สิงคโปร์และฮ่องกงพร้อมเปิด ‘ทราเวล บับเบิ้ล’ อีกครั้ง 26 พ.ค. นี้
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า สิงคโปร์และฮ่องกงประกาศว่าจะเริ่มดำเนินโครงการ แอร์ ทราเวล บับเบิ้ล (ATB) ระหว่างทั้ง 2 เมือง ในวันที่ 26 พ.ค. นี้ หลังจากที่โครงการมีความล่าช้ามานาน การประกาศดำเนินโครงการ แอร์ ทราเวล บับเบิ้ล มีขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ภายใต้ข้อตกลงคือ ประชาชนของเมืองศูนย์กลางทางการเงินทั้ง 2 แห่งนี้จะได้รับอนุญาตให้เดินทางได้โดยไม่จำเป็นต้องกักตัว รายงานไม่ได้ระบุชัดเจนว่า จะมีจำนวนเที่ยวบินทั้งหมดกี่เที่ยวที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงนี้ แต่แหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง กล่าวว่า จำนวนเที่ยวบินน่าจะเพิ่มขึ้นในวันที่ 26 มิ.ย. หากไม่มีการระบาดเพิ่มเติมในเมืองใดเมืองหนึ่ง โครงการทราเวล บับเบิ้ล ระหว่างสิงคโปร์และฮ่องกงนั้น ริเริ่มขึ้นตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา แต่เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในฮ่องกงสูงขึ้นเมื่อช่วงปลายปี จึงทำให้โครงการถูกเลื่อนออกไป เดอะ สเตรทไทม์ส รายงานว่า ข้อตกลงแอร์ ทราเวล บับเบิ้ล ระหว่างสิงคโปร์และฮ่องกง ก็คือ ต้องเป็นการเดินทางที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค. เป็นต้นไป […]
ภายในปี 2025 บริษัทเทคฯ ยักษ์ใหญ่อาเซียนจะเร่งควบรวมกิจการสตารท์อัพมากขึ้น
รายงานข่าวซีเอ็นบีซี ระบุว่า บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน สามารถซื้อกิจการสตารท์อัพ โดยใช้เงินทุนจากการระดมทุนเมื่อครั้งขายหุ้นแก่สาธารณะ Vinnie Lauria จาก Golden Gate Ventures กล่าวในรายการ “Street Signs Asia” ของซีเอ็นบีซีว่า เป็นไปได้ที่พวกเขากำลังจะกอบโกยธุรกิจสตาร์ทอัพจำนวนมาก เขา กล่าวเสริมว่า ผู้ซื้อที่มีความเป็นไปได้ เช่น แกร๊บ และซี กรุ๊ป เช่นเดียวกับการควบรวมกันระหว่างโกเจ็ก และโทโคพีเดีย เป็น โกโท ถือว่าเป็นหนึ่งในความเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศทางเศรษฐกิจ (อีโคซิสเทม) ในวงการสตาร์ทอัพในการเพิ่มขนาดที่น่าจับตามอง การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทำให้สตาร์ทอัพมีเงินทุนที่จะเติบโต อีกทั้งพวกเขามีการประเมินมูลค่าเพื่อทำการซื้อกิจการประเภทนี้ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างเงินสดและทุน ทั้งนี้ เขา ตั้งข้อสังเกตว่า ภาพแบบนี้เกิดขึ้นในจีนเมื่อ 10-15 ปีที่แล้ว โดยไป่ตู้ อาลีบาบาและเทนเซ็นต์ ไล่ซื้อบริษัทขนาดเล็ก Golden Gate Ventures คาดการณ์ว่า ภายในปี 2025 จะมีการเข้าซื้อกิจการกว่าร้อยแห่งที่นำโดยกลุ่มบริษัทที่เรียกว่า […]
จีนตั้งเป้าลดใช้ถ่านหินในปีนี้ พร้อมปรับปรุงการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
