Economic Update: Fed-ECB Divergence คือ Keyword ใหม่ เมื่อตลาดมองว่า Fed จะคงดอกเบี้ย แต่ ECB พร้อมไปต่อ
โดย ดร.มิ่งขวัญ ทองพฤกษา Chief Economist, BBLAM Fed-ECB Divergence คือ Keyword ใหม่ เมื่อตลาดมองว่า Fed จะคงดอกเบี้ยแต่ ECB พร้อมไปต่อ คณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐฯ หรือ FOMC มีมติเป็นเอกฉันท์ (11-0) ให้ปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก 25 bps สู่กรอบ 5-5.25% เนื้อความในมติการประชุมครั้งนี้ ที่ต่างจากการประชุมครั้งก่อน คือ การประชุมครั้งนี้ไม่มีประโยคที่ว่า “คณะกรรมการเห็นควรให้คุมเข้มนโยบายการเงินต่อไป” ทำให้ตลาดคาดว่า Fed จะไม่ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. สำหรับ Key Point สำคัญ ระหว่าง Press Conference ได้แก่ ประธาน Fed ค่อนข้างจะ Bullish ต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยได้ให้ความเห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะขยายตัวในอัตราปานกลางและไม่ได้มองว่า […]
Fed กล่าว ไม่ Trade-Off เสถียรภาพของธนาคารกับเงินเฟ้อ แต่เป็นการขึ้นแบบ Dovish Hike ด้าน Dot Plot ชี้ยังขึ้นได้อีก 1 ครั้ง
โดย ดร.มิ่งขวัญ ทองพฤกษา Chief Economist, BBLAM Key Event คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FOMC มีมติเป็นเอกฉันท์ (11:0) ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 25 bp สู่กรอบ 4.75-5.0% โดยเนื้อความที่เปลี่ยนไปจากการประชุมครั้งก่อน ได้แก่ เครื่องชี้เศรษฐกิจรายเดือนสะท้อนการขยายตัวต่อเนื่อง ทั้งฝั่งการใช้จ่ายและการผลิตภาคอุตสาหกรรม การจ้างงานยังขยายตัวได้ดี ขณะที่อัตราว่างงานต่ำ ส่วนแรงกดดันอัตราเงินเฟ้อยังคงมีอยู่ ระบบธนาคารในสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง ส่วนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐฯ อาจจะส่งผลให้สภาพคล่องในระบบตึงตัวได้บ้าง และอาจจะกระทบกับการใช้สินเชื่อของภาคครัวเรือนและธุรกิจ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อ ทั้งนี้ ผลกระทบที่เกิดขึ้นอาจจะยังมีความไม่แน่นอน แต่ที่ยังคงแน่นอนเสมอมา คือ คณะกรรมการยังคงให้น้ำหนักกับอัตราเงินเฟ้อ อย่างไรก็ดี คณะกรรมการจะติดตามสถานการณ์ของธนาคารพาณิชย์อย่างใกล้ชิด แต่ ณ ขณะนี้ ยังคงทิศทางการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อไปในอนาคต เพื่อให้เป้าหมายเงินเฟ้อระยะกลางเข้าสู่เป้าหมาย 2% โดยยังยึดหลักการตัดสินใจอ้างอิงข้อมูลปัจจุบันและพร้อมเปลี่ยนทิศทางนโยบายการเงินหากจำเป็น (Data dependent) และยังคงเดินหน้าทำ QT […]
‘เฟด’ จับมือ 5 แบงก์ชาติ เสริมสภาพคล่องระบบการเงิน ผ่านการปรับสว็อปไลน์สกุลเงินดอลลาร์
เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2566 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศความร่วมมือกับธนาคารกลางแคนาดา, ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE), ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ), ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อเสริมสภาพคล่องให้ระบบการเงิน ผ่านการปรับธุรกรรมสว็อปไลน์สกุลเงินดอลลาร์ (U.S. dollar Swap