ทรัมป์ อวดตลอด 1 ปี สร้างงานเพิ่ม 2.4 ล้านตำแหน่ง ย้ำหมดยุคถูกเอาเปรียบการค้า
ทรัมป์ ระบุความสำเร็จตลอด 1 ปีที่ผ่านมา สร้างงานใหม่ 2.4 ล้านตำแหน่ง ว่างงานลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 45 ปี พร้อมยกเครื่องด้านภาษี ฟื้นฟูเอกชนให้แข็งแกร่ง ย้ำหมดยุคถูกเอาเปรียบจากข้อตกลงการค้าที่ไม่เป็นธรรม เดินหน้าพัฒนาและฝึกฝนบุคลากร ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวในการแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ต่อสภาคองเกรส ระบุผลงานที่ประสบความสำเร็จนับตั้งแต่ที่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง คือการสร้างงานใหม่ 2.4 ล้านตำแหน่ง ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 45 ปี ทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่า ความเชื่อมั่นของกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กในสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกล่าวว่า มาตรการปรับลดภาษีขนาดใหญ่ของรัฐบาล ได้ช่วยฟื้นฟูภาคเอกชนให้แข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก และส่งผลให้ค่าแรงปรับตัวสูงขึ้นในที่สุด ทั้งนี้ ทรัมป์กล่าวว่า คณะทำงานของรัฐบาลสหรัฐได้ผลักดันกฎหมายการปรับลดภาษีครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งช่วยให้บริษัทของสหรัฐสามารถแข่งขันกับภาคเอกชนของประเทศอื่นๆได้ นอกจากนี้ ยังสามารถยกเลิกเนื้อหาหลักในโครงการโอบามาแคร์ ซึ่งเป็นโครงการที่สร้างหายนะต่อระบบเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะเดียวกันทรัมป์ได้กล่าวถึงประเด็นการค้าว่า รัฐบาลสหรัฐจะพลิกสถานการณ์ด้านการค้าของประเทศให้กลับมาสดใสอีกครั้ง หลังจากที่สหรัฐถูกเอาเปรียบจากข้อตกลงการค้าที่ไม่เป็นธรรม พร้อมกับกล่าวว่า สหรัฐคาดหวังว่าความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศต่างๆ จะเป็นไปอย่างยุติธรรม สหรัฐเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยนักสร้าง ด้วยเหตุนี้ […]
1 ปี ของทรัมป์
ทรัมป์จะแถลงผลงาน1ปีให้ที่ประชุมสภาร่วมในวันพรุ่งนี้ (30 มกราคม) โดยจะเน้นธีมสร้างอเมริกาให้ปลอดภัย เข้มแข็งและมีความภาคภูมิใจ แม้ว่านโยบายหลายอย่าง รวมทั้งคำพูดของทรัมป์ในช่วงที่ผ่านมาจะสร้างความขัดแย้ง และความสับสน แต่ตลาดหุ้นสร้างประวัติการณ์ใหม่ ทางทำเนียบขาวแจ้งว่า ทรัมป์จะโฟกัสไปยังนโยบาย 5 ประการ คือการสร้างงานและเศรษฐกิจ, โครงสร้างพื้นฐาน, การรับคนเข้าเมือง, การค้า, และความมั่นคงแห่งชาติ ทรัมป์จะกล่าวในเวทีประชุมร่วมของวุฒิสมาชิก และผู้แทนราษฎรว่าเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาดีขึ้นอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายลดภาษีของเขาที่บังเกิดผล รวมทั้งการลดกฎเกณฑ์ต่างๆที่เป็นอุปสรรคต่อเศรษฐกิจ ทรัมป์จะหนุนนโยบายการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งฝ่ายเดโมแครทให้การสนับสนุนเหมือนกัน สำหรับเรื่องนโยบายคนเข้าเมือง ทรัมป์จะเสนอแนวทางที่จะให้สิทธิการเป็นพลเมืองอเมริกันให้กับคนหนุ่มสาวที่ไม่มีเอกสารที่ถูกต้อง เพื่อแลกกับการสนับสนุนของเดโมแครทสำหรับงบประมาณ $25,000 ล้าน ในการดูแลชายแดน ส่วนเรื่องการค้่า ทรัมป์จะบอกว่าเขาต้องการการค้าที่เป็นเสรีแต่แฟร์ด้วย และดูเหมือนว่าเขาอาจจะเปลี่ยนใจมาสนับสนุนข้อตกลงการค้าเสรีTrans Pacific Partnership ที่ถูกยกเลิกไป ถ้าหากว่ามีการประนีประนอม เรื่องความมั่นคง ทรัมป์จะเน้นสันติภาพผ่านความเข้มแข็งของสหรัฐ
จับตาดู government shutdown สหรัฐสัปดาห์นี้ จะคลี่คลายหรือไม่
สมาชิกของพรรครีพับรีกันและเดโมแครทเข้าประชุมกันในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาที่สภาคอนเกรซ ซึ่งเป็นวันที่ 2 ที่หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐบางแห่งต้องปิดการให้บริการ หลังจากที่สภาวุฒิไม่ผ่านกฎหมายใช้จ่ายงบประมาณในวันศุกร์ที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา ต้องจับตาดูว่าวันจันทร์นี้ จะมีความคืบหน้าอย่างไรในการเจรจาเรื่องงบประมาณ เพราะว่าทางรีพับรีกันยืนกรานว่า เดโมแครทต้องโหวตให้ผ่านกฎหมายงบประมาณผ่านเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถเปิดดำเนินการปกติ ก่อนที่จะมีการเจรจาเรื่องกฎหมายคนเข้าเมือง ประเด็นอิมมิเกรชั่นเป็นความขัดแย้งที่สำคัญ เพราะเดโมแครทต้องการงบมาดูแลคนที่เกิดในอเมริกัน แต่พ่อแม่เข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ประธานาธิบดีทรัมป์มีกำหนดที่จะไป Mar-a-Lago รีสอร์ทหรูของเขาที่ฟลอริด้าในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเพื่อเข้าร่วมงานเรียไรเงินหาเสียง เพื่อฉลองวาระเขาอยู่ในตำแหน่งครบ1ปีเต็มโดยบัตรมีราคาสูงถึง $100,000 ต่อคู่ที่เข้าร่วมงาน แต่ทรัมป์ต้องยกเลิกการเดินทางไปงานนี้ที่ฟลอริด้า เพราะว่าวิกฤติ government shutdown และถ้าหากว่าการเจรจาเพื่อให้งบประมาณการใช้จ่ายไม่ผ่านสภา ทรัมป์อาจจะต้องยกเลิกการไปร่วมประชุม World Economic Forumที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยเขามีกำหนดการเดินทางในวันพุธที่ 24 มกราคม ต่างฝ่ายต่างกล่าวหากันว่าทำให้เกิดเหตุ government shutdown แต่พวกบริษัทจัดเร็ทติ้งบอกว่า เร็ทติ้งสหรัฐจะไม่ได้รับผลกระทบจาก government shutdown