‘เดลล์’ เตรียมปลดพนักงาน 6,650 ตำแหน่งทั่วโลก หวังลดต้นทุน
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก เปิดเผยว่า เดลล์ เทคโนโลยีส์ อิงค์ อาจปลดพนักงานราว 6,650 ตำแหน่ง เนื่องจากความต้องการซื้อคอมพิวเตอร์ลดลง กลายเป็นบริษัทเทคโนโลยีล่าสุดที่ประกาศปลดพนักงานหลายพันคนในปีนี้ หลังจากพีซีขายดีในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 บริษัทเดลล์และผู้ผลิตฮาร์ดแวร์รายอื่น เห็นว่า ความต้องการพีซีลดลง นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมนี้จากไอดีซี ระบุว่า ข้อมูลเบื้องต้น แสดงให้เห็นว่า การจัดส่งคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลลดลงมากในช่วงไตรมาสสี่ของปี 2565 ซึ่งเดลล์ลดลงมากถึง 37% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2564 และเดลสร้างรายได้จากการจำหน่ายพีซีได้ประมาณ 55% “เจฟฟ์ คลาร์ก” ประธานบริหารฝ่ายปฏิบัติการ และรองประธาน เดลล์ เทคโนโลยีส์ บอกพนักงานว่า มาตรการลดต้นทุนก่อนหน้า รวมทั้งการหยุดรับสมัครพนักงาน และจำกัดการเดินทางไม่เพียงพออีกต่อไป การปรับโครงการองค์กรด้วยการปลดพนักงาน ถือเป็นโอกาสขับเคลื่อนประสิทธิภาพบริษัท ซึ่งการปลดพนักงานครั้งนี้คิดเป็น 5% ของพนักงานเดลล์ทั่วโลก หลังปลดพนักงาน สำนักงานใหญ่ของเดลล์ ในเมืองราวน์ร็อครัฐเท็กซัส อาจมีพนักงานน้อยที่สุดในรอบ 6 ปีประมาณ 39,000 คน ซึ่งน้อยกว่าเดือนม.ค. 2563 และพนักงานเดลล์ในสหรัฐเหลือเพียง 1 ใน […]
UK อัมพาต ‘แรงงาน’ ครึ่งล้านผละงานประท้วง เรียกร้องเพิ่มค่าจ้าง-สุดทนค่าครองชีพมหาโหด
แรงงานมากกว่า 5 แสนคนพากันสไตรก์ผละงานในสหราชอาณาจักร เมื่อวันพุธ (1 ก.พ.) เพื่อเรียกร้องขอค่าจ้างเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้เครือข่ายการขนส่งเป็นอัมพาต และชั้นเรียนเป็นพันๆ หมื่นๆ ห้องมีแต่ความว่างเปล่า ในความเคลื่อนไหวประท้วงทางแรงงานครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ ทั่วทั้งยุโรปเวลานี้ กำลังต่อสู้กับวิกฤตค่าครองชีพ และการสไตรก์ ล่าสุดในสหราชอาณาจักรคราวนี้บังเกิดขึ้น 1 วันหลังจากผู้คนมากกว่า 1.27 ล้านคนออกมาประท้วงตามท้องถนนในฝรั่งเศส เพิ่มแรงบีบคั้นรัฐบาลแดนน้ำหอมที่กำลังพยายามผลักดันแผนปฏิรูป ซึ่งจะเพิ่มอายุลูกจ้างพนักงานที่มีสิทธิเกษียณ สมัชชาแรงงาน Trades Union Congress (TUC) ที่เป็นองค์การแรงงานใหญ่ของสหราชอาณาจักร เรียกการผละงานในวันพุธว่า เป็น “วันนัดผละงานประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2011” โดยผู้เข้าร่วมกลุ่มใหญ่ที่สุด ได้แก่ ครูอาจารย์ และคนขับรถไฟ เช่นเดียวกับพวกเจ้าหน้าที่ศุลกากรซึ่งประจำตามสนามบินและท่าเรือต่างๆ ของ UK ด้านนายกรัฐมนตรี ริซี ซูแน็ก ออกมาแถลงว่า จะขอดำเนินการปรับขึ้นค่าจ้างอย่างสมเหตุสมผล และตามความสามารถที่จะจ่ายได้ พร้อมเตือนว่า การปรับขึ้นค่าจ้างมากเกินไปจะบั่นทอนความพยายามควบคุมเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม ทางสหภาพแรงงานกล่าวหาเศรษฐีอย่างซูแน็ก ว่า […]
เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ประธานเฟดเผยมีแนวโน้มขึ้นมากกว่า 2 ครั้ง
เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด ประธานเฟดย้ำกระบวนการสู้เงินเฟ้อยังดำเนินต่อเนื่อง ปีนี้มีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 2 ครั้ง วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 บลูมเบิร์ก รายงานการประชุมคณะกรรมการการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ FOMC ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง 25 จุด ตามคาด สู่อัตราดอกเบี้ยช่วงเป้าหมายที่ 4.5%-4.75% ซึ่งนับเป็นการลดลงจากการขึ้น 50 จุดพื้นฐานในเดือนธันวาคมและการเคลื่อนไหว 75 จุดพื้นฐาน 4 ครั้งก่อนหน้า ในถ้อยแถลงระหว่างการแถลงข่าว โดยเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ อ้างถึงอัตราเงินเฟ้อรวมที่เพิ่มขึ้นและแผนการเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น คณะกรรมการยังคงให้คำมั่นว่าจะมีอัตราดอกเบี้ย “เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง” ซึ่งดูเหมือนจะยืนยันแผนการในเดือนธันวาคมที่จะปรับขึ้นอีก 1 ครั้ง ในไตรมาสนี้ ทั้งในเดือนมีนาคมและพฤษภาคม พาวเวลล์ยืนยันแผนการปัจจุบัน โดยกล่าวว่าจะต้องปรับขึ้น “มากกว่า 2 ครั้ง” เพื่อให้ได้นโยบายที่เข้มงวดและเหมาะสม อย่างไรก็ตาม พาวเวลล์กล่าวเป็นครั้งแรกว่า ที่คณะกรรมการสามารถสรุปได้ว่ากระบวนการแก้ปัญหาเงินเฟ้อได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว การปรับปรุงห่วงโซ่อุปทานกำลังช่วยในภาคสินค้าและสัญญาเช่าใหม่ชี้ไปที่การปรับปรุงในที่สุดของอัตราเงินเฟ้อที่อยู่อาศัย โดยโฟกัสหลักยังคงอยู่ที่ภาคบริการ ไม่รวมที่อยู่อาศัย ซึ่งตลาดแรงงานที่ตึงตัวมากอาจส่งผลต่อราคา น่าประหลาดใจที่พาวเวลล์ไม่กังวลเกี่ยวกับภาวะการเงินที่ผ่อนคลายเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยชี้ให้เห็นว่าเขาให้ความสำคัญกับแนวโน้มระยะยาวมากกว่า เขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับราคาตลาดสำหรับแผนการดูแลอัตราดอกเบี้ย โดยกล่าวว่าส่วนใหญ่สะท้อนถึงมุมมองของตลาดที่ว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงเร็วกว่าที่เขาคาดไว้ เขายังมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับโอกาสที่เงินเฟ้อจะลดลงอย่างนุ่มนวลและตลาดแรงงานดีขึ้นต่อเนื่อง S&P 500 พุ่งขึ้นมากกว่า 1% หลังจากพาวเวลล์กล่าวว่า “กระบวนการลดเงินเฟ้อได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว” พันธบัตรยังปรับตัวขึ้น และเงินดอลลาร์ร่วงลงเมื่อผู้ค้าดูดซับคำพูดของพาวเวลล์ อัตราผลตอบแทน 2 ปี ลดลงมากถึง 10 จุด เป็น 4.10% ในขณะที่อัตรา 10 ปี แตะ 3.38% ที่มา: บลูมเบิร์ก
IMF เพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปี 66 สหราชอาณาจักรเป็นประเทศเดียวที่จะเผชิญภาวะถดถอยปีนี้
IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกปีนี้ หลังการบริโภคและปัจจัยภายในของหลาย ๆ ประเทศออกมาดีเกิน เช่น สหรัฐอเมริกา และยุโรป นอกจากนี้ยังมีแรงสนับสนุนจากการเปิดประเทศของจีน และราคาน้ำมันและพลังงานเริ่มปรับตัวลง กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF คาดว่า เศรษฐกิจโลกในปีนี้จะขยายตัว 2.9% ซึ่งเป็นมุมมองเชิงบวกมากขึ้นจากคาดการณ์เดิมเมื่อเดือนตุลาคม ที่ประเมินว่า GDP โลกจะขยายตัว 2.7% อย่างไรก็ตาม ยังเป็นการเติบโตที่ชะลอตัวจากปี 2565 ที่อยู่ที่ 3.4% พร้อมคำเตือนว่าโลกอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยได้ ส่วนปี 2567 IMF คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะเร่งตัวขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 3.1% แต่ก็ยังต่ำกว่าที่คาดการณ์ในเดือนตุลาคมปีก่อน สาเหตุจากผลกระทบของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางในหลาย ๆ ประเทศที่พุ่งสูงขึ้นทำให้ความต้องการชะลอตัวลง ปิแอร์-โอลิวิเยร์ กูรินชาส์ (Pierre-Olivier Gourinchas) หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ IMF กล่าวว่า ความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้บรรเทาลงแล้ว และธนาคารกลางหลายๆ ประเทศเริ่มเห็นความสำเร็จในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ แต่ก็ยังมีงานอีกมากให้ต้องจัดการเพื่อควบคุมค่าครองชีพ รวมถึงความท้าทายจากภายนอก เช่น […]
สหรัฐอเมริกา เตรียมยกเลิกมาตรการคุมโควิด ตั้งแต่ 11 พ.ค. 2566
รัฐบาลสหรัฐอเมริกา ขอมูฟออน เตรียมยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินโรคโควิด-19 ในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้ หลังประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและมาตรการต่าง ๆ มานานเกือบ 3 ปี วันที่ 31 มกราคม 2566 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า คณะบริหารภายใต้การนำของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า สหรัฐอเมริกาจะยุติการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2566 หลังจากสหรัฐกำหนดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 มานานเกือบ 3 ปี สำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติและสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขจากโรคโควิด-19 (PHE) ซึ่งเป็นมาตรการที่ให้ความช่วยเหลือด้านการตรวจ รักษา และการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันด้วยวัคซีน เริ่มมาตั้งแต่รัฐบาลของนายโดนัลด์ ทรัมป์ และรัฐบาลของนายไบเดน ต่ออายุมาตรการมาอย่างต่อเนื่อง สำนักงานบริหารและงบประมาณของทำเนียบขาว (OMB) กล่าวในแถลงการณ์ว่า การประกาศดังกล่าวจะมีการต่ออายุไปจนถึง 11 พฤษภาคม 2566 และหลังจากนั้นจะยุติข้อตกลง หรือมาตรการดังกล่าว โดยการยุตินี้ เป็นไปตามคำมั่นของรัฐบาลสหรัฐว่าจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 60 […]
โควิดพ่นพิษ! ยอดขาย ‘สมาร์ทโฟน’ ในจีนปี 2022 ลดฮวบ 13% ต่ำสุดในรอบทศวรรษ
บริษัทวิจัยตลาดไอดีซี (IDC) เผยยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนในจีนปี 2022 ลดลง 13% แตะระดับต่ำสุดในรอบทศวรรษ โดยเป็นผลสืบเนื่องจากมาตรการควบคุมโควิด-19 ของรัฐบาลจีน บวกกับสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ซึ่งทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ลดการจับจ่ายใช้สอย รายงานจาก IDC ระบุว่า ยอดขายสมาร์ทโฟนในจีนอยู่ที่ 286 ล้านเครื่องในปี 2022 ลดลงจากสถิติ 329 ล้านเครื่องในปีก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นตัวเลขต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2013 และยังเป็นครั้งแรกด้วยที่ยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนในจีนลดต่ำกว่าระดับ 300 ล้านเครื่องต่อปี รัฐบาลปักกิ่งตัดสินใจหันหลังให้นโยบาย “โควิดเป็นศูนย์” และยกเลิกข้อจำกัดทางสังคมเมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่แล้วเพื่อกระตุ้นการบริโภค หลังเศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบอย่างหนักจากมาตรการคุมเข้มและล็อกดาวน์ที่ใช้มานาน 3 ปี “นโยบายคุมเข้มโควิดส่งผลให้การออมของภาคครัวเรือนจีนพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ และผู้บริโภคส่วนใหญ่ระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้น” ลูคัส จง (Lucas Zhong) นักวิจัยของ Canalys ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดสมาร์ทโฟนในจีนให้ความเห็น Vivo เป็นแบรนด์มือถือระบบแอนดรอยด์ที่ขายดีที่สุดในจีนประจำปี 2022 ด้วยส่วนแบ่งตลาด 18.6% ตามข้อมูลจาก IDC ทว่ายอดขายนั้นลดลง […]
B-HY (H75) AI Economy Morning Brief
เศรษฐกิจโลกปีนี้โตไม่เกิน 2% นักเศรษฐศาสตร์หั่นคาดการณ์หลังความเสี่ยงยังอยู่
ผลสำรวจรอยเตอร์ ชี้นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกปีนี้มีโอกาสเติบโตไม่เกิน 2% เนื่องจากมีแนวโน้มที่จะเผชิญความเสี่ยงมากขึ้น ซึ่งผลสำรวจนี้สวนทางกับหลายๆ คาดการณ์ก่อนหน้าที่เป็นไปในทิศทางบวก คาดการณ์ก่อนหน้ามองว่า ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลกจะไม่รุนแรง เนื่องจากราคาน้ำมันและพลังงานกำลังปรับตัวลง เช่นเดียวกับอัตราเงินเฟ้อในหลายๆ ประเทศที่ค่อยๆ ลดลงจากระดับสูงสุดในรอบหลายทศวรรษ อีกทั้งเศรษฐกิจของกลุ่มสหภาพยุโรปก็มีความยืดหยุ่นกว่าที่คาดและกำลังฟื้นตัว นอกจากนี้ จีนที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลกก็กลับมาเปิดประเทศอีกครั้งเป็นที่เรียบร้อย ปัจจัยดังกล่าวทำให้ดัชนีหุ้นทั่วโลกของ MSCI เพิ่มขึ้นเกือบ 20% มาแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (24 มกราคม) หลังลงไปแตะระดับต่ำสุดในเดือนตุลาคมปีก่อน แม้จะมีความเสี่ยงที่ธนาคารกลางในหลายประเทศจะคงขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปอีกสักพักก็ตาม อย่างไรก็ดี ผลสำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์ของรอยเตอร์กลับมีมุมมองที่ตรงข้ามกัน โดยพวกเขาได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้และปีหน้า จากเดิมที่มองว่าจะขยายตัว 2.3% และ 3.0% ตามลำดับ มาอยู่ที่ขยายตัวเพียง 2.1% และ 2.8% ตามลำดับ ขณะที่ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกปีนี้จะเติบโต 2.7% มากกว่าสองในสามของนักเศรษฐศาสตร์ที่ร่วมตอบแบบสอบถาม กล่าวว่า ความเสี่ยงต่อแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโลกคือการเติบโตช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ พร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่า […]
โฆษณาบนทวิตเตอร์ทรุดกว่า 70%
ค่าใช้จ่ายในการลงโฆษณาบนทวิตเตอร์ลดลง 71% ในเดือนธันวาคม 2565 หลังบรรดาลูกค้ารายใหญ่ที่ซื้อพื้นที่เพื่อลงโฆษณาพากันลดรายจ่ายในการโฆษณาบนแพลตฟอร์มหลังนายอีลอน มัสก์ เข้าซื้อกิจการ ข้อมูลล่าสุดจาก Standard Media Index (SMI) บ่งชี้ว่า หลังทวิตเตอร์พยายามแก้ปัญหาการแห่ถอนตัวของเหล่าผู้โฆษณา ซึ่งทางบริษัทได้นำเสนอโครงการริเริ่มมากมายเพื่อเอาชนะใจผู้ลงโฆษณา ทั้งการเสนอโฆษณาฟรีบางส่วน ยกเลิกข้อจำกัดการห้ามโฆษณาทางการเมือง และเปิดโอกาสให้บริษัทต่าง ๆ เข้ามากำหนดตำแหน่งของโฆษณาของตนเองได้มากขึ้น จากข้อมูลของ SMI นั้น รายจ่ายสำหรับการโฆษณาบนทวิตเตอร์ในเดือนพฤศจิกายน ร่วงลง 55% จากปีก่อนหน้า ซึ่งโดยปกติแล้ว เดือนเหล่านี้ของแต่ละปีจะเป็นช่วงเวลาที่แบรนด์ต่างๆ จะมาโปรโมทผลิตภัณฑ์ของตนเองในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว นอกจากนี้ การคาดการณ์จากพาร์ทเมติกส์ (Pathmatics) ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยอีกแห่งหนึ่งเปิดเผยว่า บริษัทต่างๆ ยุติการใช้จ่ายด้านการโฆษณาบนทวิตเตอร์ในเดือน พ.ย. ซึ่งเป็นเดือนเดียวกับที่มัสก์กู้คืนบัญชีที่ถูกแบน และเปิดระบบจ่ายเงินเพื่อรับเครื่องหมายยืนยันตัวตน (เครื่องหมายถูกบนพื้นหลังสีฟ้า) ส่งผลให้มีมิจฉาชีพที่ลอกเลียนแบบองค์กรต่างๆ ผุดขึ้นจำนวนมาก จากการประเมินของพาร์ทเมติกส์ ผู้โฆษณา 14 ใน 30 อันดับแรกบนทวิตเตอร์ยุติการโฆษณาทั้งหมดบนแพลตฟอร์ม หลังจากที่มัสก์เข้ามาบริหารทวิตเตอร์ในวันที่ 27 […]
ยูเอ็นเผย ‘โลกร้อน’ ทำให้ค้ามนุษย์สูงขึ้น
รายงานของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นโอดีซี) ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 24 มกราคม ระบุว่า มีหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกกำลังกลายเป็นต้นเหตุของการค้ามนุษย์ เนื่องจากกลุ่มก่ออาชญากรรมหาประโยชน์และเอารัดเอาเปรียบผู้ที่ได้รับผลกระทบจำนวนมาก รายงานที่รวบรวมข้อมูลจาก 141 ประเทศในช่วงปี 2017-2020 และบทวิเคราะห์การพิจารณาในชั้นศาลถึง 800 คดี ชี้ว่า ภาวะการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศกำลังเพิ่มช่องโหว่ของการค้ามนุษย์ ขณะที่การวิเคราะห์ผลกระทบจากภาวะโลกร้อนต่อการค้ามนุษย์ในระดับโลกอย่างเป็นระบบยังขาดหายไป แต่การศึกษาในระดับชุมชนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลกชี้ว่า หายนะจากสภาพอากาศเป็นสาเหตุพื้นฐานของการค้ามนุษย์ และยังส่งผลกระทบต่อภาคเกษตรกรรม การประมง และชุมชนอื่นๆ ที่ยากจน ซึ่งส่วนใหญ่พึ่งพาธรรมชาติเป็นหลักในการดำรงชีวิต ฟาบริซิโอ ซาร์ริกา ผู้เขียนหลักของรายงานยูเอ็นดีโอดีซี กล่าวว่า เมื่อผู้คนปราศจากปัจจัยยังชีพและถูกบังคับให้หนีจากชุมชน พวกเขาก็จะตกเป็นเหยื่อของผู้ค้ามนุษย์อย่างง่ายดาย แค่ในปี 2021 ภัยพิบัติจากสภาพอากาศได้ทำให้ผู้คนกว่า 23.7 ล้านคนต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่นภายในประเทศ ส่วนอีกหลายคนต้องหนีออกจากประเทศของตน และในขณะที่ภูมิภาคทั้งหมดของโลกกำลังเสี่ยงที่จะกลายเป็นพื้นที่ที่ไม่เอื้อต่อการอยู่อาศัยมากขึ้นเรื่อยๆ คนนับล้านจะต้องเผชิญกับความเสี่ยงสูงที่จะถูกแสวงหาประโยชน์ตามเส้นทางการอพยพ รายงานชี้ว่า เหยื่อการค้ามนุษย์ส่วนใหญ่จะเกิดจากปัจจัยด้านสภาพอากาศในแอฟริกาและตะวันออกกลาง และมีการค้ามนุษย์เพิ่มขึ้นที่บังกลาเทศและฟิลิปปินส์จากไซโคลนและไต้ฝุ่นหลายลูก ขณะที่หน้าแล้งและน้ำท่วมในกานาก็เป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้คนต้องอพยพเช่นกัน สงครามในยูเครนก็เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการค้ามนุษย์และถือเป็นสถานการณ์ที่อันตราย เพราะผู้คนหลายล้านคนหลบหนีออกจากประเทศที่บอบช้ำจากสงคราม การส่งการช่วยเหลือจากประเทศเพื่อนบ้าน และการเพิ่มการสนับสนุนต่างๆ ไปยูเครนจึงเป็นสิ่งสำคัญ […]
อย.สหรัฐฯ เล็งปรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เหลือเข็มเดียวต่อปี
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานเมื่อวันที่ 23 มกราคมว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐ (เอฟดีเอ) เสนอที่จะปรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้เหลือเพียงเข็มเดียวต่อปีเท่านั้น สำหรับผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพแข็งแรง โดยจะใช้วัคซีนโควิด-19 สูตรใหม่ (Bivalent) ในการฉีดรายปี ซึ่งเป็นรูปแบบการฉีดวัคซีนเดียวกับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เพื่อหวังที่จะทำให้แผนการฉีดวัคซีนโควิด-19 ง่ายยิ่งขึ้น เอฟดีเอเรียกร้องให้คณะกรรมการที่ปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญภายนอกพิจารณาการฉีดวัคซีนโควิด-19 จำนวน 2 เข็มต่อปี แก่เด็กเล็ก ผู้สูงวัย และบุคคลที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง พร้อมกับเสนอให้มีการปรับปรุงวัคซีนโควิด-19 ให้ตรงกับสายพันธุ์ต่างๆ คล้ายกับการที่วัคซีนไข้หวัดใหญ่จะปรับเปลี่ยนสูตรสายพันธุ์ใหม่ทุกปี โดยข้อเสนอดังกล่าวถูกระบุอยู่ในเอกสารสรุป ก่อนที่คณะกรรมการที่ปรึกษาจะมีการประชุมกันในวันที่ 24 มกราคมนี้ ตามเวลาในสหรัฐ เอฟดีเอ หวังว่าการปรับแผนการฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นแบบรายปีจะช่วยลดความซับซ้อนในการเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 และลดข้อผิดพลาดของหน่วยงานที่ให้บริการการฉีดวัคซีน โดยหวังว่ามาตรการทั้งหมดจะส่งผลให้อัตราการเข้ารับการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น หากที่ประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาภายนอกมีมติเห็นชอบแนวทางการฉีดวัคซีนรูปแบบใหม่ดังกล่าว วัคซีนสูตรใหม่ (Bivalent) ของบริษัทโมเดอร์นาและไฟเซอร์ที่มีความสามารถในการป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนและสายพันธุ์ดั้งเดิม จะเป็นวัคซีนโควิดหลักที่ใช้กันทั่วไป ไม่เพียงแค่ใช้เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นเท่านั้น ที่มา: รอยเตอร์