แบงก์ชาติญี่ปุ่น ขึ้นดอกเบี้ยตามคาด แตะ 0.75% สูงสุดในรอบ 30 ปี หลังเงินเฟ้อเกินเป้าต่อเนื่อง
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 0.75% สู่ระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 1995 พร้อมส่งสัญญาณเดินหน้าปรับนโยบายการเงินสู่ระดับปกติ ขณะที่เงินเฟ้อยังคงเคลื่อนไหวเหนือกรอบเป้าหมาย 2% มานานเกือบ 4 ปี แม้จะปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่ BOJ ระบุว่า อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (Real Interest Rates) ยังคงติดลบ และยืนยันว่า สภาวะทางการเงินที่ผ่อนคลายจะยังเป็นปัจจัยที่สนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่อไป โดยมีเป้าหมายต้องการเห็นวงจรที่เป็นบวก ระหว่างการเพิ่มขึ้นของค่าจ้างและราคาสินค้าที่สอดคล้องกัน โดยคาดว่า บริษัทต่างๆ จะปรับขึ้นค่าจ้างอย่างต่อเนื่องในปีหน้า ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเริ่มดำเนินนโยบายการเงินสู่ระดับปกติเมื่อปีที่ผ่านมา และยุติการใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2016 โดยธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังคงใช้แนวทางปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปอย่างต่อเนื่อง ธนาคารกลางญี่ปุ่นระบุว่า มีความเป็นไปได้สูงที่บริษัทต่างๆ จะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นค่าจ้างต่อไปในปีหน้า โดยให้เหตุผลว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่ บริษัทต่างๆ เริ่มส่งผ่านต้นทุนค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นไปยังราคาสินค้าที่วางจำหน่าย ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นพุ่งสูงเกินเป้าหมาย […]
สหรัฐฯ ไฟเขียวขายอาวุธให้ไต้หวันมากเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางความตึงเครียดกับจีน
รัฐบาลสหรัฐฯ อนุมัติการขายอาวุธให้ไต้หวัน มูลค่า 11,150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนับเป็นดีลซื้อขายอาวุธที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาสำหรับไต้หวัน ท่ามกลางภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากจีน และความตึงเครียดทางการทูตระหว่างจีนกับญี่ปุ่น ที่ยังคงดำเนินอยู่ กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่า การขายอาวุธดังกล่าว ซึ่งประกอบด้วยระบบปืนใหญ่ ระบบขีปนาวุธต่อต้านรถถัง รวมถึงอะไหล่เฮลิคอปเตอร์และขีปนาวุธต่อต้านเรือ อยู่ภายใต้งบประมาณเสริมด้านกลาโหมมูลค่า 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ ประกาศเมื่อเดือนพ.ย. โดยประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ ให้คำมั่นว่า จะเร่งเสริมสร้างขีดความสามารถในการป้องกันตนเอง เพื่อตอบโต้ภัยคุกคามที่ทวีความรุนแรงจากจีน พร้อมตั้งเป้าบรรลุความพร้อมรบในระดับสูง ภายในปี 2027 อีกทั้งยังเตือนว่า จีนมีเป้าหมายยึดเกาะไต้หวันภายในปีดังกล่าว นอกจากนี้ ผู้นำไต้หวันยังเตือนถึง “การเสริมกำลังทางทหาร อย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” ของจีน และ “การยั่วยุที่ทวีความเข้มข้นขึ้น” ในช่องแคบไต้หวัน ทะเลจีนตะวันออก ทะเลจีนใต้ และทั่วภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ด้านกระทรวงกลาโหมไต้หวันโพสต์ผ่าน X ระบุว่า เรือบรรทุกเครื่องบินฟูเจี้ยนของจีน ได้แล่นผ่านช่องแคบไต้หวัน โดยกองกำลังติดอาวุธของไต้หวันได้ติดตามสถานการณ์และตอบสนองอย่างเหมาะสม ขณะที่จีนตอบโต้กรณีงบประมาณเสริมของไต้หวัน โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวว่า “แผนของพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า […]
รัฐสภาญี่ปุ่นไฟเขียวงบประมาณเพิ่มเติม 18 ล้านล้านเยน เปิดทางรัฐบาลอัดมาตรการกระตุ้นศก.
รัฐสภาญี่ปุ่นอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติม วงเงิน 18.3 ล้านล้านเยน (ประมาณ 118,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) สำหรับปีงบประมาณปัจจุบัน (สิ้นสุดเดือนมี.ค. 2026) เพื่อเปิดทางให้รัฐบาลของนางซานาเอะ ทาคาอิจิ เดินหน้าแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ท่ามกลางความกังวลถึงสถานะทางการคลังของประเทศ ร่างงบประมาณดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากสภาสูง ก่อนสิ้นสุดสมัยประชุมสภาเพียงหนึ่งวัน หลังสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งการผ่านร่างงบประมาณฉบับนี้ได้รับการสนับสนุนจากพรรคฝ่ายค้าน หนึ่งในนั้น คือ พรรคประชาธิปไตยเพื่อประชาชน (Democratic Party for the People) โดยรวมมาตรการเยียวยาตามข้อเรียกร้องของพรรคเข้าไปด้วย ซึ่งทำให้ร่างงบประมาณฉบับนี้ผ่านการรับรอง แม้ว่า พรรคร่วมรัฐบาล ที่นำโดยพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ของทาคาอิจิจะขาดเสียงข้างมากในสภาสูงก็ตาม แพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจรอบนี้เป็นมาตรการรอบใหญ่สุด นับตั้งแต่ปีงบประมาณ 2022 เพื่อบรรเทาค่าครองชีพที่สูงขึ้น และส่งเสริมการลงทุน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงการระบาดของโควิด-19 แม้ว่า รัฐบาลจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการจัดเก็บภาษีถึง 2.9 ล้านล้านเยน แต่รัฐบาลยังมีแผนออกพันธบัตรใหม่มูลค่า 11.7 ล้านล้านเยน เพื่อให้ครอบคลุมงบประมาณกว่า 60% ซึ่งนำไปสู่ความกังวลอย่างมากต่อการคลังของญี่ปุ่นที่ตึงเครียดอยู่แล้ว และย่ำแย่ที่สุดในบรรดากลุ่มประเทศ […]
จีนออกแพ็กเกจ 11 มาตรการ เร่งกระตุ้นใช้จ่ายผู้บริโภค หลังยอดค้าปลีกชะลอตัว
จีน ประกาศแพ็กเกจนโยบายใหม่ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภาคครัวเรือน โดยมุ่งกระชับการประสานงานระหว่างหน่วยงานด้านพาณิชย์และกำกับดูแลการเงิน ขยายการเข้าถึงสินเชื่อ และส่งเสริมรูปแบบการบริโภคใหม่ๆ มาตรการดังกล่าว มีขึ้นท่ามกลางยอดค้าปลีกที่อ่อนแรงและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ยังซบเซา ซึ่งกดดันการเติบโตทางเศรษฐกิจในเดือนที่ผ่านมา สะท้อนความเร่งด่วนของผู้กำหนดนโยบายในการขยายอุปสงค์ภายในประเทศ โดยประเด็นดังกล่าว ถูกยกเป็นวาระสำคัญในการประชุมงานเศรษฐกิจส่วนกลางประจำปีของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและคณะรัฐมนตรีมาแล้ว 2 ปีติดต่อกัน โดยนักวิเคราะห์ มองว่า การสนับสนุนอาจทวีความเข้มข้นขึ้นในปีหน้า ซึ่งจุดเน้นมีแนวโน้มขยับจากสินค้าราคาสูงไปสู่การใช้จ่ายในภาคบริการ แพ็กเกจนโยบาย 11 มาตรการ ประกอบด้วยแนวทางขยายสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลเพิ่มเติม และชี้นำสินเชื่อไปยังสาขาที่มีศักยภาพสูง อาทิ การบริโภคด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพ ดิจิทัล และ “AI Plus” ตามประกาศร่วมของกระทรวงพาณิชย์ ธนาคารกลางจีน (PBOC) และสำนักบริหารกำกับดูแลการเงินแห่งชาติจีน (NFRA) นอกจากนี้ ยังสนับสนุนให้รัฐบาลท้องถิ่นที่มีคุณสมบัติเหมาะสมใช้ “อั่งเปาดิจิทัล” ในสกุลเงินหยวนดิจิทัล เพื่อเพิ่มประสิทธิผลให้กับมาตรการจูงใจการบริโภค ประกาศยังระบุว่า หน่วยงานพาณิชย์ท้องถิ่น ควรใช้ประโยชน์จากช่องทางเงินทุนที่มีอยู่ให้เต็มที่ เร่งออกมาตรการกระตุ้นการบริโภค และทำงานประสานกับเครื่องมือสนับสนุนทางการเงิน เพื่อปลดล็อกดีมานด์ในฝั่งผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น สวี่ เทียนเฉิน นักเศรษฐศาสตร์จีนอาวุโสจาก Economist […]
ประชุมโปลิตบูโรชู กระตุ้นอุปสงค์ในประเทศเป้าหมายอันดับแรกในปีหน้า – ย้ำใช้มาตรการกระตุ้นอย่างรอบคอบ
ผู้นำระดับสูงของจีนกำหนดให้การเสริมสร้างอุปสงค์ภายในประเทศเป็นวาระสำคัญทางเศรษฐกิจอันดับหนึ่งในปี 2026 ขณะเดียวกัน ยังส่งสัญญาณว่าจะใช้แนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างระมัดระวัง ในการประชุมกรมการเมือง แห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน (โปลิตบูโร) ในวันนี้ (8 ธ.ค.) การประชุมโปลิตบูโร ซึ่งมีประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เป็นประธานในที่ประชุม ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) ได้ให้คำมั่นว่า “เราต้องยึดอุปสงค์ภายในประเทศเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก เพื่อสร้างตลาดภายในประเทศที่แข็งแกร่ง” รายงานอย่างเป็นทางการ ยังระบุว่า ทางการยังให้คำมั่นว่า จะส่งเสริมขุมพลังใหม่ๆ ที่มีส่วนสำคัญในเชิงการผลิต ซึ่งเป็นการบ่งชี้ว่า รัฐบาลจีนจะไม่ใช้มาตรการที่เข้มงวดเพื่อจำกัดการผลิต อย่างน้อยๆ ในภาคส่วนที่สำคัญ ที่ประชุมยังให้คำมั่นที่จะเสริมสร้างการปรับนโยบายแบบข้ามวัฏจักรเศรษฐกิจ (Cross-cyclical) ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ใช้คำดังกล่าว ซึ่งมีนัยถึงการวางแผนระยะยาว ปรากฏในรายงานของโปลิตบูโร นับจากเดือนธ.ค. 2023 พร้อมทั้งดำเนินนโยบายการคลังเชิงรุกและนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในระดับปานกลางต่อไป แจ็กเกอลีน หรง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีนของ BNP Paribas SA กล่าวว่า “ภาพรวมของการประชุม คือ ต้องการกระตุ้น ทั้งอุปสงค์และสร้างเสถียรภาพด้านอุปทาน ปักกิ่งส่งสัญญาณว่า กำลังพยายามสร้างสมดุลระหว่างการผ่อนคลายนโยบายการคลังและการเงิน ไปพร้อมกับการควบคุมความเสี่ยง […]
ตลาดมั่นใจ ‘พาวเวลล์’ ลดดอกเบี้ยรอบที่ 3 ส่งท้ายปี – คาดปีหน้าพักหั่น ก่อนลดอีกครั้งในมี.ค. และ ก.ย.