Line) โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากข้อตกลงที่ทางการสวิสเป็นนายหน้าให้ UBS ซื้อธนาคารคู่แข่งของสวิส Credit Suisse เพื่อป้องกันการล่มสลายอย่างไม่เป็นระเบียบและส่งสัญญาณถึงความกังวลที่ธนาคารกลางมีต่อความวุ่นวายในระบบการเงินเมื่อเร็วๆ นี้ “เพื่อเป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพของธุรกรรมสว็อปไลน์ในการจัดหาสภาพคล่องสกุลเงินดอลลาร์ เฟดและธนาคารกลางอีก 5 แห่ง ซึ่งปัจจุบันได้ร่วมมือกันผ่านธุรกรรมดังกล่าวนั้น มีความเห็นตรงกันว่า เราจะเพิ่มความถี่ในการดำเนินการไถ่ถอนข้อตกลงสว็อปอายุ 7 วัน จากเดิมที่มีการไถ่ถอนเป็นรายสัปดาห์ เปลี่ยนเป็นการไถ่ถอนรายวัน โดยจะเริ่มตั้งแต่วันนี้ (20 มี.ค.) ไปอย่างน้อยจนถึงสิ้นเดือนเม.ย.” เฟดระบุในแถลงการณ์ร่วมกับธนาคารกลางอีก 5 แห่ง ทั้งนี้ การดำเนินการจะเริ่มในวันจันทร์และจะดำเนินต่อไปอย่างน้อยจนถึงสิ้นเดือนเมษายน […]
สหรัฐฯ ส่อวิกฤติ 3 แบงก์ปิดกิจการ! เฟดเปิดแผนช่วยเหลือลูกค้า
ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด เรียกประชุมฉุกเฉินในวันนี้ เพื่อทบทวนและกำหนดอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าและอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน แต่เป็นไปได้ว่า การปิดเอสวีบีเมื่อวันศุกร์ ทำให้เฟดต้องเร่งประชุมด่วน เฟด และบรรษัทรับประกันเงินฝากกลาง (เอฟดีไอซี) และผู้บริหารธนาคารกำลังหารือกันถึงเครื่องมือพิเศษชุดใหม่เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ฝากเงินและช่วยสกัดความตื่นตระหนก เอสวีบีเป็นธนาคารใหญ่สุดที่ล้มนับตั้งแต่วิกฤติการเงินปี 2551 สร้างผลสะเทือนไปทั่วระบบธนาคาร เงินฝากหลายพันล้านดอลลาร์ที่ไม่ได้รับการค้ำประกันจะเป็นอย่างไร ต้องรอผลการประชุมในวันจันทร์นี้ (13 มี.ค. 2566) ที่ผ่านมา คณะกรรมการกำกับดูแลภาคการเงินแคลิฟอร์เนีย มีคำสั่งปิด เอสวีบี และได้แต่งตั้งบรรษัทค้ำประกันเงินฝากกลาง (เอฟดีไอซี) เป็นผู้รับโอนสินทรัพย์ โดยเอฟดีไอซี ระบุว่า ผู้ฝากเงินที่ได้รับการค้ำประกันทุกคนจะเข้าถึงเงินฝากที่ค้ำประกันได้ทั้งหมดไม่เกินเช้าวันจันทร์นี้ แต่ 89% ของเงินฝาก 1.75 แสนล้านดอลลาร์ไม่ได้รับการค้ำประกันเมื่อสิ้นปี 2565 และยังไม่ทราบชะตากรรม เกร็ก เบคเกอร์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ เอสวีบี ไฟแนนเชียล ส่งสารผ่านวีดิโอไปยังพนักงาน 48 ชั่วโมงก่อนแบงก์ล้ม โดยยอมรับว่า “เป็นความยากลำบากอย่างไม่น่าเชื่อ” ปัญหาที่เกิดกับเอสวีบี เน้นย้ำถึงการที่เฟดและธนาคารกลางชาติอื่นๆ ต่อสู้เงินเฟ้อด้วยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้สร้างความเสี่ยงในตลาด ความกังวลกำลังเล่นงานภาคธนาคารอย่างมาก จากการคำนวณของรอยเตอร์ ช่วงสองวันนับถึงวันศุกร์ มูลค่าตลาดของธนาคารสหรัฐหายไปกว่า […]
BlackRock คาด “เฟด” ปรับขึ้นดอกเบี้ยสูงสุดที่ 6% หลังพาวเวลส่งสัญญาณจะสูงกว่าคาด
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2566 สำนักข่าว CNBC รายงานว่า BlackRock ผู้จัดการสินทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของโลก มองว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสูงสุดที่ 6% หลังจากเจอโรม เพาเวล ประธานเฟด เตือนว่าอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มจะสูงขึ้นกว่าที่ธนาคารกลางคาดไว้ก่อนหน้านี้ Rick Rieder ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนในตราสารหนี้ของ BlackRock ระบุว่า “คิดว่ามีโอกาสที่สมเหตุสมผลที่เฟดจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 6% แล้วคงไว้เป็นระยะเวลานาน เพื่อชะลอเศรษฐกิจและทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลงมาใกล้ 2% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเศรษฐกิจในปัจจุบันไม่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยเหมือนในทศวรรษที่ผ่านมาอีกต่อไป และความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจกลับทำให้เรื่องซับซ้อนขึ้นสำหรับเฟด” การเรียกร้องของ BlackRock สำหรับอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่ 6% เกิดขึ้นในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ของ Morgan Stanley กล่าวว่าคำแถลงการณ์ของพาวเวลได้เปิดประตูสู่การกลับมาปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% โดยในเดือนกุมภาพันธ์ เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในช่วง 4.50-4.75% ทั้งนี้ ธนาคารกลางสหรัฐมีกำหนดจะประชุมในวันที่ 21-22 มีนาคม 2566 ที่มา: รอยเตอร์
อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ในเดือนม.ค.ขยับขึ้นมาที่ 0.5% MoM ตลาดมอง Fed ปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกสองครั้ง
อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ในเดือนม.ค.ขยับขึ้นมาที่ 0.5% MoM จากเดือนก่อนหน้าที่หดตัว -0.1% MoM ซึ่งหากเรานำข้อมูลเงินเฟ้อของทั้งสองเดือนมาเทียบกัน จะเห็นได้ว่า ราคาจากกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ยังคงเป็นแรงหนุนหลัก · ด้านปัจจัยราคาพลังงานกลับ Turn เป็นบวกในช่วงเดือน ม.ค. (จากที่ติดลบในช่วงเดือน ธ.ค.) · นอกจากนี้ Bureau of Labor Statistics (BLS) ยังมีการขยับกรอบน้ำหนักของพลังงานลง และเพิ่มกรอบน้ำหนักไปที่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ด้วย · ย้อนกลับไปที่คำพูดของ Jerome Powell เกี่ยวกับ “Disinflation” เราพบว่า ราคาในหมวดสินค้าเป็นกลุ่มที่เข้าข่าย แต่ว่าราคาในกลุ่มภาคบริการยังคงตึงๆ คงจะต้องรออีกสักระยะที่ Disinflation จะเกิดในกลุ่มราคาของหมวดบริการ · ทั้งนี้ ตลาดมีมุมมองต่ออัตราดอกเบี้ยนโยบายในมุมที่ Hawkish กว่าเมื่อเดือนม.ค. โดยที่ตลาดมองว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะขยับไปอยู่ในกรอบ 5-5.25% ภายในครึ่งแรกของปีนี้ (ขยับขึ้น 25 bps […]
เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ประธานเฟดเผยมีแนวโน้มขึ้นมากกว่า 2 ครั้ง
เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด ประธานเฟดย้ำกระบวนการสู้เงินเฟ้อยังดำเนินต่อเนื่อง ปีนี้มีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 2 ครั้ง วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 บลูมเบิร์ก รายงานการประชุมคณะกรรมการการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ FOMC ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง 25 จุด ตามคาด สู่อัตราดอกเบี้ยช่วงเป้าหมายที่ 4.5%-4.75% ซึ่งนับเป็นการลดลงจากการขึ้น 50 จุดพื้นฐานในเดือนธันวาคมและการเคลื่อนไหว 75 จุดพื้นฐาน 4 ครั้งก่อนหน้า ในถ้อยแถลงระหว่างการแถลงข่าว โดยเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ อ้างถึงอัตราเงินเฟ้อรวมที่เพิ่มขึ้นและแผนการเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น คณะกรรมการยังคงให้คำมั่นว่าจะมีอัตราดอกเบี้ย “เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง” ซึ่งดูเหมือนจะยืนยันแผนการในเดือนธันวาคมที่จะปรับขึ้นอีก 1 ครั้ง ในไตรมาสนี้ ทั้งในเดือนมีนาคมและพฤษภาคม พาวเวลล์ยืนยันแผนการปัจจุบัน โดยกล่าวว่าจะต้องปรับขึ้น “มากกว่า 2 ครั้ง” เพื่อให้ได้นโยบายที่เข้มงวดและเหมาะสม อย่างไรก็ตาม พาวเวลล์กล่าวเป็นครั้งแรกว่า ที่คณะกรรมการสามารถสรุปได้ว่ากระบวนการแก้ปัญหาเงินเฟ้อได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว การปรับปรุงห่วงโซ่อุปทานกำลังช่วยในภาคสินค้าและสัญญาเช่าใหม่ชี้ไปที่การปรับปรุงในที่สุดของอัตราเงินเฟ้อที่อยู่อาศัย โดยโฟกัสหลักยังคงอยู่ที่ภาคบริการ ไม่รวมที่อยู่อาศัย ซึ่งตลาดแรงงานที่ตึงตัวมากอาจส่งผลต่อราคา น่าประหลาดใจที่พาวเวลล์ไม่กังวลเกี่ยวกับภาวะการเงินที่ผ่อนคลายเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยชี้ให้เห็นว่าเขาให้ความสำคัญกับแนวโน้มระยะยาวมากกว่า เขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับราคาตลาดสำหรับแผนการดูแลอัตราดอกเบี้ย โดยกล่าวว่าส่วนใหญ่สะท้อนถึงมุมมองของตลาดที่ว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงเร็วกว่าที่เขาคาดไว้ เขายังมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับโอกาสที่เงินเฟ้อจะลดลงอย่างนุ่มนวลและตลาดแรงงานดีขึ้นต่อเนื่อง S&P 500 พุ่งขึ้นมากกว่า 1% หลังจากพาวเวลล์กล่าวว่า “กระบวนการลดเงินเฟ้อได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว” พันธบัตรยังปรับตัวขึ้น และเงินดอลลาร์ร่วงลงเมื่อผู้ค้าดูดซับคำพูดของพาวเวลล์ อัตราผลตอบแทน 2 ปี ลดลงมากถึง 10 จุด เป็น 4.10% ในขณะที่อัตรา 10 ปี แตะ 3.38% ที่มา: บลูมเบิร์ก
เฟดขึ้นดอกเบี้ยต่อ แม้เสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย
ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ประกาศขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 7 ในปีนี้ ด้วยอัตรา 0.5% ตามการคาดการณ์ของตลาด พร้อมส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มถึงปีหน้าเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แม้มีความเสี่ยงที่ประเทศจะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยก็ตาม ธนาคารกลางฯ คาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะขึ้นไปจุดสูงสุดที่ 5.1% ในปี 2566 ซึ่งมากกว่าที่นักลงทุนและตลาดคาดการณ์ไว้ และค่อนข้างไม่เห็นด้วย หากอัตราดอกเบี้ยจะขยับถึงระดับนั้น โดยก่อนหน้านี้ ตลาดมองว่าดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จะแตะระดับสูงสุดที่ 4.6% ด้านเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางฯ ส่วนใหญ่ก็ประเมินว่า ดอกเบี้ยสหรัฐฯ จะสูงถึงระดับดังกล่าว มีเจ้าหน้าที่เพียง 2 คนจาก 19 คนเท่านั้นที่คาดการณ์ว่า ดอกเบี้ยนโยบายจะอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 5.0% ในปีหน้า อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางฯ ได้ส่งสัญญาณว่าการขึ้นดอกเบี้ยยังมีความจำเป็นอยู่ เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่พุ่งสูงสุดในรอบ 40 ปี ธนาคารกลางฯ ระบุว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องในกรอบเป้าหมาย มีความเหมาะสมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของนโยบายการเงินที่เข้มงวด ซึ่งจะทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่ระดับ 2% ตามที่ธนาคารฯ กำหนดไว้ […]
BF Monthly Economic Review Fed
BBLAM Monthly Economic Review : Fed ไม่รีบ แต่ Fed ไม่หยุด
โดย ดร.มิ่งขวัญ ทองพฤกษา Chief Economist จาก BBLAM การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐฯ หรือ FOMC ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มีมติเป็นเอกฉันท์ (12:0) ให้ปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น 75 bps สู่กรอบ 3.75-4.0% เช่นเดียวกับ การประชุมครั้งก่อนๆ ที่ประธาน Fed มักจะมีคำเด็ดไว้ให้นักข่าวใช้เล่นเป็นประเด็นให้ตีความ ซึ่งคำเด็ดในการประชุมครั้งนี้ คือ “Cumulative Tightening” แปลเป็นไทยได้ว่า “ตึงตัวสะสม” โดย Fed ได้นำคำนี้มาใช้ในบริบทที่ว่า คณะกรรมการของ FOMC จะพิจารณาว่า นโยบายการเงินที่เพิ่มระดับของความคุมเข้มมาเรื่อยๆ นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงปัจจุบัน จะไปส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และเสถียรภาพทางการเงินอย่างไร การที่ตัวเลขเศรษฐกิจยังดีมากในตอนนี้ ไม่ได้หมายความว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ สามารถรองรับกับ “ดอกเบี้ยที่ขึ้นรัวๆ ได้” เพียงแต่ตัวเลขเศรษฐกิจ มีความหนืดหรือภาษาทางเศรษฐศาสตร์ เรียกว่า Lagging […]
BF Monthly Economic Review Fed
BBLAM Monthly Economic Review: เมื่อ Fed ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ค่าเงินจึงกลายเป็นเรื่องสำคัญ
โดย ดร.มิ่งขวัญ ทองพฤกษา Chief Economist, BBLAM การประชุมนโยบายการเงินสหรัฐฯ (FOMC) ครั้งล่าสุด ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed ส่งสัญญาณหนักหน่วงว่า มื้อนี้ ต้องเอาเงินเฟ้อลงให้ได้ แม้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะสู่ขิตก็ยอมแลก เล่นเอาหลายๆ ประเทศอกสั่นขวัญแขวนค่ะ เพราะไม่ว่า Fed จะสามารถพิชิตภารกิจนี้ได้ไหม แต่ที่แน่ๆ การที่ Fed ดีดนิ้วหนึ่งครั้ง เท่ากับ น็อครอบธนาคารกลางอื่นไปแล้วสามรอบ ก็ Fed ขึ้นดอกเบี้ยครั้งละ 75 ตัง ทั้งที่ประเทศอื่นปรับขึ้นครั้งละ 25 ตัง และเมื่อ Fed มีความมุ่งมั่นเช่นนี้ ดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ก็ดีดนำประเทศชาติบ้านอื่นให้ส่วนต่างระหว่างกันกว้างขึ้นไปอีก น็อครอบประเทศอื่นไปหลายรอบสนามเลย เดือดร้อนญี่ปุ่น ต้องออกมาตรการมาป้องกันค่าเงินเยนที่อ่อนสุดโต่ง และเมื่อมีคนหนึ่งทำ อีกคนต้องทำตาม นั่นคือ เวียดนาม และประเทศกลุ่ม […]