เวียดนามขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาค
ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด จัดทำรายงานออกมา โดยระบุว่า เวียดนามเป็นประเทศอันดับต้นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เศรษฐกิจโชว์ผลงานได้ดีที่สุด ทั้งนี้ เวียดนามถูกเรียกว่า “ดาวรุ่งพุ่งแรง” ด้านการค้าระดับโลก ที่พิจารณาจากพื้นฐานการพัฒนาของประเทศต่างๆ ทั้งที่เกิดขึ้นแล้วและกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต รายงานฉบับนี้เป็นการจัดทำดัชนีการค้า ‘Trade 20 Index’ ซึ่งทำการสำรวจ 20 ประเทศทั่วโลก พบว่า เวียดนามอยู่ในอันดับที่ 6 จากการประเมินดัชนีดังกล่าว ขณะที่เมื่อพิจารณาจากรายชื่อประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เวียดนามขึ้นแท่นเป็นประเทศอันดับ 1 แซงหน้าอินโดนีเซียและไทย ในรายงานยังระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้เวียดนามเป็นประเทศที่น่าสนใจ ประกอบด้วยการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานที่ดีขึ้น การค้าที่หลากหลายกับประเทศต่างๆ และผลิตภัณฑ์ที่มีเป้าหมายเฉพาะ ท่ามกลางสงครามการค้าระหว่างจีน – สหรัฐ และเสถียรภาพทางการเมือง รัฐบาลฝ่ายเดียวของพรรคคอมมิวนิสต์ตั้งแต่ปี 1975 นั้นยาวนานที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Nirukt Sapru ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ประจำเวียดนาม และยังดูแลเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศเวียดนามได้กลายเป็นเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาคซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ที่ชัดเจนถึงประโยชน์ที่ประเทศจะสามารถเก็บเกี่ยวโอกาสจากเศรษฐกิจแบบเปิด
กูเกิลเปิดบริการตรวจวัดระดับมลพิษและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอังกฤษผ่านกูเกิล แมป
กูเกิล เปิดตัวเครื่องมือใหม่ มีชื่อว่า การสำรวจข้อมูลเชิงลึกด้านสภาพแวดล้อม หรือ Environmental Insights Explorer (EIE) โดยเป็นความร่วมมือระหว่างกูเกิล กับพันธมิตร เริ่มต้นรายงานมลภาวะในแผนที่แสดงถนนของกูเกิล แมป จากเครื่องตรวจวัดอากาศเคลื่อนที่ที่ติดตั้งตามจุดต่างๆ โดยเชื่อว่าคุณภาพอากาศอาจมีระดับแตกต่างกันมากระหว่างในตัวเมืองกับพื้นที่กำลังพัฒนา ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับคุณภาพอากาศ ที่จะสามารถช่วยให้ข้อมูลได้ว่าควรปฏิบัติอย่างไรเพื่อสิ่งที่ดีขึ้น ทั้งนี้ เครื่องมือ EIE จะนำเสนอข้อมูล 4 หมวดหมู่ ประกอบด้วย การปล่อยมลพิษในอาคาร มลพิษจากการขนส่ง การปล่อยมลพิษทั่วไป และศักยภาพพลังงานแสงอาทิตย์ ขณะที่แผงควบคุมตรวจจับมลภาวะถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้เมืองต่างๆ เห็นว่า เขาสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้างเพื่อลดการปล่อยมลพิษ เช่น สร้างเลนจักรยานมากขึ้น หรือติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์บนอาคาร เป็นต้น สำหรับเครื่องมือ EIE นี้ จะใช้ในเมืองต้นแบบในอังกฤษ ประกอบด้วย ดับลิน เบอร์มิงแฮม ใจกลางเมืองหลักๆ ในเมืองแมนเชสเตอร์ วูล์ฟแฮมป์ตัน จากนั้นจะเปิดใช้ถัดไปที่เมืองโคเวนทรี และโคเปนเฮเกน พร้อมทั้งมีแผนเปิดให้บริการเพิ่มในเมือง และทวีปอื่น ๆ […]
