ผลสำรวจระบุบริษัทต่างชาติที่ลงทุนในจีน มีความรับผิดชอบต่อสังคมภาคธุรกิจดีขึ้น
รายงานข่าวจากไชน่า เดลี อ้างอิงข้อมูลมาจากสถาบันวิทยาศาสตร์สังคมจีน(CASS) ซึ่งได้ทำการประเมินการทำกิจกรรม CSR ของบริษัทต่างชาติชั้นนำ 100 แห่งที่เข้าไปลงทุนในจีน โดยมีการบันทึกการทำกิจกรรม CSR เพื่อสาธารณะตลอดทั้งปีนับตั้งแต่เดือนส.ค. ปีที่แล้ว พบว่า บริษัทต่างชาติที่ลงทุนในจีน มีความรับผิดชอบต่อสังคมภาคธุรกิจดีขึ้น โดยรายงานระบุว่า บริษัทจากเกาหลีใต้มีผลประเมินอยู่ในระดับสูงสุดด้วยคะแนน 70.7 จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน ตามมาด้วยบริษัทจากญี่ปุ่นที่ 29.5 และเยอรมนี ซึ่งมีคะแนนอยู่ที่ และ 24.6 ตามลำดับ บริษัทที่ได้รับคะแนนสูงนั้น มีการใช้จ่ายเงินทุนในด้านการศึกษาและการขจัดความยากจน ซึ่งความสำเร็จของบริษัทเหล่านี้ได้มาจากระบบการจัดการและแนวทางเชิงกลยุทธ์ของบริษัท นายจง หงอู่ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย CSR ของ CASS ให้สัมภาษณ์กับไชน่า เดลีว่า “บริษัทต่างชาติมีการพัฒนาในทิศทางที่ดีขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และเรายินดีที่จะได้เห็นความพยายามต่อไป” ผลการศึกษา Global Innovation 1000 Study ฉบับที่ 14 […]
ซีเมนส์พร้อมหนุนไทย ขับเคลื่อน EEC เข้าสู่สุดยอดนวัตกรรมในอาเซียน
“ซีเมนส์ ผู้นำเทคโนโลยีระดับโลกที่มุ่งมั่นพัฒนาความเป็นเลิศในด้านวิศวกรรม นวัตกรรม ความน่าเชื่อถือและความเป็นสากล จัดงาน “EEC Journey: Connect – Create – Collaborate for Joint Success” โชว์วิสัยทัศน์การใช้ดิจิทัลในการจัดการเทคโนโลยี นวัตกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน ขับเคลื่อนความสำเร็จให้โครงการพื้นที่พัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ (อีอีซี) เพื่อเป็นภูมิภาคแห่งนวัตกรรมของอาเซียน” ความร่วมมือและสร้างเครือข่ายของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในเขตเศรษฐกิจพิเศษ (อีอีซี) ตั้งแต่หน่วยงานที่กำหนดและดูแลด้านนโยบาย ธุรกิจ ภาคประชาสังคม และการนำเสนอแนวทางจากซีเมนส์เพื่อช่วยลูกค้าให้ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัลอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งตรงกับสิ่งที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ นำเสนอว่าความร่วมมือคือเครื่องมือสู่ความสำเร็จในการขับเคลื่อนประเทศไทยและการสรรหาพันธมิตรทั้งในระดับการประชุมสุดยอดอาเซียนและการประชุมสุดยอดเอเปก นโยบาย Digital Thailand Agenda 2018 ครอบคลุม โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล รัฐบาลดิจิทัล ไซเบอร์ซิเคียวริตี้ การพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล และการสร้างบุคลากรด้านดิจิทัล นโยบายส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอสอดคล้องไปกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 โดยมาตรการใหม่ๆ ที่ออกมาจะรองรับสาขาที่ให้ความสำคัญ ได้แก่ เทคโนโลยีและนวัตกรรม การพัฒนาคนเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี […]
แบงก์จีนแย่งจ้างงานคนบริหารจัดการความมั่งคั่ง หลังเม็ดเงินในตลาดสูงถึง 9.3 แสนล้านดอลลาร์
รายงานข่าวจากบลูมเบิร์กระบุว่า ธนาคารต่างชาติชั้นนำอย่าง UBS Group AG และ Credit Suisse Group AG กำลังแข่งขันกันเพื่อที่จะชิงตัวผู้จัดการด้านการบริหารความมั่งคั่ง (wealth manager) ที่จะเข้ามาบริหารเงินลงทุนหลายร้อยล้านดอลลาร์ ตอบโจทย์และขยายฐานลูกค้าเศรษฐีชาวเอเชียที่เพิ่มมากขึ้น ปัญหาของพวกเขาขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องการขยายฐานลูกค้ากลุ่มคนรวย เพราะปัจจุบันธนาคารต่างๆมีลูกค้าในมือกว่าครึ่งที่เป็นผู้มีรายได้สูง แต่สิ่งที่ธนาคารเหล่านี้ต้องการคือบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านลงทุนโดยเฉพาะลงทุนในต่างประเทศ เพื่อที่จะช่วยให้คำแนะนำกลุ่มนักลงทุนเศรษฐีจีนในการลงทุนในตลาดต่างประเทศ Joseph Tam หัวหน้าฝ่ายบริการการเงินแก่ลูกค้าบุคคลรายใหญ่ (Head of Private Banking) ที่ Industrial Bank Co. ประเทศฮ่องกง กล่าวว่า ตอนนี้ผู้ประกอบการธนาคารไม่ได้ต้องคนที่จะมาทำหน้าที่หาลูกค้าเพิ่ม เพราะเรามีมากพอแล้ว ซึ่งแบงก์ต่างชาติส่วนใหญ่กำลังขยายบริการการบริหารความมั่งคั่งทำให้พวกเค้าต้องจ้างงานผู้เชี่ยวชาญด้านนี้เพิ่ม ซึ่งเราจะเห็นว่าตลาดลูกค้าบุคคลรายใหญ่ในเอเชียกำลังเติบโตอย่างมาก การเสนองานให้กับผู้จัดการด้านการบริหารความมั่งคั่งจึงไม่ใช่เรื่องง่าย หรือแค่ให้เงินเดือนที่เพิ่มขึ้น แต่เข้าต้องมองหาพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านจาก ธนาคารพาณิชย์ และบริษัทประกัน หรือแม้กระทั้งโบรกเกอร์ เพื่อมาตอบสนองความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในจีนที่มีเม็ดเงินสูง 9.3 แสนล้านดอลลาร์
จีนเปิดโผ 10 เมืองที่เศรษฐกิจ 3 ไตรมาสขยายตัวดีสุด
ไชน่าเดลี เปิดเผย 10 อันดับรายชื่อเมืองในประเทศจีนที่มีเศรษฐกิจเติบโตรวดเร็วที่สุดในช่วง 9 เดือน (3 ไตรมาส) โดยพบว่า ส่วนใหญ่จะเป็นเมืองที่อยู่ในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันตกของประเทศ โดยจากข้อมูลของ 21st Century Business Herald ชี้ว่า อันดับ 1 ของเมืองที่เศรษฐกิจขยายตัวเร็วที่สุดในจีน ได้แก่ เมืองกุ้ยหยาง เติบโต 9.8% สำหรับลำดับถัดมา คุนหมิง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เติบโต 9.1% อันดับที่ 3 คือ ไท่หยวน ทางตอนเหนือของจีน เติบโต 9.1% อันดับ 4 ซีหนิง ทางตะวันตกเฉียงเหนือ เติบโต 9% อันดับ 5 หนานชาง ทางตะวันออกของจีน เติบโต 8.8% อันดับ 6 ฝูโจว […]
เจพีมอร์แกนหั่นประมาณการราคาน้ำมันโลกปีหน้าเหลือ 73 ดอลลาร์ หลังดีมานด์ลด
เจพีมอร์แกนปรับประมาณการราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent Crude) ในปี 2019 ลงเหลือ 73 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากเดิมที่คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันจะเฉลี่ยอยู่ที่ 83.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล Scott Darling หัวหน้าภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ด้านน้ำมันและก๊าซ เจพีมอร์แกน กล่าวผ่านการสัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซี ว่า อุปสงค์ (Demand) ที่ลดลงมีน้ำหนักต่อแนวโน้มราคาน้ำมันในปี 2019 และ 2020 ซึ่งสัญญาณดังกล่าวเริ่มตั้งแต่องค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือ โอเปก ตัดสินใจปรับเพิ่มกำลังการผลิตตั้งแต่ช่วงต้นๆ ปี 2018 ซึ่งย่อมส่งผลต่ออุปสงค์ให้อ่อนตัวลง เขา กล่าวว่า การปรับประมาณการในครั้งนี้ยังมาจากผลที่อเมริกาเหนือ (North American) ที่มีอุปทาน (Supply) เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2019 ซึ่งย่อมมีผลกระทบต่อราคาน้ำมันในตลาดโลกเช่นกัน โดยเจพีมอร์แกน คาดว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในปี 2020 จะลดลงสู่ 64 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ […]
สหรัฐคุมเข้มส่งออกเทคโนโลยีกระทบสัมพันธ์ระยะยาวกับจีน
ดอยซ์แบงก์ เอจี ธนาคารรายใหญ่ของเยอรมนี ระบุว่า มาตรการควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีอย่างเข้มงวดของสหรัฐ จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงและยาวนานต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีน ทั้งนี้ ดอยซ์แบงก์ ได้แสดงความคิดเห็นภายหลังจากที่เอกสาร Federal Register ของรัฐบาลกลางสหรัฐถูกเผยแพร่ โดยมีการเสนอข้อเรียกร้องให้ระบุรายชื่อเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มีความอ่อนไหวต่อความมั่นคงของชาติ ตั้งแต่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไปจนถึงไมโครโปรเซสเซอร์ และหุ่นยนต์ ให้อยู่ในกลุ่มสิ่งควรถูกควบคุมการส่งออกอย่างเข้มงวด นอกจากนี้ ภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ต้องทบทวนเทคโนโลยีที่อ่อนไหวต่อความมั่นคงของชาติภายใน 30 วัน ก่อนที่จะเสนอให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ดำเนินการพิจารณาและประกาศรายชื่อเทคโนโลยีที่ต้องถูกควบคุมออกมาต่อไป ขณะที่ เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ลงนามในกฎหมายเพื่อเพิ่มอำนาจให้กับคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับสอดส่องดูแลการลงทุนจากต่างประเทศที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นความพยายามในการสกัดการลงทุนจากจีน และรัฐบาลสหรัฐกำลังใช้ความพยายามอย่างหนักในการควบคุมการไหลออกของเทคโนโลยี
เอดีบีมองตลาดพันธบัตรเอเชียตะวันออกเผชิญความเสี่ยงระยะสั้นแต่จะก้าวข้ามไปได้
ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ได้ออกรายงานการติดตามตลาดพันธบัตรเอเชีย หรือ Asia Bond Monitor ฉบับล่าสุด ระบุว่า ตลาดพันธบัตรสกุลเงินท้องถิ่นของตลาดเกิดใหม่ในเอเชียตะวันออกจะต้องเผชิญกับความเสี่ยงระยะสั้นอย่างต่อเนื่อง แต่คาดว่าภูมิภาคนี้จะก้าวข้ามความท้าทายไปได้ หากดำเนินนโยบายและวางแผนนโยบายอย่างระมัดระวัง สำหรับความเสี่ยงระยะสั้น ได้แก่ การหลีกเลี่ยงความเสี่ยงโดยรวมอันเกิดจากตลาดเกิดใหม่ การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐที่เร็วกว่าคาดการณ์ไว้ ความตึงเครียดทางการค้าที่บานปลาย สถานการณ์สภาพคล่องที่ตึงตัวซึ่งเป็นปัจจัยทำให้ความเสี่ยงจากระดับหนี้ภาคเอกชนเพิ่มขึ้นรวดเร็วของภูมิภาคในช่วงหลายปีมานี้รุนแรงกว่าที่ควรจะเป็น การอ่อนตัวของค่าเงินในภูมิภาคและการไหลออกของเงินทุนเป็นปัจจัยเพิ่มความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงินของภูมิภาค “ข้อกังวลเกี่ยวกับตลาดเกิดใหม่เริ่มเห็นชัดเจนขึ้น แต่รากฐานที่แข็งแรงของภูมิภาคเอเชียจะดึงดูดให้นักลงทุนหันกลับมาลงทุนในตลาดพันธบัตรสกุลเงินท้องถิ่นของภูมิภาค ทั้งนี้ผู้วางแผนนโยบายของภูมิภาคจะต้องติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมรับมือวิกฤติที่อาจเกิดขึ้นเสมอ” นายยาซูยูกิ ซาวาดะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอดีบี กล่าว ทั้งนี้ ตลาดพันธบัตรของตลาดเกิดใหม่ในเอเชียตะวันออก ไตรมาสที่ 3 ขยายตัว 4.3% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 โดยมีมูลค่า 12.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา สูงกว่าอัตราการเติบโตในไตรมาส 2 ซึ่งขยายตัว 3.2% มีปัจจัยเกื้อหนุนสำคัญจากการออกพันธบัตรของการปกครองท้องถิ่นของรัฐบาลจีน สำหรับลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยประเทศจีนมีตลาดพันธบัตรที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ของเอเชียตะวันออก สิ้นเดือน […]
บริษัทจีนเดินหน้าควบรวมกิจการมากขึ้นใน 12 เดือนข้างหน้า
ไชน่าเดลี รายงานว่า EY บริษัทที่ปรึกษา ได้จัดทำรายงานบารอมิตอร์ความเชื่อมั่นด้านการลงทุนในตลาดโลก โดยระบุว่า ผู้บริหารบริษัทจีน คาดการณ์ว่า จะมีบรรยากาศการควบรวมและเข้าซื้อกิจการที่คึกคักขึ้นในช่วง 12 เดือนข้างหน้า สำหรับบารอมิเตอร์นี้ สำรวจจากผู้บริหารระดับสูงกว่า 2,600 คน จาก 45 ประเทศ โดย 174 คน มาจากจีน ซึ่ง 75% ของผู้บริหารจีนที่เข้าร่วมสำรวจมองว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัว 87% ของผู้ตอบแบบสำรวจ คาดว่า แนวโน้มการควบรวมกิจการในตลาดโลกจะเพิ่มขึ้นช่วง 12 เดือนข้างหน้า และ 34% ของกลุ่มนี้ ระบุว่า พวกเขาจะเข้าซื้อกิจการในเชิงรุกในระยะสั้นนี้ Stella Yuan หัวหน้า ที่ปรึกษาการทำธุรกรรมของ EY Central China กล่าวว่า บริษัทจีนหลายแห่งจะให้น้ำหนักมากขึ้นกับเรื่องการซื้อกิจการในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ในเวลาเดียวกัน บริษัทจะจัดการพอร์ตโฟลิโอของธุรกิจที่มีอยู่แล้วในเชิงรุกเช่นกัน […]
จับตาท่าทีผู้นำสหรัฐ-จีน หลังเอเปกไร้แถลงการณ์ร่วมครั้งแรกในประวัติศาสตร์
การประชุมสุดยอดความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก หรือ เอเปก ที่กรุงพอร์ต มอสบี้ ประเทศปาปัวนิวกินี จบลงโดยไม่มีการแถลงการณ์ร่วมของผู้นำอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก เนื่องจากในการประชุมสุดยอดเอเปกที่ผ่านมาจะมีแถลงการณ์ร่วมทุกครั้ง นับตั้งแต่ปี 1998 โดยรายงานข่าวระบุว่า มาจากปัญหาความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐ และจีน นายปีเตอร์ โอนีล (Peter O’Neill) นายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินี กล่าวว่า สองยักษ์ใหญ่ในห้องนี้ ไม่สามารถตกลงกันได้ พร้อมระบุว่า จะมีการเผยแพร่แถลงการณ์ของประธานการประชุมสุดยอดเอเปกในภายหลัง โดยสองประเทศต่างแข่งขันกันมีอำนาจในภูมิภาคแปซิฟิก ทำให้กลายเป็นประเด็นหลักในการประชุมครั้งนี้
ฟอร์ดเดินหน้าทดสอบยานยนต์ไร้คนขับในไมอามี
ซีเอ็นบีซี รายงานว่า ฟอร์ดกำลังทดสอบยานยนต์ไร้คนขับบนถนน โดยร่วมมือกับเมืองไมอามี หวังว่าจะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ในด้านแบ่งปันการขับขี่และธุรกิจการขนส่งสินค้า ฟอร์ดได้ทดสอบ ฟอร์ด ฟิวชัน ซึ่งใช้เทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับ หรือ AV ในไมอามีตั้งแต่เดือน ก.พ. ที่ผ่านมา สาเหตุที่เลือกเมืองนี้เพราะเป็นเมืองที่การจราจรแออัดและไม่สามารถคาดการณ์สภาพการจราจรได้ และการทดสอบยังทำใน 3 เมืองอื่นด้วย เช่น พิตต์สเบิร์ก ดีทรอยต์ และวอชิงตัน ดีซี ทั้งนี้ ฟอร์ด มีแผนเริ่มจำหน่ายรถยนต์ไร้คนขับภายในปี 2021 ระหว่างนี้จะทดสอบรถยนต์ไร้คนขับด้านขนส่งคนและสิ่งของ Sherif Marakby ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยานยนต์ไร้คนขับของฟอร์ด กล่าว Marakby กล่าวว่า เราจะให้ความสำคัญกับความสามารถในการทำกำไร คนมักจะพูดว่ายานยนต์ไร้คนขับจะช่วยทำให้การขนส่งมีต้นทุนที่ถูกลงกว่ายานพาหนะในปัจจุบัน แต่ยานพาหนะนั้นแพง โดยเริ่มแรกเราได้ใช้ยานยนต์ไร้คนขับกับด้านบริการ พบว่า การขนส่งต่อไมล์สำหรับคนและธุรกิจจะถูกลง และทำกำไรได้สำหรับเรา ฟอร์ด เปิดเผยว่า มีแผนลงทุนทั้งหมด 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับ จากนี้ไปจนถึงปี 2023 […]