กองทุนผสมบีซีเนียร์สำหรับวัยเกษียณ เอ็กซ์ตร้า (B-SENIOR-X)
Highlight อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้มีแนวโน้มทรงตัวในระดับต่ำ จากการที่ Fed ให้สัญญาณว่าจะใช้นโยบายดอกเบี้ยต่ำอีกระยะหนึ่ง ตลาดหุ้นทั่วโลกอยู่ในช่วงผันผวน มีปัจจัยสำคัญ 1) การเลือกตั้งสหรัฐ 2) นโยบาย FED 3) ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับจีน 4) การพัฒนาวัคซีน โดยคาดกว่าตลาดหุ้นโลกจะอยู่ในช่วงปรับฐานจนกว่าจะทราบผลการเลือกตั้งสหรัฐ ตลาดหุ้นไทยยังมีแรงกดดันจากการที่เศรษฐกิจพึ่งพาการท่องเที่ยวสูง และการเมืองภายในประเทศ กองทุนจะเน้นลงทุนแบบ Selective ในหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง และมูลค่าน่าสนใจ กลุ่มกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (IFF)และ หน่วยทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) ยังน่าสนใจเพราะมีกระแสเงินสดสม่ำเสมอ มีผลตอบแทนสูงกว่าพันธบัตร ผู้จัดการกองทุนเน้นลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน และกองทุนในหมวดนิคมอุตสาหกรรม เพราะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัวน้อยกว่ากลุ่มอื่นๆ
กองทุนผสมบีซีเนียร์สำหรับวัยเกษียณ เอ็กซ์ตร้า (B-SENIOR-X)
สรุปประเด็นเด่น อัตราผลตอบแทนพันธบัตร จะมีความผันผวนมากขึ้น ตราสารหนี้ภาคเอกชนมีความเสี่ยงด้านเครดิตและสภาพคล่องเพิ่มขึ้น กองทุนเน้นลงทุนโดยคัดเลือกผู้ออกหุ้นกู้ที่ได้รับผลกระทบด้านกระแสเงินสดในระดับต่ำ และมีสภาพคล่องเพียงพอสำหรับภาระหนี้ที่จะครบกำหนดในระยะสั้น เพื่อลดความเสี่ยงด้านการระดมทุนเพื่อต่ออายุหุ้นกู้ แนวโน้มการลงทุนในตราสารทุนอยู่ที่การฟื้นตัวทางปัจจัยพื้นฐานว่าจะฟื้นขึ้นเร็วมากน้อยกว่าที่ตลาดคาดหวังไว้กองทุนลงทุนแบบ Selective เน้นหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง ให้ความสำคัญกับธุรกิจที่เห็นสัญญาณของรายได้กลับมาในเวลาเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ การลงทุนในกลุ่มกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (IFF)และ หน่วยทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) ยังน่าสนใจเพราะมีกระแสเงินสดสม่ำเสมอ มุมมองบวกต่อกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน กองทุนในหมวดนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงหมวดอาคารสำนักงาน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัวช้ากว่าอุตสาหกรรมอื่น และหลีกเลี่ยงการลงทุนในหมวดโรงแรม
B-INCOME B-SENIOR B-SENIOR-X BF Knowledge Center
Asset Allocation จำเป็นแค่ไหน
โดย…เสกสรร โตวิวัฒน์ CFP® ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงิน BF Knowledge Center การจัดสรรการลงทุนในสินทรัพย์หลายๆ ประเภท หรือ Asset Allocation เป็นการกระจายความเสี่ยงและจัดสรรสัดส่วนการลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้และเป้าหมายผลตอบแทนของแต่ละคน ปัจจุบันผู้มีเงินออมจำนวนมากได้ทำ Asset Allocation กันอยู่แล้ว แต่อาจไม่รู้ตัว ตัวอย่างเช่น เก็บเงินไว้ที่ธนาคาร ซื้อหุ้นกู้ ซื้อกองทุนรวม ซื้อทองคำ หรือแม้แต่เล่นหุ้นเอง การแบ่งเงินไปฝาก/ ลงทุนที่หลากหลาย ก็นับว่าเป็น Asset Allocation อยู่แล้ว แต่ผู้ลงทุนควรพิจารณาว่า Asset Allocation ที่มีอยู่นั้นเหมาะสม สอดคล้องกับความต้องการของตนเองหรือไม่ ทั้งนี้ เวลาดูทรัพย์สินลงทุน เราไม่ควรดูแค่กองทุนรวม หรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) หรือกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) อย่างเดียว ควรต้องพิจารณาเงินลงทุนทั้งหมดไปพร้อมๆ กัน แต่ต้องอิงตามเป้าหมายด้วย ทุกคนควรทำ Asset Allocation ใช่หรือไม่? คำตอบคือ […]
กองทุนผสมบีซีเนียร์สำหรับวัยเกษียณ เอ็กซ์ตร้า (B-SENIOR-X)
สรุปภาพรวมตลาดตราสารทุน ภาพรวมการลงทุนในไตรมาสแรกของปีนั้น เต็มไปด้วยความผันผวน โดยหลังจากที่ตลาดหุ้นโลกได้ทำจุดสูงสุดในช่วงกลางเดือน ก.พ. แล้วปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว โดยตลาดหุ้นหลายแห่งปรับตัวลงไปทำจุดต่ำสุดที่ประมาณ -30% นับจากต้นปี จนถึงเดือน มี.ค. และเป็นการเข้าสู่ตลาดหมีหรือเป็นการลดลงจากจุดสูงสุดมากกว่า 20% ที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ได้กลายเป็นการแพร่ระบาดใหญ่ทั่วโลก ทุกประเทศต้องใช้มาตรการต่างๆ ในการรับมือ ทั้งการปิดเมือง การจำกัดการเดินทางและการหยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกเกิดภาวะชะงักงัน และมีโอกาสที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างแน่นอนแล้ว ในปีนี้ ซึ่งความต้องการบริโภคที่หายไปอย่างกะทันหันเช่นนี้ ทำให้เกิดผลกระทบในเชิงกว้าง รวมถึงสงครามราคาน้ำมันระหว่าง บรรดาประเทศผู้ผลิตน้ำมันหลักที่ไม่สามารถเจรจาลดกำลังผลิตได้ ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลงแรง ภาวะดังกล่าวนี้ เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในโลกอุตสาหกรรมยุคใหม่ ที่เศรษฐกิจของทั่วโลกนั้นมีการเชื่อมโยงกันสูง ทำให้เกิด ผลกระทบค่อนข้างมาก การตอบสนองของรัฐบาลและธนาคารกลางทั่วโลกในเวลานี้ จึงมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเช่นกัน โดยผู้ที่มีอิทธิพลหลักอย่าง เฟด ได้ลดดอกเบี้ยลงอย่างรวดเร็วจนใกล้ศูนย์ เป็นการลดที่เร็วกว่าการถดถอยครั้งไหนๆ รวมทั้งใช้การอัดฉีด สภาพคล่องเพื่อให้ธุรกิจยังคงดำเนินต่อไปได้ รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่จากภาครัฐบาล ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั่วโลก ซึ่งช่วยลดความกลัวของนักลงทุนเกี่ยวกับความเสี่ยงของการล้มละลายของบริษัทจำนวนมากลงไปได้ ด้านตลาดหุ้นไทยในปี 2020 นี้ ปรับตัวลงมาแล้วราว 30% YTD […]
B-INCOME B-SENIOR B-SENIOR-X BBASIC BF Knowledge Center BKD BSIRICG
ลงทุนเพื่อรายรับสม่ำเสมอดีจริงหรือ ?
โดย พริ้มพัชร จิรบวรพงศา AFPTTM ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงิน BF Knowledge Center ปัจจุบันทางเลือกในการลงทุนมีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสินทรัพย์การลงทุน นโยบายลงทุนที่มี ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงสไตล์การลงทุนของแต่ละแห่งซึ่งมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน ข้อดีของความหลากหลายคือ สามารถเลือกให้เหมาะสมกับเป้าหมายและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของแต่ละบุคคลได้อย่างลงตัวมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม มีคำถามหนึ่งที่นักลงทุนมักจะสงสัยกันนั่นคือ เราจะเลือกลงทุนอย่างไรดี? ระหว่าง ลงทุนไปเรื่อยๆ พอใจผลตอบแทนเมื่อไรก็ทำการขายคืนด้วยตัวเอง หรือ ลงทุนแบบที่มีการจ่ายเงินคืนระหว่างทางเพื่อสร้างรายรับสม่ำเสมอ สำหรับนักลงทุนส่วนใหญ่คงคุ้นเคยกับแบบแรกคือ ลงทุนไปเรื่อยๆ พอใจผลตอบแทนเมื่อไรก็ทำการขายคืนด้วยตัวเอง รูปแบบนี้อาจเหมาะกับนักลงทุนที่ขยันซื้อ ขยันขาย พอมีเวลาติดตามตลาดลงทุนอยู่บ้างและยอมรับความผันผวนของราคาได้ค่อนข้างมาก ข้อดี คือ ผลกำไรที่ได้รับมาระหว่างทางจะไม่ได้ถูกนำออกไปใช้ แต่จะถูกนำไปลงทุนต่อเนื่อง ทำให้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว ข้อด้อย คือ ความผันผวนของราคาระหว่างทาง ทำให้มีโอกาสขาดทุนเนื่องจากไม่ได้นำเงินกำไรบางส่วนออกมา ด้วยเหตุนี้ ในช่วงที่การลงทุนมีความผันผวน นักลงทุนจึงเริ่มสนใจลงทุนแบบที่มีการจ่ายเงินคืนระหว่างทางเพื่อสร้างรายรับสม่ำเสมอกันมากขึ้น สังเกตได้จากการที่นักลงทุนจำนวนหนึ่งเริ่มสนใจลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อรับค่าเช่า รวมถึงเริ่มสนใจลงทุนในหุ้นปันผล กองทุนรวมที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล กองทุนรวมมีการทยอยจ่ายคืนเงินต้นพร้อมผลตอบแทน (Auto Redemption) หรือกองทุนรวมที่สามารถกำหนดวันขายคืนล่วงหน้ารายเดือนได้ เป็นต้น ข้อดี คือ การจ่ายเงินคืนระหว่างทางเป็นเครื่องมือในการสร้างกระแสเงินสดปัจจุบัน และลดความเสี่ยงที่จะขาดทุนกำไรจากความไม่แน่นอนมีอาจเกิดขึ้นในอนาคต […]
กองทุนผสมบีซีเนียร์สำหรับวัยเกษียณ เอ็กซ์ตร้า (B-SENIOR-X)
สรุปภาพรวมตลาดตราสารทุน บรรยากาศการลงทุนในช่วงปลายปี 2562 มีความผ่อนคลายมากขึ้น หลังจากสหรัฐฯ และจีนสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกร่วมกันได้ ประเด็นที่อังกฤษจะออกจากสหภาพยุโรปคลี่คลายลง และแนวโน้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลักๆ จะยังคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไปในปี 2563 อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังคงได้รับผลกระทบจากความกังวลต่อแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิรวมทั้งปี 4.5 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้ภาพรวมปี 2562 ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทน 1.02% ซื่งเป็นการปรับตัวได้น้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้านและตลาดหุ้นโลก ในขณะที่ ปัจจัยต่อเนื่องจากปีที่แล้ว เริ่มมีทิศทางที่ผ่อนคลาย แต่ปี 2563 มีปัจจัยเสี่ยงใหม่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่านที่ทำให่ตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวนในช่วงต้นเดือนมกราคม ตามมาด้วยการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่แพร่จากเมืองอู่ฮั่นของจีนในปลายเดือนมกราคม ส่งผลให้ภาคธุรกิจจีนและการท่องเที่ยวของประเทศต่างๆ ได้รับผลกระทบ แม้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเป็นเพียงชั่วคราวและประเทศต่างๆ ยังต้องหาวิธีการรับมือเพื่อไม่ให้ขยายวงกว้าง แต่ก็ยังทำให้เกิดความกังวลว่าจะกระทบกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ นับตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ แม้ว่าจะเจอปัจจัยลบจากโรคระบาด แต่ตลาดหุ้นหลักๆ นอกตลาดเอเชีย ยังให้ผลตอบแทนเป็นบวกได้ อาทิ สหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น ขณะที่ตลาดเอเชีย ส่วนใหญ่ยังให้ผลตอบแทนติดลบ เนื่องจาก เศรษฐกิจของตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย […]
B-INCOME B-SENIOR B-SENIOR-X BF Knowledge Center
ยุคนี้ทำไมต้อง Mixed Fund
โดย…อรพรรณ บัวประชุม CFP® ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงิน ถ้าพูดถึง “ผลตอบแทน” ที่ครองใจคนไทยมายาวนาน คงหนีไม่พ้น “ดอกเบี้ย” ซึ่งดอกเบี้ยที่เราคุ้นเคยกันดี ก็คือดอกเบี้ยเงินฝาก หากดูย้อนหลังไป 15 ปี อัตราดอกเบี้ยนโยบายเคยขึ้นไปสูงถึง 5% ในปี 2549 แต่ในปัจจุบันนี้อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 1.00% ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ และมีแนวโน้มจะลดลงอีก ดูๆ แล้วโอกาสที่ดอกเบี้ยเงินฝากจะกลับไปสูงเหมือนในอดีตคงเป็นไปได้ยากกับยุคนี้สมัยนี้ แต่การจะปล่อยเงินที่มีอยู่ไปกับการฝากเงินแบบเดิมๆ เงินที่มีอยู่ก็คงจะโตตามเงินเฟ้อไม่ทัน สุดท้ายแล้ว ยิ่งฝาก ค่าของเงินก็ยิ่งลดน้อยลง ดังนั้น การลงทุนในยุค disruption ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนตัวเอง ปรับเปลี่ยนความคิด ปรับเปลี่ยนหัวใจ ต้องเพิ่มความกล้าขึ้นมาอีกนิด เพิ่มความเสี่ยงขึ้นมาอีกหน่อย เอาเท่าที่ใจเรายังสบายๆ ไม่วิตกกังวลกับการลงทุนมากเกินไป เพิ่มส่วนผสมของความเร้าใจเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในตราสารหนี้ อย่างเช่น พันธบัตร หุ้นกู้ การลงทุนในหุ้น การลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ การลงทุนในทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ การลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน หรือแม้แต่การลงทุนในทองคำ เพื่อเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนให้สูงขึ้น แต่การผสมผสานอย่างไรที่จะเหมาะกับเรา […]
กองทุนเปิดบีซีเนียร์สำหรับวัยเกษียณ เอ็กซ์ตร้า (B-SENIOR-X)
กลยุทธ์การลงทุน ผลการดำเนินงานของกองทุนตั้งแต่ต้นปี 2019 ปรับตัวขึ้นได้เป็นอย่างดีที่ 4.11% และมากกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ 0.52% ตราสารทุนสามารถยังคงสร้างผลตอบแทนได้ดีแม้ว่าจะเผชิญกับสภาวะตลาดผันผวน โดยอุตสาหกรรมที่กองทุนมีสัดส่วนการลงทุนสูง ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มขนส่ง กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงกลุ่มพาณิชย์สามารถปรับตัวขึ้นดี อีกทั้ง กองทุนมีการลงทุนใน PF/REITs/IFF ทำให้ได้รับประโยชน์จากการปรับตัวขึ้นของดัชนีกลุ่มนี้เช่นเดียวกัน ขณะเดียวกัน ผลตอบแทนประมาณครึ่งหนึ่งมาจากสัดส่วนของตราสารหนี้ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาผูจัดการกองทุนได้มีการขายทำกำไรในหุ้นกู้ภาคเอกชนบางส่วน โดยตราสารหนี้เป็นส่วนที่ช่วยบริหารความเสี่ยงทางขาลงได้ดีในช่วงที่ตลาดผันผวน ในด้านของตราสารทุน ผู้จัดการกองทุนเน้นลงทุนในหุ้นที่ศักยภาพในการเติบโต (Growth Stock) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่มีระดับความเสี่ยงมากกว่าดัชนีประเทศ โดยในช่วงเดือน ต.ค. ผู้จัดการกองทุนยังคงไม่เปลี่ยนแปลงน้ำหนักการลงทุนในหุ้น โดยมีการลดระดับความเสี่ยงของพอร์ตออกไปบ้างโดยขายหุ้นบางบริษัทที่คาดว่าถึงระดับเต็มมูลค่าแล้วออกมาบางส่วน เช่น กลุ่มปิโตรเคมิคอล เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้จัดการกองทุนยังคงเน้นการลงทุนในหุ้นของบริษัทคุณภาพที่มีรูปแบบธุรกิจที่เข้มแข็ง มีศักยภาพเติบโตต่อเนื่อง มีฐานะการเงิน แข็งแกร่ง มีกระแสเงินสดสูง โดยมุ่งเน้นไปยังหุ้นที่อิงกับนโยบายภาครัฐและการบริโภคภายในประเทศเพื่อลดทอนผลกระทบจากความผันผวนภายนอกประเทศ เช่น กลุ่มค้าปลีก กลุ่มโรงไฟฟ้า กลุ่มธนาคาร กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม เป็นต้น อีกทั้ง ผู้จัดการกองทุนยังได้ปันเงินลงทุนบางส่วนเข้าลงทุนใน กลุ่มสินทรัพย์ PF/REITs/IFF […]
B-INCOME B-SENIOR B-SENIOR-X BF Knowledge Center
กองทุนแบบไหน? เหมาะกับวัยหลังเกษียณ
กองทุนแบบไหน? เหมาะกับวัยหลังเกษียณ โดย…อรพรรณ บัวประชุม CFP® ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงิน BF Knowledge Center เผลอแป๊บๆ ก็ “กะ เษียณ” กันแล้ว เงินก้อนที่หามาทั้งชีวิตดูแล้วน่าจะเยอะพอ เราต้องรีบกิน รีบเที่ยว รีบใช้ในช่วงนี้ เพราะเรายังมีเรี่ยวแรง มีเวลาเหลือเฟือในการใช้จ่ายเงิน รีบใช้เองก่อนที่จะมีใครมาช่วยใช้… ถ้าทุกคนคิดกันอย่างนี้แล้วล่ะก็ ความสุขหลังเกษียณก็ดูเหมือนว่าจะไม่ Long lasting ซะแล้ว ทางที่ดี เมื่อเกษียณแล้ว มีเงินก้อนออกมา เราต้องรู้ก่อนว่าเงินที่มีทั้งหมด จะทยอยใช้จ่ายกันอย่างไร ใช้จ่ายในแต่ละปี แต่ละเดือน แต่ละวันเท่าไหร่ ให้เงินต้นหดหายน้อยที่สุด หรืออีกมุมนึงคือ ทำยังไงให้เงินก้อนทำงานได้ด้วยตัวเอง ให้เติบโตขึ้น เพื่อให้ทันกับสิ่งที่เราต้องใช้จ่ายไปจนสิ้นสุดอายุขัย แล้วอะไรล่ะที่จะเป็นตัวช่วยในเรื่องเหล่านี้ กองทุนรวมตลาดเงิน ในเมื่อเราต้องกินต้องใช้กันทุกวัน ดังนั้น เงินที่จะนำไปลงทุนก็ต้องมีความแตกต่างกัน ในส่วนที่อยากนำเงินออกมาใช้จ่ายง่ายๆ และยังพอได้รับผลตอบแทนด้วย ก็คงหนีไม่พ้นกองทุนรวมตลาดเงิน ที่สามารถขายคืนได้ทุกวันทำการ และผลตอบแทนค่อยๆ ขยับขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างช้าๆ […]
กองทุนผสมบีซีเนียร์สำหรับวัยเกษียณ เอ็กซ์ตร้า (B-SENIOR-X)
วัตถุประสงค์การลงทุน กระจายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ในหลักทรัพย์ดังต่อไปนี้ ตราสารหนี้ เช่น ตราสารหนี้ภาครัฐ ตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น ตราสารหนี้ที่มีลักษณะคล้ายเงินฝาก ตราสารหนี้ภาคสถาบันการเงิน ตราสารหนี้ภาคเอกชน ไม่น้อยกว่า 70% ของ NAV, ตราสารทุน ไม่เกิน 30% ของ NAV, หน่วยลงทุนของกองทุนรวม เช่น กองทุนรวมทองคำ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน หน่วยทรัสตเพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) กองทุนรวมอีทีเอฟ (ETF) เป็นต้น หน่วยลงทุนของกองทุนรวมภายใต้การจัดการของบริษัทจัดการไม่เกิน 60% ของ NAV, เงินฝากหรือตราสารเทียบเท่าเงินฝาก โดยมีสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศไม่เกิน 79% ของ NAV ซึ่งเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการลดภาระการบริหารเงินในวัยเกษียณ และต้องการโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนภายใต้ความเสี่ยงที่เหมาะสม Bloomberg Code: BSENIORX TB Fund Size: 11,470 ล้านบาท (ณ วันที่ 21 […]