สิงคโปร์ขึ้นแท่นประเทศที่มีความสามารถแข่งขันทางเศรษฐกิจที่สุดในโลก
สิงคโปร์คว้าคะแนน 84.8 จากคะแนนเต็ม 100 ยืนหนึ่งประเทศที่มีความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจสูงที่สุดในโลกในปี 2019 ชนะสหรัฐ อันดับสองที่มีคะแนน 83.7 รายงานของสภาเศรษฐกิจโลก (WEF) ที่เผยแพร่ล่าสุด ระบุว่า จากการวัดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ โดยให้คะแนนตั้งแต่ระดับ 0-100 ประเมินอยู่บนพื้นฐานปัจจัยต่างๆ ที่รวมถึงโครงสร้างพื้นฐาน ระบบสุขภาพ ตลาดแรงงาน ระบบการเงิน คุณภาพของสถาบันการศึกษาภาครัฐ และการเปิดกว้างทางเศรษฐกิจ ผลออกมาว่า สิงคโปร์ได้คะแนน 84.8 จากคะแนนเต็ม 100 อย่างไรก็ตาม WEF ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า ประเทศสิงค์โปร์ได้รับประโยชน์จากปัจจัยทางการค้าที่มีความหลากหลาย รวมทั้งกรณีการค้าผ่านท่าเรือที่ได้แรงกระตุ้นจากการต่อสู้ทางภาษีระหว่างประเทศชั้นนำของโลก ขณะที่สหรัฐ ได้คะแนนลดลงมาอยู่ที่ 83.7 จากปีที่แล้วที่มีคะแนน 85.6 ซึ่งผลกระทบบางส่วนเชื่อมโยงมาจากประเด็นสงครามการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รายงานของ WEF ระบุว่า สหรัฐยังคงเป็นมหาอำนาจด้านนวัตกรรม ในขณะที่การแข่งขันทางเศรษฐกิจกลายเป็นอันดับสองของโลก เราเริ่มเห็นสัญญาณความกังวลใจบางอย่างเกิดขึ้นแล้ว
บริษัทในรวันดาเปิดตัวสมาร์ทโฟนที่ผลิตในแอฟริกาเป็นครั้งแรก
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า มารา กรุ๊ป บริษัทในประเทศรวันดาเปิดตัวสมาร์ทโฟน 2 รุ่น วันจันทร์ที่ผ่านมา พร้อมให้คำนิยามว่า นี่คือสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ผลิตในแอฟริกา จะช่วยผลักดันให้รวันดาเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีของภูมิภาคนี้ โดยสมาร์ทโฟนที่เปิดตัว ประกอบด้วยรุ่น Mara X และ Mara Z ซึ่งจะใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ของกูเกิล ราคาขาย Mara X อยู่ที่ 175,750 ฟรังก์รวันดา (190 ดอลลาร์สหรัฐ) และ Mara Z อยู่ที่ 120,250 ฟรังก์รวันดา (130 ดอลลาร์สหรัฐ) Ashish Thakkar ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มารา กรุ๊ป กล่าวว่า สมาร์ทโฟนของมารา กรุ๊ป จะออกมาแข่งขันกับซัมซุง ซึ่งปัจจุบันจำหน่ายสมาร์ทโฟนราคาถูกในรวันดา ที่ 50,000 ฟรังก์รวันดา (54 ดอลลาร์สหรัฐ) […]
ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนมองเศรษฐกิจไทยทั้งปีโต 2-3%
น.ส. สุมิตรา ตั้งสมวรพงษ์ ฝ่ายวิจัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน (CEO Survey): Economic Outlook ในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2562 ว่า CEO คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งหลังปี 2562 จะเติบโตลดลงจากการสำรวจครั้งก่อน โดยคาดว่าปี 2562 เศรษฐกิจไทยจะเติบโต 2-3% ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทย ช่วงครึ่งหลังของปีจะได้รับแรงสนับสนุนจากปัจจัยภายในประเทศเป็นสำคัญ ทั้งนโยบายการคลังและการใช้จ่ายภาครัฐ เสถียรภาพการเมืองไทย และการท่องเที่ยว ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยเป็นปัจจัยเชื่อมโยงกับต่างประเทศ โดยเฉพาะสถานการณ์เศรษฐกิจโลก สงครามการค้า ค่าเงินบาทหรือการส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากทิศทางการค้า โดย 85% ของ CEO ที่ตอบแบบสอบถามคาดว่าสงครามการค้าจะส่งผลลบต่อเศรษฐกิจไทย นอกจากนี้ CEO คาดว่า ทิศทางอุตสาหกรรมของบริษัทจดทะเบียนในครึ่งหลังของปี 2562 แย่ลงเมื่อเทียบการสำรวจครั้งก่อน โดย 42% คาดว่าอุตสาหกรรมของตนจะแย่ลงตามทิศทางภาวะเศรษฐกิจ แต่มี […]
ผู้บริโภคชาวเมียนมายังขาดความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการชำระเงินแบบไร้เงินสด
รายงานข่าวจากเมียนมา ไทม์ส ระบุว่า วีซ่า ได้ทำการสำรวจผู้คนจำนวน 504 คน จากทั้งในเมืองย่างกุ้ง ปะเต็น มัณฑะเลย์ และมากเวย์ โดยผลสำรวจ พบว่า ผู้บริโภคชาวเมียนมา กว่า 40% เห็นประโยชน์จากการชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสด แต่การรับรู้ รวมถึงความเข้าใจเกี่ยวกับการชำระเงินผ่านระบบคิวอาร์โค้ด และระบบการชำระเงินแบบไร้สัมผัส หรือคอนแทคเลส ยังคงอยู่ในระดับต่ำ Lillian Wang ผู้จัดการ ประจำประเทศเมียนมาของวีซ่า กล่าวว่า เราเชื่อว่าทุกคนจะได้รับผลประโยชน์มากมายกับการเปลี่ยนจากการใช้เงินสดมาเป็นการจ่ายเงินผ่านอิเล็กทรอนิกส์ ผู้ตอบแบบสอบถาม 42% ตอบว่า พวกเขาคาดหวังว่าจะเปลี่ยนมาใช้การชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นในปีหน้า ขณะที่เหตุผลหลักที่ทำให้คนสนใจจะไม่ใช้เงินสดในการชำระเงิน อันดับแรกมาจาก ความสะดวกสบาย (69%) รองลงมาคือเรื่องของความปลอดภัย (58%) และสุดท้ายไม่ต้องพกเงินสดติดตัว (52%) นอกจากนี้ การสำรวจพบว่า ผู้บริโภคเมียนมาใช้การชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์สำหรับการซื้อสินค้าในไฮเปอร์มาร์เก็ตและซูเปอร์มาร์เก็ตมากกว่า 60% ห้างสรรพสินค้าอยู่ที่ 57% ร้านอาหาร 52 % และร้านสะดวกซื้อ […]
สหรัฐเตรียมเก็บภาษีเครื่องบิน-สินค้าเกษตรจากอียู คาดเริ่ม 18 ต.ค.นี้
รายงานข่าวจากซีเอ็นบีซี ระบุว่า เมื่อวันพุธที่ผ่านมา สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ มีการเผยแพร่รายชื่อผลิตภัณฑ์ที่สหรัฐวางแผนจะกำหนดเป็นสินค้าเป้าหมาย เพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการแข่งขันทางการค้าในระดับเวทีโลก หลังจากองค์การการค้าโลก (WTO) ลงมติเห็นชอบต่อข้อเรียกร้องของสหรัฐในการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรป (อียู) วงเงิน 7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากรัฐบาลในประเทศยุโรปให้การอุดหนุนบริษัท แอร์บัส อย่างผิดกฎหมาย ขณะที่นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ แถลงการณ์ว่า จะเริ่มเรียกเก็บภาษีในวันที่ 18 ต.ค. นี้ รายละเอียด คือ ภาษี 10% สำหรับเครื่องบินจากฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน หรือสหราชอาณาจักร ภาษี 25% สำหรับวิสกี้มอลต์จากไอริช และสก๊อตวิสกี้ เครื่องนุ่งห่ม และผ้าห่มจากสหราชอาณาจักร ภาษี 25% สำหรับกาแฟ กับเครื่องมือและเครื่องจักรบางอย่างจากเยอรมนี ภาษี 25% สำหรับชีสต่างๆ น้ำมันมะกอก และเนื้อสัตว์แช่แข็งจากเยอรมนี สเปน และสหราชอาณาจักร รวมถึงภาษี […]
Amazon Amazon Go Morning Brief
อเมซอนเตรียมเพิ่มช่องทางรายได้ผ่านการติดตั้งเทคโนโลยีเก็บเงินแบบไม่ใช้พนักงานให้ร้านค้าปลีกอื่น
ซีเอ็นบีซี รายงานว่า แหล่งข่าว เปิดเผยว่า อเมซอนอยู่ในช่วงพูดคุยเพื่อนำเทคโนโลยี cashierless หรือการเก็บเงินแบบไม่ต้องใช้พนักงาน ที่ใช้ในร้านค้าอเมซอน โก ไปให้ร้านค้าปลีกอื่นๆ ใช้ เช่น ร้านค้าในสนามบิน และโรงภาพยนตร์ ทั้งนี้ คาดว่า แนวทางนี้จะช่วยให้อเมซอนเติบโตต่อเนื่องได้ในธุรกิจค้าปลีก ลดการพึ่งพาจากธุรกิจชอปปิงออนไลน์ อีกทั้งช่วยให้ขยายบริการไปได้เร็วกว่า ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าการเปิดร้านค้าปลีกเอง ในเวลาเดียวกันก็ช่วยให้อเมซอนได้เป็นพันธมิตรกับบริษัทที่เคยมองอเมซอนเป็นคู่แข่ง ซึ่งการร่วมมือลักษณะนี้อาจนำไปสู่การเติบโตในธุรกิจคลาวด์ของอเมซอนด้วย ปัจจุบันอเมซอนมีร้านค้าภายใต้แบรนด์ โก 16 แห่ง ร้านค้านี้ลูกค้าสามารถใช้โทรศัพท์ของตัวเองสแกน หยิบผลิตภัณฑ์ออกจากชั้นวาง แล้วเดินออกจากร้านค้าได้เลย พร้อมรับใบเสร็จของสินค้าทั้งหมดที่หยิบมา และอเมซอนมีความพยายามเร่งการทำธุรกรรมลักษณะนี้ ด้วยการขยายประสบการณ์ใช้บริการในร้านค้าปลีกลักษณะนี้ผ่านร้านค้าปลีกอื่นๆ มีแหล่งข่าวให้ข้อมูลว่า อเมซอนอยู่ระหว่างพูดคุยเพื่อนำรูปแบบเทคโนโลยีและแนวคิดที่ใช้ในร้าน โก ไปใช้กับ CIBO Express ซึ่งเป็นร้านค้าปลีกที่อยู่ในสนามบิน ในเครือ OTG และในโรงภาพยนตร์ Regal ในเครือ Cineworld นอกจากนี้ยังมีแหล่งข่าวอีกราย เปิดเผยว่า อเมซอนอยู่ระหว่างมองหาโอกาสขอสัมปทานในสนามเบสบอลด้วย อเมซอนมีแนวคิดเริ่มติดตั้งเทคโนโลยีการทำงานสำหรับผู้บริโภคนี้ในไตรมาสแรกปี 2020 […]
ถ่านหินยังเป็นเชื้อเพลิงหลักผลิตไฟฟ้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้โลกเริ่มเปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาด
รายงานข่าวจากซีเอ็นบีซี ระบุว่า ถ่านหินยังคงเป็นแหล่งเชื้อเพลิงที่สำคัญในการผลิตกระแสไฟฟ้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่การใช้งานจะเพิ่มขึ้น และสูงสุดในปี 2027 ก่อนเริ่มชะลอตัวลง Wood Mackenzie บริษัทที่ปรึกษาด้านสินค้าโภคภัณฑ์ ระบุว่า “Coal is still king in Southeast Asia’s power market” ทำให้เห็นว่าถ่านหินยังคงเป็นเชื้อเพลิงหลักในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้อุตสาหกรรมถ่านหินจะได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางจากนักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม ว่าถ่านหินก่อให้เกิดมลพิษ แต่ข้อมูลจากสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) กลับสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการถ่านหินทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นเป็นปีที่สองติดต่อกันถึง โดยเพิ่มขึ้น 0.7% ในปี 2018 ถ่านหินจะยังคงเป็นแหล่งเชื้อเพลิงที่สำคัญในการผลิตกระแสไฟฟ้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยการใช้งานจะเพิ่มขึ้นและสูงสุดในปี 2027 ก่อนที่จะชะลอตัวลง ภายในปี 2040 โดยถ่านหินจะคิดเป็นสัดส่วน 36% ของพลังงานผสมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สำหรับการผลิตพลังงาน ทั้งนี้ความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้รับแรงผลักดันหลักจากอินโดนีเซียและเวียดนาม ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 60% ของความต้องการพลังงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงมีความต้องการต่อเนื่องจนถึงปี 2040 นักวิเคราะห์จาก Moody กล่าวว่า รัฐบาลอินโดนีเซียตั้งเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเป็น 23% ภายในปี […]
ผลศึกษาพบมิลเลนเนียลอเมริกันไม่ออมเพื่อวัยเกษียณเพราะต้นทุนที่อยู่อาศัยสูง ไม่เหลือเงินเก็บ
ซีเอ็นบีซี รายงานว่า บริษัท TD Ameritrade Holding Corporation เปิดเผยผลศึกษาประจำปี 2019 ซึ่งสำรวจวัยรุ่นอายุ 23 ปีขึ้นไปชาวอเมริกัน 1,015 คน ที่มีสินทรัพย์อย่างน้อย 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ พบว่า กลุ่มคนมิลเลนเนียล (อายุ 23-38 ปี) ส่วนใหญ่ หรือ 66% ไม่ให้ความสนใจกับการออมเพื่อวัยเกษียณ เมื่อถูกถามว่าทำไมพวกเขาไม่ใส่ใจ คำตอบแรกที่ได้ เพราะมีต้นทุนที่อยู่อาศัย 37% ส่วนหนึ่งมาจากแนวโน้มค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้คนรุ่นใหม่ต้องนำรายได้ที่มีอยู่ไปใช้จ่ายจำนวนมากกับที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะกลุ่มที่มีครอบครัวแล้ว โดยข้อมูลของนิตยสารบริจาคเงินเพื่อการศึกษาและผู้ปกครอง พบว่า 1 ใน 5 ของกลุ่มมิลเลเนียลที่มีครอบครัว ใช้จ่าย 50-59% ของรายได้กับที่อยู่อาศัย และ 8% ของกลุ่มนี้ระบุว่าจ่ายไป 60-74% เหตุผลที่ทำให้พวกเขาไม่ได้สนใจถึงการออมเงินวัยเกษียณ หลักๆ มาจาก ไม่มีเงินมากเพียงพอจะเหลือเก็บ […]