แอปเปิ้ลชี้ภาคธุรกิจอาจกระทบหากสหรัฐเดินหน้าสงครามการค้าต่อ
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า บริษัท แอปเปิ้ล ออกมาเตือนทางการสหรัฐว่าการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ แอปเปิ้ล ชี้ว่า การขึ้นกำแพงภาษี และการใช้มาตรการปกป้องทางการค้าอื่นๆ จะส่งผลกระทบต่อบริษัท โดยประเด็นนี้ถูกระบุไว้ในคำอธิบายงบการเงินที่ทางแอปเปิ้ลยื่นผลการดำเนินงานรายไตรมาสกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ในสหรัฐ โดยชี้ว่า กำแพงภาษีจะเพิ่มต้นทุนให้กับผลิตภัณฑ์ของบริษัท รวมถึงวัตถุดิบและส่วนประกอบที่ใช้ในการผลิตสินค้า ดังนั้นก็จะกระทบกับส่วนต่างกำไรของบริษัทไปด้วย ทั้งนี้ กำแพงภาษีจะทำให้ราคาผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่ขายให้ลูกค้าแพงขึ้น จึงเป็นผลให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีความสามารถในการแข่งขันลดลง และลดความต้องการของผู้บริโภคเช่นกัน นอกจากนี้ แอปเปิ้ลยังชี้ว่า ประเทศต่างๆ อาจจะมีมาตรการปกป้องทางการค้าอื่นๆ ออกมาเพิ่มเติม ซึ่งจะจำกัดความสามารถของบริษัทในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการ ขณะที่ ในการออกมานำเสนอข้อมูลกับนักวิเคราะห์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Tim Cook ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แอปเปิ้ล กล่าวว่า กำแพงภาษีที่กำลังจะประกาศเพิ่มเติมนั้น อาจไม่ได้กระทบผลิตภัณฑ์ของแอปเปิ้ลโดยตรง อย่างไรก็ตามเขาก็วางแผนจะแบ่งปันข้อเสนอแนะที่มีต่อรัฐบาล โดยมองว่า การปรับขึ้นกำแพงภาษีไม่ใช่เส้นทางปกติที่ควรเลือก
หัวเว่ยทำยอดขายสมาร์ทโฟนแซงแอปเปิ้ลเป็นครั้งแรก
ไชน่าเดลี รายงานว่า บริษัทวิจัยตลาด International Data Corp หรือ IDC ระบุว่า หัวเว่ย ได้แซงหน้าแอปเปิ้ลเป็นครั้งแรก และกำลังกลายเป็นผู้จัดจำหน่ายสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุดอันดับสองของโลก ทั้งนี้ระหว่างไตรมาส 2 ของปีนี้ ผู้จัดจำหน่ายสมาร์ทโฟนระดับโลก มียอดขายสมาร์ทโฟนทั้งหมด 342 ล้านเครื่อง ลดลง 1.8% เมื่อเทียบกับ 348.2 ล้านเครื่อง เมื่อไตรมาส 2 ปี 2017 ถือเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3 เป็นไปตามตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลก สำหรับซัมซุงยังคงเป็นเจ้าของตลาดสมาร์ทโฟนโลกด้วยยอดขาย 71.5 ล้านเครื่อง ลดลง 10.4% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนหัวเว่ย มียอดขาย 54.2 ล้านเครื่อง ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ในตลาดด้วยการทำสถิติใหม่มีส่วนแบ่งตลาด 15.8% ส่วนแอปเปิ้ล ตกอันดับลงไปอยู่อันดับที่ 3 เป็นครั้งแรก โดยมียอดขายเติบโตลดลงในไตรมาสที่ […]
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จับมือ สมาคมบริษัทจัดการลงทุน จัดงาน Mutual Fund Day 5 ส.ค. นี้
