ตลาดสมาร์ตโฟนจีนหดตัว 20% หลังยอดผู้ติดเชื้อโควิดพุ่ง แต่ Apple ยังเติบโตได้
ยอดผู้ติดเชื้อโควิดในจีนที่เพิ่มขึ้นในช่วงใกล้นี้ ส่งผลกระทบไปยังยอดขายอุปกรณ์มือถือในตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดสมาร์ตโฟนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถ้ายังควบคุมการแพร่ระบาดได้ แต่สำหรับบริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ อย่าง Apple กลับยังทำยอดขายได้ดี เมื่อวันพุธที่ 6 เมษายน ที่ผ่านมา จีนรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดมากกว่า 20,000 คน ในเมืองหลักๆ เช่น เซี่ยงไฮ้ ขณะที่หน่วยงานกำกับมีการใช้มาตรการล็อคดาวน์ในเมือง ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบโลจิสติกส์ และการใช้จ่ายของผู้บริโภค Neil Mawston ผู้อำนวยการบริหาร Strategy Analytics คาดการณ์ว่า ยอดส่งมอบสมาร์ตโฟนในจีน ช่วงไตรมาสที่ 2 นี้ จะลดลง 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยยอดขายในเดือนเมษายน และพฤษภาคม คาดว่าจะลดลง 12-13% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ยอดขายอาจจะฟื้นตัวได้ในเดือนมิถุนายน ในช่วงเทศกาลลดกระหน่ำสินค้า และโควิดคลี่คลาย ซึ่งจะทำให้ยอดขายสมาร์ตโฟนในจีน ลดลง 3-4% แต่ถ้าสถานการณ์โควิดยังมีต่อเนื่องไป ตลาดอาจจะลดลง 12% ก็ได้ ที่มา […]
ปี 2021 เป็นปีที่ดีต่อเนื่องของการติดตั้งพลังงานลม
สภาพลังงานลมโลก (Global Wind Energy Council : GWEC) ออกรายงานฉบับใหม่มาว่า ในปี 2021 เป็นปีที่ดีต่อเนื่องปีที่ 2 ของกลุ่มพลังงานลม แต่ในเรื่องการติดตั้งยังจำเป็นต้องเพิ่มขึ้นอีกมากในอนาคตข้างหน้า เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ รายงานฉบับนี้ ระบุว่า ปี 2021 มีการติดตั้งพลังงานลมกำลังการผลิตรวม 93.6 กิกะวัตต์ ต่ำกว่าในปี 2020 ซึ่งอยู่ที่ 95.3 กิกะวัตต์ ขณะที่กำลังผลิตสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 837 กิกะวัตต์ โดยกำลังการผลิตหมายถึงกำลังไฟฟ้าสูงสุดที่สามารถผลิตได้ ไม่ได้บ่งบอกถึงความจำเป็นขั้นพื้นฐานที่ต้องผลิต ทั้งนี้ พลังงานลมนอกชายฝั่ง ติดตั้งไปทั้งหมด 21.1 กิกะวัตต์ ในปี 2021 ซึ่งถือเป็นปีที่ดีที่สุด ส่วนการติดตั้งพลังงานลมบนบกอยู่ที่ 72.5 กิกะวัตต์ ในปี 2021 เทียบกับ 88.4 กิกะวัตต์ ในปี 2020 […]
ยอดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าของ 3 ผู้เล่นใหญ่ในตลาดจีนเดือนมีนาคมพุ่งขึ้น
บริษัทสตาร์ตอัปรถยนต์ไฟฟ้าจีน ได้แก่ Nio Xpeng และ Li Auto มียอดส่งมอบรถยนต์ในเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ แม้ว่า จะเผชิญความท้าทายอยู่มากมายในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจีนกำลังสู้ศึกยอดผู้ติดเชื้อโควิดในจีนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นตัวขัดขวางการผลิตและการส่งมอบ ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบก็เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งบังคับให้บริษัทรถยนต์ที่อยู่ในจีน ตั้งแต่ Tesla ไปจนถึง Xpeng และ Li Auto ต้องปรับขึ้นราคารถยนต์ สำหรับ Xpeng ส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าไป 15,414 คัน ในเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 148% จากเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่ทั้งไตรมาสแรก Xpeng ส่งมอบรถยนต์ไป 34,561 คัน เพิ่มขึ้น 159% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยที่รถยนต์รุ่น P7 ซึ่งเป็นรุ่นเรือธงมียอดขายทะลุ 9,000 คัน ทำสถิติสูงสุดในเดือนมีนาคม ส่วน Li Auto รายงานยอดส่งมอบฟื้นกลับมาจากเดือนกุมภาพันธ์ […]
จับตาจีนอาจลด RRR ในเดือนเมษายนนี้เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจมากขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญ วิเคราะห์ว่า มีความเป็นไปได้เพิ่มขึ้นที่ธนาคารกลางจีนจะปรับลดอัตราส่วนการสำรองขั้นต่ำ (RRR) ในเดือนเมษายนนี้ ท่ามกลางการส่งสัญญาณนโยบายออกมาว่าจะมีนโยบายสนับสนุนเศรษฐกิจมากขึ้นออกมาเร็วๆ นี้ ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ก็จะมีความสามารถในการปล่อยกู้ที่แข็งแกร่งขึ้น ข้อสังเกตนี้เกิดขึ้นหลังจากการประชุมของผู้กำหนดนโยบายครั้งล่าสุด ที่ระบุว่า ปัญหาเศรษฐกิจรุนแรงขึ้น ท่ามกลางความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น และการเสื่อมถอยของสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ ทำให้ความพยายามรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจเป็นเรื่องเร่งด่วนยิ่งขึ้น ในการประชุมผู้บริหารสภาแห่งรัฐ เมื่อวันอังคารที่ 29 มีนาคม 2022 มีการตัดสินใจว่า ควรมีนโยบายเพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจออกมาตั้งแต่เนิ่นๆ และการดูแลให้การเติบโตมั่นคงเป็นเรื่องจำเป็นมากขึ้นไปอีก ที่มา : Chinadaily
IMF ชี้การคว่ำบาตรการเงินรัสเซีย อาจลดทอนอำนาจของดอลลาร์สหรัฐได้
Gita Gopinath รองกรรมการผู้จัดการ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) แสดงความคิดเห็นกับ The Financial Times ไว้ว่า การคว่ำบาตรทางการเงินกับรัสเซีย อาจทำให้พลังการครอบงำตลาดของเงินดอลลาร์สหรัฐค่อยๆ ลดลง และส่งผลให้เกิดความกระจัดกระจายในระบบการเงินระหว่างประเทศมากขึ้น รัสเซียถูกสหรัฐฯ และพันธมิตรคว่ำบาตรตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากที่บุกโจมตียูเครน โดยรัสเซียเรียกการโจมตีครั้งนี้ว่าเป็นปฏิบัติการพิเศษเพื่อปลดอาวุธประเทศเพื่อนบ้าน “เงินดอลลาร์ยังคงเป็นสกุลเงินหลักของโลก แต่เป็นไปได้ที่ในพื้นที่เล็กๆ อาจจะมีการกระจายตัวเกิดขึ้น เนื่องจากบางประเทศเริ่มมีการเจรจาใหม่เกี่ยวกับการใช้สกุลเงินของตัวเองในการชำระเงินเพื่อการค้าแล้ว” Gopinath กล่าว เธอ กล่าวว่า สงครามครั้งนี้จะเป็นตัวกระตุ้นการยอมรับเงินดิจิทัล ตั้งแต่คริปโทเคอร์เรนซี ไปจนถึงเหรียญดิจิทัลที่มีสินทรัพย์หนุนหลัง (stablecoins) และสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) ที่มา : Reuters
เศรษฐีจีนย้ายเงินไปอยู่ในสิงคโปร์มากขึ้น หลังรัฐบาลมีการปราบปรามต่างๆ มากขึ้น
กลุ่มคนที่มีฐานะมั่งคั่งในจีนจำนวนมากขึ้นมีความกังวลเกี่ยวกับการเก็บเงินไว้ในจีนแผ่นดินใหญ่ และบางคนมองว่าสิงคโปร์เป็นเหมือนหลุมหลบภัย นับตั้งแต่มีการประท้วงทำให้เศรษฐกิจฮ่องกงหยุดชะงักในปี 2019 เศรษฐีจีนก็มองหาพื้นที่ทางเลือกที่จะเก็บความมั่งคั่งไว้ ซึ่งสิงคโปร์ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าน่าดึงดูดใจ เพราะมีชุมชนที่มีคนพูดภาษาจีนกลางอยู่จำนวนมาก และยังไม่เหมือนอีกหลายๆ ประเทศ ตรงที่ ไม่มีภาษีความมั่งคั่ง แนวโน้มความสนใจสิงคโปร์นั้นเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปีที่ผ่านมา หลังจากจีนปราบปรามอุตสาหกรรมการศึกษา และออกมาพูดถึง common prosperity หรือความเจริญรุ่งเรืองไปด้วยกัน ที่เน้นเรื่องการมีความมั่งคั่งปานกลางสำหรับทุกคน มากกว่าที่จะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ทั้งนี้ CNBC สัมภาษณ์ข้อมูลจากตัวแทนบริษัทในสิงคโปร์ที่ช่วยเหลือให้คนจีนที่มีความมั่งคั่งเคลื่อนย้ายสินทรัพย์ของตัวเองมายังเมืองนี้ผ่านโครงสร้างสำนักงานธุรกิจครอบครัว โดยพบว่า สำนักงานธุรกิจครอบครัวจะเป็นบริษัทเอกชนที่ดูแลเรื่องการลงทุนและการบริหารความมั่งคั่งให้กับครอบครัวของเศรษฐี ซึ่งในสิงคโปร์ การจัดตั้งสำนักงานธุรกิจครอบครัวจะต้องมีสินทรัพย์ขั้นต่ำ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ Iris Xu ผู้ก่อตั้ง Jenga บริษัทบัญชีและบริการองค์กร กล่าวว่า ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา มีการสอบถามเกี่ยวกับการตั้งสำนักงานธุรกิจครอบครัวในสิงคโปร์เพิ่มขึ้นเท่าตัว หลักๆ เป็นคำถามที่มาจากคนจีนหรือกลุ่มคนอพยกที่มาจากจีน โดยขณะนี้มีลูกค้าประมาณ 50 ราย ที่เปิดสำนักงานธุรกิจครอบครัวในสิงคโปร์ โดยทุกรายมีสินทรัพย์ขั้นต่ำ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่มา : CNBC
ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 5 ปี และ 30 ปี กลับข้างเป็นครั้งแรกนับจากปี 2006
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เกิดปรากฎการณ์ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 5 ปี และ 30 ปี กลับข้างกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2006 จากความกลัวที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการเกิดเศรษฐกิจถดถอย สำหรับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 5 ปี เพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 2.56% ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 30 ปี ผลตอบแทนปรับลดลงไปอยู่ที่ 2.55% ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2006 ที่เกิดวิกฤติการเงินโลก ที่พันธบัตรอายุสั้น 5 ปี ให้ผลตอบแทนมากว่าพันธบัตรอายุยาว 30 ปี ทั้งนี้นักค้าเงินกำลังจับตาส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปี และอายุ 10 ปี ซึ่งปัจจุบันยังคงเป็นบวกอยู่ ในประวัติศาสตร์นั้น ผลตอบแทนกลับทิศ หรือ inverted yield curve คือ ผลตอบแทนของพันธบัตรอายุสั้นสูงกว่าพันธบัตรอายุยาว จะเกิดขึ้นในช่วงก่อนที่เกิดเศรษฐกิจถดถอย ดังนั้นเครื่องชี้นี้จึงทำให้นักลงทุนเป็นกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจ […]
อินเดียลุยซื้อน้ำมันรัสเซียราคาถูกตุนต่อเนื่อง ขณะที่จีนเตรียมซื้อเพิ่มเป็นรายต่อไป
ขณะนี้เห็นสัญญาณว่ารัสเซียส่งมอบน้ำมันให้อินเดียเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นับตั้งแต่เดือนมีนาคม หลังจากรัสเซียโจมตียูเครน และมีแนวโน้มว่าอินเดียจะซื้อน้ำมันราคาถูกมากขึ้นอีกจากรัสเซีย ส่วนจีน ซึ่งเป็นผู้ซื้อน้ำมันรัสเซียรายใหญ่อันดับ 2 ก็คาดว่าจะซื้อน้ำมันจากรัสเซียมากขึ้นในราคาที่มีส่วนลดเพิ่มขึ้น ซึ่งแนวโน้มนี้อาจหมายถึงราคาน้ำมันดิบที่จะสูงขึ้นในอนาคต ประเทศผู้นำเข้าน้ำมันหลักๆ อย่างอินเดียและจีน เผชิญกับราคาน้ำมันดิบที่สูง เนื่องจากราคาเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ขณะที่ราคาน้ำมันมีความผันผวนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แกว่งตัวทั้งขาขึ้นและขาลง แต่ก็ยังสูงขึ้นถึง 80% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า “เราเชื่อว่าจีน และอินเดียจะเดินหน้าซื้อน้ำมันดิบรัสเซียที่มีส่วนลดอย่างหนัก” Matt Smith หัวหน้านักวิเคราะห์น้ำมัน ของ Kpler กล่าว สิ่งที่เกิดขึ้นนี้แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างจากวาทศิลป์ที่ประเทศมหาอำนาจของโลกและบริษัทต่างๆ บอกว่าจะละทิ้งจากน้ำมันรัสเซีย เนื่องจากการทำสงครามที่ไร้เหตุผลกับยูเครน ขณะที่สหรัฐฯ โจมตีรัสเซียด้วยการคว่ำบาตรด้านพลังงาน ส่วนอังกฤษก็มีแผนที่จะทำเช่นนั้นภายในสิ้นปีนี้ ด้านสหภาพยุโรปก็กำลังพิจารณาทำเช่นเดียวกัน สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ ระบุว่า การคว่ำบาตรนี้ทำให้เกิดช่องว่างในตลาด รัสเซียพบว่ามีน้ำมันดิบส่วนเกินที่ไม่สามารถขายได้ และมีการนำน้ำมันดิบอูราล ซึ่งเป็นน้ำมันผสมหลักที่รัสเซียส่งออก มาเสนอขายในราคาที่มีส่วนลดแบบเป็นประวัติการณ์ แต่การนำเข้าก็ยังมีจำกัด เนื่องจากผู้นำเข้าน้ำมันในเอเชียส่วนใหญ่จะยึดติดกับคู่ค้ารายดั้งเดิมในตะวันออกกลาง ละตินอเมริกา และแอฟริกา ที่มา : CNBC
เงินลงทุนเริ่มไหลกลับเข้าหุ้นเทคแล้ว หลังจากไหลออกช่วง 2 เดือนแรก
นักลงทุนเริ่มกลับมาสนใจซื้อกองทุนหุ้นเทคโนโลยีอีกครั้ง โดยพบว่า มีเงินลงทุนไหลกลับเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น ท่ามกลางแรงกดดันเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น และการเทขายพันธบัตรผลักดันให้นักลงทุนเข้าไปมองหากลุ่มธุรกิจที่มองว่าทั้งมีราคาถูกและมีความยืดหยุ่น จากข้อมูลของ Refinitiv พบว่า มีเงินลงทุนไหลเข้ามาในกองทุนหุ้นเทคโนโลยีประมาณ 2,550 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2022 หลังจากที่เงินไหลออกไป 6,860 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ “หุ้นเทคฯ ยังไม่เห็นการปรับตัวลดลงของปัจจัยพื้นฐาน ดังนั้นการปรับขึ้นครั้งนี้เป็นการฟื้นตัวหลังจากนักลงทุนที่ระมัดระวังมาก คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดเร็วเกินไป และเมื่อมองไปข้างหน้า ฤดูกาลประกาศผลการดำเนินงานไตรมาสแรกก็จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าแล้ว ซึ่งหนึ่งในกลุ่มที่ถูกคาดหวังว่าผลการดำเนินงานจะโดดเด่นคือกลุ่มเทคฯ เนื่องจากรายได้ในช่วงการแพร่ระบาด” Amanda Agati ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนของ PNC Asset Management Group กล่าว ที่มา : Reuters
ธุรกิจในยูโรโซนเติบโตแข็งแกร่งกว่าที่คาดในเดือนมีนาคม
กิจกรรมของภาคธุรกิจในเขตยูโรโซนในเดือนมีนาคม ยังคงเติบโตแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ แม้ว่าราคาปรับเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ จนสร้างแรงกดดันให้ธนาคารกลางยุโรปต้องพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้การเติบโตของกิจกรรมธุรกิจบางอย่างมาจากการฟื้นตัวหลังยกเลิกมาตรการควบคุมต่างๆ เกี่ยวกับโควิด-19 ส่วนแนวโน้มระยะข้างหน้ายังคลุมเครือ เนื่องจากปัญหาห่วงโซ่อุปทานอันเกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา เลวร้ายลงไปอีกเมื่อเจอสถานการณ์รัสเซียโจมตียูเครน จากข้อมูล Flash Composite Purchasing Managers ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อที่จัดทำโดย S&P Global ซึ่งมักจะถูกใช้เป็นมาตรวัดภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ปรับลดลงมาอยู่ที่ 54.5 ในเดือนมีนาคม จากที่อยู่ในระดับ 55.5 ในเดือนกุมภาพันธ์ แต่ยังอยู่เหนือค่าเฉลี่ยกลางจากผลสำรวจของ Reuters ซึ่งอยู่ที่ 53.9 และค่าดัชนีที่เกิน 50.0 แปลว่า ยังมีการเติบโตอยู่ “ข้อมูลผลสำรวจเน้นย้ำว่า สงครามรัสเซีย-ยูเครน มีผลกระทบโดยฉับพลันต่อเรื่องวัตถุดิบ และกระทบเศรษฐกิจของยูโรโซน นอกจากนี้ยังทำให้มีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจยูโรโซนจะชะลอตัวลงในไตรมาสที่ 2” Chris Williamson หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ธุรกิจของ S&P Global กล่าว ที่มา : Reuters