จีนตั้งเป้าหมายที่จะลดสัดส่วนการใช้ถ่านหินในการผสมพลังงานให้เหลือน้อยกว่า 56% ในปีนี้ ตามแนวทางที่เปิดเผยโดยสำนักงานบริหารพลังงานแห่งชาติ (NEA) จากสัดส่วนในปี 2020 คือ 56.8% และในปี 2019 ที่มีสัดส่วน 57.7% ในปี 2021 จีนวางแผนที่จะทดแทนถ่านหินในการใช้พลังงานขั้นสุดท้าย ด้วยไฟฟ้าเทียบเท่า 2 แสนล้านกิโลวัตต์ที่ใช้ในเวลา 1 ชั่วโมง ในขณะที่เพิ่มสัดส่วนการใช้ไฟฟ้าในพลังงานขั้นสุดท้ายเป็น 28% ขณะเดียวกันการผลิตพลังงานของจีนคาดว่าจะสูงถึง 4,200 ล้านตัน เทียบเท่าถ่านหินในปีนี้ ส่วนผลผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 196 ล้านตันและ 202,500 ล้านลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ นอกจากนี้ จีนจะพยายามเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งของแหล่งพลังงานที่ไม่ได้มาจากฟอสซิล เป็น 1,100 ล้านกิโลวัตต์ และลดการใช้พลังงานต่อหน่วยต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ลงประมาณ 3% ในปีนี้ NEA ระบุว่า จีนจะเสริมสร้างการควบคุมปริมาณการใช้ถ่านหินทั้งหมด พร้อมผลักดันการใช้ถ่านหินอย่างมีประสิทธิภาพและสะอาด ส่งเสริมบริการพลังงานที่ครอบคลุมและปรับปรุงการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
เศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตมั่นคง ท่ามกลางไวรัสโคโรนาที่ยังเป็นภัยคุกคามหลัก
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า จากผลสำรวจของรอยเตอร์สที่จัดทำขึ้นรอบล่าสุด พบว่า นักเศรษฐศาสตร์ต่างมองว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ปีนี้จะเติบโตเร็วที่สุดในรอบหลาย 10 ปีที่ผ่านมา และจะมีผลงานที่โดดเด่นกว่าคู่แข่งหลักๆ โดยนักเศรษฐศาสตร์ต่างปรับมุมมองดีขึ้นอย่างชัดเจน ในขณะที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอีกครั้ง ถือเป็นความเสี่ยงใหญ่ที่สุดสำหรับช่วง 3 เดือนข้างหน้า นักเศรษฐศาสตร์กว่า 100 คน ได้ทำแบบสำรวจของรอยเตอร์ส เมื่อวันที่ 16-20 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งผลสำรวจสะท้อนถึงมุมมองที่ดีต่อเศรษฐกิจ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะได้รับดีจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมาตรการบรรเทาทุกข์จากการแพร่ระบาด 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ผ่านออกมาเรียบร้อยแล้ว และยังมีแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมากกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน นำเสนอด้วย เศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลกนี้ ได้รับการคาดการณ์ว่าจะเติบโตเฉลี่ย 6.2% ในปีนี้ ซึ่งเป็นมุมมองที่สดใสที่สุดนับตั้งแต่iรอยเตอร์สเริ่มจัดทำผลสำรวจนี้ขึ้นมากว่า 2 ปีแล้ว และหากทำสำเร็จตามมุมมองที่คาดการณ์ไว้ ก็จะทำให้ปีนี้ถือเป็นปีที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 1984 กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ล่าสุดคาดการณ์ว่า […]
เงินหยวนดิจิทัลอาจมีนัยสำคัญทางการเมือง ตอบโต้ใครก็ตามที่ขัดแย้งกับจีน
รายงานข่าวจากบลูมเบิร์ก ระบุว่า จีนได้หาวิธีที่จะต่อต้านการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ด้วยการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลของจีน นับตั้งแต่ที่ฝ่ายบริหารของทรัมป์พุ่งเป้าไปที่เจ้าหน้าที่และบริษัทจีน ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดี โจ ไบเดน เริ่มศึกษาว่าการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลของจีนจะทำให้สหรัฐฯ บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรได้ยากขึ้นหรือไม่ ขณะที่ เงินหยวนดิจิทัลจะเปิดตัวในวงกว้างมากขึ้นในกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2022 ที่ปักกิ่ง ซึ่งกระตุ้นให้สหรัฐฯพิจารณาสร้างดอลลาร์ดิจิทัล นอกจากนี้เงินหยวนดิจิทัลยังมีความท้าทายที่อาจมีนัยสำคัญทางการเมืองมากขึ้น เนื่องจากเงินหยวนดิจิทัลจะได้ประโยชน์จากบริษัทข้ามชาติและรัฐบาลที่ต้องการเข้าถึงผู้บริโภค 1.4 พันล้านคนในจีน และจีนมีความสามารถในการตรวจสอบธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลจึงอาจเป็นเรื่องง่ายกว่าที่จะตอบโต้ใครก็ตามที่ขัดแย้งกับจีนในประเด็นที่ละเอียดอ่อน เช่น ไต้หวัน ซินเจียง และฮ่องกง Matt Pottinger อดีตรองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวว่า ถ้าคุณคิดว่า สหรัฐฯ มีอำนาจมากมายผ่านทางการคว่ำบาตรโดยกระทรวงการคลัง ในอนาคตอาจจะไม่เห็นผลอะไรเลย ในขณะที่รัฐบาลจีนให้การสนับสนุนเต็มที่ในการผลักดันสกุลเงินดิจิทัล
จีนให้คำมั่นจะดำเนินนโยบายสนับสนุนที่จำเป็นเพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัว
สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า จีนจะยังรักษาการสนับสนุนที่จำเป็นเพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัวและจะดำเนินการปรับโครงสร้างเพื่อลดภาษี รวมถึงออกมาตรการอื่นๆ เพื่อร่วมขับเคลื่อนการเติบโต Meng Wei โฆษกคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ กล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ว่า นโยบายนี้มีเป้าหมาายเพื่อสร้างเสถียรภาพการจ้างงานและปกป้องผู้ที่อยู่ในตลาดไม่ให้ถูกถอดถอนออกไป และจะมีการนำมาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กมาใช้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ฝ่ายนโยบายให้คำมั่นว่าจะเพิ่มบริการทางการเงินสำหรับผู้ที่อยู่ในตลาด และจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านการกำกับดูแล รวมทั้งลดแรงกดดันด้านต้นทุนขององค์กร Meng กล่าวว่า แม้ว่าเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มดีขึ้นในไตรมาสแรกที่ผ่านมา แต่ความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นในตลาดโลก และการฟื้นตัวภายในประเทศที่ไม่สม่ำเสมอยังคงเป็นความท้าทายสำหรับการพัฒนาในอนาคต ในไตรมาสแรกที่ผ่านมา เศรษฐกิจจีนเติบโต 18.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากความต้องการทั้งในประเทศและต่างประเทศที่แข็งแกร่งเป็นพลังสำคัญสำหรับการฟื้นตัวจากฐานที่ต่ำเมื่อช่วงต้นปี 2020 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่โควิด-19 เริ่มเกิดขึ้นในประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลก เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะเติบโต 8.4% ในปี 2021 ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มคาดการณ์อีก 0.3% จากระดับที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา
กลุ่มนักลงทุนเรียกร้องแบงก์กำหนดเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศที่ยากขึ้น
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า กลุ่มนักลงทุนซึ่งบริหารสินทรัพย์รวมกัน 11 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ออกมาเรียกร้องให้ธนาคารต่างๆ ตั้งเป้าหมายการปล่อยมลภาวะที่เข้มงวดมากขึ้น โดยข้อเรียกร้องนี้เกิดขึ้นก่อนการประชุมผู้นำโลกที่มีเป้าหมายเพื่อเร่งความพยายามในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ กลุ่มนักลงทุนนี้ ครอบคลุม นักลงทุนตราสารหนี้รายใหญ่ที่สุดในโลก บริษัทจัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษด้วย พวกเขาระบุว่า ต้องการให้ผู้ปล่อยกู้มีการกำหนดเรื่องการลดปล่อยก๊าซคาร์บอนในระดับที่สูงขึ้นในหนังสือสัญญากู้ยืม ขณะที่ ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลกจำนวนหนึ่งออกมาระบุว่า พวกเขามีความทะเยอทะยานที่จะไปถึงเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ภายในปี 2050 แต่หลายรายยังไม่เจาะจงว่าพวกเขามีแผนงานอย่างไรและยังคงให้เงินทุนกับกิจกรรมที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างหนัก “ปัญหาที่เราเผชิญวันนี้ คือ ธนาคารจำนวนมากกำลังล้มเหลวในการพิจารณาอันตรายที่เกิดกับสภาพภูมิอากาศ เมื่อพวกเขาตัดสินใจให้เงินทุน และเงินจำนวนมากถูกใส่ไปในกิจกรรมที่ใช้ก๊าซคาร์บอน เราจึงมองว่ามีความจำเป็นต้องถอยห่างจากสิ่งที่ทำอยู่นี้” Natasha Landell-Mills หัวหน้าผู้ดูแล Sarasin & Partners กล่าว ทั้งนี้ สหรัฐฯ เตรียมเป็นเจ้าภาพจัดประชุมผู้นำด้านสภาพภูมิอากาศวันที่ 22-23 เม.ย. นี้ ซึ่งกลุ่มนักลงทุน ระบุว่า พวกเขาต้องการให้ธนาคารเร่งความพยายาม รวมถึงตั้งเป้าหมายให้เกิดการสร้างมลภาวะเป็นศูนย์ภายในกลางศตวรรษนี้ ขณะที่ คณะกรรมการกำหนดค่าตอบแทนของธนาคารควรจะแน่ใจว่าการจ่ายเงินผันแปรจะขึ้นอยู่กับการบรรลุเป้าหมาย และความเสี่ยงด้านสภาพอากาศควรรวมอยู่ในหนังสือของผู้ปล่อยกู้ มีธนาคารจำนวนหนึ่งที่ระบุแล้วว่า พวกเขาวางแผนเพิ่มการลงทุนในพลังงานสีเขียว และกิจกรรมอื่นๆ ที่จะช่วยเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ แต่กลุ่มนักลงทุน […]
กลุ่มบริษัทเกาหลีใต้เริ่มผลิตวัคซีนสปุตนิก วี ของรัสเซีย ส.ค. นี้
ซีเอ็นบีซี รายงานว่า บริษัท Huons Global ของเกาหลีใต้ ออกมาเผยว่า บริษัทจะเป็นผู้นำกลุ่มความร่วมมือเพื่อผลิตวัคซีนสปุตนิก วี ป้องกันโควิด-19 ของรัสเซีย 100 ล้านโดสต่อเดือน ในช่วงที่รัสเซียเพิ่มการผลิตสำหรับผู้ผลิตในห่วงโซ่อุปทานที่อยู่ในต่างประเทศ การประกาศเกิดขึ้นหลังจากบริษัทไบโอเทคของเกาหลีใต้ที่ชื่อว่า GL Rapha ลงนามในข้อตกลงกับกองทุนความมั่งคั่งของรัสเซียเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เพื่อผลิตวัคซีนสปุตนิก วี มากกว่า 150 ล้านโดสต่อปี Huons กล่าวว่า กลุ่มความร่วมมือนี้จะเริ่มผลิตชุดวัคซีนตัวอย่างในเดือน ส.ค. และจะตอบสนองความต้องการจากกองทุนเพื่อการลงทุนโดยตรงของรัสเซีย (RDIF) อย่างยืดหยุ่น สำหรับกลุ่มความร่วมมือนี้ นอกจากบริษัท Huons Global ยังมีอีก 3 บริษัท ได้แก่ 1.Prestige BioPharma 2.Humedix และ 3.Boran Pharma โดยจะสร้างโรงงานผลิตใหม่ขึ้นมา ขณะที่ ทูตของอินเดียประจำกรุงมอสโคว กล่าวว่า การส่งวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 สปุตนิก […]
เวียดนามหนุนบริษัทผู้ผลิตซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนโดยตรง ลดการผูกขาด
กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนามกำลังพิจารณาอนุญาตให้บริษัทต่างๆ สามารถซื้อไฟฟ้าโดยตรงจากโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนแทนการผูกขาดของผู้จัดจำหน่าย Vietnam Electricity นโยบายสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโดยตรง หรือ DPPA จะช่วยให้บริษัทผู้ผลิตที่มีสายไฟขั้นต่ำ 22 กิโลโวลต์ สามารถเจรจาและซื้อจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมได้ โดยในช่วง 3 ปีแรก ระหว่างที่ทดลองใช้นโยบาย ทางบริษัทผู้ซื้อไฟฟ้าต้องซื้ออย่างน้อย 80% ของพลังงานไฟฟ้าที่ตกลงกันไว้ โซลาร์ฟาร์มและกังหันลมที่มีกำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ขึ้นไป สามารถลงนามในข้อตกลงเหล่านี้ได้และจำเป็นต้องเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายใน 9 เดือนหลังจากเข้าร่วมโครงการนำร่อง โครงการนี้มีแนวโน้มที่จะเริ่มในเร็วๆ นี้ และจะดำเนินการไปจนถึงปี 2030 โดยมีกำลังการผลิตรวมประมาณ 1,000 เมกะวัตต์ เมื่อสิ้นสุดระยะทดลองงาน กระทรวงฯ จะตรวจสอบและหากพอใจกับผลลัพธ์จะพยายามทำให้โปรแกรมถาวรต่อไป
ปีลีปีลีเตรียมซื้อหุ้นยูซู 765 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รุกคืบตลาดเกมออนไลน์จีน
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า แหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องออกมาเปิดเผยว่า BiliBili (ปีลีปีลี) ซึ่งเป็นบริษัทวิดีโอเกมออนไลน์ของจีน กำลังเจรจาเพื่อซื้อหุ้น 24% จากผู้ถือหุ้น Yoozoo (ยูซู) บริษัทเกม หรือคิดเป็นประมาณ 5,000 ล้านหยวน หรือ 765 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยบริษัทมีเป้าหมายเจาะกลุ่มผู้ใช้งานวัยรุ่นที่กำลังเติบโตในตลาดเกมชั้นนำของโลก ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจาก ปีลีปีลี ซึ่งเป็นบริษัทที่เทนเซ็นต์ โฮลดิ้งส์ รวมถึงอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เป็นผู้สนับสนุน เพิ่งระดมทุน 2,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกงไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวยังเกิดขึ้นในขณะที่ยูซู กำลังเผชิญความท้าทายด้านการจัดการ หลังประธานบริษัทเสียชีวิตอย่างน่าสงสัยเมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่ผ่านมา ปีลีปีลี มีจำนวนผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือนมากกว่า 200 ล้านคน ในเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น ซึ่งถือเป็นฐานลูกค้าสำคัญตามตัวเลขข้อมูลประชากร และบริษัทซึ่งมีฐานที่ตั้งในเซี่ยงไฮ้ต้องการที่จะเติบโตในตลาดเกมจีน ซึ่งมีมูลค่า 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ […]