จีนสวนทันควัน ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสหรัฐฯ สูงสุด 15% มีผล 10 ก.พ.
สื่อต่างประเทศรายงานว่า จีนเตรียมขึ้นภาษีนำเข้าถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐฯ 15% และจะจัดเก็บภาษีนำเข้าน้ำมันดิบ อุปกรณ์การเกษตร และรถยนต์บางประเภทอีก 10% มีผลวันที่ 10 ก.พ. นี้เป็นต้นไป เพื่อตอบโต้หลังสหรัฐฯ ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 10% ซึ่งมีผลเมื่อเวลา 12.01 น. ในวันนี้ ตามเวลาประเทศไทย แถลงการณ์ของกระทรวงการคลังจีน ซึ่งสำนักงาน CNBC อ้างถึง ระบุว่า จีนยังย้ำถึงแผนการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 10% ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าเป็นการละเมิดหลักเกณฑ์ขององค์การการค้าโลก (WTO) อย่างร้ายแรง จีนยังระบุด้วยว่า กำลังเริ่มสอบสวนบริษัท Alphabet และ Google ในประเด็นผู้ขาดตลาด รวมไปถึงนำเข้ารายชื่อ PVH Corp บริษัทโฮลดิ้ง เจ้าของแบรนด์ดัง อย่าง Calvin Klein รวมไปถึงบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐฯ Illumina ไว้ใน “รายชื่อนิติบุคคลที่ไม่น่าไว้วางใจ” (Unreliable […]
แคนาดา-เม็กซิโก-จีน ลั่น! เตรียมตอบโต้ หลัง “สหรัฐฯ” เปิดสงครามการค้า
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดของแคนาดา เปิดเผยว่า แคนาดาจะตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ในอัตรา 25% พร้อมเตือนชาวอเมริกันว่าการกระทำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะส่งผลร้ายแรงต่อพวกเขาเอง ปัจจุบันความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ชาติพันธมิตรเก่าแก่ ซึ่งมีพรมแดนทางบกยาวที่สุดในโลก กำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยทรูโดกล่าวว่า จะขึ้นภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ มูลค่า 1.55 แสนล้านดอลลาร์แคนาดา โดยสินค้ามูลค่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์แคนาดา จะมีผลบังคับใช้ในวันอังคารนี้ทันที และอีก 1.25 แสนล้านดอลลาร์แคนาดา จะมีผลในอีก 21 วันข้างหน้า ซึ่งการประกาศครั้งนี้ เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ทรัมป์สั่งขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก 25% และสินค้าจากจีน 10% ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดสงครามการค้า ตามที่นักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า อาจทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวและเงินเฟ้อกลับมาปะทุขึ้นอีกครั้ง นอกจากนี้ แคนาดายังเตรียมดำเนินการทางกฎหมายผ่านองค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง เพื่อตอบโต้การขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลแคนาดากล่าวว่า การขึ้นภาษีดังกล่าว ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายและไม่มีเหตุผลอันสมควร พร้อมระบุว่า “เราจะใช้มาตรการทางกฎหมายที่เราเชื่อว่ามีผ่านข้อตกลงที่เรามีร่วมกับสหรัฐฯ” านประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบอมของเม็กซิโก กล่าวว่า […]
สรุปข่าวต่างประเทศ ประจำวันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม 2568
** ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 4.25%-4.50% ในการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด กล่าวว่า จะไม่รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งจนกว่า แนวโน้มเงินเฟ้อและตลาดแรงงาน จะอยู่ในทิศทางที่เหมาะสม *** นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด กล่าวในการตอบคำถามเกี่ยวกับอิทธิพลของรัฐบาลทรัมป์ที่มีต่อธนาคารกลางสหรัฐฯว่า วาระทางการเมืองจะไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ ยังกล่าวว่า เฟดกำลังพยายามปรับนโยบายด้านบุคลากรให้สอดคล้องกับคำสั่งบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ไม่ส่งเสริมแนวคิดความหลากหลายและยอมรับความแตกต่าง (Diversity and inclusion) ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ในขอบเขตที่จำกัด โดยระบุว่าการเปลี่ยนแปลงจะต้อง “สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง” แต่ยังคงเชื่อมั่นว่าความหลากหลาย