โครงการให้เงินทำงานผ่านกองทุนรวม โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) และสมาคมบริษัทจัดการลงทุน ได้จับมือจัดงาน Mutual Fund Day ครั้งที่ 3 กระตุ้นคนวัยทำงานโดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนทั้งข้าราชการและพนักงานบริษัทเอกชน ให้ตระหนักเรื่องการวางแผนและจัดสรรเงินเดือนสำหรับออมและลงทุนเพื่ออนาคต ผ่านผลิตภัณฑ์ทางการเงินทั้งกองทุนในระบบการออมเพื่อเกษียณอายุ เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) รวมถึงกองทุนรวมประเภทต่างๆ เช่น กองทุนรวม RMF, LTF และกองทุนรวมหุ้น ตลอดจนการจัดพอร์ตและรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมกับคนทำงาน เช่น การลงทุนสะสมสม่ำเสมอแบบ DCA ด้วยเงินจำนวนไม่มากแต่สามารถทำให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินในอนาคตได้ ทั้งนี้ ภายในงาน จัดให้มีสัมมนาหัวข้อ “ติดอาวุธให้มนุษย์เงินเดือน ตัวทำงาน ก็ต้องให้เงินเดือนทำเงิน” การสอนอ่าน Fund Fact Sheet อย่างง่ายในหัวข้อ “รีวิวกองทุนเข้าพอร์ตเองได้ แค่ใช้ Fund Fact sheet” พร้อมรับคำปรึกษาทุกคำถามกับผู้เชี่ยวชาญและเลือกซื้อกองทุนรวมเพื่อวางแผนไปให้ถึงเป้าหมายการเงิน โดยงานจะมีวันอาทิตย์ที่ 5 ส.ค.นี้ เวลา 9.30-16.30 น. […]
ทรัมป์เผยเตรียมเจรจาร่วมอิหร่านเร็วๆนี้ หวังผลประชุมจะออกมาด้วยดี
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ทรัมป์กล่าวว่า ผมหวังว่า การประชุมจะออกมาด้วยดี และรู้สึกว่า จะมีการเจรจาในเร็วๆนี้ หรืออาจจะไม่ก็ได้ และนั่นก็โอเคเหมือนกัน ทรัมป์ กล่าวเมื่อวานนี้ว่า การพบปะกันระหว่างผู้นำสหรัฐและอิหร่านถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับทั้ง 2 ฝ่ายและทั่วโลก ตนเองพร้อมที่จะประชุมกับผู้นำอิหร่านทุกเมื่อโดยปราศจากเงื่อนไขล่วงหน้าใดๆ ทำเนียบขาวได้ออกมาวิจารณ์ข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านอีกครั้ง และชี้ว่าเป็นการแสดงที่ย่ำแย่ ก่อนหน้านี้ โฮแกน กิดลีย์ รองโฆษกทำเนียบขาว กล่าวกับสื่อมวลชนว่า ทรัมป์ต้องการที่จะพบปะและต้องการที่จะได้ข้อสรุป นางฮีทเธอร์ เนาเอิร์ท โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยว่า นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐเองก็สนับสนุนแถลงการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับอิหร่านของทรัมป์
ธนาคารโลกเผยรายชื่อ 10 ประเทศที่ GDP สูงสุดในโลก
ไชน่าเดลี รายงานว่า ธนาคารโลก หรือเวิลด์แบงก์ ได้ออกรายงาน 10 อันดับประเทศที่มีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) มากที่สุดในโลกออกมา เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา โดยผลปรากฎว่า สหรัฐครองอันดับ 1 ด้วย GDP 19.39 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่จีน ตามมาเป็นอันดับ 2 ที่ 12.24 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งส่วนต่างระหว่าง GDP ของสหรัฐและจีนนั้นลดลงมาเมื่อเทียบกับปี 2016 ที่สหรัฐมี GDP 18.57 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนจีนมี GDP 11.20 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับประเทศที่มี GDP อยู่ในอันดับ 3-10 ของโลก ได้แก่ อันดับ 3 ญี่ปุ่น 4.87 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 4 […]
ญี่ปุ่นเผชิญวิกฤตขาดวัยแรงงาน ขณะที่อัตราว่างงานปรับขึ้นในเดือน มิ.ย.
กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า อัตราว่างงานปรับตัวขึ้นในเดือน มิ.ย. อยู่ที่ระดับ 2.4% เพิ่มขึ้นจากระดับ 2.2% ในเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ตามอัตราว่างงานยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำ ขณะที่ญี่ปุ่นกำลังประสบภาวะวิกฤตแรงงานอย่างหนัก รายงานระบุว่า อัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากประชาชนเลือกลาออกจากงานเก่า เพื่อหาอาชีพใหม่ที่สามารถเติบโตได้มากกว่า เมื่อปรับค่าตามฤดูกาลแล้ว ญี่ปุ่นมีผู้ว่างงานทั้งสิ้น 1.66 ล้านคน โดยมีจำนวนผู้สมัครใจลาออกจากงานอยู่ที่ 700,000 คน ขณะที่จำนวนผู้ถูกบังคับให้ออกจากงานอยู่ที่ 430,000 คน ด้านจำนวนเด็กจบใหม่ที่กำลังหางานอยู่ที่ 360,000 คน. รายงานจากกระทรวงระบุว่า สภาวะของตลาดแรงงานนั้นปรับตัวดีขึ้น โดย “การจ้างงานปรับตัวสูงขึ้นในหลายอุตสาหกรรม” สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับภาวะวิกฤตแรงงานในประเทศ อันเป็นผลมาจากการที่ประชากรผู้สูงอายุในประเทศมีเพิ่มขึ้น
ก.ล.ต. เปิดแนวคิดให้ผู้ประกอบธุรกิจซื้อขายผลิตภัณฑ์ตลาดทุนแทนลูกค้าได้ตามที่ลูกค้ายินยอม
ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นร่างหลักเกณฑ์ให้ผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า สามารถให้บริการซื้อขายผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนแทนลูกค้าได้ในขอบเขตที่จำกัดตามที่ลูกค้ายินยอม เพื่อเพิ่มโอกาสลงทุน และสนับสนุนการลงทุนที่หลากหลายให้แก่ผู้ลงทุน ก.ล.ต. มีแนวคิดในการแก้ไขประกาศที่เกี่ยวข้อง โดยจะอนุญาตให้ผู้แนะนำการลงทุนในสังกัดของผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีความถนัดด้านการลงทุนที่เท่าทันกับสถานการณ์ในตลาด สามารถตัดสินใจซื้อขายผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนแทนลูกค้าได้ โดยต้องได้รับความยินยอมและภายในขอบเขตที่ตกลงไว้ล่วงหน้ากับลูกค้า เพื่อขยายขอบเขตการให้บริการของผู้ประกอบธุรกิจ และตอบโจทย์ความต้องการของผู้ลงทุนได้ครอบคลุมและสะดวกมากขึ้น ทั้งนี้ ก.ล.ต. เคยเสนอแนวคิดดังกล่าวผ่านการรับฟังความเห็นในช่วงปลายปี 2017 และนำข้อคิดเห็นที่ได้รับไปหารือกับผู้เชี่ยวชาญ โดยในครั้งนี้ ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นการยกร่างกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง โดยมีรายละเอียดครอบคลุมการกำหนดขอบเขตของผลิตภัณฑ์ที่ผู้ประกอบธุรกิจสามารถให้บริการได้ ทั้งผลิตภัณฑ์ที่จดทะเบียนในตลาดทุนไทยและต่างประเทศ รวมถึงการกำหนดรายละเอียดของสัญญาการให้บริการ อาทิ การรับคำสั่งลูกค้า ซึ่งแนวทางที่เสนอจะเปิดให้สามารถตกลงกับลูกค้าเพื่อกำหนดหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่ลูกค้าต้องการซื้อขายจริงโดยไม่จำกัดจำนวน หากเป็นความประสงค์ของลูกค้า เพื่อให้ผู้ลงทุนมีทางเลือกและมีโอกาสลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่ต้องการ และจะมีการกำหนดอัตราขาดทุนสูงสุด โดยเปิดกว้างให้ผู้ให้บริการและลูกค้าสามารถร่วมกันกำหนดแนวทางการดำเนินการเมื่อถึงจุดต้องยุติขาดทุน (stop-loss limit) ได้ นอกจากนี้ ยังกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจมีหน้าที่ต้องปฏิบัติเพิ่มเติม เช่น จัดให้มีระบบการแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าทราบภายในระยะเวลาที่ตกลงกันในกรณีที่เกิดการขาดทุนเกินกว่ากำหนด เป็นต้น ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. https://capital.sec.or.th/webapp/phs/upload/phs1531993242hearing_29_2561.pdf ผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือทาง e-mail piyaruj@sec.or.th หรือ wasu@sec.or.th จนถึง วันที่ […]
จีนเข้าพักผ่าน Airbnb แตะ 10 ล้านคนแล้ว
ไชน่าเดลี รายงานว่า มีนักเดินทางชาวจีนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน ที่เข้าพักกับที่พักทั่วโลกซึ่งให้เช่าผ่าน Airbnb แพลตฟอร์มด้านการบริการที่พักแล้ว ในช่วง 10 ปีตั้งแต่ก่อตั้ง Airbnb มา Peng Tao ซึ่งกำลังจะรับตำแหน่งเป็นประธาน Airbnb ในจีนเดือน ก.ย. นี้ กล่าวว่า มากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนคนจีนที่ใช้บริการที่พักผ่าน Airbnb เป็นยอดที่เกิดขึ้นในปีที่แล้ว ขณะที่จำนวนที่พักในจีนที่เข้าร่วมให้บริการผ่าน Airbnb เติบโตมากกว่า 125% ในปีที่ผ่านมา ขณะที่จำนวนคนจีนที่ใช้บริการที่พักผ่านแพลตฟอร์ม Airbnb ในปี 2017 เติบโต 100% จากปีก่อนหน้า เขายังกล่าวอีกว่า ทีมงาน Airbnb ในจีนจะลงทุนในเชิงรุกกับตลาดจีน เพื่อรองรับเจ้าของบ้านที่มาร่วมให้บริการบนแพลตฟอร์มและช่วยสนับสนุนนักเดินทางชาวจีน รวมถึงเพื่อให้แน่ใจว่าจะมีผู้มาเยี่ยมเยือนประเทศนี้มากขึ้น สำหรับ Airbnb ก่อตั้งในปี 2008 เป็นตลาดกลางด้านที่พัก นำเสนอที่พักแรมมากกว่าล้านแห่งในมากกว่า 191 ประเทศ […]
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเวียงจันทน์ เชิญชวนช่วยเหตุน้ำท่วมลาว
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเวียงจันทน์ ได้ออกประกาศเชิญชวนร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในแขวงอัตตะปือและแขวงจำปาสัก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หลังจากที่ช่วงเช้าวันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา เกิดเหตุน้ำท่วมหนักในแขวงอัตตะปือและแขวงจำปาสัก ส่งผลให้สะพานที่เชื่อมต่อแขวงอัตตะปือกับแขวงจำปาสักได้รับความเสียหายอย่างหนักจนใช้การไม่ได้ และพังลง ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักทั้งด้านการคมนาคมและความเป็นอยู่ จึงขอเชิญร่วมบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุน้ำท่วมผ่าน 2 ช่องทาง คือ ช่องทางบัญชีที่สถานเอกอัครราชทูตฯ เปิดไว้ และช่องทางของแขวงอัตตะปือ อย่างไรก็ตาม Facebook Page : Royal Thai Embassy, Vientiane แจ้งเพิ่มเติมมาว่า ผู้มีจิตศรัทธาจากประเทศไทยจำนวนมากแจ้งว่าไม่สามารถโอนเงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยใน สปป. ลาว เข้าบัญชีตามที่ระบุในประกาศสถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ ที่ระบุได้ ซึ่งเป็นบัญชีที่เปิดในนครหลวงเวียงจันทน์ และขอให้สถานเอกอัครราชทูตฯ พิจารณาช่องทางให้สามารถบริจาคได้นั้น สถานเอกอัครราชทูตฯ อยู่ระหว่างการประสานงานเพื่อเปิดช่องทางรับบริจาคในประเทศไทยและจะแจ้งให้ทราบต่อไป ที่มา : Facebook : Royal Thai Embassy, Vientiane
ก.ล.ต. เริ่มเปิดรับคำขออนุญาตเป็นผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล
นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ก.ล.ต. เปิดรับคำขออนุญาตการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลแล้วตั้งแต่วันนี้ เนื่องจากประกาศกระทรวงการคลัง เกี่ยวกับการอนุญาตประกอบธุรกิจ มีผลใช้บังคับแล้ววันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถยื่นคำขอรับใบอนุญาตศูนย์ซื้อขาย นายหน้า หรือผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัลต่อ ก.ล.ต. ได้ ทั้งนี้ ผู้ยื่นขออนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลต้องมีคุณสมบัติสำคัญ คือ 1.เป็นบริษัทไทยที่เป็นบริษัทจำกัด หรือบริษัทจดทะเบียน 2.มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วตามที่กำหนด 3.มีความพร้อมด้านระบบงาน ฐานะทางการเงิน การควบคุม และการปฏิบัติงานที่ดี 4.ไม่ประสบปัญหาทางการเงิน 5.กรรมการ ผู้บริหาร และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ต้องขอความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. และไม่มีลักษณะต้องห้าม 6.ในกรณีประกอบธุรกิจอื่นอยู่ก่อนแล้ว ต้องเป็นกิจการที่ไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์กับการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เว้นแต่จะมีระบบป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่มีประสิทธิภาพ มีงบการเงินประจำปีงวดปีล่าสุดที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีที่สำนักงานให้ความเห็นชอบ และสามารถดำรงเงินกองทุนและกันเงินสำรองได้ตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายที่ควบคุมการประกอบธุรกิจของบริษัทนั้น หลักเกณฑ์นี้ใช้บังคับกรณีผู้ขอรับใบอนุญาตที่เป็นรายใหม่ และผู้ที่ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลอยู่เดิมตั้งแต่ก่อนที่พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลมีผลใช้บังคับในวันที่ 14 พ.ค. 2018 “ก.ล.ต. มีหน้าที่กำหนดมาตรฐานการประกอบธุรกิจ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ให้บริการมีระบบที่พร้อม ทั้งเรื่องการบริหารจัดการ ระบบงานต่างๆ […]










