กิจกรรมภาคบริการสหรัฐเดือน มี.ค. ต่ำสุดในรอบ 19 เดือน

กิจกรรมภาคบริการสหรัฐเดือน มี.ค. ต่ำสุดในรอบ 19 เดือน

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า กิจกรรมภาคบริการของสหรัฐ เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 19 เดือน ขณะที่การจ่ายเงินเดือนของภาคเอกชนเติบโตต่ำกว่าที่คาดไว้ เป็นการตอกย้ำว่า สหรัฐสูญเสียโมเมนตัมทางเศรษฐกิจ เป็นแรงสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับเปลี่ยนท่าทีระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ สถาบันด้านการจัดการอุปทาน (ISM) ออกมาระบุว่า ดัชนีกิจกรรมที่ไม่ได้เกิดจากการผลิตในเดือน มี.ค. อยู่ที่ 56.1 เป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ส.ค. 2017 อย่างไรก็ตามดัชนีอยู่เหนือระดับ 50 สะท้อนว่ากลุ่มธุรกิจบริการยังขยายตัวอยู่ ซึ่งภาคบริการมีสัดส่วนมากกว่า 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐ เมื่อเดือนที่ผ่านมากิจกรรมภาคบริการชะลอตัวอย่างมาก สะท้อนจากการลดลงถึง 7.3 จุดของดัชนีย่อยในภาคการผลิต โดยกิจกรรมที่ลดลงเป็นผลจากการลดลงของยอดส่งออกใหม่ อย่างไรก็ตามการจ้างงานในภาคบริการยังเพิ่มขึ้นอยู่ แต่หลายอุตสาหกรรมเชื่อว่า สินค้าคงคลังของพวกเขามีสูงเกินไป จึงเป็นอุปสรรคต่อการเพิ่มการผลิต สถาบัน ISM ระบุว่า ธุรกิจภาคบริการโดยรวมยังคงมองสภาพแวดล้อมและเศรษฐกิจดีอยู่ แต่พวกเขายังมีความกังวลเกี่ยวกับการจ้างงานและข้อจำกัดในการขยายกำลังการผลิต  โดยภาคบริการประกอบด้วย 16 อุตสาหกรรม […]

WTO คาดการณ์การค้าโลกปีนี้เติบโตแบบชะลอตัวลง

WTO คาดการณ์การค้าโลกปีนี้เติบโตแบบชะลอตัวลง

ไชน่าเดลี รายงานว่า องค์กรการค้าโลก หรือ WTO ออกมาประมาณการการเติบโตของการค้าโลก โดยคาดว่า ปีนี้การค้าโลกจะเติบโตเพียง 2.6% เมื่อเทียบรายปี ลดลงจากอัตราการเติบโตในปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 3.7% เป็นผลจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น “ความตึงเครียดทางการค้ายังดำเนินต่อไปในระดับสูง ไม่มีใครรู้ว่าจะมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดอะไรเกิดขึ้นอีกเมื่อมองไปข้างหน้า การค้าจึงไม่สามารถมีบทบาทได้อย่างเต็มที่ในการผลักดันการเติบโต ตราบเท่าที่เรายังมองเห็นความไม่แน่นอนอยู่ในระดับสูง” Roberto Azevedo ผู้อำนวยการองค์กรการค้าโลก กล่าวผ่านรายงานแนวโน้มการค้าและสถิติ ทั้งนี้ WTO มองว่า การเติบโตของการค้าจะกลับมาอยู่ในระดับเดียวกับปี 2018  คือ 3% ขึ้นไปในปี 2020 หากความตึงเครียดทางการค้าหายไป

ยอดขายรถบรรทุกในจีนเดือน มี.ค. ทำสถิติสูงสุดใหม่ ส่งสัญญาณเศรษฐกิจเติบโต

ยอดขายรถบรรทุกในจีนเดือน มี.ค. ทำสถิติสูงสุดใหม่ ส่งสัญญาณเศรษฐกิจเติบโต

สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า โรงงานผลิตรถบรรทุกสินค้าหนักในจีน รายงานตัวเลขเดือน มี.ค. ที่ผ่านมาว่า ยอดขายรถบรรทุกสินค้าหนักทำสถิติสูงสุด เป็นการส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจเริ่มเติบโตในวงกว้างขึ้น โดยจากสถิติที่เผยแพร่ผ่านทาง cvworld.cn ผู้ให้บริการรวบรวมข้อมูลอุตสาหกรรมยานยนต์ พบว่า เดือน มี.ค. จำหน่ายรถบรรทุกสินค้าหนักไปกว่า 144,000 คัน เพิ่มขึ้น 85% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า นักวิเคราะห์จาก cvworld.cn ประเมินว่า การเติบโตของยอดขายรถบรรทุกสินค้าหนัก เป็นไปตามการเปิดตัวโครงการโครงสร้างพื้นฐานและความนิยมที่เพิ่มขึ้นของรถบรรทุกสินค้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ บริษัท FAW Jiefang Automotive ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถบรรทุก ภายใต้กลุ่ม FAW ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในฉางชุน ยังคงรั้งตำแหน่งผู้นำในด้านยอดขาย โดยเดือน มี.ค. มียอดขายถึง 36,000 คัน สำหรับยอดขายรถบรรทุกหนักมีความสัมพันธ์อย่างมากกับภาวะเศรษฐกิจในจีนและมักสอดคล้องกับดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ซึ่งจากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน ในเดือน มี.ค. ดัชนี PMI อยู่ที่ 50.5 […]

กระทรวงคมนาคมอินโดนีเซียปรับเกณฑ์คุมราคาตั๋วเครื่องบินใหม่

กระทรวงคมนาคมอินโดนีเซียปรับเกณฑ์คุมราคาตั๋วเครื่องบินใหม่

เดอะ จาการ์ตาโพสต์ รายงานว่า กระทรวงคมนาคมอินโดนีเซียออกกฎเกณฑ์ใหม่ 2 ข้อเกี่ยวกับตั๋วเครื่องบิน ซึ่งส่งผลต่อการคำนวนค่าตั๋วเครื่องบินและเพดานราคา สำหรับกฎเกณฑ์ใหม่ทั้ง 2 ข้อจะอยู่ในกฎกระทรวงการขนส่งฉบับที่ 20/2019 ในส่วนของค่าโดยสารสำหรับเส้นทางภายในประเทศของการบินเชิงพาณิชย์ และคำสั่งรัฐมนตรีฉบับที่ 72/2019 เกี่ยวกับเพดานราคาตั๋วเครื่องบิน Nur Isnin Istiarto เลขาธิการคณะกรรมการการบินพลเรือนของกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ค่าตั๋วเครื่องบินจากการให้บริการเที่ยวบินในประเทศจะต้องเป็นไปตามกฎเกณฑ์ใหม่ที่ออกมา “สายการบินต้องคำนึงถึงการเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้บริการ กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภค และการแข่งขันที่เป็นธรรม โดยสายการบินต้องเผยแพร่ข้อมูลราคาตั๋วเครื่องบินใหม่ของพวกเขาด้วย” Isnin กล่าว ภายใต้กฎเกณฑ์ใหม่นี้ ราคาต่ำสุดของตั๋วเครื่องบินจะต้องคิดเป็น 35% ของราคาเพดานตั๋วเครื่องบิน เพิ่มขึ้นจากกฎเกณฑ์เดิมที่เขียนไว้อยู่ที่ 30% Hengki Angkasawan โฆษกกระทรวงคมนาคมอินโดนีเซีย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้กฎเกณฑ์การคำนวนราคาตั๋วเครื่องบินขั้นต่ำและเพดานราคาอยู่ภายใต้กฎกระทรวงการขนส่งฉบับที่ 14/2016 แต่ถูกแยกกฎเกณฑ์ออกมาเป็น 2 ข้อในกฎกระทรวงฉบับใหม่ โดยภายใต้กฎเกณฑ์ใหม่นี้จะทำให้ผู้อำนวยการการขนส่งทางอากาศสามารถทบทวนกฎเกณฑ์ได้ทุกๆ 3 เดือน หรือตลอดเวลาเพื่อช่วยสนับสนุนธุรกิจการบินให้มีความยั่งยืน ทั้งนี้ รัฐบาลอินโดนีเซียออกกฎเกณฑ์ใหม่เกี่ยวกับค่าตั๋วเครื่องบิน หลังจากที่เห็นสายการบินไม่เต็มใจที่จะตอบสนองนโยบายของนายโจโค วิโดโด […]

ผู้บริโภคชาวอเมริกันเลือกใช้บริการวิดีโอสตรีมมิ่งมากกว่าสื่อทีวีแบบจ่ายเงิน

ผู้บริโภคชาวอเมริกันเลือกใช้บริการวิดีโอสตรีมมิ่งมากกว่าสื่อทีวีแบบจ่ายเงิน

ปัจจุบันผู้บริโภคมีอำนาจในการเลือกเสพสื่อดิจิทัลมากที่สุด หลังพบอุตสาหกรรมบันเทิงสื่อออนไลน์มีตัวเลือกที่หลากหลาย และทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงบริการได้ตามที่ต้องการ แต่หลายคนเริ่มรู้สึกหงุดหงิดกับความซับซ้อน รายงานล่าสุดของ Deloitte ที่ทำการศึกษาเทรนด์ของธุรกิจสื่อออนไลน์ หรือ Digital media trends survey ระบุว่า ผู้บริโภคชาวอเมริกัน เริ่มปะติดปะต่อประสบการณ์ความบันเทิงออนไลน์เข้าด้วยกัน หลังพบว่า อุตสาหกรรมบันเทิงสื่อออนไลน์มีตัวเลือกที่หลากหลายขึ้นมาก ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปโดยหันมาสนใจ และเลือกใช้บริการเฉพาะที่พวกเขาคิดว่าคุ้มค่าที่สุด จากตัวเลือกที่มีทั้ง โปรแกรมทีวีแบบจ่ายเงิน วิดีโอสตรีมมิ่ง เพลง และเกมออนไลน์ อย่างไรก็ตามความต้องการหลักของผู้บริโภคชาวอเมริกัน คือจ่ายค่าบริการเป็นแบบครบครันรวมความบันเทิงหลายอย่างไว้ในหนึ่งบริการ ขณะที่ ธุรกิจสตรีมมิ่งกลายเป็นบริการที่ชาวอเมริกันใช้สำหรับติดตามความบันเทิงในรูปแบบวิดีโอมากที่สุด ซึ่งจากผลสำรวจระบุว่า 69% ของผู้ตอบแบบสอบถามเลือกใช้บริการวิดีโอสตรีมมิ่งมากกว่ารายการทีวีจ่ายเงินในรูปแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ ยังพบว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่จ่ายค่าบริการเพื่อรับฟังเพลง และเล่นวิดีโอเกมส์ออนไลน์มากขึ้น โดยพบว่าสัดส่วนการตลาดของบริการเพลงแบบสตรีมมิ่งเพิ่มขึ้นถึง 41% ขณะเดียวกันพบว่าเกือบ 60% ของกลุ่มมิลเลนเนียล และ Gen Z ยอมจ่ายค่าบริการรเพลงแบบสตรีมมิ่ง  

สิงคโปร์เล็งลงทุน 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ วิจัยอาหาร ยา และเทคโนโลยีดิจิทัล

สิงคโปร์เล็งลงทุน 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ วิจัยอาหาร ยา และเทคโนโลยีดิจิทัล

เดอะ สเตรทไทม์ส รายงานว่า Heng Swee Keat รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสิงคโปร์ ออกมาระบุว่า สิงคโปร์ จะลงทุน 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในด้านการวิจัยอาหาร ยา และเทคโนโลยีดิจิทัล เนื่องจากมองว่ากลุ่มอุตสาหกรรมเหล่านี้เป็นอนาคตที่จะทำให้สิงคโปร์สามารถรักษาขีดความสามารถแข่งขันในระยะยาวได้ แต่เป้าหมายของการทำวิจัยจะไม่ใช่งานวิจัยทั่วไป จึงใช้เวลานานกว่าจะเกิดผล Heng กล่าวระหว่างการประกาศแผนงานวิจัย นวัตกรรม และองค์กร ปี 2020 สำหรับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีว่า จะใช้เงินมากกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสร้างระบบปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) และตอบโจทย์ด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ของชาติ โดยเงินก้อนนี้ยังถูกใช้เพื่อขับเคลื่อนขีดความสามารถด้านซุปเปอร์คอมพิวติ้ง รวมถึงสนับสนุนการใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติด้วย ขณะที่ เงินลงทุนอีก 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะลงทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการผลิตเซลล์สำหรับการบำบัดรักษาด้วยเซลล์ ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นอนาคตทางการแพทย์ ส่วนเงินลงทุน 144 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะใช้เพื่อการวิจัยอาหาร ซึ่งครอบคลุมการทำฟาร์มในเมืองและเนื้อสัตว์ทดลอง ลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ กล่าวว่า ความสำเร็จด้านการวิจัยของสิงคโปร์จะเกิดขึ้นได้ […]

รายได้ธุรกิจ IoT จีนปี 2018 โตถึง 73%

รายได้ธุรกิจ IoT จีนปี 2018 โตถึง 73%

รายงานของกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศจีน ระบุว่า ธุรกิจอุปกรณ์ต่างๆ ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (Internet of Things หรือ IoT) เติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยในปี 2018 รายได้จากธุรกิจ IoT ในจีนเติบโตถึง 73% ขณะที่ผู้ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคม 3 รายหลักของจีน ได้แก่ ไชน่า เทเลคอม ไชน่า โมบาย และไชน่า ยูนิคอม มียอดผู้ใช้งาน IoT ของพวกเขารวมกันเพิ่มขึ้น 400 ล้านรายเมื่อปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดการใช้งาน IoT โดยรวมสิ้นปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 671 ล้านราย ในรายงาน ยังระบุอีกว่า บริษัทเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ เช่น หัวเว่ย และอาลีบาบา ต่างมุ่งเข้าสู่อุตสาหกรรม IoT โดยการทำให้ IoT เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คน ขณะที่เทคโนโลยี 4G ปัญญาประดิษฐ์ […]

ผู้จัดการ ตลท.เชื่อตลาดหุ้นผันผวนระยะสั้นรอความชัดเจนตั้งรัฐบาลใหม่

ผู้จัดการ ตลท.เชื่อตลาดหุ้นผันผวนระยะสั้นรอความชัดเจนตั้งรัฐบาลใหม่

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ รายงานว่า นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวน จากประเด็นความไม่ชัดเจนของการจัดตั้งรัฐบาลภายหลังการเลือกตั้ง แต่เชื่อว่า กระทบกับบรรยากาศการลงทุนแค่ระยะสั้นเท่านั้น ส่วนระยะยาวยังมองว่า 2 ขั้วพรรคการเมืองที่ต้องการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลมีประสบการณ์บริหารเศรษฐกิจประเทศมาแล้ว และนโยบายด้านเศรษฐกิจที่นำมาหาเสียงทั้ง 2 ขั้วก็เน้นกระตุ้นการเติบโตเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน สนับสนุนการทำธุรกิจของเอกชนตั้งแต่กลุ่มสตาร์ทอัพจนถึงบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ และเข้ามาดูแลกำลังซื้อกลุ่มฐานราก สะท้อนความเชื่อมั่นให้ผู้ลงทุนได้ว่าไม่ว่าขั้วใดได้จัดตั้งรัฐบาลใหม่ เศรษฐกิจไทยน่าจะถูกผลักดันได้ในระยะถัดไป “อยากฝากนักลงทุนว่าปัจจัยการเมือง ไม่ใช่ปัจจัยหลักปัจจัยเดียวที่กระทบกับตลาดหุ้นไทย แต่ต้องระมัดระวังปัจจัยภายนอกเป็นสำคัญด้วย ความไม่ชัดเจนของการเมืองไทยช่วงนี้มองเป็นแค่ผลกระทบความรู้สึกระยะสั้น แต่ถ้ามองถึงนโยบายของทั้ง 2 ขั้วพรรคการเมืองที่ต้องการเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล ถือว่ามีความเป็นมืออาชีพในการผลักดันเศรษฐกิจเติบโต ดังนั้นหลักการลงทุนที่ดีควรศึกษาสินทรัพย์ที่ลงทุนอยู่นั้นมีข้อดีอย่างไร และภาวะการลงทุนเหมาะสมกับช่วงเวลานั้นๆ หรือไม่ ถ้าหากลงทุนสม่ำเสมอ กระจายลงทุนหลายสินทรัพย์ เชื่อว่าระยะยาวต้องได้รับผลตอบแทนที่ดีแน่นอน” นายภากร กล่าว

ก.ล.ต. เสนอปรับเกณฑ์จัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์ในกระบวนการออกและเสนอขายหลักทรัพย์

ก.ล.ต. เสนอปรับเกณฑ์จัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์ในกระบวนการออกและเสนอขายหลักทรัพย์

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์ ในกระบวนการออกและเสนอขายตราสารทุนและตราสารหนี้ เพื่อช่วยเพิ่มความโปร่งใส และเพิ่มความคุ้มครองต่อผู้ลงทุนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ มาตรการเพื่อขจัดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของ ก.ล.ต. โดยเฉพาะในกระบวนการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ ซึ่งมีผู้ทำหน้าที่เป็นตัวกลางหลักที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ที่ปรึกษาทางการเงิน ผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ และผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ขณะที่ตัวกลางอาจมีความสัมพันธ์กับผู้ออกและเสนอหลักทรัพย์ในลักษณะที่อาจมีผลต่อการทำหน้าที่ของตัวกลางนั้นได้ เช่น การถือหุ้นระหว่างกัน การมีกรรมการร่วมกัน และการที่ผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์หรือที่ปรึกษาการทางการเงินมีสถานะเป็นเจ้าหนี้ของผู้ออกหลักทรัพย์ ก.ล.ต. มีแนวคิดปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีทั้งมาตรการป้องกันและมาตรการเปิดเผยข้อมูลให้ผู้ลงทุนใช้ประกอบการตัดสินใจ ซึ่งเป็นแนวทางที่ได้จากผลสรุปในการดำเนินโครงการปฏิรูปกฎเกณฑ์ (regulatory reform) ที่ ก.ล.ต. ได้เชิญผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมาร่วมกันทบทวนหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง โดยมีที่ปรึกษาโครงการร่วมให้มุมมองตามมาตรฐานสากลด้วย ในการนี้ ก.ล.ต. ได้เปิดรับฟังความเห็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้น รวมถึงหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวกับการเสนอขายหลักทรัพย์บางส่วนให้แก่ผู้ลงทุนหลักโดยเฉพาะเจาะจง (CI) ด้วย โดยห้ามมิให้ผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์เป็น CI ในหลักทรัพย์ที่ตนรับเป็นผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์นั้น เพื่อยึดหลักการคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. www.sec.or.th/hearing ผู้เกี่ยวข้องและผู้สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือโทรสาร 0-2263-6502 หรือทาง […]

เทรนด์การแบ่งปันยานพาหนะ-ระบบอัตโนมัติจะปฏิวัติวงการยานยนต์ทั่วโลก

เทรนด์การแบ่งปันยานพาหนะ-ระบบอัตโนมัติจะปฏิวัติวงการยานยนต์ทั่วโลก

รายงานล่าสุดของ PwC ที่ทำการศึกษาการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญต่อผู้ผลิตยานยนต์และชิ้นส่วน รวมถึงผู้ใช้ยานพาหนะในอนาคต พบว่า การใช้ยานพาหนะร่วมกันและระบบอัตโนมัติจะปฏิวัติวงการยานยนต์ทั่วโลกภายในปี 2030 นอกจากนี้ยังส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงต่อกำลังแรงงานในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยหุ่นยนต์ได้เข้ามามีบทบาทในการทำงานมากขึ้นทั้งสายการประกอบและด้านการวิจัยและพัฒนา คาดว่า 40- 60% ของแรงงานที่มีทักษะร่วมสมัยจะเป็นที่ต้องการเพื่อประจำการในพื้นที่หน้างาน ขณะที่จำนวนความต้องการวิศวกรข้อมูลและวิศวกรซอฟต์แวร์จะเพิ่มขึ้นถึง 90% สำหรับแนวคิดการแบ่งปันยานพาหนะและระบบอัตโนมัติร่วมกัน ทำให้ ผู้ประกอบการที่รับจ้างผลิตสินค้าหรือชิ้นส่วนให้กับค่ายรถยนต์  (โออีเอ็ม) ต้องเร่งพัฒนารูปแบบของโรงงาน โดยแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ 1) โรงงานที่มุ่งเน้นผลิตยานพาหนะแบบมาตรฐาน สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์และทำงานได้อย่างอัตโนมัติ (Plug and play vehicles) เพื่อดึงดูดผู้ใช้งานในเมืองที่มีอายุน้อย และ 2) โรงงานที่ผลิตยานพาหนะตามความต้องการเฉพาะของผู้บริโภค ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับตลาดรถหรูในปัจจุบัน นาย ไฮโค เวเบอร์ หุ้นส่วนบริษัท Strategy& ของ PwC ประเทศเยอรมนี กล่าวว่า ผู้ประกอบการโออีเอ็มต้องเริ่มสร้างกำลังแรงงานที่ตัวเองจะต้องการในอีก 10 ปีข้างหน้าตั้งแต่ตอนนี้ ทั้งการจ้างบุคลากรที่มีทักษะที่ใช่ การรักษาบุคลากรที่มีความสามารถ […]