เป็นลักษณะสำคัญขององค์กรที่ประสบความสำเร็จ *** ที่ปรึกษาระดับสูงของทำเนียบขาว กล่าวแสดงความวิตกกังวลว่า DeepSeek บริษัทสตาร์ทอัพของจีน อาจได้รับประโยชน์จากวิธีการที่เรียกว่า “distillation” ซึ่งถูกกล่าวหาว่าใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าของบริษัทคู่แข่งในสหรัฐฯ โดยเทคนิคนี้เกี่ยวข้องกับระบบ AI หนึ่ง ที่เรียนรู้จากระบบ AI อีกระบบหนึ่ง ซึ่งอาจหยุดยั้งได้ยาก โดย DeepSeek สร้างความสั่นสะเทือนให้กับแวดวงเทคโนโลยีในเดือนนี้ […]
อินเดียเตรียมขนแรงงานร่วม 1.8 หมื่นกลับประเทศ เลี่ยงสงครามการค้าสหรัฐฯ
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า รัฐบาลอินเดียส่งสัญญาณพร้อมทำงานร่วมกับรัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการนำพลเมืองอินเดียที่เดินทางเข้าไปทำงานอย่างผิดกฎหมายในสหรัฐฯ กลับประเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าในสงครามการค้ากับสหรัฐฯ แหล่งข่าว เผยว่า สหรัฐฯ ระบุว่า จำนวนชาวอินเดียที่อพยพเข้าประเทศโดยไม่มีเอกสารรับรอง ซึ่งจะต้องถูกส่งตัวกลับนั้น มีอยู่ราว 18,000 คน และเป็นไปได้ว่า ตัวเลขจริงอาจสูงกว่านี้ โดยคาดว่า ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนหนุ่มสาวจากอินเดียฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะจากรัฐปัญจาบและคุชราต ประเด็นการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายถูกหยิบยกขึ้นมาในการหารือเบื้องต้นระหว่างสหรัฐฯ และอินเดีย โดยแถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า นายมาร์โก รูบิโอ (Marco Rubio) รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เข้าพบกับนายสุพรหมณยัม ชัยศังกระ (Subrahmanyam Jaishankar) รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของอินเดีย เมื่อวันอังคาร (21 ม.ค.) ที่กรุงวอชิงตัน โดยนายรูบิโอได้เน้นย้ำถึงความต้องการของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการพัฒนาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ รวมถึงแก้ไขข้อกังวลเกี่ยวกับการอพยพเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย อินเดียแสดงความหวังว่า รัฐบาลทรัมป์จะยังอนุญาตให้พลเมืองอินเดียใช้ช่องทางวีซ่านักเรียนและโปรแกรม H-1B สำหรับแรงงานทักษะ ในการเข้ามายังสหรัฐฯ อย่างถูกกฎหมาย โดยข้อมูลอย่างเป็นทางการระบุว่า […]
สรุปข่าวต่างประเทศ ประจำวันพุธที่ 22 มกราคม 2568
** ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหภาพยุโรป (EU) และกล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังหารือเรื่องการจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 10% ในวันที่ 1 ก.พ. จากประเด็นการลักลอบส่งสารเฟนทานิลซึ่งถูกใช้เป็นสารเสพติดจากจีนไปยังเม็กซิโกและแคนาดา โดยทรัมป์กล่าวว่า เขาได้จัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนไปแล้วเป็นจำนวนมากในช่วงดำรงตำแหน่งวาระแรก พร้อมกล่าวว่า สหภาพยุโรปและประเทศอื่นๆ ยังมีความไม่สมดุลทางการค้าที่น่าวิตกกังวลกับสหรัฐฯ อีกด้วย *** ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ชะลอการเก็บภาษีนำเข้าจากจีนเหนือตามความคาดหมายในวันแรกที่กลับเข้าทำเนียบขาว และไม่ได้ระบุว่า จีนเป็นภัยคุกคาม ซึ่งเปิดโอกาสให้ฟื้นฟูความสัมพันธ์ ในขณะที่ทั้ง 2 ฝ่ายต่างมองหาผลประโยชน์จากกันและกัน แทนที่จะสร้างความเสียหายให้แก่กัน ซึ่งในการกล่าวสุนทรพจน์หลังพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ประธานาธิบดีสหรัฐฯ งดเว้นการกล่าวถึงจีน ซึ่งเคยเป็นคู่ปรับในสงครามการค้าครั้งก่อน แม้ว่าทรัมป์จะกล่าวว่าการเก็บภาษีนำเข้าจะทำให้สหรัฐฯ “รวยมหาศาล” ซึ่งเปิดช่องให้มีการเจรจาใหม่กับประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก *** ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า เขาอาจจะใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย หากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ปฏิเสธที่จะเจรจาเกี่ยวกับการยุติสงครามในยูเครน โดยทรัมป์ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับการคว่ำบาตรเพิ่มเติมที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ […]
สรุปข่าวต่างประเทศ ประจำวันอังคารที่ 21 มกราคม 2568
** ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ เปิดเผยแผนการณ์เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันและก๊าซของสหรัฐฯ สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีการประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานด้วยการเพิ่มการขุดเจาะน้ำมัน วางท่อน้ำมัน และตั้งโรงกลั่นน้ำมัน ยกเลิกกฎระเบียบที่มากเกินไป และถอนสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงระหว่างประเทศ ในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ ซึ่งความเคลื่อนไหวครั้งนี้ บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในนโยบายพลังงานของสหรัฐฯ หลังจากที่อดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน พยายามส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านจากเชื้อเพลิงฟอสซิลตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา และสร้างให้สหรัฐฯ เป็นผู้นำโลก ในการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน *** ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ จะยังไม่กำหนดปรับขึ้นภาษีศุลกากรในทันที หลังเข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯอย่างเป็นทางการในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ได้กล่าวในการกล่าวสุนทรพจน์รับตำแหน่งว่า สหรัฐฯ จะเรียกเก็บรายได้ “จำนวนมหาศาล” จากภาษีการค้าต่างประเทศ ในขณะที่รัฐบาลของเขาเร่งทำงานเพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมของประเทศ โดยคณะเจ้าหน้าที่รัฐบาลของทรัมป์กล่าวว่า ทรัมป์จะออกบันทึกข้อตกลงการค้าที่ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งจะยังไม่ถึงขั้นปรับขึ้นภาษีศุลกากรในทันที แต่สั่งให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางประเมินความสัมพันธ์ทางการค้าของสหรัฐฯ กับจีน แคนาดา และเม็กซิโก *** ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ลงนามเพิกถอนคำสั่งฝ่ายบริหารปี 2023 ที่ลงนามโดยอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน โดยมุ่งหวังที่จะลดความเสี่ยงที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) […]
ประเมินสถานการณ์ไฟไหม้ในลอสแองเจลิส
โดย ดร.มิ่งขวัญ ทองพฤกษา Chief Economist และทีม Economic Research, BBLAM สถานการณ์ไฟป่าในลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ยังคงรุนแรงและลุกลามอย่างต่อเนื่อง โดยมีไฟป่าหลักที่สำคัญ 3 จุด ดังนี้ ไฟป่า Palisades: เกิดขึ้นในพื้นที่ Pacific Palisades ใกล้ชายฝั่งซานตาโมนิกา ไฟป่านี้เผาผลาญพื้นที่ไปแล้วกว่า 16,000 เอเคอร์ (ประมาณ 40,000 ไร่) และส่งผลให้ประชาชนกว่า 100,000 คนได้รับคำสั่งให้อพยพออกจากพื้นที่ ไฟป่า Eaton: เริ่มต้นในพื้นที่เชิงเขาใกล้กับ Eaton Canyon ใน Pasadena ไฟป่านี้เผาผลาญพื้นที่ไปกว่า 10,000 เอเคอร์ (ประมาณ 25,000 ไร่) และทำให้ประชาชนในพื้นที่ Altadena และ Pasadena ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนกว่า 70,000 […]
สรุปข่าวต่างประเทศ ประจำวันพฤ.ที่ 9 มกราคม 2568
*** ผลการประชุมครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 17-18 ธ.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟด มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% อยู่ที่ระดับ 4.25% – 4.5% รวมถึงปรับลดความคาดหวังต่อการลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต และปรับเพิ่มเส้นทางที่คาดการณ์ไว้สำหรับอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ เฟด ไม่ได้ประกาศอะไรใหม่เกี่ยวกับการลดงบดุล แต่ได้ทำการเปลี่ยนแปลงทางเทคนิคเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่จ่ายในโครงการ reverse repo เพื่อกระตุ้นให้กองทุนตลาดเงินและหน่วยงานอื่นๆ นำเงินสดออกจากบัญชีของธนาคารกลางและเข้าสู่ตลาดเอกชน *** คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อน่าจะยังคงปรับตัวลดลงต่อไปในปี 2025 และเปิดทางให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงต่อไปได้ แม้ว่าจะยังมีความไม่แน่นอนก็ตาม โดยวอลเลอร์ กล่าวว่า แม้จะเป็นความจริงที่อัตราเงินเฟ้อ “ดูเหมือนจะหยุดชะงัก” เหนือระดับเป้าหมาย 2% ของเฟดในช่วงเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา แต่ประมาณการอัตราเงินเฟ้อตามกลไกตลาด ตลอดจนตัวเลขเงินเฟ้อในระยะเวลา 1 เดือนและระยะสั้นกว่านั้น ทำให้เขาเชื่อมั่นว่า อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ จะยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะเป็นไปอย่างไม่แน่นอนก็ตาม *** […]
TikTok อาจได้อยู่ต่อในสหรัฐฯ เมื่อ ‘ทรัมป์’ พอใจแคมเปญหาเสียงเป็นไวรัล
TikTok อาจได้อยู่ต่อในสหรัฐฯ เมื่อ ‘ทรัมป์’ ดูสถิติหลังบ้านพอใจแคมเปญหาเสียงเป็นไวรัลยอดวิวนับพันล้านครั้ง แต่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยังคงยืนยัน TikTok เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า “โดนัลด์ ทรัมป์” แสดงความเห็นเมื่อวันอาทิตย์ที่ (22 ธ.ค.) ว่า เขาเห็นชอบที่จะปล่อยให้ TikTok ดำเนินธุรกิจในสหรัฐฯ ต่อไปได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง พร้อมเข้าพบซีอีโอ TikTok และมี “ความสนใจ” เป็นพิเศษต่อ TikTok โดยให้เหตุผลว่า เขาได้รับยอดวิวนับพันล้านครั้งบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียนี้ ในระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี ทรัมป์ปราศรัยต่อหน้าผู้ร่วมงาน AmericaFest ซึ่งเป็นงานประจำปีที่จัดโดยกลุ่มอนุรักษ์นิยม Turning Point กล่าวว่า “ผมคิดว่าเราต้องเริ่มพิจารณากันแล้ว เพราะอย่างที่ทุกคนรู้ เราใช้ TikTok และได้รับการตอบรับที่ดีมาก มียอดผู้เข้าชมหลายพันล้านครั้ง หลายพันล้านครั้งแล้ว หลายพันล้านครั้ง พวกเขานำแผนภูมิมาให้ผมดู เป็นสถิติใหม่ที่สวยงามมาก และเมื่อผมได้เห็น ก็คิดว่า ‘บางทีเราอาจจะต้องเก็บสิ่งนี้ไว้อีกสักพักหนึ่ง” นี่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดที่แสดงให้เห็นว่า ทรัมป์ไม่เห็นด้วยกับการบังคับให้ TikTok ยุติการให้บริการในตลาดสหรัฐฯ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา วุฒิสภาสหรัฐอเมริกาได้ผ่านร่างกฎหมายที่กำหนดให้ ไบท์แดนซ์ (ByteDance) บริษัทแม่ของ […]
เจอโรม พาวเวล ยืนยันไม่กังวล เฟด สูญเสียสถานะการเป็นองค์กรอิสระภายใต้รัฐบาลทรัมป์
เจอโรม พาวเวล ยืนยันไม่กังวล เฟด สูญเสียสถานะการเป็นองค์กรอิสระภายใต้รัฐบาลทรัมป์ มั่นใจกฎหมายที่กำหนดขึ้นโดยสภาคองเกรสนั้น จะเป็นเกราะป้องกันเฟด วันที่ 5 ธันวาคม 2567 สำนักข่าว CNBC รายงานว่า เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลาง สหรัฐฯ (เฟด) กล่าวว่า ไม่กังวลธนาคารกลางสหรัฐฯ จะสูญเสียสถานะการเป็นองค์กรอิสระภายใต้รัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ และไม่กังวลว่าทรัมป์จะพยายามทำให้เฟดตกเป็นเป้าหมายทางการเมืองเมื่อเขาเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานั้น สถานะการเป็นองค์กรอิสระของเฟดได้ถูกตั้งคำถามอย่างมาก หลังจากมีรายงานว่า ทรัมป์พยายามที่จะแทรกแซงนโยบายการเงินของเฟดและอาจจะถึงขึ้นแต่งตั้ง “ประธานเงา” ให้ขึ้นมาดูแลเฟด เพื่อบั่นทอนอำนาจของพาวเวล อย่างไรก็ดี พาวเวล กล่าวว่ากฎหมายที่กำหนดขึ้นโดยสภาคองเกรสนั้น จะเป็นเกราะป้องกันเฟดและจะช่วยปกป้องความเป็นอิสระของเฟดให้ปลอดภัยจากอิทธิพลทางการเมือง “ความเป็นอิสระหมายความว่าอะไร? มันหมายความว่าเราสามารถตัดสินใจได้โดยไม่ถูกกลับคำตัดสิน และนั่นทำให้เรามีความสามารถในการตัดสินใจเพื่อประโยชน์ของชาวอเมริกันทุกคนในทุกเวลา ไม่ใช่เพื่อพรรคการเมืองใดหรือผลทางการเมืองใดโดยเฉพาะ เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพและทำให้เงินเฟ้อมีเสถียรภาพ เพื่อประโยชน์ของชาวอเมริกันทุกคน และเฟดถูกกำหนดให้แยกออกจากการเมืองโดยสิ้นเชิง” พาวเวล กล่าว ขณะเดียวกัน พาวเวลไม่ได้ส่งสัญญาณว่า ในระยะสั้นทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะดำเนินไปอย่างไร แม้ว่าเขาจะตั้งข้อสังเกตว่า เฟดสามารถระมัดระวังได้ ตามที่เขาพูดไปก่อนหน้านี้ พาวเวลกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ […]