‘เวิลด์แบงก์’ ปรับเพิ่มคาดการณ์ ‘GDP ไทย’ ปีนี้โต 3.1% แรงหนุนการบริโภค-ส่งออก
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2565 ว่า ธนาคารโลก (World Bank) ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจไทย ปี 2565 เป็น 3.1% สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนมิถุนายนที่ 2.9% ปัจจัยหนุนจากการบริโภคและการส่งออกของภาคเอกชน ขณะเดียวกันได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทย ปี 2566 ลดลงเหลือ 4.1% จากแนวโน้มก่อนหน้าที่ 4.3% แม้ว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่คาดการณ์ไว้ในปี 2566 จะกดดันความต้องการส่งออก แต่การผ่อนคลายของการระบาดใหญ่ของโควิด-19 จะสนับสนุนการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว โดยประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือน 8-10 ล้านคนในปีนี้ “เวิลด์แบงก์” ปรับลดแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจ “เอเชียตะวันออก-แปซิฟิก” เหลือ 3.2% เหตุจีนชะลอตัว ขณะเดียวกัน ธนาคารโลก ระบุว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกจะชะลอตัวลงอย่างรวดเร็วในปี 2565 แต่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นในปี 2566 โดยคาดว่าการเติบโตในปี 2565 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก […]
บังกลาเทศ เตรียมขอเงินช่วยเหลือจาก “ธนาคารโลก-ADB” 2 พันล้านดอลลาร์
บังกลาเทศ เตรียมขอเงินช่วยเหลือจาก “ธนาคารโลก-ADB” 2 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2565 ว่า บังกลาเทศเตรียมขอเงินช่วยเหลือจากธนาคารโลกและธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) เป็นวงเงิน 2 พันล้านดอลลาร์ เพื่อเพิ่มทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ และเพื่อช่วยให้เศรษฐกิจรับมือกับผลกระทบจากสงครามในยูเครนและผลกระทบจากราคาพลังงาน รายงานอ้างอิงแหล่งข่าววงในระบุว่า รัฐบาลบังกลาเทศได้ยื่นจดหมายถึงองค์กรด้านการเงินสองแห่ง คือ ธนาคารโลก และ ADB เพื่อขอเงินสนับสนุนแห่งละ 1 พันล้านดอลลาร์ รายงานดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่หนังสือพิมพ์เดลี สตาร์ของบังกลาเทศ รายงานว่า บังกลาเทศต้องการกู้ยืมเงิน 4.5 พันล้านดอลลาร์จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) รวมถึงความช่วยเหลือด้านงบประมาณและดุลการชำระเงิน ส่วนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา IMF กล่าวว่ าจะหารือกับบังกลาเทศเรื่องคำร้องขอกู้ยืมเงิน อย่างไรก็ดี นายมุสตาฟา คามาล รัฐมนตรีคลังของบังกลาเทศ, ธนาคารโลก และ ADB ยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับรายงานข่าวดังกล่าวในขณะนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์ […]
ธนาคารโลก เพิ่มทุน 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ หวังแก้ปัญหาความยากจน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ธนาคารโลก (World Bank) ได้ประกาศแผนเพิ่มเงินทุนในวงเงิน 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อวานนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับศักยภาพในการแก้ไขปัญหาความยากจนทั่วโลก แผนการดังกล่าวได้รับการเห็นชอบจากคณะผู้อภิปรายร่วม ซึ่งมีกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) รวมอยู่ด้วย แผนเพิ่มเงินทุนนี้ประกอบด้วยเงินทุนที่ต้องชำระเบื้องต้น (paid-in capital) 7.5 พันล้านดอลลาร์แก่ธนาคารระหว่างประเทศเพื่อการบูรณะและพัฒนา (IBRD) ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของธนาคารโลก และอีก 5.5 พันล้านดอลลาร์แก่บรรษัทการเงินระหว่างประเทศ (IFC) ซึ่งเป็นบรรรษัทด้านการลงทุนในเครือ โดยญี่ปุ่นจะให้ทุนสนับสนุนแผนการดังกล่าวประมาณ 1.1 พันล้านดอลลาร์จากทั้งหมด ส่วนสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้ที่ให้เงินสนับสนุนมากที่สุดของธนาคารโลก ได้แสดงความเห็นชอบต่อแผนการดังกล่าว แลกกับการปฏิรูปกิจการเงินกู้ นอกจากนี้ คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาระหว่าง IMF กับธนาคารโลก ยังได้ตกลงที่จะแก้ไขสัดส่วนการถือหุ้นใน IBRD เพื่อเปิดทางให้ประเทศกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่ด้วย จีน ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับสาม จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเพิ่มขึ้นเป็น 5.71% จากเดิม 4.45% ขณะที่สหรัฐอเมริกาจะมีสิทธิ์ลดลงเป็น 15.87% จากเดิม 15.98% และญี่ปุ่นเหลือ 6.83% […]
ความมั่งคั่งทั่วโลกเพิ่มขึ้น แต่ยังไร้ความเท่าเทียม
เวิลด์แบงก์ เปิดเผยว่า ความมั่งคั่งทั่วโลกขยายตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีความไม่เท่าเทียมปรากฎให้เห็น รายงานความมั่งคั่งทั่วโลก “Changing Wealth of Nations 2018” ของเวิลด์แบงก์ แสดงให้เห็นว่า ความมั่งคั่งทั่วโลก ซึ่งนับรวมต้นทุนทางสังคม, ทุนทางธรรมชาติ, ทุนมนุษย์ และสินทรัพย์ต่างประเทศสุทธินั้น ขยายตัวขึ้น 66% สู่ระดับ 1,143 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 1995 จากระดับปี 2014 รายงานระบุว่า ความมั่งคั่งทั่วโลกระหว่างปี 1995-2014 เริ่มแพร่กระจายไปยังประเทศที่มีรายได้ในระดับปานกลาง เนื่องจากการเติบโตที่รวดเร็วของเอเชีย ขณะที่ประเทศในอันดับต้นๆของโลกที่มีรายได้สูงลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ประเทศส่วนใหญ่มีรายได้ต่อหัวเพิ่มขึ้นระหว่างปี 1995-2014 โดยรายได้ต่อหัวในประเทศที่มีรายได้ปานกลางนั้น มีการขยายตัวมากที่สุด รายงานดังกล่าวให้เหตุผลว่า ความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นผลมาจากการสั่งสมทุนมนุษย์ ซึ่งได้ประโยชน์จากการลงทุนมหาศาลเพื่อพัฒนาผลิตผลในด้านสุขภาพและการศึกษา อย่างไรก็ดี ความไม่เท่าเทียมกันยังคงมีปรากฎให้เห็นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงเวลาดังกล่าว โดยรายงานพบว่าความมั่งคั่งต่อหัวในประเทศที่มีรายได้สูงขององค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) นั้น มากกว่าความมั่งคั่งในประเทศรายได้ต่ำถึง 52%
ธนาคารโลก ชี้หาก Brexit ไม่ราบรื่น เสี่ยงกระทบการฟื้นตัวเศรษฐกิจยุโรปปีนี้
ธนาคารโลก (World Bank ) เตือนว่า หากสหราชอาณาจักรล้มเหล้วในการบรรลุข้อตกลงแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ด้วยกระบวนการที่ “ราบรื่น” แล้ว อาจสร้างความเสี่ยงอย่างร้ายแรงต่อเศรษฐกิจยุโรปที่กำลังฟื้นตัวในปี 2018 รายงานของธนาคารโลกฉบับล่าสุดซึ่งมีการเผยแพร่เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ระบุว่า การเจรจา Brexit ที่ยืดเยื้อจะเป็นปัจจัยลบต่อการตัดสินใจลงทุนทั่วภูมิภาคยุโรป โดยที่ผ่านมานั้น กระบวนการ Brexit ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของอังกฤษแล้ว นายฟรานซิสกา ไลเซลอตต์ ออห์นซอร์จ นักเศรษฐศาสตร์แห่งเวิลด์แบงก์ เตือนว่า “หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นในกระบวนการ Brexit อาจฉุดรั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจยุโรปที่กำลังฟื้นตัวอย่างมั่นคง” เขาระบุว่า “ยุโรปยังคงเผชิญกับปัจจัยความไม่แน่นอนที่อาจทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งอาจทำลายความเชื่อมั่นและฉุดรั้งการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ”