อินเดียเตรียมขนแรงงานร่วม 1.8 หมื่นกลับประเทศ เลี่ยงสงครามการค้าสหรัฐฯ

อินเดียเตรียมขนแรงงานร่วม 1.8 หมื่นกลับประเทศ เลี่ยงสงครามการค้าสหรัฐฯ

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า รัฐบาลอินเดียส่งสัญญาณพร้อมทำงานร่วมกับรัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการนำพลเมืองอินเดียที่เดินทางเข้าไปทำงานอย่างผิดกฎหมายในสหรัฐฯ กลับประเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าในสงครามการค้ากับสหรัฐฯ แหล่งข่าว เผยว่า สหรัฐฯ ระบุว่า จำนวนชาวอินเดียที่อพยพเข้าประเทศโดยไม่มีเอกสารรับรอง ซึ่งจะต้องถูกส่งตัวกลับนั้น มีอยู่ราว 18,000 คน และเป็นไปได้ว่า ตัวเลขจริงอาจสูงกว่านี้ โดยคาดว่า ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนหนุ่มสาวจากอินเดียฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะจากรัฐปัญจาบและคุชราต ประเด็นการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายถูกหยิบยกขึ้นมาในการหารือเบื้องต้นระหว่างสหรัฐฯ และอินเดีย โดยแถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า นายมาร์โก รูบิโอ (Marco Rubio) รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เข้าพบกับนายสุพรหมณยัม ชัยศังกระ (Subrahmanyam Jaishankar)  รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของอินเดีย เมื่อวันอังคาร (21 ม.ค.) ที่กรุงวอชิงตัน โดยนายรูบิโอได้เน้นย้ำถึงความต้องการของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการพัฒนาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ รวมถึงแก้ไขข้อกังวลเกี่ยวกับการอพยพเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย อินเดียแสดงความหวังว่า รัฐบาลทรัมป์จะยังอนุญาตให้พลเมืองอินเดียใช้ช่องทางวีซ่านักเรียนและโปรแกรม H-1B สำหรับแรงงานทักษะ ในการเข้ามายังสหรัฐฯ อย่างถูกกฎหมาย โดยข้อมูลอย่างเป็นทางการระบุว่า […]

สรุปข่าวต่างประเทศ ประจำวันพุธที่ 22 มกราคม 2568

สรุปข่าวต่างประเทศ ประจำวันพุธที่ 22 มกราคม 2568

** ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหภาพยุโรป (EU) และกล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังหารือเรื่องการจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 10% ในวันที่ 1 ก.พ. จากประเด็นการลักลอบส่งสารเฟนทานิลซึ่งถูกใช้เป็นสารเสพติดจากจีนไปยังเม็กซิโกและแคนาดา โดยทรัมป์กล่าวว่า เขาได้จัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนไปแล้วเป็นจำนวนมากในช่วงดำรงตำแหน่งวาระแรก พร้อมกล่าวว่า สหภาพยุโรปและประเทศอื่นๆ ยังมีความไม่สมดุลทางการค้าที่น่าวิตกกังวลกับสหรัฐฯ อีกด้วย *** ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ชะลอการเก็บภาษีนำเข้าจากจีนเหนือตามความคาดหมายในวันแรกที่กลับเข้าทำเนียบขาว และไม่ได้ระบุว่า จีนเป็นภัยคุกคาม ซึ่งเปิดโอกาสให้ฟื้นฟูความสัมพันธ์ ในขณะที่ทั้ง 2 ฝ่ายต่างมองหาผลประโยชน์จากกันและกัน แทนที่จะสร้างความเสียหายให้แก่กัน ซึ่งในการกล่าวสุนทรพจน์หลังพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ประธานาธิบดีสหรัฐฯ งดเว้นการกล่าวถึงจีน ซึ่งเคยเป็นคู่ปรับในสงครามการค้าครั้งก่อน แม้ว่าทรัมป์จะกล่าวว่าการเก็บภาษีนำเข้าจะทำให้สหรัฐฯ “รวยมหาศาล” ซึ่งเปิดช่องให้มีการเจรจาใหม่กับประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก *** ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า เขาอาจจะใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย หากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ปฏิเสธที่จะเจรจาเกี่ยวกับการยุติสงครามในยูเครน โดยทรัมป์ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับการคว่ำบาตรเพิ่มเติมที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ […]

สรุปข่าวต่างประเทศ ประจำวันอังคารที่ 21 มกราคม 2568

สรุปข่าวต่างประเทศ ประจำวันอังคารที่ 21 มกราคม 2568

** ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ เปิดเผยแผนการณ์เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันและก๊าซของสหรัฐฯ สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีการประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานด้วยการเพิ่มการขุดเจาะน้ำมัน วางท่อน้ำมัน และตั้งโรงกลั่นน้ำมัน ยกเลิกกฎระเบียบที่มากเกินไป และถอนสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงระหว่างประเทศ ในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ ซึ่งความเคลื่อนไหวครั้งนี้ บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในนโยบายพลังงานของสหรัฐฯ หลังจากที่อดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน พยายามส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านจากเชื้อเพลิงฟอสซิลตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา และสร้างให้สหรัฐฯ เป็นผู้นำโลก ในการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน *** ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ จะยังไม่กำหนดปรับขึ้นภาษีศุลกากรในทันที หลังเข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯอย่างเป็นทางการในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ได้กล่าวในการกล่าวสุนทรพจน์รับตำแหน่งว่า สหรัฐฯ จะเรียกเก็บรายได้ “จำนวนมหาศาล” จากภาษีการค้าต่างประเทศ ในขณะที่รัฐบาลของเขาเร่งทำงานเพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมของประเทศ โดยคณะเจ้าหน้าที่รัฐบาลของทรัมป์กล่าวว่า ทรัมป์จะออกบันทึกข้อตกลงการค้าที่ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งจะยังไม่ถึงขั้นปรับขึ้นภาษีศุลกากรในทันที แต่สั่งให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางประเมินความสัมพันธ์ทางการค้าของสหรัฐฯ กับจีน แคนาดา และเม็กซิโก *** ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ลงนามเพิกถอนคำสั่งฝ่ายบริหารปี 2023 ที่ลงนามโดยอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน โดยมุ่งหวังที่จะลดความเสี่ยงที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) […]

สรุปข่าวต่างประเทศ ประจำวันจันทร์ที่ 20 มกราคม 2568

สรุปข่าวต่างประเทศ ประจำวันจันทร์ที่ 20 มกราคม 2568

*** ติ๊กต๊อก (TikTok) แอปพลิเคชันวิดีโอสั้นชื่อดังของ ByteDance หยุดให้บริการในสหรัฐฯ เป็นเวลาหลายชั่วโมงในวันเสาร์ที่ผ่านมา ก่อนที่กฎหมายแบนจะมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์ (19 ม.ค.) โดยติ๊กต๊อกได้ยุติการให้บริการ หลังศาลสูงสุดสหรัฐฯ ตัดสินยืนยันกฎหมายสั่งแบนด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ โดย TikTok ได้หายไปจากร้านค้าแอปของ Apple และ Google ก่อนที่จะมีกฎหมายที่จะมีผลบังคับใช้ ด้านว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า “มีแนวโน้มสูง” ที่จะให้ TikTok ได้รับการผ่อนผันการแบนเป็นเวลา 90 วัน หลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่งในวันจันทร์นี้ *** TikTok ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ว่า กำลังกลับมาให้บริการอีกครั้ง หลังว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แถลงว่าจะอนุญาตให้แอพกลับมาใช้งานในสหรัฐฯ ได้อีกครั้ง เมื่อเขาเข้ารับตำแหน่งในวันจันทร์ TikTok ระบุว่า “ด้วยความพยายามของประธานาธิบดีทรัมป์ TikTok จึงได้กลับมาในสหรัฐฯ อีกครั้ง” *** Perplexity AI บริษัทสตาร์ทอัพเสิร์ชเอ็นจิ้นของสหรัฐฯ ยื่นข้อเสนอต่อ […]

ธนาคารโลกหวั่นนานาชาติใช้มาตรการโต้กลับภาษีสหรัฐฯ เตือนกระทบเศรษฐกิจโลก

ธนาคารโลกหวั่นนานาชาติใช้มาตรการโต้กลับภาษีสหรัฐฯ เตือนกระทบเศรษฐกิจโลก

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ธนาคารโลก หรือเวิลด์แบงก์ กล่าวเตือนว่า การที่สหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีนำเข้าแบบครอบคลุมที่ 10% อาจทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจโลกที่ซบเซาอยู่แล้ว ที่ระดับ 2.7% ในปี 2025 จะปรับตัวลดลงอีก 0.3% หากประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯ ตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าเช่นกัน ทั้งนี้ ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ  ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันจันทร์หน้า ได้เสนอการขึ้นภาษีนำเข้าทั่วโลก 10% ภาษีลงโทษ 25% สำหรับสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก จนกว่าทั้ง 2 ประเทศดังกล่าว จะปราบปรามยาเสพติดและผู้อพยพที่ข้ามพรมแดนเข้าสหรัฐฯ อย่างผิดกฏหมาย และภาษี 60% สำหรับสินค้าจากจีน ซึ่งล่าสุด มีบางประเทศ รวมถึงแคนาดาได้ประกาศแล้วว่าจะใช้มาตรการตอบโต้ ธนาคารโลก ระบุว่า การจำลองสถานการณ์โดยใช้แบบจำลองเศรษฐกิจมหภาคทั่วโลก แสดงให้เห็นว่า หากสหรัฐฯ ปรับเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากคู่ค้าทุกรายขึ้น 10% ในปี 2025 จะทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของโลกลดลง 0.2% ขณะเดียวกัน การตอบโต้ตามสัดส่วนจากประเทศคู่ค้า […]

สรุปข่าวต่างประเทศ ประจำวันพฤ.ที่ 16 มกราคม 2568

สรุปข่าวต่างประเทศ ประจำวันพฤ.ที่ 16 มกราคม 2568

*** TikTok ผู้ให้บริการแอปพลิเคชันวิดีโอสั้นชื่อดัง เตรียมยุติการให้บริการในสหรัฐฯ ในวันอาทิตย์นี้ (19 ม.ค.) แม้มีผู้ใช้งานชาวอเมริกันมากถึง 170 ล้านคนก็ตาม เนื่องมาจากคำสั่งห้ามให้บริการของคณะรัฐบาลไบเดน ด้าน The Washington Post รายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ ซึ่งจะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังคำสั่งห้ามดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 1 วัน กำลังพิจารณาออกคำสั่งฝ่ายบริหาร เพื่อระงับการบังคับใช้คำสั่งดังกล่าวเป็นเวลา 60 – 90 วัน โดย The Washington Post ไม่ได้ระบุว่าทรัมป์ จะสามารถดำเนินการดังกล่าวได้อย่างไรตามกฎหมาย ** รายงานของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ สิ้นสุดปี 2024 โดยการเติบโตของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง และการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ภาคธุรกิจได้แสดงความกังวลหลายประการเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่นโยบายภายใต้การนำของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะผลักดันให้ราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้น โดยข้อสังเกตุเหล่านี้ ถูกรวบรวมจากข้อสังเกตของภาคธุรกิจและผู้ติดต่อในชุมชนของธนาคารกลางภูมิภาคทั้ง […]

สรุปข่าวต่างประเทศ ประจำวันพุธที่ 15 มกราคม 2568

สรุปข่าวต่างประเทศ ประจำวันพุธที่ 15 มกราคม 2568

*** สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) ยื่นฟ้องร้องนายอีลอน มัสก์ หลังไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลการซื้อหุ้นสามัญของ Twitter มากกว่า 5% เมื่อเดือนมี.ค. 2022 ในคำร้องที่ยื่นต่อศาลรัฐบาลกลางประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดย SEC ระบุว่า ความล่าช้าดังกล่าวทำให้มัสก์สามารถซื้อหุ้นของ Twitter ในราคาที่ต่ำเกินจริงต่อไปได้ และทำให้มัสก์สามารถจ่ายเงินต่ำกว่าความเป็นจริงได้อย่างน้อย 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่ง SEC ต้องการให้มัสก์จ่ายค่าปรับทางแพ่งและคืนกำไรที่เขาไม่มีสิทธิ์ได้รับ *** กระทรวงการคลัง สหรัฐฯ  รายงานการขาดดุลงบประมาณ 8.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนธ.ค. ซึ่งลดลงบางส่วน เนื่องจากเลื่อนการจ่ายเงินสวัสดิการไปเป็นเดือนพ.ย. แต่ส่งผลให้การขาดดุลในช่วง 3 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2025 พุ่งสูงถึง 7.11 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนับเป็นสถิติใหม่ โดยกระทรวงการคลัง ซึ่งเผยแพร่รายงานงบประมาณฉบับสุดท้ายก่อนที่ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งในสัปดาห์หน้า ระบุว่าการขาดดุล  7.11 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2024 นั้น […]

สรุปข่าวต่างประเทศ ประจำวันอังคารที่ 14 มกราคม 2568

สรุปข่าวต่างประเทศ ประจำวันอังคารที่ 14 มกราคม 2568

*** ผลสำรวจของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (13 ม.ค.) ระบุว่า ผู้บริโภคในสหรัฐฯ มีมุมมองที่ไม่ชัดเจนในเดือนธ.ค. เนื่องจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความสามารถในการชำระหนี้ของภาคครัวเรือน โดยผู้ตอบแบบสอบถามมองว่า อัตราเงินเฟ้อในช่วงหนึ่งปีข้างหน้า จะทรงตัวที่ 3% ขณะที่คาดการณ์ในอีก 3 ปีข้างหน้าเพิ่มขึ้นเป็น 3% จาก 2.6% ในการสำรวจเดือนพ.ย. และลดลงเหลือ 2.7% ในช่วง 5 ปี จากตัวเลข 2.9% ในเดือนพ.ย. *** สมาชิกของสหภาพยุโรป (EU) 6 ประเทศ เรียกร้องให้คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ปรับลดราคาน้ำมันดิบของรัสเซียที่กลุ่มประเทศ G7 กำหนดไว้อยู่ที่ 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดยให้เหตุผลเพื่อกดดันรายได้ของรัสเซียที่นำไปใช้ในการทำสงครามในยูเครนต่อไปโดยไม่ส่งผลกระทบต่อตลาด *** การแสดงความสนใจที่จะขอซื้อ หรือไม่เช่นนั้นอาจใช้กำลังยึดเกาะกรีนแลนด์ซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ ของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานธิบดีสหรัฐฯ […]

IMF มองเศรษฐกิจโลกปีนี้ส่งสัญญาณทรงตัว-เงินเฟ้อยังชะลอต่อเนื่อง

IMF มองเศรษฐกิจโลกปีนี้ส่งสัญญาณทรงตัว-เงินเฟ้อยังชะลอต่อเนื่อง

IMF มองเศรษฐกิจโลกปีนี้ส่งสัญญาณทรงตัว-เงินเฟ้อยังชะลอต่อเนื่อง ชี้นโยบาย “ทรัมป์” หนุนผันผวน สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เผยแพร่รายงาน World Economic Outlook ฉบับใหม่ คาดเศรษฐกิจโลกจะเติบโตในเกณฑ์ทรงตัว ขณะที่แนวโน้มเงินเฟ้อยังคงชะลอตัวลง โดยนางคริสตาลินา จอร์เจียวา กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังดำเนินไปในทิศทางที่ดีกว่าที่คาดไว้ แม้จะยังคงมีความไม่แน่นอนสูงเกี่ยวกับนโยบายการค้าของว่าประธานาธิบดีคนใหม่ “โดนัลด์ ทรัมป์” ซึ่งเพิ่มแรงกดดันต่อเศรษฐกิจโลกและผลักดันให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวอยู่ในระดับที่สูงเป็นเวลานานขึ้น นางจอร์เจียวา ระบุว่า ปัจจุบัน อัตราเงินเฟ้อกำลังชะลอตัวลงสู่ระดับเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งข้อมูลทางเศรษฐกิจชุดล่าสุด ที่แสดงให้เห็นถึงตลาดแรงงานที่มั่นคง ทำให้เฟดจึงสามารถรอข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติมก่อนที่จะดำเนินการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมได้ พร้อมชี้ว่า โดยรวมแล้ว คาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะคงอยู่ในระดับสูงขึ้นเล็กน้อย เป็นระยะเวลานานขึ้น” IMF มีกำหนดเผยแพร่รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในวันที่ 17 ม.ค.นี้ ไม่กี่วันก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ ซึ่งความคิดเห็นของนางจอร์เจียวาเป็นการส่งสัญญาณแรกถึงการเปลี่ยนแปลงคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจโลกของ IMF […]

สรุปข่าวต่างประเทศ ประจำวันศ.ที่ 10 มกราคม 2568

สรุปข่าวต่างประเทศ ประจำวันศ.ที่ 10 มกราคม 2568

*** องค์การสหประชาชาติ เปิดเผยรายงานการคาดการณ์ล่าสุดว่า การเติบโตของเศรษฐกิจโลก จะยังคงอยู่ที่ระดับ 2.8% ในปี 2025 ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับปี 2024 โดยถูกฉุดรั้งจาก 2 ประเทศเศรษฐกิจชั้นนำอย่างสหรัฐฯ และจีน โดยรายงานสถานการณ์และแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Situation and Prospects) ระบุว่า “การคาดการณ์การเติบโตในเชิงบวก แต่การเติบโตของสหรัฐฯ และจีน จะชะลอตัวลงเล็กน้อย” แต่จะถูกหนุนด้วยการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในสหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และสหราชอาณาจักร รวมถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในประเทศกำลังพัฒนาขนาดใหญ่บางประเทศ โดยเฉพาะอินเดียและอินโดนีเซีย *** Jeff Schmid ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาแคนซัสซิตี้ แสดงความลังเลที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง ในขณะที่ เฟดเข้าสู่ปีใหม่ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ยังคงแข็งแกร่งและอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมายที่ 2% โดยระบุว่า “ปัจจุบันเราใกล้จะบรรลุภารกิจหลัก 2 ประการ คือ การรักษาเสถียรภาพราคาและการจ้างงานเต็มที่” และ “ด้วยอัตราเงินเฟ้อที่ใกล้เป้าหมายและการเติบโตที่ยังคงมีแรงหนุน ซึ่งตนเชื่อว่า เราใกล้ถึงจุดที่เศรษฐกิจไม่จำเป็นต้องถูกจำกัด […]