Market Overview : มกราคม 2561
ตราสารหนี้ ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 1-10 ปีปรับลดลง 0.01% ถึง 0.09% เป็นผลมาจากเม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้ไทยที่สูงถึง 63,370 ล้านบาท และผลการประมูลพันธบัตรอ้างอิงรุ่นอายุ 5 และ 10 ปีที่ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีด้วยสัดส่วน Bid-to-Cover ที่สูงถึง 4.44 และ 3.87 เท่า ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรช่วงอายุใกล้เคียงปรับตัวลดลงทันทีหลังการประมูล อย่างไรก็ตาม อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยกลับมาเร่งตัวอีกครั้งในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์จากตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯในเดือนมกราคมที่ออกมาสูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ รวมทั้ง สัญญาณการเร่งตัวของค่าจ้างแรงงานที่เพิ่มขึ้น 0.3%จากเดือนก่อน ทำให้นักลงทุนกังวลต่อการเร่งตัวของอัตราเงินเฟ้อที่จะกระตุ้นให้ธนาคารกลางสหรัฐฯเร่งกระบวนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าที่คาดการณ์เดิม จากปัจจัยกดดันดังกล่าวทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปีเร่งตัวขึ้นแตะระดับ 2.85% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี สำหรับผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(FED)ในเดือนมกราคมยังมีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.25-1.50% พร้อมส่งสัญญาณการปรับนโยบายการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามเดิม และมีมุมมองต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯและตลาดแรงงานในระดับที่ดี ด้านภาวะเงินเฟ้อ คณะกรรมการฯประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯจะค่อยๆเร่งตัวขึ้นในปีนี้และขยับเข้าสู่ระดับเป้าหมายที่ 2% ได้ในระยะต่อไป ขณะที่การประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ของไทยเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% […]
BBASIC BCAP BKD BSIRICG Product Update
มุมมองตลาดหุ้นไทยปีจอ
มุมมองตลาดหุ้นไทย : ณ ขณะนี้ ระดับ P/E ตลาดหุ้นไทยเมื่อเทียบกับประมาณการกำไรปี 2561 อยู่ที่มากกว่า 16.5 เท่า นับว่าตึงตัวพอสมควร แต่ว่าระดับ Valuation ของหุ้นในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมนั้นมีความแตกต่างกัน จึงมีหุ้นไทยบางส่วนที่ยังมีความน่าสนใจลงทุนอยู่ ขณะที่บางกลุ่มก็มีราคาแพงเกินพื้นฐาน ทั้งนี้ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจนั้นน่าจะมีโมเมนตัมต่อเนื่อง ส่วนการคาดการณ์ผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนในระยะหลังจากนี้ยังมีแนวโน้มที่ดี และจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยผลักดันราคาหุ้นให้ปรับตัวขึ้นต่อไปได้ เพียงแต่ในบางช่วงอาจจะมีแรงขายทำกำไรออกมาได้บ้าง ด้านความเสี่ยงในประเทศช่วงนี้ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นจะส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกในประเทศ แต่ถือเป็นปัจจัยที่ตลาดได้รับทราบไว้แล้ว ส่วนปัจจัยจากต่างประเทศนั้น ตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศหลักๆ ทั้งประเทศทางฝั่งตะวันตกและฝั่งเอเชีย ยังแสดงถึงการขยายตัวที่ดี ผลประกอบการที่ดีกว่าที่คาดและระดับ Valuation ที่ไม่ได้สูงนัก รวมแล้วทำให้เชื่อว่า ในช่วงระยะสั้นนี้น่าจะยังไม่มีปัจจัยลบที่กระทบต่อตลาดอย่างมีนัยสำคัญ กลยุทธ์การลงทุนของกองทุน : ผู้จัดการกองทุนยังคงเน้นลงทุนในบริษัทคุณภาพที่มีรูปแบบธุรกิจที่เข้มแข็ง มีศักยภาพเติบโตได้ต่อเนื่อง มีฐานะการเงิน แข็งแกร่ง มีกระแสเงินสดสูง และมีแนวโน้มการจ่ายปันผลดีอย่างสม่ำเสมอ
กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นญี่ปุ่น (B-NIPPON)