ตลาดคาดการณ์ว่า เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ในสัปดาห์นี้ แม้ผู้กำหนดนโยบายบางส่วนจะกังวลว่า เงินเฟ้อยังคงสูงเกินไปก็ตาม ด้านผลสำรวจโดยบลูมเบิร์กคาดว่า เฟดจะพักการปรับลดอัตราดอกเบี้ยชั่วคราว ก่อนจะลดอีกสองครั้งในปี 2026 เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่สองติดต่อกัน เมื่อเดือนต.ค. เนื่องจากตลาดแรงงานสหรัฐฯ ทรุดลงอย่างฉับพลันในช่วงฤดูร้อน แต่หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่เฟดบางส่วน ในจำนวนนี้มี 5 คนที่มีสิทธิ์โหวต แสดงความกังวลและส่งสัญญาณในเชิงเข้มงวด แสดงความลังเล หรือยังไม่เห็นด้วยกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยรอบที่ 3 ในเดือนธ.ค. ความเห็นต่างในหมู่เฟดยิ่งขยายวงออกไป จากการขาดข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุด เนื่องจากสถานการณ์ชัตดาวน์ที่ยาวนานถึง 43 วัน ในช่วงเดือนต.ค.-พ.ย. โดยตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุดที่มีอยู่ตอนนี้ คือ ข้อมูลของเดือนก.ย. ที่เพิ่งรายงานไปเมื่อเดือนก.ย. ซึ่งเป็นรายงานที่ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงการถกเถียงเรื่องนโยบายได้ ในช่วงที่มีการชัตดาวน์ จนถึงประมาณหนึ่งสัปดาห์ในช่วงกลางเดือนพ.ย. นักลงทุนแสดงความไม่มั่นใจว่า เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. หรือไม่ ก่อนที่สถานการณ์จะชัดเจนขึ้นในวันที่ 21 พ.ย. เมื่อจอห์น วิลเลียมส์ (John […]
‘ทรัมป์’ เตรียมประกาศชื่อประธานเฟดคนใหม่ช่วงต้นปีหน้า – ‘แฮสเซตต์’ ขึ้นแท่นตัวเต็ง
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ กล่าวว่า จะประกาศรายชื่อผู้ที่จะเข้ารับตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คนใหม่ ต่อจากเจอโรม พาวเวล ในช่วงต้นปีหน้า หลังเดินหน้ากระบวนการเฟ้นหาที่ดำเนินมาหลายเดือน แม้ก่อนหน้านี้ จะส่งสัญญาณว่ารู้แล้วว่าจะเลือกใคร ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าคือ นายเควิน แฮสเซตต์ ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี ประธานาธิบดีทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่า สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลัง ซึ่งเป็นผู้ดูแลกระบวนการสรรหา ไม่ต้องการรับตำแหน่งประธานเฟด แต่ทรัมป์ก็ไม่ได้บ่งชี้ว่ามีใครเป็นตัวเต็งในใจ พร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเองตัดสินใจได้แล้วว่า ใครจะมาเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากพาวเวลล์ ซึ่งจะหมดวาระลงในเดือนพ.ค.ปีหน้า พร้อมปฏิเสธตอบคำถามว่าตัวเลือกดังกล่าว คือเควิน แฮสเซ็ตต์ ที่ปรึกษาระดับสูงด้านเศรษฐกิจ แม้กระแสข่าวที่ออกมาจะระบุว่า แฮสเซตต์เป็นตัวเต็งก็ตาม ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวต่อหน้าสาธารณชนว่า “ผมคิดว่ามีผู้สมัครประธานเฟดอยู่ที่นี่ด้วย ผมพูดได้ไหม? ว่าที่ผู้สมัคร เขาเป็นคนที่ได้รับความเคารพ นั่นพูดได้แน่นอน ขอบคุณเควิน” เควิน แฮสเซตต์ วัย 63 ปี เคยดำรงตำแหน่งประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาวในสมัยแรกของทรัมป์ โดยเป็นผู้ที่จงรักภักดีต่อทรัมป์อย่างสม่ำเสมอ ทั้งจากการออกรายการโทรทัศน์หลายช่อง เพื่อสนับสนุนมาตรการภาษีนำเข้าของทรัมป์และการเรียกร้องให้ลดดอกเบี้ย […]
ครม.ไฟเขียว พ.ร.บ.โลกร้อน ตั้งกองทุนภูมิอากาศ–เก็บภาษีคาร์บอน
ครม.เห็นชอบหลักการ “พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” ตั้งกองทุนภูมิอากาศ–ภาษีคาร์บอน–ระบบซื้อขายสิทธิปล่อยก๊าซเรือนกระจก ขับเคลื่อนไทยสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ นางสาวลลิดา เพริศวิวัฒนา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบในหลักการร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. … ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอ เพื่อยกระดับ “ระเบียบฯ ปี 2550” ขึ้นเป็นกฎหมายแม่บท ด้าน climate ของประเทศ รองรับพันธกรณี UNFCCC และเป้าหมาย “คาร์บอนเป็นกลาง ปี 2593-สุทธิเป็นศูนย์ ปี 2608” รองโฆษกฯ ระบุว่า ร่างกฎหมางกฎหมายฉบับนี้เป็นกรอบใหญ่ในการจัดการก๊าซเรือนกระจกของไทยทั้งระบบ โดยมีสาระสำคัญ ได้แก่ ให้ตั้ง 4 คณะกรรมการหลัก นำโดย “คณะกรรมการนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ” ทำหน้าที่กำหนดนโยบาย เป้าหมาย และท่าทีของไทยในเวทีระหว่างประเทศ จัดตั้ง “กองทุนภูมิอากาศ” เป็นนิติบุคคลของรัฐ ใช้รายได้จากเครื่องมือด้านคาร์บอนต่างๆ […]
OPEC+ ลงมติคงระดับผลิตน้ำมัน Q1/26 พร้อมเห็นชอบกลไกประเมินกำลังการผลิต
โอเปกพลัส (OPEC+) มีมติคงระดับการผลิตน้ำมัน สำหรับไตรมาสแรกของปี 2026 ในการประชุมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นครั้งแรก ที่กลุ่มตัดสินใจไม่ปรับโควตา ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจเกิดภาวะอุปทานล้นตลาด ซึ่งทำให้กลุ่มชะลอความพยายามฟื้นส่วนแบ่งตลาดน้ำมันโลก การประชุมครั้งนี้ เกิดขึ้นในช่วงที่สหรัฐฯ กำลัพยายามเร่งเจรจาเพื่อจัดทำข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซีย–ยูเครน ซึ่งหากการเจรจามีความคืบหน้า และนำไปสู่การผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ก็อาจทำให้ปริมาณน้ำมันเข้าสู่ตลาดโลกเพิ่มขึ้นอีก ในทางกลับกัน หากการเจรจาล้มเหลว รัสเซียอาจเผชิญความเสี่ยงถูกจำกัดการส่งออกน้ำมันเพิ่มเติม ทั้งนี้ กลุ่ม OPEC+ ประกอบด้วยกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) และพันธมิตรที่นำโดยรัสเซีย ซึ่งรวมกันมีสัดส่วนการผลิตน้ำมันราวครึ่งหนึ่งของทั้งโลก ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ทะเลเหนือ ปิดการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ใกล้ระดับ 63 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งลดลง 15% นับตั้งแต่ต้นปีผ่านมา สะท้อนถึงความกังวลต่อแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันโลกที่อ่อนแรง โดยฮอร์เค ลีออน อดีตเจ้าหน้าที่ OPEC และปัจจุบันเป็นหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ภูมิรัฐศาสตร์ของ Rystad Energy ให้ความเห็นว่า สาระสำคัญจากกลุ่มมีความชัดเจนว่า “การรักษาเสถียรภาพของตลาดมีความสำคัญกว่าการเพิ่มเป้าหมาย ในช่วงที่แนวโน้มตลาดกำลังแย่ลงอย่างรวดเร็ว” OPEC ระบุในแถลงการณ์ว่า มีสมาชิก […]
ราคาทองจ่อพุ่งต่อเนื่องเดือนที่ 4 ตลาดเทใจเชื่อ ‘เฟด’ ลดดอกเบี้ย ธ.ค.
ราคาทองคำเดือนพ.ย. จ่อพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 จากความคาดหวังเฟดลดดอกเบี้ยส่งท้ายปี คาดปี 2568 นี้จ่อทำผลงานดีที่สุดในรอบ 46 ปี สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ราคาทองคำ ขยับขึ้นและกำลังมุ่งหน้าสู่การปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันในเดือนพ.ย. นี้ ท่ามกลางความคาดหวังที่ร้อนแรงขึ้นว่า สหรัฐฯ จะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้งส่งท้ายปี ราคาทองคำซื้อขายอยู่ที่ราว 4,190 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในวันศุกร์ เพิ่มขึ้นเกือบ 5% ในรอบสัปดาห์ และล่าสุดเมื่อเวลา 09.51 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX งวดส่งมอบเดือนก.พ. ปรับตัวขึ้น 19 ดอลลาร์ หรือ 0.45% ไปแตะระดับ 4,221.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ กระแสการคาดการณ์เรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ยิ่งได้รับแรงหนุนจากท่าทีของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ล่าช้า ซึ่งทั้งหมดช่วยสนับสนุนแนวโน้มการกู้ยืมต้นทุนต่ำลง และโดยปกติแล้วจะเป็นผลบวกต่อทองคำเนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ ไม่ให้ดอกเบี้ย ปัจจุบันตลาดสวอปคาดการณ์ว่า มีความเป็นไปได้มากกว่า 80% สำหรับการลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม FOMC ครั้งสุดท้ายของปี […]










