ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 3 ส.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,529.01 จุด ลดลง 21.27 (-1.37%)
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 3 ส.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,529.01 จุด ลดลง 21.27 (-1.37%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,528.63 จุด และสูงสุดที่ 1,546.11 จุด มูลค่าการซื้อขาย 51,342.55 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ KBANK ปิดที่ 123.00 บาท ลดลง 2.50 (-1.99%) มูลค่าการซื้อขาย 5,052.70 ล้านบาท CPALL ปิดที่ 61.25 บาท ลดลง 1.75 (-2.78%) มูลค่าการซื้อขาย 1,645.86 ล้านบาท PTT ปิดที่ 34.75 บาท ลดลง 0.50 (-1.42%) มูลค่าการซื้อขาย […]
จับตา ‘แบงก์ชาติอังกฤษ’ อาจปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% แตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี
เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2566 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) คาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นระดับสูงสุดในรอบ 15 ปีที่ 5.25% จาก 5.00% ในวันพฤหัสบดี (3 ส.ค.) ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับขึ้น 0.50% เช่นเดียวกับการปรับขึ้นในเดือนมิถุนายน โดยเป็นไปตามทิศทางอัตราเงินเฟ้อ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขึ้น 0.25% ในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ต่างจาก BoE ที่ตลาดคาดว่า ใกล้ถึงจุดสิ้นสุดของวงจรการคุมเข้มอัตราดอกเบี้ย เมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา ตลาดคาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยสูงสุดของ BoE จะอยู่ที่ 6.5% หลังจากอังกฤษเปิดเผยตัวเลขค่าแรงพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ก่อนที่การคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยสูงสุดจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 5.75% หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ชะลอตัวลง อย่างไรก็ดี ดัชนี CPI รายปีที่ระดับ 7.9% ในเดือนมิถุนายนนั้นอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมายที่ระดับ […]
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 2 ส.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,550.28 จุด ลดลง 5.78 (-0.37%)
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 2 ส.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,550.28 จุด ลดลง 5.78 (-0.37%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,546.23 จุด และสูงสุดที่ 1,562.07 จุด มูลค่าการซื้อขาย 54,924.46 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ KBANK ปิดที่ 125.50 บาท ลดลง 0.50 (-0.40%) มูลค่าการซื้อขาย 4,720.93 ล้านบาท PTTEP ปิดที่ 162.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 (+1.88%) มูลค่าการซื้อขาย 2,084.69 ล้านบาท BBL ปิดที่ 168.50 บาท ลดลง 3.00 (-1.75%) มูลค่าการซื้อขาย […]
‘ฟิทช์ เรตติ้ง’ หั่นเครดิตสหรัฐฯ เหลือ AA+
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ฟิทช์ เรตติ้ง สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำโลก ได้หั่นเครดิตสหรัฐฯ จากระดับ AAA เหลือ AA+ โดยให้เหตุผลเกี่ยวกับภาวะการถดถอยทางการคลังที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอีก 3 ปีข้างหน้า รวมถึงปัญหาภาระหนี้ภาครัฐที่เพิ่มมากขึ้น การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือครั้งนี้มีขึ้น หลังจากสภาอเมริกันสภาสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายเพดานหนี้ภาครัฐ เมื่อเดือนมิ.ย. หลังจากการหารือยืดเยื้อมาหลายเดือน นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ไม่เห็นด้วยกับการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือสหรัฐฯ ครั้งนี้ โดยระบุว่าเป็นการกระทำโดยลำพังและอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลเก่า เมื่อเดือนพ.ค. ฟิทช์ เรตติ้ง จับตาสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิดและส่งสัญญาณว่าจะปรับลดเครดิตจากความเสี่ยงทางการเมืองที่ใกล้ถึงจุดวิกฤตและภาระหนี้ที่สูงขึ้น ทั้งนี้ ในช่วงวิกฤตหนี้ภาครัฐ เมื่อปี 2554 สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของโลกอีกแห่ง ได้หั่นเครดิตอเมริกาลงหนึ่งระดับมาอยู่ที่ AA+ ไม่กี่วันหลังสหรัฐบรรลุข้อตกลงเพดานหนี้ โดยให้เหตุผลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมืองและขั้นตอนต่าง ๆ ในการจัดการด้านการคลังของประเทศ