BF Knowledge Center มุมมองต่อทิศทางเศรษฐกิจญี่ปุ่น รัฐบาลญี่ปุ่นปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจหลังปรับด้วยราคาในปีนี้ (ระหว่างเดือนเม.ย. 2018 ถึงเดือนมี.ค. 2019) เป็น 1.8% จากเดิม 1.4% เหตุจากการค้าโลกที่ขยายตัวดี ทำให้สินค้าส่งออกเติบโต และเงินลงทุนภาคเอกชนเพิ่มขึ้น ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้นเพียง 0.9% ยังห่างไกลจากที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นตั้งเป้าไว้ที่ 2.0% ปัจจัยที่ทำให้เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจในระยะข้างหน้าในการบรรลุเป้าหมาย GDP ที่ 1.6% ได้แก่ เพิ่มการบริโภคของคนญี่ปุ่นให้มากขึ้น – รัฐบาลญี่ปุ่นคาดว่าผู้บริโภคญี่ปุ่นจะมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 4% ในปี 2018 จากนโยบายที่เน้นการเพิ่มค่าจ้างและรัฐสนับสนุนเงินลงทุนให้กับบริษัทซึ่งมีการพัฒนา/ปรับปรุงคุณภาพและสวัสดิการให้กับพนักงาน เพิ่มเงินสนับสนุนธุรกิจ – ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 9% ในปีนี้ วัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตให้กับธุรกิจ โดยเน้นสนับสนุนธุรกิจทางด้านเทคโนโลยีเพื่อที่จะให้สอดคล้องแรงงานญี่ปุ่นที่มีจำนวนลดลง นอกจากนี้การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในเดือนต.ค. BOJ ได้ตัดสินใจควบคุมอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield Curb Control) ต่อไปอีก ในขณะที่การเข้าซื้อพันธบัตรของ […]
B-SENIOR เน้นลงทุนตราสารหนี้ แต่ไม่ทิ้งโอกาสเพิ่มผลตอบแทน
จุดเด่นของ B-SENIOR ช่วยผู้ลงทุนลดภาระการบริหารเงินก้อนในวัยเกษียณ ผู้ลงทุนสามารถวางแผนไถ่ถอนเงินจาก B-SENIOR ให้พอเหมาะกับการใช้จ่ายในแต่ละช่วงได้ โดยแจ้งความประสงค์ขายคืนหน่วยลงทุนล่วงหน้าเป็นรายเดือน เน้นลงทุนในตราสารหนี้เป็นหลัก แต่ยังแสวงหาโอกาสเพิ่มผลตอบแทน ผ่านการลงทุนในหุ้นและ/หรือสินทรัพย์อื่นๆ ภายใต้ความเสี่ยงที่เหมาะสมกับนักลงทุนวัยเกษียณ มีเงินน้อยก็ลงทุนได้ และยังได้โอกาสรับผลตอบแทนสม่ำเสมอ แม้ในภาวะเศรษฐกิจผันผวน เพราะกระจายลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ บริหารงานโดยมืออาชีพ และกำไรจากการซื้อขายหน่วยลงทุนยังไม่ต้องเสียภาษี มุมมองต่อกองทุน กองทุนบัวหลวงตระหนักถึงความสำคัญในการดูแลรักษา “เงินต้น” เพื่อใช้จ่ายในวัยเกษียณ แต่ในอีกมุมหนึ่ง การพักเงินไว้ใน “ตราสารหนี้” เพียงประเภทเดียว กลับเสียโอกาสลงทุนในตราสารประเภทอื่นๆ ที่สำคัญก็คือ ผลตอบแทนที่ได้รับอาจไม่ชนะอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบัน B-SENIOR จึงเกิดขึ้นเพื่อทำหน้าที่ดูแลและจัดสัดส่วนลงทุนต่างๆ ให้เหมาะสม แต่ยังเน้นความมั่นคงของตราสารที่ลงทุน โดยกำหนดให้ลงทุนใน “ตราสารหนี้” เฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่เกิน 70 % ของ NAV พร้อมกับจัดสรรเงินในสัดส่วนที่เหมาะสม ไปลงทุนในตราสารอื่นๆ เพื่อสร้างผลตอบแทนให้งอกเงยขึ้น ซึ่งบริษัทจะเป็นผู้พิจารณาถึงความเหมาะสมในแต่ช่วงเวลา อาทิ ตราสารทุนในประเทศ หรือหน่วยลงทุนกองทุนรวมทั้งในและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทรัสต์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน กองทุนทองคำ […]
Market Product Update Thailand
มุมมองตลาดหุ้น
โอกาสเก็บหุ้นดีราคาถูก ตลอดเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบ Side-ways โดยนักลงทุนต่างชาติได้ขายหุ้นไทยสุทธิเป็นมูลค่ากว่า 18,800 ล้านบาท แต่ด้วยแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันในประเทศยังช่วยพยุงให้ SET Index ยืนระดับบริเวณ 1,700 จุดได้ ซึ่งในระหว่างเดือนดังกล่าว มีการขายทำกำไรในหุ้นขนาดกลางถึงเล็กที่ราคาปรับตัวขึ้นมาในช่วงก่อนหน้า ขณะที่หุ้นขนาดใหญ่นั้น ราคายังค่อนข้างทรงตัว ได้แรงหนุนโดยหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ กลุ่มท่องเที่ยว และกลุ่มพลังงาน ตลาดหุ้นที่อยู่ในช่วงของการปรับฐาน เรามองว่า ถือเป็นโอกาสดีที่จะซื้อหุ้นของบริษัทที่มีแนวโนมธุรกิจดี แต่ราคาย่อตัวลงมา และเริ่มมีระดับ Valuation ที่น่าสนใจมากขึ้น ด้วยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่น่าจะมีโมเมนตัมต่อเนื่องในปี 2561 ส่งผลดีต่อผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนในระยะหลังจากนี้ และถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันราคาหุ้นให้ปรับตัวขึ้นต่อไปได้ เนื่องจากนักลงทุนกลับมาให้ความสำคัญกับตัวเลขผลกำไรมากขึ้น การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเพียงลำพังอาจไม่เพียงพอที่จะผลักดันหุ้นให้ขึ้นต่อได้อีกอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจัยที่มีผลตลาดหุ้นไทย ด้านความเสี่ยงในช่วงนี้ ยังไม่เห็นปัจจัยที่มีนัยสำคัญต่อตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศ อย่างไรก็ดีปัจจัยในประเทศส่วนใหญ่จะเป็นปัจจัยเกื้อหนุนตลาดมากกว่า เช่น การเลือกตั้ง ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีนี้ หรือ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เป็นต้น ขณะที่ปัจจัยจากต่างประเทศนั้น แม้จะมีความกังวลว่าอาจจะมีแรงขายทำกำไรในตลาดหุ้นต่างประเทศหลังจากมีความชัดเจนต่อการที่รัฐบาลสหรัฐฯจะอนุมัติแผนการลดภาษีนิติบุคคล แต่ด้วยตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศหลักๆทั้งประเทศทางฝั่งตะวันตกและฝั่งเอเชีย ถือว่ายังแสดงถึงการขยายตัวที่ดี และผลประกอบการที่ดีกว่าคาดการณ์ รวมถึงระดับ Valuation ที่ไม่ได้สูงนัก […]
กองทุนเปิดบัวหลวงปัจจัย 4 เพื่อการเลี้ยงชีพ (BBASICRMF) เดือนพฤศจิกายน 2560
จุดเด่นของกองทุน ลงทุนในหุ้นของกิจการที่จำเป็น “ต้องกิน ต้องใช้” ทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ได้โอกาสรับผลตอบแทนที่ดีและสม่ำเสมอในระยะยาว พลังบริโภคที่เติบโตจากสังคมเมืองได้กระจายไปสู่ภูมิภาค ขณะที่ประชาชนมีรายได้สูงขึ้นจนสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตตัวเองได้ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ช่วยหนุนให้ธุรกิจหรือการค้าขยายไปสู่ประเทศในอาเซียน ซึ่งมีพลมืองไม่ต่ำกว่า 600 ล้านคน ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี เมื่อลงทุนเข้าเงื่อนไขของกรมสรรพากร มุมมองต่อตลาดหุ้นไทย ตลาดหุ้นไทยสามารถปรับตัวขึ้นอีกในเดือนตุลาคม แต่ด้วยความผันผวนที่มากขึ้น ขณะที่นักลงทุนต่างชาติเริ่มขายทำกำไรหุ้นไทย โดยเป็นผู้ขายสุทธิด้วยมูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาทในช่วงระหว่างเดือน แม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจไทยจะยังแสดงถึงสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้นก็ตาม บริษัทที่ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/60 พบว่า หลายบริษัทมีสัญญาณการฟื้นตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่หุ้นหลายตัวกลับถูกขายทำกำไรแม้ว่าผลประกอบการจะออกมาดีก็ตาม โดยเฉพาะหุ้นขนาดกลางถึงเล็กที่ปรับตัวขึ้นมามาก ซึ่งอาจจะเป็นด้วย Valuation ที่ตึงตัวในบางกลุ่มอุตสาหกรรม ทำให้ตลาดหุ้นอยู่ในช่วงของการปรับฐาน ซึ่งเรามองว่า ถือเป็นโอกาสดีที่จะซื้อหุ้นของบริษัทที่มีแนวโน้มธุรกิจดีแต่ราคาย่อตัวลงมา และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจนั้นน่าจะมีโมเมนตัมต่อเนื่องได้ในปีหน้า ซึ่งจะช่วยหนุนผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนในระยะหลังจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมา หุ้นหลายตัวปรับตัวขึ้นด้วยความคาดหวังว่าจะได้รับผลดีจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวในปีหน้า แม้ว่าอาจจะยังไม่เห็นผลประกอบการที่ฟื้นตัวนักในปี 2560 ทำให้ราคาหุ้นถือว่าค่อนข้างตึงตัวเมื่อเทียบกับผลประกอบการที่ออกมา จึงเชื่อว่าหลังจากนี้ นักลงทุนจะกลับมาให้ความสำคัญกับตัวเลขผลกำไรมากขึ้น การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเพียงลำพังอาจไม่เพียงพอที่จะผลักดันหุ้นให้ขึ้นต่อได้อีกอย่างมีนัยสำคัญ และหุ้นบางตัวที่ราคาพุ่งสะท้อนไปถึงผลประกอบการปีหน้าเร็วเกินไป อาจจะไม่ได้ให้ผลตอบแทนดีเท่ากับช่วงที่ผ่านมา ด้านความเสี่ยงในช่วงนี้ […]
กองทุนเปิดกองทุนบัวหลวงปัจจัย 4 หุ้นระยะยาวปันผล (BBASICDLTF) เดือนพฤศจิกายน 2560
จุดเด่นของกองทุน เน้นลงทุนในหุ้นของกลุ่มบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับปัจจัย 4 ได้แก่ อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรค ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี (Value Stock) และมีแนวโน้มเติบโตทางธุรกิจสูง (Growth Potential) ทั้งในและต่างประเทศ ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี เมื่อลงทุนเข้าเงื่อนไขของกรมสรรพากร มีโอกาสรับผลตอบแทนระหว่างลงทุนในรูปแบบเงินปันผล ตั้งแต่กองทุนดำเนินมาแล้วเพียง 1 ปี (เริ่ม 28 ต.ค. 2559) BBASICDLTF จ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง ดังนี้ ครั้งที่ 1:16 ต.ค. 2560 หน่วยละ 0.22 บาท ครั้งที่ 2: 14 พ.ย. 2560 หน่วยละ 0.08 บาท รวมทั้งหมด 2 ครั้ง รวมเป็นเงินปันผลสะสมหน่วยละ 0.30 บาท […]
กองทุนเปิดบัวหลวงปัจจัย 4 (BBASIC) เดือนพฤศจิกายน 2560
จุดเด่นของกองทุน 1) ลงทุนในหุ้นของกิจการที่จำเป็น “ต้องกิน ต้องใช้” เพื่อให้ได้โอกาสรับผลตอบแทนที่ดีและสม่ำเสมอในระยะยาว โดยได้แรงหนุนจาก: พลังบริโภคที่เติบโตในสังคมเมืองแพร่ขยายไปสู่ภูมิภาค ขณะที่ประชาชนมีรายได้สูงขึ้น ทำให้ยกระดับคุณภาพชีวิตตัวเองได้ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ช่วยหนุนให้ธุรกิจหรือการค้าขยายไปสู่ประเทศในอาเซียน ซึ่งมีพลมืองไม่ต่ำกว่า 600 ล้านคน 2) ตั้งแต่เปลี่ยนนโยบายกองทุนฯให้จ่ายเงินปันผล ซึ่งดำเนินมาแล้วเกือบ 4 ปี (เริ่ม 14 ธ.ค. 2556) BBASIC จ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง ดังนี้ ครั้งที่ 1: 17 ต.ค. 2557 หน่วยละ 1.00 บาท ครั้งที่ 2: 30 ก.ย. 2558 หน่วยละ 0.25 บาท ครั้งที่ 3: 30 มี.ค. 2559 หน่วยละ […]
Economy Market Product Update Technology
กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารหนี้ (BFIXED) เดือนพฤศจิกายน 2560
ภาพรวมตราสารหนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยในเดือนตุลาคมปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.02% – 0.09% โดยมีปัจจัยหลักมาจาก 1) การขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติประมาณ 17,650 ล้านบาท ถือเป็นการขายสุทธิเป็นเดือนแรกในรอบปี โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติที่ไหลกลับเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้เกาหลีใต้อีกครั้งหลังสถานการณ์ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีคลี่คลายลง 2) ตลาดกังวลต่อการที่นาย John Taylor มีโอกาสได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯคนใหม่ ซึ่งจะทำให้การดำเนินนโยบายการเงินของ FED เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่เข้มงวดมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุด ประธานาธิบดี Trump ได้เสนอชื่อนาย Jerome Powell ให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯแทน โดยนาย Jerome Powell มีแนวคิดในการดำเนินนโยบายการเงินตามแนวทางเดิมด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างช้าๆ ตามภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้ตลาดตอบสนองในเชิงบวกต่อปัจจัยดังกล่าว ขณะที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐฯในวันที่ 31 ต.ค. – 1 พ.ย. มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.00%-1.25% ตามเดิมและไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ โดยคณะกรรมการฯหลายท่านยังเชื่อมั่นว่า จะสามารถขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 1 ครั้งในการประชุมครั้งสุดท้ายของปีในวันที่ 12-13 ธันวาคม 2017 […]