สภาเศรษฐกิจโลกเสนอ 7 แนวทางเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ เพื่อลดขยะพลาสติก

สภาเศรษฐกิจโลกเสนอ 7 แนวทางเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ เพื่อลดขยะพลาสติก

เว็บไซต์สภาเศรษฐกิจโลก เสนอรายงาน 7 แนวทางเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์เพื่อลดขยะพลาสติก โดยชี้ว่า บรรจุภัณฑ์เป็นกลุ่มที่สร้างขยะพลาสติกมากกว่าอุตสาหกรรมอื่น ซึ่งที่ผ่านมาแบรนด์ต่างๆ พยายามลงทุนในแนวทางใหม่เกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์สำหรับผลิตภัณฑ์ โดยใช้ทางเลือกทดแทนพลาสติก หรือมีแนวคิดนำกลับมาใช้ใหม่เพื่อสร้างความยั่งยืนมากขึ้น มูลนิธิ  Ellen MacArthur ออกมาสนับสนุนกลยุทธ์ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจหมุนเวียน คือ การกำจัด การนำกลับมาใช้ใหม่ และการหมุนเวียนวัสดุ พร้อมเสนอ 7 แนวทางเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ ได้แก่ 1.การกำจัดโดยตรง เป็นแนวทางง่ายๆ ป้องกันขยะบรรจุภัณฑ์ โดยซูเปอร์มาร์เก็ตในสหรัฐฯ ยกเลิกใช้ฟิล์มพลาสติกที่ไม่จำเป็นกับผลิตภัณฑ์ เช่น กระป๋องหลายชิ้น ถ้วยโยเกิร์ต การ์ดอวยพร ไปจนถึง ผ้าปูเตียง ส่วนในอเมริกาเหนือ ห้างวอลล์มาร์ทก็หยุดใช้พลาสติกใสบรรจุตุ๊กตา และยกเลิกใช้ห่อหุ้มผักบางชนิด 2.การใช้นวัตกรรมใหม่ เพราะบางกรณีบรรจุภัณฑ์ก็ยังจำเป็น ซึ่งการออกแบบนวัตกรรมช่วยให้เกิดผลที่แตกต่างได้ เช่น คาร์ลสเบิร์กที่ทดแทนวงแหวนพลาสติที่ใช้กับเบียร์ที่ขายเป็นแพ็ค ด้วยการใช้กาวจุดทำให้กระป๋องติดกัน หรือ ICA Gruppen ในสวีเดน ใช้เลเซอร์แกะสลักฉลากบนผักและผลไม้สด แทนการใช้ฟิล์ม 3.การเติม กรณีที่จำกัดบรรจุภัณฑ์ไม่ได้ […]

สหรัฐฯ คาดการณ์ประชาชน 100 ล้านคน จะได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนาภายใน ก.พ. นี้

สหรัฐฯ คาดการณ์ประชาชน 100 ล้านคน จะได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนาภายใน ก.พ. นี้

ซีเอ็นบีซี รายงานว่า  ดร. Moncef Slaoui หัวหน้าโครงการวัคซีนเร่งด่วน ‘Operation Warp Speed’ กล่าวในระหว่างแถลงข่าวว่า สหรัฐฯ คาดว่าจะกระจายวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันไวรัสโคโรนาให้กับประชาชน 100 ล้านคนได้ ภายในสิ้นเดือน ก.พ. ที่จะถึงนี้ ซึ่งถือเป็นจำนวนวัคซีนที่มากเพียงพอจะปกป้องส่วนสำคัญของกลุ่มประชากรอเมิกันที่มีความเสี่ยงมากที่สุด โดยกลุ่มนี้ประกอบด้วย ผู้สูงอายุ คนทำงานในด้านการดูแลสุขภาพ และประชาชนคนอื่นๆ ที่อยู่ภายใต้เงื่อนไข นอกจากนี้ สหรัฐฯ มีโอกาสที่จะมีจำนวนวัคซีนมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนดังกล่าว ถ้าหากวัคซีนที่มีศักยภาพของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ได้รับอนุมัติด้วย โดยเขา คาดการณ์ว่า บริษัทจะเผยแพร่ข้อมูลการทดลองขั้นสุดท้ายได้ในเดือน ม.ค. ที่จะถึงนี้ รัฐบาลกลางสหรัฐฯ คาดการณ์ว่า จะส่งวัคซีนไฟเซอร์ 6.4 ล้านโดส ไปยังเขตปกครองทั่วประเทศได้ภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากที่คณะกรรมการอาหารและยาอนุมัติให้ใช้เป็นการฉุกเฉินได้ ขณะที่ พลเอก Gustave Perna หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของโครงการ Operation […]

‘Libra’ เปลี่ยนชื่อคริปโตเคอเรนซีใหม่เป็น ‘Diem’ หวังจะได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายกำกับ

‘Libra’ เปลี่ยนชื่อคริปโตเคอเรนซีใหม่เป็น ‘Diem’ หวังจะได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายกำกับ

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า ‘Libra’ (ลิบรา) คริปโตเคอเรนซีที่เฟซบุ๊กสนับสนุนได้มีการเปลี่ยนแบรนด์ใหม่ โดยใช้ชื่อว่า ‘Diem’ (เดียม) ซึ่งมาพร้อมกับความพยายามครั้งใหม่เพื่อที่จะได้รับอนุมัติจากฝ่ายกำกับ โดยยังคงเน้นที่ความเป็นอิสระของโครงการอยู่ แผนสำหรับลิบรา ที่เปิดตัวมาในตอนแรกโดยเฟซบุ๊กเมื่อปีก่อนนั้น ต้องถูกย่อให้เล็กลงในเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา หลังจากฝ่ายกำกับและธนาคารกลางต่างหยิบยกประเด็นความกังวลว่า ลิบราจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงิน รวมถึงการควบคุมนโยบายทางการเงิน และคุกคามความเป็นส่วนตัวด้วย กระทั่งเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา การเปลี่ยนชื่อของโครงการจาก ลิบรา เป็นส่วนหนึ่งของความเคลื่อนไหวในการปรับโครงสร้างให้เรียบง่าย และมีการปรับปรุงโครงการใหม่ โดยมี Stuart Levey ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สมาคมเดียม ที่ตั้งอยู่ในกรุงเจนีวา อยู่เบื้องหลังแผนงานเหรียญดิจิทัลนี้ “ชื่อเดิมของเหรียญถูกเชื่อมโยงกับรูปแบบโครงการในช่วงต้นซึ่งทำให้เกิดความยากลำบากในการได้รับการตอบรับจากหน่วยงานกำกับ เราจึงตั้งใจเปลี่ยนแปลง” Levey กล่าว สำหรับชื่อเดียม มีความหมายว่า ‘วัน’ ในภาษาละติน โดยมีเป้าหมายว่าจะเปิดตัวให้เป็นเหรียญดิจิทัลที่มีเงินดอลลาร์สหรัฐหนุนหลัง ทั้งนี้ เขาปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับช่วงเวลาที่จะเปิดตัว แต่จากรายงานของไฟแนนเชียล ไทม์ส ที่รายงานเมื่อสัปดาห์ก่อน คาดว่าการเปิดตัวจะมีขึ้นในเดือน ม.ค. ที่จะถึงนี้ และบอกแต่เพียงว่า จะเดินหน้าต่อได้หลังจากที่ได้รับการอนุมัติจากฝ่ายที่เฝ้าระวังในสวิสตเซอร์แลนด์ […]

เฟซบุ๊กซื้อสตาร์ทอัพบริการลูกค้า ‘Kustomer’

เฟซบุ๊กซื้อสตาร์ทอัพบริการลูกค้า ‘Kustomer’

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า เฟซบุ๊กออกมาเผยว่าบริษัทจะซื้อกิจการสตาร์ทอัพด้านการให้บริการลูกค้า ‘Kustomer’ เนื่องจากต้องการเพิ่มเครื่องมือดึงดูดผู้ขายจำนวนมากขึ้นเข้ามาอยู่ในแพลตฟอร์ม สำหรับ Kustomer จะทำให้ธุรกิจสามารถรวบรวมการสนทนากับลูกค้าจากหลายๆ ช่องทาง เข้ามาอยู่ในหน้าจอเดียวได้ และยังสามารถตอบสนองบางอย่างต่อผู้ซื้อแบบอัตโนมัติได้ด้วย ซึ่งปัจจุบันนี้ Kustomer ก็ให้บริการลูกค้ารวมอยู่ในเฟซบุ๊ก เมสเซนเจอร์ และอินสตาแกรมอยู่แล้ว การทำข้อตกลงครั้งนี้ จะทำให้เฟซบุ๊กสามารถขยายบริการธุรกิจในวอตส์แอปป์ได้ หลังจากที่มีบริษัทจำนวนมากขึ้นแห่กันไปใช้แอปข้อความนี้ในการตอบคำถามของลูกค้าในช่วงที่โควิด-19 แพร่ระบาด อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดด้านการเงินของการทำข้อตกลงนี้ ขณะที่ วอลล์สตรีท เจอนัล ซึ่งเป็นสื่อแรกที่รายงานเกี่ยวกับการเข้าซื้อกิจการนี้ ระบุไว้ว่า มูลค่าธุรกรรมของ Kustomer อยู่ที่ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เฟซบุ๊กมีการผลักดันอี-คอมเมิร์ซเพิ่มขึ้นเท่าตัว โดยตั้งเป้าหมายสร้างรายได้เพิ่มเติมจากการโฆษณา ท่ามกลางจำนวนผู้ใช้งานที่เติบโตลดลง เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเปิดตัว ‘Shops’ บริการที่จะอนุญาตให้ธุรกิจแสดงและขายผลิตภัณฑ์บนแพลตฟอร์มของเฟซบุ๊ก

นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์วัคซีนของจีนน่าจะได้รับความสนใจจากประเทศกำลังพัฒนา

นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์วัคซีนของจีนน่าจะได้รับความสนใจจากประเทศกำลังพัฒนา

ซีเอ็นบีซี รายงานว่า นักเศรษฐศาสตร์จากดีบีเอส เผยว่า ประเทศกำลังพัฒนาอาจต้องรอนานถ้าพวกเขาต้องรอวัคซีนที่ผลิตจากฝั่งตะวันตก แต่พวกเขามีทางเลือกวัคซีนจีน “เมื่อพิจารณาจากความต้องการวัคซีนหลายพันล้านโดส และความเสี่ยงที่จะอยู่ในช่วงปลายแถวของการรอวัคซีนจากตะวันตก ก็ทำให้วัคซีนจากจีนได้รับความสนใจ” Taimur Baig หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ และกรรมการผู้จัดการ ดีบีเอส กรุ๊ป รีเสิร์ช กล่าว แน่นอนว่า จะต้องมีการเร่งจัดหาวัคซีนจากตะวันตกเมื่อวัคซีนเหล่านี้ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับแล้ว และประเทศที่ยากจนอาจจะหาสิ่งเหล่านี้ได้ยาก จากข้อมูลของซิตี้ ประเทศพัฒนาแล้วได้ครอบครอง 85% ของคำสังซื้อล่วงหน้าแบบทวิภาคี สำหรับวัคซีนไวรัสโคโรนา โดยประเทศ เช่น สหรัฐฯ อังกฤษ ออสเตรเลีย แคนาดา และญี่ปุ่น รวมถึงประเทศในสหภาพยุโรป ได้มีการสั่งซื้อเอาไว้แล้วเกินกว่าจำนวนประชากรของตัวเอง ขณะที่ วัคซีนจากจีน ถือเป็นวัคซีนทางเลือกที่อยู่ในช่วงการทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 จากข้อมูลของกระทรวงการต่างประเทศจีน โดยพบว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายก่อนที่หน่วยงานกำกับภาครัฐจะอนุมัติวัคซีน ชิโนฟาร์ม หรือ บริษัทเภสัชกรรมสัญชาติจีน ได้ส่งคำขออย่างเป็นทางการไปยังหน่วยงานกำกับของจีนเมื่อสัปดาห์ก่อน เพื่อรอการอนุมัติ โดยบริษัทมีวัคซีนที่พัฒนา 2 วัคซีน แต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า […]

เอเชียอาจเผชิญความเสี่ยงจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงมากกว่าภูมิภาคอื่นในโลกภายในปี 2050

เอเชียอาจเผชิญความเสี่ยงจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงมากกว่าภูมิภาคอื่นในโลกภายในปี 2050

เว็บไซต์สภาเศรษฐกิจโลก (weforum.org) เสนอรายงานความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศและการตอบสนองในเอเชีย โดยระบุว่า เอเชียมีโอกาสเผชิญความเสี่ยงทางกายภาพจากสภาพอากาศมากกว่าจุดอื่นในโลก หากไม่ปรับตัวหรือบรรเทาปัญหา โดยคาดว่า ภายในปี 2050 ประชากรเอเชีย 600-1,000 ล้านคน จะอยู่อาศัยในพื้นที่ที่น่าจะเจอคลื่นความร้อนที่ร้ายแรง จากอัตราทั่วโลกอยู่ที่ 700-1,200 ล้านคน สะท้อนว่า ประชากรเอเชียคือคนส่วนใหญ่ที่เผชิญคลื่นความร้อน ทั้งนี้ เอเชียมีความน่าจะเป็นที่จะต้องเผชิญคลื่นความร้อนที่ร้ายแรงอย่างน้อย 1 ครั้ง ในทศวรรษ โดยคาดว่าภายในปี 2050 เอเชียจะต้องสูญเสียรายได้ 2.8-4.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ จากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เนื่องจากความเสี่ยงที่มาจากประสิทธิภาพการใช้เวลาทำงานกลางแจ้งที่ต้องสูญเสียไปเพราะความร้อนและความชื้นที่เพิ่มขึ้น จะทำให้ร่างกายของมนุษย์จะรู้สึกเหนื่อยมากขึ้นและต้องการพักบ่อยครั้งขึ้น สำหรับจีดีพีของเอเชีย เผชิญความเสี่ยง 2 ใน 3 ของจีดีพีทั่วโลกที่ได้รับผลกระทบ และคาดว่าเม็ดเงิน 1.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในตลาดหุ้นเอเชีย จะได้รับความเสียหายภายในปี 2050 ซึ่งคิดเป็น 75% ของผลกระทบทั่วโลก แม้เอเชียมีโอกากสรับผลกระทบจากความเสี่ยงสภาพอากาศสูงขึ้น แต่ว่ากลุ่มประเทศต่างๆ ได้รับผลกระทบแตกต่างกัน […]

ปี 2021 นักลงทุนมีโอกาสมากขึ้นในตลาดจีน เทคโนโลยียังเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ปี 2021 นักลงทุนมีโอกาสมากขึ้นในตลาดจีน เทคโนโลยียังเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

รายงานของ Credit Suisse ระบุว่า ตลาดจีนให้อัตราการเติบโตที่สูงและยังคงมีมูลค่าที่น่าสนใจ ด้วยจีนจะเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่อัตราการเจริญเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในปีนี้จะเป็นบวก หลังจากที่จีนสามารถจัดการกับการระบาดของโควิด-19 ให้อยู่อยู่ภายใต้การควบคุมได้ ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าในปี 2020 จีดีพีของจีนจะเติบโต 2.2% ตามด้วยการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วสู่ 7.1% ในปี 2021 Ray Farris ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนประจำภูมิภาคเอเชียใต้ของ Credit Suisse กล่าวในรายการ“ Street Signs Asia” ของซีเอ็นบีซีว่า จีนเป็นหนึ่งในประเทศไม่กี่แห่งที่มีภาคเทคโนโลยีที่น่าเชื่อถือและเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยตลาดเทคโนโลยีในประเทศจีนมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด โดยบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีมีความแข็งแกร่งมากและยากที่คู่แข่งรายใหม่จะพยายามแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดของตนไป แตกต่างจากสหรัฐฯ ที่ปัจจุบันเทคโนโลยีถูกมองว่าเป็นทางเลือกหนึ่งของการเพิ่มมูลค่าทางการค้า อีกทั้ง เมื่อเราพิจารณาจากประสิทธิภาพของเทคโนโลยีจีน จะเห็นว่าการประกาศข่าวเชิงบวกเกี่ยวกับวัคซีนเทคโนโลยีของจีนได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง เพราะในประเทศจีนเทคโนโลยีเป็นตัวแปรสำคัญที่ผลักดันการเติบโต บริษัทเทคโนโลยีของจีน กำลังแย่งส่วนแบ่งการตลาดจากผู้เล่นออฟไลน์ โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีก การดูแลสุขภาพและการศึกษา เป็นต้น โดยแนวโน้มดังกล่าวจะยังคงดำเนินต่อไป ดังนั้นการเติบโตที่แข็งแกร่งของจีนคือสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งในภาคเทคโนโลยี

สายการบินอาจต้องสูญเสียรายได้กว่า 1.57 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีนี้และปีหน้า

สายการบินอาจต้องสูญเสียรายได้กว่า 1.57 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีนี้และปีหน้า

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า สายการบินอาจจะต้องสูญเสียรายได้ประมาณ 157,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีนี้และปีหน้า โดยสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ออกมาปรับประมาณการใหม่เกี่ยวกับการสูญเสียรายได้ของธุรกิจสายการบินท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่สิ้นสุด โดยล่าสุดคาดการณ์ว่าเฉพาะในปีนี้สายการบินจะสูญเสียรายได้ไป 118,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะสูญเสียรายได้ในปีหน้าอีก 38,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มุมมองนี้สะท้อนว่าสายการบินยังคงเผชิญความท้าทายที่ยากลำบาก แม้จะมีข่าวการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ออกมาเป็นระยะ และคาดว่าน่าจะเริ่มมีการกระจายวัคซีนไปทั่วโลกได้ในปีหน้า “ข่าวที่กิดขึ้นมีผลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ แต่สำหรับการขนส่งทางอากาศแล้วผลจะยังไม่เกิดขึ้นจนกว่าจะถึงช่วงกลางปี 2021 แล้ว” Alexandre de Juniac ผู้อำนวยการ IATA กล่าว สำหรับจำนวนผู้โดยสาร คาดการณ์ว่าจะลดลงเหลือ 1,800 ล้านคนในปีนี้ จาก 4,500 ล้านคนในปี 2019 และคาดว่าจำนวนผู้โดยสารจะฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ในระดับ 2,800 ล้านคน ในปีหน้า ขณะที่รายได้จากผู้โดยสารในปี 2020 คาดการณ์ว่าจะลดลงไปถึง 69% เหลือ 191,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ “นี่คือเหตุการณ์ที่น่าตกใจมากๆ […]

อโกด้าชี้เอเชียเป็นผู้นำการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว

อโกด้าชี้เอเชียเป็นผู้นำการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว

ซีเอ็นบีซี รายงานว่า อโกด้า แพลตฟอร์มตัวแทนจำหน่ายท่องเที่ยวออนไลน์อย่างอโกด้า ออกมาให้ข้อมูลว่า การท่องเที่ยวของเอเชียกำลังฟื้นตัวอย่างรวดเร็วมากกว่าทางฝั่งตะวันตก โดยมีการท่องเที่ยวภายในประเทศเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ John Brown ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อโกด้า ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของตัวแทนจำหน่ายท่องเที่ยวอเมริกันอย่างบริษัท บุ๊คกิ้ง โฮลดิ้งส์ กล่าวว่า เอเชียถือเป็นผู้นำทางการฟื้นตัวด้านการท่องเที่ยว โดยเราเห็นการฟื้นตัวในไต้หวัน รวมถึงจุดหมายอย่างประเทศไทย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สามารถควบคุมโควิด-19 ได้ ซึ่งตลาดเหล่านี้เราพบว่ามียอดจองจากในประเทศดีมากๆ “การฟื้นตัวที่ดีเกิดขึ้นกับการท่องเที่ยวในประเทศของไต้หวัน ไทย รวมถึงเวียดนาม” เขา กล่าว อุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา หลายประเทศต้องปิดพรมแดนสำหรับนักท่องเที่ยวในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บางตลาดแม้จะกลับมาเปิดประเทศแล้ว แต่ความต้องการก็ยังอ่อนแอ “ในยุโรปและสหรัฐฯ การท่องเที่ยวในประเทศ ก็ดูดี ท่ามกลางจำนวนผู้ติดเชื้อที่ยังเพิ่มขึ้น แต่เอาจริงๆ แล้ว ตอนนี้สายตัวทั่วโลกก็มองมาที่เอเชียว่ามีการบริหารจัดการในประเทศอย่างไร

จีนเล็งเพิ่มมาตรการสนับสนุนประชากรมีลูกมากขึ้นในแผน 5 ปี รับมือสังคมสูงวัย

จีนเล็งเพิ่มมาตรการสนับสนุนประชากรมีลูกมากขึ้นในแผน 5 ปี รับมือสังคมสูงวัย

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า จีนวางแผนจะนำมาตรการใหม่เพื่อกระตุ้นให้มีการเกิดมากขึ้น และการรองรับประชากรผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นรวดเร็ว เข้าไปอยู่ในแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี (ปี 2021-2025) ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์ส อ้างอิงจากข้อมูลของไชน่าเดลีว่า จีนจะนำเสนอนโยบายการเงินและนโยบายที่สนับสนุนให้คู่รักมีลูกมากขึ้น “จะมีการนำเสนอนโยบายประชากรที่ครอบคลุมมากขึ้น เพื่อปรับปรุงภาวะการเจริญพันธุ์ คุณภาพแรงงาน และโครงสร้างประชากร” หยวน ซิน รองประธานสมาคมประชากรจีน กล่าว ที่ผ่านมา จีนเริ่มใช้นโยบายให้มีลูกคนเดียวในปี 1978 โดยระบุว่า ทำเพื่อลดความยากจน รวมทั้งมองว่า การพัฒนาเศรษฐกิจถูกทำลายจากประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบท อย่างไรก็ตาม จีนตัดสินใจผ่อนคลายนโยบายดังกล่าวตั้งแต่ปี 2016 โดยอนุญาตให้คู่รักมีลูกคนที่ 2 ได้ เพื่อรองรับการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของประชากรสูงอายุ เช่นเดียวกับแรงงานที่ลดน้อยลง โดยผู้เชี่ยวชาญบางคน มองว่า ถึงเวลาแล้วที่ควรจะยกเลิกข้อจำกัดไปทั้งหมด นักประชากรศาสตร์ เผยว่า จากข้อมูลสิ้นปีที่ผ่านมา จำนวนประชากรจีนอายุ 60 ปีขึ้นไป อยู่ที่ 254 ล้านคน คิดเป็น […]