ก.ล.ต. เตือนนักลงทุนเทรดบิทคอยน์ฟิวเจอร์ ต้องคำนึงความเสี่ยง
ก.ล.ต.เตือนผู้ลงทุนซื้อขายบิทคอยน์ฟิวเจอร์สในต่างประเทศ ต้องคำนึงถึงความสามารถในการรับความเสี่ยงของตนเอง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มองกรณีมีบริษัทหลักทรัพย์ได้ชักชวนนักลงทุนไปซื้อขายบิทคอยน์ฟิวเจอร์ส ในต่างประเทศ ว่าสามารถทำได้ เพราะผลิตภัณฑ์สัญญาฟิวเจอร์สที่ซื้อขายในตลาด The Chicago Mercantile Exchange และ The CBOE Futures Exchange นั้น เป็นตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในสหรัฐอเมริกาที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Commodity Futures Trading Commission ของสหรัฐอเมริกา (US CFTC) และเป็นผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอยู่ภายใต้การกำกับดูแลขององค์กรกำกับดูแลที่ได้มาตรฐาน จึงหมดห่วงเรื่องฉ้อโกง อย่างไรก็ตามผู้ลงทุนที่สนใจไปซื้อขายบิทคอยน์ฟิวเจอร์ส ในต่างประเทศ ต้องคำนึงถึงว่าตนสามารถรับมือกับความเสี่ยงได้มากน้องเพียงไร หากยังไม่พร้อมหรือมีความเข้าใจ้ด้านผลิตภัณฑ์ไม่มากพอก็ควรหลีกเลี่ยง
ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดลบ 2.64 จุด อยู่ที่ 1,792.81 จุด สวนทางภูมิภาค
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ปิดวันนี้ (8 ม.ค. 61) ที่ 1,792.81 จุด ลดลง 2.64 จุด หรือ ลบ 0.15% โดยระหว่างวันดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,813.17 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,792.81 จุด ณ เวลา 16:42 น. มีมูลค่าการซื้อขาย 78,320.68 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.AOT ปิดที่ 74.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 9,588.82 ลบ. 2.PTT ปิดที่ 466.00 บาท ลดลง -2.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย […]
ทรัมป์เตรียมเล่นงานจีนทางการค้า
สื่อPoliticoรายงานว่า ทำเนียบขาวกำลังเตรียมมาตรการทางภาษีที่จะเล่นงานจีนที่ได้เปรียบดุลการค้ากับสหรัฐค่อนข้างสูง สินค้านำเข้าเหล็กจากจีนอาจจะโดนกำแพงภาษีเล่นงานก่อน รวมทั้งมาตรการตอบโต้จีนที่ถูกกล่าวหาจากสหรัฐว่าละเมิดลิขสิทธิ์ของบริษัทอเมริกัน เส้นตายที่ทรัมป์จะใช้ใช้มาตรการตอบโต้จีนทางการค้าคือก่อนสิ้นเดือนมกราคมนี้ หลังจากที่ทรัมป์เสนอนโยบายต่อที่ประชุมสภาร่วม(State of the Union Address) ในเดือนพฤศจิกายน ทรัมป์บอกว่าการค้าระหว่างสหรัฐและจีนเป็นไปรูปแบบข้างเดียวที่จีนได้ประโยชน์ และไม่แฟร์ การค้าแบบนี้ไม่ยั่งยืน จีนเดินดุลการค้าสหรัฐปีหนึ่งมากกว่า$360,000ล้าน ทำให้ทรัมป์ใช้เป็นข้ออ้างในการใช้มาตรการทางภาษี หรือรูปแบบอื่นของลัทธิกีดกันการค้ามาตอบโต้
แบงก์ชาติจีนมองสภาพคล่องในระบบยังสูง ระงับอัดฉีดเงินติดต่อกันเป็นวันที่ 11
ธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยว่า ในวันนี้ธนาคารกลางจีนยังคงระงับการอัดฉีดเงิน ผ่านการดำเนินงานทางตลาดเงิน (Open Market Operations – OMO) ซึ่งนับเป็นการระงับอัดฉีดเงินติดต่อกันเป็นวันที่ 11 เหตุสภาพคล่องในระบบธนาคารยังอยู่ในระดับสูง ข้อตกลง reverse repo วงเงิน 4 หมื่นล้านหยวน (ประมาณ 6.17 พันล้านดอลลาร์) ได้ครบกำหนดไถ่ถอนในวันนี้ ซึ่งหมายความว่า สภาพคล่องในตลาดจะปรับตัวลดลง ขณะที่รายงานยังระบุว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีนได้ระบายสภาพคล่องออกจากตลาดการเงินทั้งสิ้น 5.10 แสนล้านหยวน
ทำไมที่ผ่านมาคนไทยถึงละเลยการเตรียมพร้อมเพื่อวัยเกษียณ
