ประชากรสูงอายุจีนจะสร้างแรงสั่นสะเทือนถึงห่วงโซ่อุปทานโลก
ซีเอ็นบีซี รายงานว่า นักเศรษฐศาสตร์ของ ธนาคารออสเตรเลีย แอนด์ นิวซีแลนด์ แบงกิง กรุ๊ป หรือ ANZ ออกมาเตือนว่า ประชากรสูงอายุของจีนจะสร้างผลกระทบใหญ่ต่อโลก เนื่องจากห่วงโซ่อุปทานโลกพึ่งพิงประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลกนี้สูง ข้อมูลสำมะโนประชากรของจีนที่เผยแพร่ออกมาเมื่อวันอังคาร สะท้อนว่า ประชากรของจีนแผ่นดินใหญ่เพิ่มขึ้นเป็น 1,410 ล้านคน ณ วันที่ 1 พ.ย. 2020 แต่ก็ถือเป็นอัตราการเติบโตที่ชะลอตัวที่สุดนับตั้งแต่ช่วงปี 1950 “แนวโน้มประชากรสูงวัยเพิ่มขึ้น นี่เป็นสัญญาณเตือนไม่ใช่เฉพาะในจีน แต่ยังรวมถึงทั่วโลก เนื่องจากจีนเป็นห่วงโซ่อุปทานหลัก” Raymond Yeung หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ จีน ของ ANZ กล่าว ทั้งนี้ เขา คาดการณ์ว่า อีกไม่กี่ปีข้างหน้า จีนจะต้องสูญเสียแรงงานในระบบ 70 ล้านคน ซึ่งจะสร้างความตกใจต่อห่วงโซ่อุปทานโลกได้ ส่วนผลกระทบที่เป็นไปได้อื่นๆ เช่น ตลาดการเงิน เนื่องจากอัตราการออมในจีนสูงเป็นแรงสนับสนุนตลาดโลก […]
เฟดชี้ยังไม่ใช่เวลาพูดถึงการลดซื้อสินทรัพย์
ซีเอ็นบีซี รายงานว่า นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ ออกมาเปิดเผยถึงความคืบหน้าของเศรษฐกิจ โดยระบุว่าตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่ลดการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย โดยเขามองว่า นโยบายทางการคลังและการเงิน รวมถึงความพยายามในการฉีดวัคซีนเชิงรุกจะช่วยให้การเติบโตทางเศรษฐกิจยังดำเนินต่อไป นับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือน มี.ค. 2020 เขา กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่เฟดควรใช้นโยบายแบบผ่อนคลายที่ดำเนินการอยู่ต่อไป จนกว่าจะเห็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าไวรัสจะไม่ได้เป็นภัยคุกคามสำคัญอีก ซึ่งรวมถึงการรักษาอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระยะสั้นเอาไว้ใกล้ระดับ 0% และการซื้อสินทรัพย์ต่อเนื่องอย่างน้อย 120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน ขณะที่ในตลาดยังสงสัยอยู่ว่าเมื่อไหร่ที่เฟดจะเริ่มดึงเงินกลับจากสินทรัพย์ที่ซื้อไว้เหล่านี้ บูลลาร์ด มองว่า ยังเร็วเกินไปที่จะพูดคุยเรื่องการทำ taper หรือการลดการซื้อสินทรัพย์ โดยเมื่อเวลานั้นมาถึงก็คงต้องให้นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด เปิดการประชุมเพื่อหารือ ในช่วงเวลาที่เขาคิดว่าเหมาะสม จนถึงเวลานี้ ทั้งพาวเวลล์ บูลลาร์ด และผู้กำหนดนโยบายคนอื่นๆของเฟด ก็ยังออกมาพูดพร้อมเพรียงกันว่าจะยังรักษาการใช้นโยบายผ่อนคลายมากๆ แบบนี้ต่อไป เฟดมีเป้าหมายที่จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวกลับมาโดยสมบูรณ์ ส่งผลให้เกิดการจ้างงาน และให้คำมั่นว่าจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะสูงเกินกว่าเป้าหมายที่ธนาคารตั้งไว้ที่ 2% ก็ตาม
อเมซอนออกตราสารหนี้ยั่งยืนครั้งแรก 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อลงทุนโครงการสีเขียว
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า อเมซอนดอทคอม ออก sustainability bond หรือตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืนเป็นครั้งแรกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพื่อระดมทุน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไปลงทุนในพลังงานหมุนเวียน ระบบขนส่งที่สะอาด อาคารสีเขียว และที่อยู่อาศัยราคาไม่แพง โดยหนึ่งในบริษัทที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เข้าร่วมในรายชื่อของผู้ออกตราสารหนี้ในตลาดตราสารหนี้สีเขียวและยั่งยืน ที่ขณะนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้น เป็นผลจากผู้จัดการสินทรัพย์ต้องเผชิญกับแรงกดดันจากนักลงทุนในเรื่องของการยกระดับการให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) จากข้อมูลของ Climate Bonds Initiative ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อผลักดันการระดมทุนเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อสังคม และธรรมาภิบาล ระบุว่า มีการออกตราสารหนี้สีเขียวทั่วโลกทำสถิติสูงสุด 270,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อสิ้นปี 2020 และคาดว่าจะแตะระดับ 450,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ สำหรับเงินที่ระดมทุนผ่านการออกตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของส่วนหนี้ทั้งหมดที่อเมซอนออกมาเมื่อวันจันทร์รวม 18,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยบริษัท ระบุว่า นี่เป็นส่วนหนึ่งของกรอบการทำงานเกี่ยวกับตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน และจะถูกนำไปใช้จ่ายกับโครงการใหม่รวมถึงโครงการที่มีอยู่แล้ว โครงการนี้ ครอบคลุมการซื้อกิจการยานยนต์ไฟฟ้าสำหรับใช้ในการขนส่ง เช่นเดียวกับ จักรยานอิเล็กทรอนิกส์ […]
รัฐบาลสหรัฐฯ เร่งช่วยผู้ดำเนินการท่อส่งน้ำมันกู้คืนการดำเนินงาน หลังถูกโจมตีทางไซเบอร์
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า ทำเนียบขาวของสหรัฐฯ กำลังทำงานใกล้ชิดกับบริษัท โคโลเนียล ไปป์ไลน์ ผู้ดำเนินการท่อส่งน้ำมันในสหรัฐฯ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อช่วยให้บริษัทกลับมาดำเนินงานได้ หลังจากถูกโปรแกรมประสงค์ร้าย (แรนซัมแวร์) โจมตี ทำให้ต้องปิดเครือข่ายเชื้อเพลิงสำคัญที่ส่งเชื้อเพลิงให้รัฐทางตะวันออกที่มีประชากรมาก การโจมตีนี้เป็นหนึ่งในรูปแบบการเรียกค่าไถ่ทางดิจิทัลที่ทำให้เกิดการหยุดชะงักมากที่สุด และกระตุ้นให้ฝ่ายนิติบัญญัติอเมริกันเสริมสร้างความเข้มแข็งในการปกป้องโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่สำคัญจากการถูกโจมตีด้วยการแฮ็ก จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาท่อส่งเชื้อเพลิงเป็นเรื่องที่รัฐบาลสหรัฐฯ ให้ความสำคัญสูงสุด โดยรัฐบาลกำลังดำเนินการเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่เกิดจากการหยุดชะงักของท่อส่งน้ำมัน ด้วยการเข้าไปช่วยเหลือโคโลเนียลในการทำให้เครือข่ายท่อส่งน้ำมันซึ่งมีมากกว่า 5,500 ไมล์ จากเท็กซัสไปยังนิวเจอร์ซี กลับมาทำงานได้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ “ทุกอย่างอยู่ในมือเราแล้ว เรากำลังเผชิญเรื่องระดับชาติ ขณะนี้มีการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างบริษัท รัฐ และหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อให้แน่ใจว่าการดำเนินงานจะเป็นปกติเร็วที่สุด” ไรมอนโด กล่าว ขณะที่ โคโลเนียล ชี้แจงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า ท่อส่งน้ำมันหลักยังคงปิดดำเนินการ แต่มีท่อส่งขนาดเล็กบางจุดระหว่างอาคารหลักและจุดส่งมอบที่ดำเนินการได้แล้ว อย่างไรก็ตามบริษัทไม่ได้ให้ข้อมูลประมาณการว่าจะกลับมาดำเนินการเต็มรูปแบบได้เมื่อไหร่ รวมทั้งปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ ราคาน้ำมันเบนซินล่วงหน้าในตลาดสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นกว่า 3% เป็น 2.217 ดอลลาร์สหรัฐต่อแกลลอน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค. […]
อินโดนีเซียคาดเปิดบาหลีปลาย ก.ค. นี้ ต้อนรับต่างชาติตามแผนจับคู่เดินทาง
อินโดนีเซียคาดการณ์พร้อมเปิดเกาะบาหลีต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติปลายเดือน ก.ค. นี้ ภายใต้โครงการ Travel Corridor เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของอินโดนีเซีย โดยเน้นแผนระยะแรกของการเปิดประเทศท่องเที่ยวแบบจับคู่เดินทาง 3B Travel Bubble ได้แก่ 3 เกาะสำคัญนำร่อง บาหลี บาตัม บินตัน กับ 6 ประเทศที่ควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จีน สิงคโปร์ ยูเครน และโปแลนด์ ซานเดียก้า อูโน่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์แห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย กล่าวว่า แผนดังกล่าวถูกเสนอให้คณะรัฐมนตรี หลังเดินหน้าโครงการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ที่รัฐบาลได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือน ม.ค. 2564 ที่ผ่านมา และสามารถควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ในระดับที่น่าพอใจ โดยเฉพาะบาหลี ที่ปัจจุบันมีประชากรได้รับวัคซีนไปแล้วกว่า 700,000 ราย โดยเรากำลังเร่งฉีดวัคซีนให้ประชากรอีกราว 3 ล้านคนหรือ 70% ของจำนวนประชากรบนเกาะบาหลีทั้งหมด 4.4 […]
บุคกิ้งเผยความต้องการท่องเที่ยวในสหรัฐฯ และอังกฤษเริ่มฟื้นตัว หลังกระจายวัคซีนได้ดี
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า บุคกิ้ง โฮลดิงส์ มองเห็นความต้องการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวในสหรัฐฯ และอังกฤษ เป็นผลจากมีประชาชนจำนวนมากขึ้นที่วางแผนวันหยุด หลังจากที่พวกเขาได้รับวัคซีนเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามเอเชียยังคงตามหลังในเรื่องนี้เนื่องจากวิกฤติด้านสุขภาพที่แย่ลง บุคกิ้ง ชี้ว่า อาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าที่การท่องเที่ยวระหว่างประเทศจะฟื้นตัวเต็มที่ เนื่องจากรัฐบาลต่างๆ อาจจะระมัดระวังกรเปิดพรมแดนสำหรับนักท่องเที่ยว Glenn Fogel ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บุคกิ้ง กล่าวว่า ขณะที่การกระจายวัคซีนยังคงชะลอตัวในหลายพื้นที่ของโลก แต่อิสราเอล อังกฤษ และสหรัฐฯ ได้ประโยชน์จากความสำเร็จในการกระจายวัคซีน โดยในประเทศเหล่านี้ ได้เห็นแนวโน้มการจองที่ได้รับแรงสนับสนุนจากการกระจายวัคซีน ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อคความต้องการท่องเที่ยว บุคกิ้ง ระบุว่า ความต้องการจองห้องพักในประเทศในรัสเซียและออสเตรเลียมีการเติบโตที่แข็งแกร่ง ขณะที่การจองตั๋วเครื่องบินเพิ่มขึ้น 49% ในไตรมาสแรก เมื่อเทียบกับปี 2019 โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการเติบโตที่แข็งแกร่งของแบรนด์ในเครือไพรซ์ไลน์ บุคกิ้งดอทคอม และอโกด้า ความต้องการเดินทางในยุโรปดีขึ้น โดยบริษัทนำเที่ยวเริ่มเห็นแนวโน้มตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ได้รับแรงขับเคลื่อนมาจากการผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทางใหม่ ส่วนในเอเชีย ยอดการจองห้องพักลดลงในเดือน เม.ย. เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยได้รับผลกระทบจากกระบวนการกระจายวัคซีนที่ล่าช้า และรัฐบาลมีมาตรการจำกัดที่เข้มงวดขึ้น จากจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้น […]
สหรัฐฯ ตั้งเป้าฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างน้อย 1 เข็ม ให้ได้ 70% ภายใน 4 ก.ค.นี้
รายงานข่าวจากรอยเตอร์ส ระบุว่า สหรัฐฯ ตั้งเป้าฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างน้อย 1 เข็ม ให้กับประชากรวัยผู้ใหญ่ราว 70% ภายในวันที่ 4 ก.ค.นี้ ซึ่งตรงกับวันชาติของสหรัฐฯ และรัฐบาลจะให้เด็กอายุ 12-15 ปี ได้รับวัคซีนทันทีที่ได้รับอนุญาต ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ได้ยกประเด็นการฉีดวัคซีนเป็นวาระสำคัญนับตั้งแต่สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 20 ม.ค. และเขาแถลงที่ทำเนียบขาวเมื่อต้นสัปดาห์ว่า ต้องการให้ผู้ใหญ่ชาวอเมริกัน 160 ล้านคน ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสภายในวันที่ 4 ก.ค.นี้ เขาได้ประกาศให้วันที่ 4 ก.ค. เป็นวันที่กำหนดเป้าหมายให้ชาวอเมริกันสามารถรวมตัวกันเป็นกลุ่มเล็กๆ เพื่อเฉลิมฉลองวันหยุดและนับเป็นการส่งสัญญาณการกลับสู่สภาวะปกติที่ยิ่งใหญ่ขึ้น ทางศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐฯ ระบุว่า นับจนถึงวันจันทร์ที่ 3 พ.ค. นี้ ผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไปกว่า 145.3 ล้านคน […]
ข้อมูลจะมีบทบาทสำคัญช่วยให้อินเดียฟื้นตัวจากโควิด-19 ได้
เว็บไซต์สภาเศรษฐกิจโลก รายงานว่า เมืองต่างๆ ของอินเดียกำลังได้รับความเสียหายจากโควิด-19 ที่แพร่ระบาด และสถานการณ์นี้ทำให้เห็นข้อบกพร่องของการใช้ข้อมูลระดับเมือง ไปจนถึงแนวทางการกำหนดนโยบาย ซึ่งเมืองในอินเดียเหล่านี้มีความสำคัญต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ คิดเป็นเกือบ 70% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) การที่อินเดียพยายามใช้นโยบายสร้างหรือรวมข้อมูลเมืองให้แข็งแกร่งขึ้น เรื่องธรรมาภิบาลเมืองเป็นปัจจัยสำคัญมาก แม้การทำเพียงเท่านี้จะช่วยให้ฟื้นตัวจากโควิด-19 โดยเร็วไม่ได้ แต่ก็ทำให้เมืองในอินเดียเข้าถึงศักยภาพเศรษฐกิจได้ ระหว่างที่อินเดียล็อคดาวน์ ไวรัสโคโรนาทำให้เห็นว่าเมืองต่างๆ ยังไม่พร้อมตอบสนองความต้องการสาธารณสุข การล็อคดาวน์ช่วยได้แค่ซื้อเวลาขยายการตอบสนอง ขณะที่เจ้าหน้าที่เมืองใช้เวลาหลายวันมากในการได้ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับสถานที่ตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกและเตียงรองรับ ส่วนข้อมูลการเสียชีวิตและคลัสเตอร์แพร่ระบาดก็ยังน่าสงสัย ที่ผ่านมา พบว่า รัฐบาลหลายเมืองของอินเดียมีการสร้างแพลตฟอร์มติดตามผู้ติดเชื้อ และใช้ข้อมูลสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) วิเคราะห์หาเขตกักกันและการจัดสรรทรัพยากร นอกจากนี้ยังเห็นการใช้ทรัพยากรข้อมูลทางเลือกอื่นของภาครัฐและนักวิจัย เนื่องจากมีช่องว่างของข้อมูลในแหล่งข้อมูลดั้งเดิม มีพลเมืองอาสารวมตัวกัน เช่น covid19india.org และมีการติดตามการเคลื่อนไหวผ่านกูเกิล โมบิลิตี้ ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลความจริงเดียวที่ดูได้แบบเรียลไทม์ โดยรวมแล้วโควิด-19 ทำให้เห็นช่องว่างของข้อมูลที่ขัดขวางการตอบสนองต่อภัยพิบัติ สิ่งที่ได้เรียนรู้ คือ ข้อมูลอุปสงค์และอุปทานบริการสุขภาพมีความสำคัญ จำเป็นต้องปรับปรุงแบบวันต่อวัน ระบบต้องจัดเก็บข้อมูลแบบเรียลไทม์ มีการจัดเรียงข้อมูลอุบัติการณ์ของโรค ความต้องการบริการ คุณภาพสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีอยู่แล้วและบุคลากร เป็นต้น ระบบแบบนี้ต้องรองรับการรวมข้อมูลทางเลือกหลายช่องทางเข้าด้วยกัน เพื่อความสำเร็จในการต่อสู้กับการแพร่ระบาด […]
รัฐบาลสหรัฐฯ และภาคอุตสาหกรรมร่วมผลักดันออกกฎคุมบิทคอยน์สู้กับแรนซัมแวร์
ซีเอ็นบีซี รายงานว่า แหล่งข่าวที่ทำงานร่วมกับภาครัฐและเอกชนในสหรัฐฯ เผยว่า ภาครัฐและอุตสาหกรรมกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของแรนซัมแวร์ โปรแกรมไม่พึงประสงค์ที่แฮกเกอร์สร้างขึ้นเพื่อเข้ารหัสไฟล์ต่างๆ ในคอมพิวเตอร์แล้วเรียกค่าไถ่จากเหยื่อ โดยพวกเขากำลังหาแนวทางกำกับดูแลคริปโตเคอเรนซีซึ่งเป็นกุญแจสำคัญต่อสู้กับสิ่งที่เผชิญอยู่ รายงานที่ออกมาวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ระบุว่า ผู้เชี่ยวชาญคาดหวังให้มีการติดตามบิทคอยน์และคริปโตเคอเรนซีอื่นในเชิงรุกมากขึ้น เพราะขณะที่นักลงทุนยอมรับในคริปโตเคอเรนซีเหล่านี้มากขึ้นในปีที่ผ่านมา แต่สิ่งนี้ยังถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินการของแรนซัมแวร์และอาชญากรรายอื่น โดยที่กลุ่มนี้เผชิญความเสี่ยงเล็กน้อยเท่านั้นที่จะถูกฟ้องร้อง มีข้อมูลน่าสนใจ พบว่า ปีที่ผ่านมาแก๊งอาชญากรแรนซัมแวร์เรียกค่าไถ่ไปได้ถึง 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัวจากปี 2019 โดยบริษัท หน่วยงานรัฐ โรงพยาบาล และระบบของโรงเรียน เป็นเหยื่อของกลุ่มแรนซัมแวร์ ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บางคน กล่าวว่า แรนซัมแวร์จะมีความสัมพันธ์ฉันมิตรกับกับเกาหลีเหนือและรัสเซีย Philip Reiner ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสถาบันความมั่นคงและเทคโนโลยี ผู้นำคณะทำงานจัดการแรนซัมแวร์ กล่าวว่า มีหนทางอีกมากมายที่สามารถทำได้เพื่อจำกัดการใช้เทคโนโลยีที่มหัศจรรย์เหล่านี้ในทางที่ผิด คณะทำงานภาครัฐและเอกชนบางส่วนเสนอกฎใหม่ที่ต้องมีรัฐสภาดำเนินการ ส่วนใหญ่มีเป้าหมายที่การไม่เปิดเผยตัวตนในการทำธุรกรรมคริปโตเคอเรนซี หากปรับใช้ อาจสร้างความขุ่นเคืองให้คนที่มองคริปโตเคอเรนซีเป็นที่หลบภัยจากนโยบายการเงินของประเทศ และการถูกรัฐบาลกำกับดูแลกิจกรรมการเงินของบุคคลทั่วไปได้ ตัวอย่างข้อเสนอ ได้แก่ ขยายกฎระเบียบการรู้จักตัวตนของลูกค้าไปยังกลุ่มการแลกเปลี่ยนเงินตรา มีข้อกำหนดออกใบอนุญาตกับผู้ให้บริการคริปโตเคอเรนซีเข้มงวดขึ้น ขยายกฎเรื่องการฟอกเงินไปยังสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ตู้แลกเปลี่ยนเงินด้วย […]
จีนจัดประชุมสุดยอดดิจิทัล ไชน่า ซัมมิท ครั้งที่ 4 ดึงเงินลงทุนได้ 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
การประชุมสุดยอด ดิจิทัล ไชน่า ซัมมิท ครั้งที่ 4 จัดขึ้นที่เมืองฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยน โดยพบว่า มีการลงทุนมูลค่า 3.19 แสนล้านหยวน (ประมาณ 4.90 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเกี่ยวข้องกับโครงการ 523 โครงการที่ลงนามในระหว่างการจัดงาน ทั้งนี้ โครงการที่ได้ลงนามไปครอบคลุมสาขาต่างๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) โครงการที่เกี่ยวเนื่องกับ 5G อุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต และบล็อกเชน นอกจากนี้การประชุมสุดยอดในครั้งนี้ยังเปรียบเหมือนพื้นที่เปิดกว้างสำหรับการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีดิจิทัลและความร่วมมือในอุตสาหกรรมอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงเงินหยวนดิจิทัลต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกในระหว่างการประชุมสุดยอด อีกทั้งยังนำเสนอการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของรัฐวิสาหกิจ รวมถึงอุตสาหกรรมนิวเคลียร์แห่งชาติจีน สำหรับการประชุมนี้ จัดขึ้น 2 วัน ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ แบ่งออกเป็น 7 ส่วน ซึ่งในจำนวนนี้ประกอบด้วย ฟอรัมหลัก นิทรรศการ 20 ฟอรัมย่อย และการประกวดนวัตกรรม นิทรรศการดังกล่าวได้ดึงดูดบริษัทชั้นนำ 54 แห่ง รวมถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง […]