Book Value (มูลค่าทางบัญชี)
By… ศรศักดิ สร้อยแสงจันทร์ BF Knowledge Center Book value (BV) เป็นการวัดมูลค่าของบริษัทโดยใช้ตัวเลขทางบัญชี วิธีการวัดจะใช้มูลค่าทรัพย์สินของบริษัทตามที่บันทึกไว้ในบัญชีซึ่งได้ปรับปรุงตามมาตรฐานทางบัญชีอยู่เสมอ หักด้วยหนี้สินทั้งหมด ก็จะได้มูลค่าของบริษัทที่เป็นส่วนของผู้ถือหุ้น ถ้าหารด้วยจำนวนหุ้นจะได้เป็นมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น ถ้าบริษัททำธุรกิจได้ดีเจริญเติบโต ทรัพย์สินก็จะงอกเงยเพิ่มสูงขึ้น มูลค่าทางบัญชีก็จะสูงขึ้นตาม ในทางกลับกัน หากธุรกิจไม่ดีบริษัทประสบภาวะขาดทุนต่อเนื่อง ทรัพย์สินและมูลค่าทางบัญชีก็ลดลงตาม นักวิเคราะห์การลงทุนใช้ราคาหุ้นหารด้วยมูลค่าทางบัญชีได้ตัวเลข Price to Book value (P/BV) เพื่อเปรียบเทียบความถูกหรือแพงของหุ้น โดยหุ้นที่ P/BV ต่ำถือเป็นหุ้นที่มีราคาถูกน่าลงทุน ส่วนหุ้นที่ P/BV สูงเป็นหุ้นที่ไม่น่าลงทุน คล้ายกับการใช้ค่า P/E การใช้ Book value ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง ประการแรกมูลค่าทางบัญชีของทรัพย์สินต่างๆ อาจสูงหรือต่ำกว่าราคาตลาดที่ทรัพย์สินนั้นซื้อขายได้จริง ประการที่สอง ความสามารถการกำไรในอนาคตและการเติบโตของบริษัทไม่ได้สะท้อนอยู่ใน Book value
Bitcoin Cryptocurrency Investment
เงินดิจิทัลเสี่ยงสิ้นค่า อาจเหลือรอดไม่กี่สกุล
สกุลเงินดิจิทัลที่ร่วงลงแรงส่งผลให้มูลค่าตลาด (market value) หายไปเกือบ 5 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงเดือนที่ผ่านมา และสถานการณ์อาจจะยิ่งแย่ลงกว่านี้ก็เป็นได้ หัวหน้าฝ่ายวิจัยด้านการลงทุนที่โกลด์แมนแซคส์ (Goldman Sachs Group) กล่าว สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า Steve Strongin หัวหน้าฝ่ายวิจัยด้านการลงทุนที่โกลด์แมนแซคส์ระบุว่า สกุลเงินดิจิทัลส่วนใหญ่จะไม่สามารถอยู่รอดได้ในรูปแบบที่เป็นอยู่นี้ และนักลงทุนควรเตรียมตัวรับมือการสิ้นค่าของสกุลเงินเหล่านั้น เพราะในอนาคตจะถูกสกุลเงินดิจิทัลใหม่ๆที่เป็นคู่แข่งเข้ามาแทนที่ และในอนาคตจะเหลือเพียงไม่กี่สกุลเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ประมาณการระยะเวลาของการเสื่อมค่าลงของสกุลเงินที่มีอยู่ในปัจจุบัน แต่เตือนว่าราคาที่ผันผวนรุนแรงเป็นสองเท่าก็พอที่จะบ่งชี้ได้ว่าแต่ละสกุลเงินคงไม่สามารถที่จะไปถึงเป้าหมายพร้อมกัน คงมีเพียงบางสกุลที่ชนะและอยู่รอดในตลาดนี้ “การปรับฐานของราคาสกุลเงินดิจิทัลทำให้ผมกังวล เนื่องจากสกุลเงินเหล่านั้นไม่มีมูลค่าโดยตัวมันเอง สกุลเงินต่างๆที่ไม่สามารถแข่งขันก็มีความเป็นไปได้ที่จะมีมูลค่าเป็นศูนย์” Strongin กล่าว เงินดิจิทัลในขณะนี้ขาดกำลังที่จะอยู่รอดได้ในระยะยาว เนื่องจากการทำธุรกรรมที่ใช้เวลานาน ความท้าทายต่างๆเกี่ยวกับความปลอดภัย และมีต้นทุนในการดูแลสูง ขณะที่การเปิดการซื้อขายบิทคอยน์ในตลาดล่วงหน้าไม่ได้ช่วยแก้ความกังวลเหล่านั้นได้
Carl Icahn เตือนผลิตภัณฑ์ทางการเงินแปลกๆ ที่อาจทำให้ตลาดพังได้
Carl Icahn มหาเศรษฐีนักลงทุนชื่อดัง ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อซีเอ็นบีซีว่า ความผันผวนของตลาดหุ้นที่ผ่านมาเกิดจากผลิตภัณฑ์ทางการเงินแปลกๆ เช่น exchange-traded funds หรือ exchange-traded notes ที่กู้เงินมากเกินไปในการเทรด และวันหนึ่งอาจจะทำให้ตลาดหุ้นพังได้ หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ตลาดหุ้นผันหวนหนักในช่วงที่ผ่านมา คือหลักทรัพย์ที่คลุมเคลือ ซึ่งออกแบบมาเพื่อเดิมพันตลาดหุ้นยามสงบที่ถูกบังคับขาย หลักทรัพย์นี้เรียกชื่อกันว่า VelocityShares Daily Inverse VIX Short-Term exchange-traded note (XIV) ซึ่งพังในชั่วข้ามคืน เพราะว่านักลงทุนที่ใช้มาร์จิ้นสูงถูกบังคับขายเมื่อตลาดตกแรง ด้วยเหตุนี้ Credit Suisse ประกาศในวันอังคารที่ผ่านมาว่า จะเลิกเทรด XIV ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งออกแบบมาให้ได้ผลตอบแทนที่ตรงข้ามกับ Cboe Volatility Index (VIX), หรือรู้จักกันดีว่าเป็นตัววัดความกลัวของตลาด ไอคานบอกว่า ตลาดหุ้นมีการกู้เงินมากเกินไปในการลงทุน ซึ่งอาจจะสร้างความเสียหายได้ร้ายแรงกว่าปี 1929
ความสัมพันธ์ของเวลา และความเสี่ยง (ตอนจบ)
By… เสกสรร โตวิวัฒน์, CFP BF Knowledge Center ส่วนการลงทุนระยะกลางและระยะยาว ถือว่านานพอที่จะแบ่งมาลงทุนในหุ้นได้ แต่สิ่งสำคัญคือเมื่อเวลาผ่านไป เวลาลงทุนเหลือน้อยลงต้องมีการปรับปรุงพอร์ตใหม่ ลดสัดส่วนหุ้นเมื่อเวลาลงทุนลดน้อยลงไปเรื่อยๆ แต่ไม่จำเป็นต้องเฝ้าละเอียดยิบปรับลดสัดส่วนทุกปี โดยเฉพาะการลงทุนระยะกลางที่มักจะนิยมผสมผสานหุ้นในสัดส่วนที่สูง หรือผู้ลงทุนบางคนที่รับความเสี่ยงได้สูงก็อาจจะเลือกลงทุนหุ้นทั้งหมดโดยลืมไปว่า เวลาไม่เคยเหนื่อย เดินไปได้เรื่อยๆ ไม่เคยหยุดรอใคร พอร์ตลงทุนระยะกลางจะกลายเป็นพอร์ตการลงทุนระยะสั้นได้ภายในไม่กี่ปี แต่พอร์ตการลงทุนระยะกลางและระยะยาว ถือว่ามีความยืดหยุ่นกว่าพอร์ตระยะสั้นเพราะเวลาที่นานขึ้น มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนระยะสั้นๆ โดยเฉพาะการลงทุนในหุ้นหรือสินทรัพย์อื่นที่ราคาผันผวนมากอย่างทองคำ ราคาหุ้นในตลาดแต่ละวัน แต่ละเดือน จะถูกกระทบด้วยปัจจัยต่างๆ มากมาย ทั้งความต้องการซื้อ ความต้องการขาย ข่าวลือ ข่าวจริง อารมณ์ ความกลัว ความโลภ การคาดเดาราคาในระยะสั้นจึงทำได้ยากยิ่ง การวิเคราะห์ด้วยปัจจัยทางเทคนิคเป็นเพียงเครื่องมือช่วยที่อาจจะถูก หรือไม่ถูกก็ได้ แต่หากมีระยะเวลาลงทุนนานๆ ราคาจะสะท้อนกลับมาสู่ความเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐาน ผลประกอบการที่ประกาศ เงินปันผลที่จ่าย จะทำให้ราคาหุ้นนั้นๆ กลับมาสู่ความเป็นจริง สิ่งเหล่านี้คือสาเหตุที่ว่า ทำไมพอร์ตการลงทุนในหุ้นจึงเหมาะกับการลงทุนระยะยาวมากกว่าระยะสั้น แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเวลาและความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนและผู้วางแผนการเงินต้องไม่ลืม ก็คือ เวลาไม่ใช่สิ่งตายตัว การลงทุนระยะยาวสักวันหนึ่งก็จะกลายเป็นการลงทุนระยะกลาง และการลงทุนระยะสั้น […]
ความสัมพันธ์ของเวลา และความเสี่ยง (ตอน1)
By… เสกสรร โตวิวัฒน์, CFP BF Knowledge Center เวลาเลือกว่าจะลงทุนอะไรเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย สิ่งที่นักวางแผนการเงินจะให้ความสำคัญมากกว่าความเสี่ยงที่ผู้รับคำปรึกษาจะยอมรับได้ก็คือ “ระยะเวลาที่สามารถลงทุนได้” เพราะเป็นเงื่อนไขที่ผูกพันกับความเสี่ยงที่ผู้รับคำปรึกษาไม่อาจกำหนดเองได้ รับความเสี่ยงได้สูง อายุยังน้อย ชอบเล่นหุ้น เก็บเงินไว้ดาวน์บ้านอีก 6 เดือนข้างหน้า จะเก่งแค่ไหน ก็ไม่ควรลงทุนหุ้น เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นมา ไม่เหลือเวลาให้แก้ตัว รับความเสี่ยงได้น้อย แต่เก็บยาวไว้รอเกษียณในอีก 20 ปีข้างหน้า จะกลัวแค่ไหน แบบนี้นักวางแผนการเงินก็ยังแนะนำให้มีหุ้นไว้บ้าง เพราะจะเสียโอกาสในการลงทุน ไม่มีสูตรตายตัวว่าระยะเวลาลงทุนนานแค่ไหนถึงควรจะมีหุ้นไว้ในพอร์ต โดยทั่วไปเวลาลงทุนที่ยาวขึ้นก็สามารถลงทุนในหุ้นได้มากขึ้น แต่จะลงทุนแค่ไหน ก็ค่อยดูเรื่องอื่นๆ ประกอบ เช่น การยอมรับความเสี่ยงเฉพาะตัว ระดับความสำคัญของเป้าหมายที่จะเก็บออม ความรู้ความเข้าใจเรื่องหุ้นของผู้รับคำปรึกษา ฯลฯ ระยะเวลาการลงทุน โดยทั่วไปอาจแบ่งได้เป็น 3 ช่วง คือ ระยะสั้น (0-3ปี) ระยะกลาง (3-7ปี) และระยะยาว (7ปีขึ้นไป) การลงทุนระยะสั้นต้องระมัดระวังเรื่องการลงทุนในหุ้นให้มาก […]
นักลงทุนขายหุ้นแล้วโยกเงินเข้าไปในตลาดพันธบัตรแทน
ทั้งๆการขึ้นของยิลด์พันธบัตรอย่างค่อนข้างเร็วตั้งแต่ต้นปีเป็นสาเหตุให้นักลงทุนเทขายหุ้น ปรากฎว่าพันธบัตรอายุ 10 ปี ของรัฐบาลสหรัฐลดลงจาก 2.88% เหลือ 2.70% Erin Gibbs ผู้จัดการกองทุนของ S&P Global Market Intelligence บอกว่านักลงทุนได้โยกเงินจากตลาดหุ้นเข้าตลาดบอนด์แทน “เศรษฐกิจไม่ได้พัง นี้ไม่ใช่ความกังวลใจว่าตลาดจะไปไม่ได้ หรืออเมริกาจะไปไม่ดี แต่เป็นความกังวลว่าเศรษฐกิจอาจจะไปดีกว่าที่คิดและเราต้องกลับมาประเมินกันใหม่” เธอกล่าว
Investment Personal Finance Retirement Senior
ทำความรู้จักช่วงวัยหลังเกษียณ (ตอนที่ 1)
By… เสกสรร โตวิวัฒน์, CFP BF Knowledge Center หากเราจะแบ่งช่วงอายุในวัยเกษียณแบบคร่าวๆ โดยใช้ระยะเวลาและความสามารถในการใช้ชีวิตเป็นเครื่องกำหนดเบื้องต้นก็แบ่งได้เช่น ช่วงเริ่มต้นเกษียณ อายุ 60-69 ปี ช่วงวัยเกษียณจริง อายุ 70-79 ปี และช่วงสุดท้ายวัยเกษียณ อายุ 80 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ช่วงอายุต่างๆ เป็นเพียงตัวเลขกำหนดคร่าวๆ ขึ้นเป็นตัวอย่างเพื่อประเมินกิจกรรมการใช้ชีวิต โดยการประเมินแต่ละช่วงอายุจะขึ้นกับสุขภาพ อายุขัยของบรรพบุรุษในครอบครัว และผลพวงจากการการดำรงชีพที่สั่งสมมาของแต่ละคนเป็นสำคัญ ช่วงเริ่มต้นเกษียณ อายุ 60-69 ปี ในช่วงวัยนี้ส่วนใหญ่ยังคงมีความสามารถในการทำสิ่งต่างๆ ได้เหมือนช่วงก่อนเกษียณ เป็นวัยที่ยังคงมีพลัง เชื่อในความสามารถของตนเองในการทำสิ่งต่างๆ เหมือนก่อนเกษียณ ในวัยนี้ ผู้ประกอบกิจการส่วนตัวหรือผู้มีอาชีพอิสระ อาจจะมีความแตกต่างในการใช้ชีวิตก่อนและหลังเกษียณน้อย เพราะยังทำงานไปเรื่อยๆ ได้ แม้จะลดระยะเวลาการทำงานลง แต่ ข้าราชการ พนักงาน กับ ลูกจ้าง จะมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องการใช้ชีวิตค่อนข้างมาก จากที่ต้องทำงานเต็มเวลา อาจจะกลายเป็นคนว่างงาน […]
รัฐบาลเร่งคลอดกฎคุมธุรกรรมเงินดิจิทัล คาดเสร็จภายใน 1เดือน
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะทำงานเพื่อสรุปหาแนวทางการกำกับดูแลการซื้อสกุลเงินดิจัทัล ประกอบด้วย กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปง.) คาดจะสรุปแนวทางการกำกับดูแลการซื้อสกุลเงินดิจัทัลให้ได้ภายใน 1 เดือนหรือภายในก.พ.นี้ ที่ผ่านมาทาง ธปท. ได้ศึกษาเรื่องนี้มามากแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการเปิดเผยออกไป ขณะที่หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งกระทรวงการคลัง ก.ล.ต. และ ปปง. ก็จะเข้าไปให้ความเห็นเพิ่มเติมจากการศึกษาของ ธปท. เพื่อได้ข้อสรุปการกำกับดูแลการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลให้รอบด้านมากที้สุด “ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้ออกมาเตือนตลอดว่าการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลไม่มีกฎหมายรองรับและมีความเสี่ยงสูง เช่น การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลบิทคอยน์ที่ราคาตลาดตกลงมาอย่างมาก และบางประเทศก็ห้ามซื้อขายเพราะผิดกฎหมาย” นายสมชัย กล่าว
เปิดกลยุทธ์ลงทุนแถบอาเซียน เน้นหุ้นกลุ่มบริโภค
By…กองทุนบัวหลวง มุมมองต่อเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2018 เมื่อปีที่ผ่านมา (2017) ตลาดหุ้นและค่าเงินของประเทศในกลุ่มอาเซียนได้รับอานิสงค์จากแรงขับเคลื่อนภาคการส่งออกตามภาวะการค้าโลกที่ฟื้นตัว โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ สินค้าโภคภัณฑ์ เชื่อว่าในปีนี้อาเซียนจะมีสองธีมการลงทุนที่ต้องติดตามคือ 1.การลงทุนภาคเอกชนเร่งตัว เพื่อตอบรับกับความต้องการสินค้าหลังภาคส่งออกฟื้นตัวในปีที่ผ่านมา และด้วยอัตราการใช้กำลังการผลิตของภาคอุตสาหกรรม ณ ปัจจุบันซึ่งอยู่ในระดับสูง จึงคาดว่าสินเชื่อธุรกิจจะเริ่มพลิกกลับมาเติบโตหลังจากที่ชะลอตัวมาหลายปี ประกอบกับอัตราส่วนหนี้ภาคเอกชนเทียบกับ GDP ของกลุ่มอาเซียนยังอยู่ระดับต่ำเพียง 37% (เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยในช่วง 10 ปีหลังวิกฤตการเงินโลก) จึงไม่เป็นปัญหาหากต้องการขยายกำลังการผลิต 2. การลงทุนทางด้านโครงสร้างพื้นฐานที่จะเริ่มต้นขึ้นในปี 2018 โดยเป็นเงินลงทุนที่ใช้เชื่อมโยงระบบโครงสร้างพื้นฐานระหว่างจีนและอาเซียน คาดว่ามูลค่าร่วมรวม 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯโดยมีแหล่งที่มาของเงินทุนจาก ธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของแห่งเอเชีย (AIIB) กองทุนรัฐบาล ธนาคารภาครัฐ และบริษัทประกันชีวิต กลยุทธ์ลงทุนของกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นอาเซียน กองทุนฯ มีการลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามมาได้สักระยะ เนื่องจากเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง บริษัทที่เราลงทุนคือ Airport Corporation of Vietnam (ACV) เป็นสนามบินที่มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี ACV เป็นผู้ดูแลจัดการสนามบิน 22 แห่ง […]