่นที่ดูเหมือนว่าไม่มีข้อผิดพลาดให้ยอมเปิดข้อมูลลับ

หวั่นรถยนต์ไฟฟ้าจีน ทะลักเข้าไทย

หวั่นรถยนต์ไฟฟ้าจีน ทะลักเข้าไทย

กระทรวงพาณิชย์ได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการหาแนวทางแก้ปัญหาและลดผลกระทบต่อค่ายรถยนต์ในประเทศ ตามที่ประชุม ครม. ได้มอบหมายเพื่อกำหนดอัตราภาษีนำเข้าที่เหมาะสมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (บีอีวี) ภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน จากที่ไทยจะลดภาษีนำเข้าเป็น 0% ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2018 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ความตกลงดังกล่าวได้เกิดขึ้นมานานแล้ว ซึ่งขณะนั้นการนำเข้ามักจะเป็นเฉพาะรถกอล์ฟไฟฟ้า แต่เมื่อสถานการณ์การค้า และเทคโนโลยีการผลิตเปลี่ยนไป จึงต้องหารือทุกภาคส่วนอีกครั้งถึงความเหมาะสม ด้าน นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ได้หารือร่วมกับผู้ผลิตรถยนต์ในไทยถึงผลกระทบจากการลดภาษีนำเข้ารถยนต์บีอีวีจากจีนเป็น 0% ซึ่งมีความคิดเห็นที่หลากหลาย มีทั้งกลุ่มที่เห็นว่า รถยนต์บีอีวีราคาถูกที่จากจีนเป็นคู่แข่งสำคัญในตลาดไทย มองว่ารัฐบาลควรมีมาตรการส่งเสริม และคุ้มครองผู้ผลิตในประเทศด้วยวิธีที่เหมาะสม กลุ่มค่ายยุโรปเห็นต่าง โดยมองว่าตนมีเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงมองว่าจีนไม่ใช่คู่แข่ง เพราะคนละตลาดกัน และเห็นว่าการมีบีอีวีจากจีน จะช่วยกระตุ้นความต้องการซื้อรถบีอีวีในไทย และทำให้ค่ายรถยนต์กล้าผลิตเพื่อจำหน่ายในไทยมากขึ้น

สิงค์โปร์ผุดแนวคิดใหม่ ดึงแฮกเกอร์ 300 ราย เจาะระบบรัฐ หวังหาทางอุดช่องโหว่

สิงค์โปร์ผุดแนวคิดใหม่ ดึงแฮกเกอร์ 300 ราย เจาะระบบรัฐ หวังหาทางอุดช่องโหว่

รายงานข่าวจากสเตรทไทมส์ระบุว่ากระทรวงกลาโหมของสิงคโปร์ เตรียมเชิญเหล่าแฮกเกอร์จากทั่วโลกราว 300 คนร่วมเจาะระบบเว็บไซต์ของรัฐบาลจำนวน 8 เว็บไซต์ ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม ถึง 4 กุมภาพันธ์ ปี 2018 เพื่อทำการทดสอบระบบความปลอดภัยในการป้องการข้อมูลต่างๆของภาครัฐ การเชิญแฮกเกอร์เข้าร่วมเจาะระบบในครั้งนี้เพื่อจะทดสอบดูว่ายังมีช่องโหว่ตรงจุดไหนหรือไม่ และหากมีผู้เจาะระบบได้ทางกระทรวงจะมอบเงินรางวัล ราว 150 – 20,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ โดยรางวัลจะขึ้นอยู่กับความยากง่ายของการเจาะเข้าระบบ โครงการดังกล่าวริเริ่มขึ้นหลังจากที่กระทรวงกลาโหมพบว่า แฮกเกอร์ได้เจาะข้อมูลขโมยหมายเลขโทรศัพท์และวันเกิดของบุคลากรในรัฐบาลจำนวน 854 รายเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยนับเป็นโครงการแรกที่รัฐบาลสิงคโปร์ระดมสมองแฮกเกอร์เพื่อป้องกันรูรั่วของระบบอินเตอร์เน็ตรัฐบาล

Google เปิดตัวศูนย์วิจัยด้าน AI ในจีน เล็งดึงคนท้องถิ่นร่วมงาน

Google เปิดตัวศูนย์วิจัยด้าน AI ในจีน เล็งดึงคนท้องถิ่นร่วมงาน

รายงานข่าวจากรอยเตอร์สระบุว่า Alphabet Inc. บริษัทแม่ Google ได้เปิดตัวศูนย์วิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ ที่ประเทศจีน โดยมีเป้าหมายที่จะดึงพนักงานคุณภาพ (talent) ท้องถิ่น มาร่วมงานด้วย Google เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence research center) จะเป็นแห่งแรกในเอเชีย ประกอบด้วยทีมงานขนาดเล็กประจำอยู่ที่สำนักงานในกรุงปักกิ่ง โดยศูนย์ใหม่ที่ประเทศจีนจะเป็นหนึ่งในศูนย์วิจัยที่ตั้งอยู่ต่างประเทศ อย่าง นิวยอร์ก โตรอนโต ลอนดอน และ ซูริค ที่ผ่านมาหน่วยงานภาครัฐของจีนให้การสนับสนุนการพัฒนา และวิจัยเกี่ยวกับ AI ภายในประเทศมาโดยตลอด อย่างไรก็ดีทางการจีนยังคงมีกฎระเบียบ และข้อจำกัดที่เข้มงวดสำหรับบริษัทข้ามชาติในช่วงปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาทางการจีนจะสั่งห้ามการเข้าถึงบริการสืบค้นข้อมูล ของ Google และเว็บไซต์ ยูทูป หรือ โซเชียลมีเดียอย่างเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ แต่ Google ก็ยังคงเดินหน้าผลักดันให้ AI เป็นที่ยอมรับในจีน

การท่าเรือเล็งใช้หุ่นยนต์ขนถ่ายสินค้า “ย่นเวลา-บริหารจราจรดีขึ้น”

การท่าเรือเล็งใช้หุ่นยนต์ขนถ่ายสินค้า “ย่นเวลา-บริหารจราจรดีขึ้น”

การท่าเรือแห่งประเทศไทยกำลังอยู่ระหว่างศึกษาการก่อสร้างท่าเรือ Premium Port บริเวณฝั่งตะวันตกของท่าเรือกรุงเทพ พร้อมระบบการขนถ่ายด้วยเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ ทำหน้าที่ในการจัดการท่าเรือ โดยระบบที่ใช้คอมพิวเตอร์และหุ่นยนต์ในการขนย้ายตู้สินค้า (Port Automation) โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างรอบแรกจำนวน 2-3 ท่าก่อน นายโกมล ศรีบางพลีน้อย ผู้อำนวยการ ท่าเรือกรุงเทพ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) กล่าวว่าการนำเอาระบบอัตโนมัติมาใช้ในการขนถ่าย จะช่วยลดระยะเวลาการรอขนถ่ายสินค้าและบริหารการจราจรของสินค้าภายในท่าเรือกรุงเทพให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และรองรับลูกค้าระดับสูงในแบบฉบับของความเป็น Premium Port คาดว่าจะใช้เวลาศึกษาถึงปี 2019 ก่อนเสนอของบประมาณก่อสร้าง ในปี 2021

QR Code เปลี่ยนแดนมังกร สู่ Cashless Society

QR Code เปลี่ยนแดนมังกร สู่ Cashless Society

ในช่วงปลายปี 2017 ที่ผ่านมา เราเห็นธนาคารพาณิชย์หลายแห่งในประเทศไทยเปิดตัวการให้บริการการชำระเงินรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “คิวอาร์โค้ด (QR Code)” ซึ่งเป็นไปตามแนวนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ต้องการสนับสนุนให้ลดปริมาณการใช้เงินสดและส่งเสริมการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการจัดการเงินสด ตลอดจนสอดคล้องกับนโยบาย National e-Payment ของรัฐบาล เพื่อเป็นการปูทางให้ประเทศไทยเดินหน้าเข้าสู่สังคมไร้เงินสด (Cashless Society) ซึ่งหลายประเทศได้นำร่องไปแล้ว โดยเฉพาะประเทศในยุโรปและอเมริกา สำหรับในเอเชีย ประเทศจีนถือได้ว่าเป็นประเทศที่สามารถนำระบบ Digital Payment เข้ามาใช้ในการทำธุรกรรมการเงินแทนการใช้เงินสดได้อย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี โดยมี QR Code เป็นตัวแปรสำคัญที่ผลักดันให้ประเทศจีนเข้าใกล้ความเป็นสังคมไร้เงินสดอย่างเต็มรูปแบบและเปลี่ยนวิถีชีวิตของคนในสังคมไปอย่างสิ้นเชิง ทุกวันนี้ QR Code ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายทั่วทุกหัวระแหงในประเทศจีน ทั้งในเมืองใหญ่ไปจนถึงหมู่บ้านเล็กๆ ทั้งธุรกรรมที่มีมูลค่าต่ำไปจนถึงธุรกรรมที่มีมูลค่าสูง ว่ากันว่า ผู้คนในประเทศจีนสามารถใช้ชีวิตใน 1 วันได้โดยไม่จำเป็นต้องพกกระเป๋าสตางค์ เพียงแค่มีโทรศัพท์มือถือที่มีแอปพลิเคชันซึ่งลิงค์กับบัญชีธนาคารก็สามารถชำระค่าสินค้าอย่างง่ายดายด้วยการสแกน QR Code โดยผู้ให้บริการหลักในตลาด Mobile Payment ของจีน คือ Alipay ในกลุ่มของ Alibaba ผู้ให้บริการค้าปลีกออนไลน์รายใหญ่ […]