คนไทยที่หันมาสนใจเรื่องอนาคตวัยเกษียณ ก็เพราะเริ่มมองเห็นปัญหาของความไม่พร้อมด้านการเงินในวัยเกษียณได้ชัดขึ้น โดยอาจจะมองเห็นจากเคสในครอบครัว ญาติพี่น้อง คนรอบตัว หรือตามกระแสสังคมที่พูดถึงการที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยเฉพาะคนกลุ่มอายุ 40 ปีขึ้นไป ที่เป็นวัยเริ่มต้นสนใจสิ่งต่างๆ เหล่านี้ แต่เรื่องนี้ก็ยังมีคำถามคาใจหลายต่อหลายคน การเตรียมพร้อมด้านการเงินเพื่อวัยเกษียณมันสำคัญขนาดนั้นจริงหรือ ที่ผ่านๆ มา ทำไมคนรุ่นก่อนๆ ไม่เห็นมีปัญหาด้านเงินทองในวัยเกษียณ ไม่เห็นต้องดิ้นรนแสวงหาที่ลงทุน เก็บออมให้เงินงอกเงย ข้าราชการไทยที่เงินเดือนไม่ได้เยอะแยะมากมายที่เกษียณกันออกมาก็อยู่ได้ ไม่เดือดร้อน ไม่นับกลุ่มที่มีหนี้สินรุงรังจนถึงวัย 60 เป็นเรื่องจริง ผู้สูงวัยอายุที่รู้จักเก็บเงินตั้งแต่วัยทำงาน สามารถมีชีวิตที่ไม่ลำบากไปจนถึงสุขสบายตามอัตตภาพ ด้วยหลายสาเหตุ แต่สิ่งต่างๆ เหล่านั้นกำลังจะเปลี่ยนแปลงไป 1) ช่วงชีวิตวัยทำงานของพวกเขายังคาบเกี่ยวกับอดีตในยุคสมัยที่การฝากประจำกับธนาคารให้อัตราดอกเบี้ยในระดับมากกว่า 10%ต่อปี โดยไม่ต้องเสี่ยงไปลงทุนในหุ้นหรือทรัพย์สินใดๆ เพื่อแสวงหากำไร ทำให้มีเงินออมงอกเงยเพียงพอต่อการเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง แต่อดีตที่สวยงาม อัตราดอกเบี้ยเหล่านั้นได้หมดไปอย่างถาวรแล้ว 2) แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่วิถีชีวิตและการดำรงชีพในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงไปเท่าไรนัก ค่าใช้จ่ายโดยรวมในการใช้จ่ายหลังเกษียณจริงไม่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น จนมาถึงสักประมาณ 5-10ปีนี้ ที่วิถีชีวิตของคนไทยเริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทุกระดับ ทุกเพศ […]
เปิดมุมมองเศรษฐกิจสหรัฐปี 2018
มองเศรษฐกิจสหรัฐฯปี 2018 ยังแข็งแกร่ง ตลาดแรงงานฟื้นหนุนบริโภคภาคเอกชนขยายตัว ขณะที่การลงทุนเอกชนยังโตต่อเนื่อง ปี 2018 จะเป็นอีกปีที่ดีของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เรามองว่า Growth Momentum ของสหรัฐฯยังแข็งแกร่งต่อเนื่องจากปี 2017และจะเป็นปีที่เศรษฐกิจสหรัฐฯสามารถขยายตัวได้เหนือเส้นค่าเฉลี่ยในอดีต โดยแรงขับเคลื่อนสำคัญมาจากปัจจัยพื้นฐานของสหรัฐฯเป็นหลัก ภาพตลาดแรงงานที่ฟื้นตัวจะหนุนให้การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้ที่ 2.5% เช่นเดียวกับการลงทุนภาคเอกชนที่เติบโตต่อเนื่องโดยเราคาดว่าจะขยายตัวได้ที่ 4.3% ในปี 2018 จากการลงทุนเพิ่มของธุรกิจกลุ่มพลังงาน, การลงทุนในเครื่องจักรเพิ่มเติมทดแทนแรงงานคนบางส่วน สำหรับการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์น่าจะได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวหลังพายุเฮอร์ริเคนสิ้นสุดลง เรามองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะขยายตัวได้ที่ 2.5% ในปี 2018 เกินเกณฑ์ค่าเฉลี่ยระยะยาวซึ่งอยู่ที่ 1.75% ตลาดแรงงานสหรัฐฯมีแนวโน้มขยายตัวสูง อาจเข้าสู่ภาวะตลาดแรงงานตึงตัวในรอบหลายปีและมีความเป็นไปได้ที่อัตราว่างงานจะดิ่งลงต่ำ 4% ในปี 2018 เรายังมองว่าแรงส่งผ่านระหว่างค่าจ้างแรงงานและอัตราเงินเฟ้อยังมีอยู่จำกัดทำให้อัตราเงินเฟ้อ Core PCE ของสหรัฐฯยังไม่แตะ 2% ในปี 2018 นี้
เปิดมุมมองเศรษฐกิจสหรัฐปี 2018
มองเศรษฐกิจสหรัฐฯปี 2018 ยังแข็งแกร่ง ตลาดแรงงานฟื้นหนุนบริโภคภาคเอกชนขยายตัว ขณะที่การลงทุนเอกชนยังโตต่อเนื่อง ปี 2018 จะเป็นอีกปีที่ดีของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เรามองว่า Growth Momentum ของสหรัฐฯยังแข็งแกร่งต่อเนื่องจากปี 2017และจะเป็นปีที่เศรษฐกิจสหรัฐฯสามารถขยายตัวได้เหนือเส้นค่าเฉลี่ยในอดีต โดยแรงขับเคลื่อนสำคัญมาจากปัจจัยพื้นฐานของสหรัฐฯเป็นหลัก ภาพตลาดแรงงานที่ฟื้นตัวจะหนุนให้การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้ที่ 2.5% เช่นเดียวกับการลงทุนภาคเอกชนที่เติบโตต่อเนื่องโดยเราคาดว่าจะขยายตัวได้ที่ 4.3% ในปี 2018 จากการลงทุนเพิ่มของธุรกิจกลุ่มพลังงาน, การลงทุนในเครื่องจักรเพิ่มเติมทดแทนแรงงานคนบางส่วน สำหรับการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์น่าจะได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวหลังพายุเฮอร์ริเคนสิ้นสุดลง เรามองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะขยายตัวได้ที่ 2.5% ในปี 2018 เกินเกณฑ์ค่าเฉลี่ยระยะยาวซึ่งอยู่ที่ 1.75% ตลาดแรงงานสหรัฐฯมีแนวโน้มขยายตัวสูง อาจเข้าสู่ภาวะตลาดแรงงานตึงตัวในรอบหลายปีและมีความเป็นไปได้ที่อัตราว่างงานจะดิ่งลงต่ำ 4% ในปี 2018 เรายังมองว่าแรงส่งผ่านระหว่างค่าจ้างแรงงานและอัตราเงินเฟ้อยังมีอยู่จำกัดทำให้อัตราเงินเฟ้อ Core PCE ของสหรัฐฯยังไม่แตะ 2% ในปี 2018 นี้
จีนหวังปี 2020 ไร้คนจน เผย 5 ปีผ่านมายอดคนจนลดกว่า 2 ใน 3
นายหลิว หย่งฟู ผู้อำนวยการสำนักงานลดความยากจนและพัฒนาการของสภาแห่งรัฐของจีน กล่าวว่า ในช่วง 5 ปีมานี้ จีนสามารถลดจำนวนประชากรยากจนมากกว่า 2 ใน 3 โดยตัวเลขล่าสุดเมื่อปลายปี 2017 พบว่าจีนมีประชากรจำนวน 30 ล้านคนที่ต่ำกว่าเส้นความยากจนแห่งชาติ ลดลงจาก 98.99 ล้านคนเมื่อปี2012 “เรากำลังเข้าใกล้เป้าหมายในการขจัดความยากจนให้หมดสิ้นไปทั่วประเทศ” นายหลิวกล่าว ทั้งนี้ จีนตั้งเป้าที่จะขจัดความยากจนให้หมดสิ้น ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นภายในปี 2020 เพื่อสร้างสังคมที่มีความมั่งคั่งในระดับปานกลาง
ซาอุดิ อาราเบียเตรียมแปรรูป Aramco ซึ่งจะกลายเป็นบริษัทน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ในวันศุกร์ที่แล้ว ได้มีประกาศว่าอารัมโก้ได้เปลี่ยนสถานภาพเป็นบริษัทมหาชนเรียบร้อยแล้ว เพื่อทำให้การซื้อขายหุ้นเป็นไปตามกฎหมายหลักทรัพย์ รัฐบาลซาอุดิ มีแผนที่จะขายหุ้นของอารัมโก้ 5% ผ่านการทำไอพีโอในปีนี้ มีการคาดการว่าไอพีโอของอารัมโก้จะเป็นไอพีโอที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพราะว่าการขายหุ้น 5% ของอารัมโก้จะทำให้มีเงินเข้ามา $100,000 ล้าน และจะทำให้มาร์เก็ตแค็ปของอารัมโก้มีมูลค่า $2 ล้านล้าน ขนาดของอารัมโก้จะใหญ่กว่าExxon Mobilถึง5เท่า ฝ่ายบริหารของอารัมโก้กำลังพิจารณาว่าจะเอาหุ้นไปจดทะเบียนที่นิวยอร์ค ลอนดอน ฮ่องกง หรือโตเกียว แต่จะจดทะเบียนหุ้นในตลาดหุ้นซาอุดิประเดิมอยู่แล้ว
ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดที่ 1,795.45 จุด เพิ่มขึ้น 4.43 จุด
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ปิดวันนี้ (5 ม.ค. 61) ที่ 1,795.45 จุด เพิ่มขึ้น 4.43 จุด หรือ 0.25% โดยระหว่างวันดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,803.93 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,787.34 จุด ขณะที่มูลค่าการซื้อขาย ณ เวลา 16:57 น. มีมูลค่า 87,480.95 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.PTT ปิดที่ 468.00 บาท ลดลง -4.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 4,115.29 ลบ. 2.AOT ปิดที่ 72.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย […]