Mandiri แบงก์ถือหุ้นใหญ่โดยรัฐบาลอินโดฯ จับมือ JCB เปิดตลาดลูกค้าพรีเมียม
Bank Mandiri สถาบันการเงินที่ถือหุ้นใหญ่โดยรัฐบาลอินโดนีเซีย ได้ประกาศความร่วมมือกับธนาคาร JCB International อินโดนีเซีย ในการเปิดตลาดลูกค้าพรีเมียม ซึ่งความร่วมมือกันครั้งนี้ทำเพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้าสินเชื่อบัตรเครดิต โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าชาวอินโดนีเซียที่ต้องการจะไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น และกลุ่มลูกค้าออนไลน์ชอปปิง Donsuwan Simatupang ผู้อำนวยการสายงานกลุ่มลูกค้ารายย่อย Bank Mandiri กล่าวว่า ธนาคารวางเป้าหมายที่จะออกบัตรเครดิตจำนวน 50,000 ใบ ซึ่งน่าจะส่งผลให้การทำธุรกรรมในปีหน้าแตะ 34.65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เขา มองว่า การร่วมมือกันของทั้งสองธนาคารจะเป็นโอกาสที่ดีในการช่วยให้นักท่องเที่ยวอินโดนีเซียที่ต้องการไปเที่ยวญี่ปุ่นได้รับสิทธิประโยชน์ ซึ่งจะเห็นได้ว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานักท่องเที่ยวอินโดนีเซียเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นมากขึ้นเรื่อยๆ โดยปี 2017 มีนักท่องเที่ยวอินโดนีเซียไปญี่ปุ่น 3.5 แสนคน และคาดว่าปี 2018 จะเพิ่มขึ้นอีก 20% นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสที่ธนาคารจะขยายสัดส่วนลูกค้ารายย่อยให้เพิ่มสูงขึ้น
ASEAN B-ASEAN B-ASEANRMF Morning Brief
อินโดนีเซียได้ฤกษ์ลงนามข้อตกลงการค้ากับ EFTA หลังเจรจามาเกือบ 8 ปี
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาอินโดนีเซียได้ลงนามในข้อตกลงด้านเศรษฐกิจกับสมาคมการค้าเสรียุโรป (EFTA) โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มการค้าและการลงทุนระหว่างกัน ถือเป็นข้อสรุปที่ได้หลังจากเจรจากันมาเกือบ 8 ปี ภายใต้ข้อตกลงนี้ อุปสรรคด้านภาษีและอุปสรรคที่ไม่ใช่เรื่องภาษีจะถูกกำจัดออกไป สำหรับผลิตภัณฑ์กว่า 1,000 รายการที่อินโดนีเซียและประเทศในกลุ่ม EFTA ค้าขายกัน โดยประเทศในกลุ่ม EFTA ประกอบด้วย สวิตเซอร์แลนด์ ลิกเตนสไตน์ นอร์เวย์ และไอซ์แลนด์ ส่วนสินค้าที่ครอบคลุม ได้แก่ น้ำมันปาล์มของอินโดนีเซีย จะสามารถเข้าถึงตลาดไอซ์แลนด์และนอร์เวย์ได้อย่างเต็มที่ ยกเว้นผลิตภัณฑ์ปาล์มสำหรับอาหารอื่นๆ นอกเหนือจากปลา ขณะที่ สวิตเซอร์แลนด์ ก็พร้อมเปิดรับผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มง่ายขึ้น แต่อยู่ภายใต้โควต้าที่แน่นอน Enggartiasto Lukita รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าอินโดนีเซีย กล่าวแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเข้าถึงตลาดต่างๆ ของน้ำมันปาล์มว่า เป็นประเด็นที่เจรจาลากยาวมาหลายปีแล้ว โดยการหารือรอบแรกเริ่มขึ้นเมื่อช่วงต้นปี 2011 Johann N. Schneider-Ammann สมาชิกสภาแห่งสหพันธ์สวิส กล่าวว่า ข้อตกลงนี้อยู่บนพื้นฐานของความยั่งยืนในผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์ม จากข้อมูลของอินโดนียเซีย พบว่า ปี 2017 […]
สตาร์ทอัพสัญชาติอเมริกันพร้อมบุกตลาดโคเวิร์กกิ้งแถบอาเซียน
กระแสนิยมของการใช้บริการสำนักงานแบบแบ่งปัน หรือ ออฟฟิศแชริ่ง ในเอเชียนั้นเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้บริษัท WeWork สตาร์ทอัพสัญชาติอเมริกันที่เป็นผู้นำให้บริการโคเวิร์กกิ้ง (Co-Working) ตัดสินใจที่จะขยายธุรกิจเข้าสู่ประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น Turochas “T” Fuad กรรมการผู้จัดการประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านซีเอ็นบีซีว่า ขณะนี้ได้เตรียมเพิ่มจุดให้บริการในประเทศสิงคโปร์มากขึ้นแล้ว ส่วนในกรุงเทพฯ เมืองหลวงของประเทศไทยจะเป็นเมืองถัดไปที่จะเข้ามาเปิดตลาด ตามด้วย กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ และกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเมืองเหล่านี้ล้วนมีศักยภาพ และมีความต้องการที่แข็งแกร่ง ทั้งนี้ แรกเริ่มการเปิดให้ใช้ออฟฟิศ และอุปกรณ์สำนักงาน ทำไปเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มคนที่ทำงานอิสระ (ฟรีแลนซ์) โดย WeWork ได้เจาะตลาดสิงคโปร์ครั้งแรกเมื่อเดือน ธ.ค. 2017 พร้อมทั้งขยายจุดให้บริการไปแล้ว 7 แห่ง รวมไปถึงขยายธุรกิจไปยังเมืองจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย โดยเริ่มให้บริการแล้ว 3 แห่ง ขณะที่ ก่อนหน้านี้บริษัทได้เลือกบุกตลาดจีน และเกาหลีใต้ไปตั้งแต่เมื่อปี 2016 ตามมาด้วยอินเดียเมื่อปี 2017เนื่องจากเป็นตลาดขนาดใหญ่ มีโอกาสเติบโตมาก
ญี่ปุ่นเปิดช่องต่างชาติทำงานง่ายขึ้น หวังลดปัญหาขาดแคลนแรงงาน
รายงานข่าวจากซีเอ็นบีซี ระบุว่า ในปี 2019 เป็นต้นไป ญี่ปุ่นจะผ่อนปรนข้อบังคับให้ต่างชาติสามารถทำงานได้ง่ายมากขึ้น เพื่อลดปัญหาขาดแคลนแรงงาน อย่างไรก็ตามนักเศรษฐศาสตร์ มองว่า การผ่อนคลายมาตรการให้ต่างชาติทำงานได้สะดวกขึ้นยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด เนื่องจากปัญหาที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญนั้นคือ แรงงานที่กำลังก้าวสู่แรงงานสูงวัย ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่งจะผ่านกฎหมายเปิดทางให้ชาวต่างชาติกว่า 300,000 คน สามารถเข้ามาพักอาศัยและทำงานในประเทศได้อย่างถูกกฎหมาย ใน 14 อุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมก่อสร้าง ภาคการเกษตร งานพยาบาล คมนาคม และการท่องเที่ยว โดยกฎหมายฉบับดังกล่าวเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือน เม.ย. 2019 แม้หลายภาคส่วนจะกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่จะตามมาต่อสังคมโดยรวมของญี่ปุ่นก็ตาม ปัจจุบันจะเห็นว่าแรงงานต่างชาติ แรงงานที่ไม่มีทักษะจะถูกรับเข้าไปทำงานภายใต้โครงการฝึกงาน ขณะที่แรงงานต่างชาติที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง แต่ไม่ได้ยื่นเพื่อขออาศัยถาวร (Permanent Residency) จะสามารถทำงานในประเทศญี่ปุ่นได้แต่มีระยะเวลากำหนดที่จำกัด และไม่มีครอบครัวเป็นผู้ติดตาม
Artificial Intelligence ASEAN Morning Brief
แพลตฟอร์มชำระเงินชั้นนำอินโดนีเซียจับมือ CashShield ปราบทุจริต-ฉ้อโกง
CashShield บริษัทจัดการการฉ้อโกงออนไลน์แห่งเดียวของโลกที่ทำงานด้วยระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ประกาศความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับ OVO แพลตฟอร์มการชำระเงินชั้นนำของอินโดนีเซีย ในการจัดหาแนวทางป้องกันการฉ้อโกงครบวงจรชั้นนำในอุตสาหกรรมให้กับ OVO ซึ่งจะทำให้ฐานข้อมูลผู้ใช้งานกว่า 60 ล้านคนใน 500 เมืองทั่วอินโดนีเซียของ OVO จะได้รับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลและรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษ ทั้งนี้ความร่วมมือที่เกิดขึ้นมาจากการชำระเงินผ่านมือถือได้รับความนิยมมากขึ้นในปีที่ผ่านมา และกลายเป็นเป้าหมายในการแสวงหาผลประโยชน์ของเหล่าบรรดาอาชญากรทางไซเบอร์ ซึ่งการตรวจจับและป้องกันการฉ้อโกง สามารถให้บริการแก่ผู้ใช้งานได้ทั้งที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่ หรือบริษัทที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว Justin Lie ซีอีโอของ CashShield กล่าว เทคโนโลยีสามารถลดอัตราการฉ้อโกงลงเหลือเพียง 1 ใน 10 ของค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมได้ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะของการผสานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเครื่องมือการ เทรดของ Wall Street เข้าด้วยกัน ทำให้ CashShield ช่วยลดการเข้ามามีส่วนร่วมของมนุษย์ในการตรวจจับและป้องกันการฉ้อโกงออนไลน์ ตลอดจนลดความเสี่ยงที่เกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยปกป้องบัญชีผู้ใช้และข้อมูลส่วนตัวเอาไว้ได้
ไทยเผชิญความเหลื่อมล้ำด้านความมั่งคั่งมากขึ้น
รายงานความมั่งคั่งและการถือครองทรัพย์สินปี 2018 (CS Global Wealth Report 2018) ระบุว่า ประเทศไทยมีความเหลื่อมล้ำทางด้านความมั่งคั่งและการถือครองทรัพย์สินสูงที่สุดในโลก โดยข้อมูลล่าสุดถูกรวบรวมเรียบเรียงจากหน่วยงานทางด้านเศรษฐกิจของไทยแล้วนำไปวิเคราะห์และวิจัย ระบุว่า คนไทยเพียง 1% ถือครองทรัพย์สินและความมั่งคั่งถึง 66.9% และยังมีการเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วงสองปีที่ผ่านมา ผศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวถึง กรณีรายงานความมั่งคั่งและการถือครองทรัพย์สินปี 2018 ว่า มีความเป็นไปได้ที่ประเทศไทยมีความเหลื่อมล้ำทางด้านความมั่งคั่งและการถือครองทรัพย์สินสูงที่สุดในโลก และยังมีการเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วงสองปีที่ผ่านมาอีก โดยสถาบันการเงินเครดิตสวิส ได้เคยออกรายงานความมั่งคั่งของโลก ระบุว่า ไทยเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำเป็นอันดับ 3 ของโลก คนรวย ที่มีสัดส่วน 1% ของประชากร ครอบครองความมั่งคั่งสูงถึง 58% ของระบบเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ข้อมูลของโครงสร้างเงินฝากในระบบสถาบันการเงินยังพบว่า คนรวย 0.1% หรือ 65,000 คน จากประชากรทั้งหมด 65 […]
Health Care HealthTech Morning Brief
ผลสำรวจระบุคนอเมริกันรุ่นใหม่พร้อมแชร์ข้อมูล-จ่าย-ใช้เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ
“รัฐบาลจีนอาจจะตอบโต้สหรัฐ หลังจากทางการแคนาดาได้จับกุมตัวนางเหม็ง ว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี ตามคำขอของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ” ดีลอยท์ ศูนย์บริการด้าน เฮลท์ โซลูชั่น ได้จัดผลสำรวจความคิดเห็นผู้บริโภคในสหรัฐ 4,530 ราย เกี่ยวกับการเลือก หรือตัดสินใจด้านประกันสุขภาพ บริการเฮลท์แคร์ และความอยู่ดีมีสุขของแต่ละคนว่ามีทัศนคติอย่างไร โดยแบ่งกลุ่มผู้บริโภคเป็น 4 ประเภทที่สะท้อนถึงความแตกต่างในความต้องการจัดการสุขภาพ ได้แก่ ผู้บุกเบิก (Trailblazers) คิดเป็น 16% ของผู้ตอบแบบสอบถาม กลุ่มนี้เป็นกลุ่มคนอายุน้อยที่สุด มีรายได้สูงที่สุด ส่วนใหญ่มักมีสุขภาพที่ดีอยู่แล้ว มีความเชี่ยวชาญใช้เทคโนโลยีเกี่ยวกับสุขภาพแทบทุกชนิด ยินดีแชร์ข้อมูลด้านสุขภาพให้แพทย์ พร้อมที่จะทำตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ ใส่ใจเรื่องสุขภาพ และพร้อมเปลี่ยนแพทย์ทันทีหากรู้สึกไม่พอใจ ผู้สำรวจ (Prospectors) สัดส่วน 30% ของผู้ตอบแบบสอบถาม กลุ่มนี้อายุเฉลี่ยจะน้อย และเป็นกลุ่มที่มีรายได้สูงเป็นอันดับสอง เป็นกลุ่มที่ยินดีจะเปิดเผยข้อมูลด้านสุขภาพจากอุปกรณ์สวมใส่เคลื่อนที่ให้กับแพทย์ และเป็นกลุ่มที่ใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีติดตามผลด้านสุขภาพ พฤติกรรมที่แตกต่างคือคนกลุ่มนี้จะเชื่อการบอกต่อจากเพื่อนประกอบการตัดสินใจใช้บริการด้านสุขภาพ และให้ความสำคัญประกันสุขภาพ บริการเฮลท์แคร์ที่มีคุณภาพ ผู้สังเกตการณ์ (Bystanders) สัดส่วน […]
Waymo เปิดตัวบริการแท็กซี่ไร้คนขับในรัฐแอริโซนา
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า Waymo ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของอัลฟาเบท (บริษัทแม่ของกูเกิล) ได้เปิดตัวบริการแท็กซี่ไร้คนขับในรัฐแอริโซนาสำหรับลูกค้าที่จ่ายเงิน ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัทในด้านการพัฒนาระบบขนส่งแบบไร้คนขับที่ทำมายาวนาน สำหรับการให้บริการแท็กซี่ไร้คนขับจะเริ่มต้นในพื้นที่ 100 ไมล์ (160 กิโลเมตร) ใน 4 ย่านสำคัญก่อน คือ Chandler, Tempe, Mesa และ Gilbert ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้ทดสอบเทคโนโลยีนี้มาตั้งแต่ปี 2016 การมุ่งไปสู่การสร้างรายได้ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะทำให้ Waymo ก้าวนำคู่แข่งหลักๆ ในสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็น ครูซ ออโตเมชั่นของบริษัท เจเนอรัล มอเตอร์ส หรืออูเบอร์ เทคโนโลยี ที่ยังไม่ได้เปิดตัวบริการรถไร้คนขับที่ต้องจ่ายเงินเลย วิธีการใช้บริการแท็กซี่ไร้คนขับ Waymo One เริ่มต้นจาก ผู้ขับขี่จะต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันและกรอกหมายเลขบัตรเครดิตคล้ายๆ กับบริการขับขี่แบบแบ่งปันของอูเบอร์ และ Lyft โดยรถยนต์ไร้คนขับเหล่านี้จะมีคนขับที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย แต่จะทำหน้าที่เพียงคอยบังคับรถกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นเท่านั้น ก่อนหน้านี้ผู้บริหารของ Waymo ระบุว่า บริษัทมองเห็นโอกาสของการไปบุกตลาดยุโรปด้วย
อุปกรณ์อัจฉิรยะสำหรับใช้ในบ้านกำลังมาแรงในจีน
ไชน่าเดลี รายงานว่า อุปกรณ์อัจฉริยะที่มีคุณภาพและสามารถปรับแต่งได้กำลังมีโอกาสในการเจาะตลาดครัวเรือนจีนที่อาศัยอยู่ในชุมชนเมือง ตามเทรนด์บ้านอัจฉริยะที่กำลังมาแรงเพื่อตอบสนองความสะดวกสบายของผู้อยู่อาศัย “หุ่นยนต์ดูดฝุ่น เครื่องล้างจาน และโทรทัศน์ เป็นสิ่งที่อยู่ในรายการสินค้าที่เราจะช้อปปิ้ง โดยสิ่งเหล่านี้มีตัวเลือกอยู่มากมายในตลาด และเราต้องการสิ่งเหล่านี้เพราะว่าจะช่วยให้เราประหยัดเวลาได้ ทำให้มีเวลาในการใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์ที่ต้องการมากขึ้น” Liu Jie ซึ่งกำลังวุ่นวายกับการตกแต่งอพาร์ทเมนท์ใหม่ของเขาที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของจีนในมณฑลอานฮุย กล่าว สำหรับหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์อัจฉริยะที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในจีนเมื่อปีที่ผ่านมา จากข้อมูลวิจัยของอาลีบาบา กรุ๊ป บริษัทอี-คอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ การเกิดขึ้นของสตาร์ทอัพใหม่ๆ รวมทั้งอุปกรณ์อัจฉริยะต่างๆ ได้รับความนิยมมากขึ้นนั้นเป็นกระจกสะท้อนว่า ผู้คนกำลังยกระดับการบริโภคของตัวเอง และสะท้อนถึงกำลังการอุปโภคบริโภคที่มีขนาดใหญ่มากในปีที่กำลังจะมาถึง ในช่วงวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Suning ซึ่งเป็นเว็บไซต์ออนไลน์ช้อปปิ้ง รวมถึงยักษ์ใหญ่อี-คอมเมิร์ซอื่นๆ ต่างก็เห็นการเติบโตของยอดขายของอุปกรณ์ล็อกอัจฉริยะ และลำโพงอัจฉริยะ โดย Suning มองเห็นยอดขายหุ่นยนต์ดูดฝุ่น เติบโต 132%แปรงสีฟันไฟฟ้า เติบโต 122% และเครื่องล้างจาน เติบโต 121% ตลาดอุปกรณ์อัจฉริยะของจีน คาดว่าจะเติบโต 45.3% ระหว่างปี 2017-2022 […]
กาตาร์ประกาศถอนตัวจากสมาชิกโอเปกตั้งแต่ต้นปีหน้า
ซีเอ็นบีซี รายงานว่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ประเทศกาตาร์ได้ประกาศแผนจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์กรร่วมประเทศผู้ผลิตน้ำมันเพื่อการส่งออก หรือ โอเปก ซึ่งเป็นการประกาศในเวลาหนึ่งวันก่อนที่จะมีการประชุมระหว่างกลุ่มพันธมิตรน้ำมัน และผู้ที่มีอิทธิพลในกลุ่มนี้ Saad al-Kaabi รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานกาตาร์ กล่าวระหว่างการแถลงข่าวว่า ประเทศกาตาร์จะถอนตัวจากการเป็นสมาชิกโอเปกตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2019 เป็นต้นไป ถือเป็นการสิ้นสุดสภาพสมาชิกที่เป็นมาแล้วกว่าครึ่งศตวรรษ นับตั้งแต่ปี 1961 การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากกาตาร์ได้ทบทวนแนวทางที่จะปรับปรุงความสามารถในการแข่งขันระดับโลกและวางแผนกลยุทธ์ระยะยาวของประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การถอนตัวครั้งนี้เป็นการสะท้อนแนวทางด้านเทคนิคและเชิงกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ไม่ได้มีแรงขับเคลื่อนจากประเด็นการเมือง สำหรับกลุ่มโอเปก และกลุ่มประเทศที่ไม่ใช่สมาชิกโอเปกมีกำหนดจะประชุมกันที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย วันพฤหัสบดีนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะหารือเรื่องการลดกำลังการผลิตให้สอดคล้องกัน ขณะที่การประชุมครั้งสุดท้ายที่จะจัดขึ้นโดยกลุ่มประเทศตะวันออกกลางภายในปีปฎิทินนี้ คาดว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะมีประเทศกาตาร์เป็นสมาชิกโอเปกอยู่ ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ซึ่งเป็นดัชนีราคาน้ำมันระดับนานาชาติ ซื้อขายอยู่ที่ 62.25 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เมื่อเวา 6.40 น. ตามเวลาของกรุงลอนดอน เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นประมาณ 4.7% ส่วนราคาน้ำมันดิบดับบลิวทีไอ (West […]