วัตถุดิบโลกเสี่ยงขาดแคลนปีหน้า ความแห้งแล้ง และเอลนีโญยังกดดันการผลิตครึ่งปีแรก
ราคาอาหารที่สูงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ชาวนาทั่วโลกหันมาปลูกธัญพืชและพืชน้ำมันมากขึ้น แต่ผู้บริโภคก็ยังสุ่มเสี่ยงต่อการขาดแคลนทรัพยากรอาหารในปี 2567 โดยมีสาเหตุมาจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ข้อบังคับการส่งออกที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงคำสั่งผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพให้สูงขึ้น นักวิเคราะห์กล่าวว่า ราคาข้าวสาลี ข้าวโพด และถั่วเหลืองที่ดีขึ้นมาหลายปี กำลังตกต่ำลงในปีนี้ จากปัญหาคอขวดในทะเลแดงที่คลี่คลาย และความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกจะถดถอย แม้ว่าราคาของสินค้าจะยังมีความไม่มั่นคงก็ตาม Ole Houe ผู้อำนวยการการให้คำปรึกษาจาก IKON Commodities ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ทางด้านการเกษตรในประเทศออสเตรเลีย กล่าวว่า ภาพรวมราคาของธัญพืช ซึ่งเป็นพืชผลที่จำเป็นหลายชนิดจากแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญ เติบโตขึ้นในปี 2566 แต่ถึงอย่างนั้นความกังวลก็ยังไม่หมดไป คาดการณ์จาก IKON ระบุว่า ประเทศบราซิลจะปลูกข้าวโพดได้น้อยลงจากปรากฏการณ์เอลนีโญ คาดว่าสภาพอากาศจะแปรปรวนไปจนถึงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ในขณะที่ ประเทศจีนสร้างความตกตะลึงโดยการกว้านซื้อข้าวสาลีและข้าวโพดจากตลาดนานาชาติ ปรากฏการณ์เอลนีโญ ซึ่งสร้างภาวะความแห้งแล้งให้กับภูมิภาคส่วนใหญ่ในเอเชียในปีนี้ ได้รับการคาดการณ์ว่าจะดำเนินต่อไปถึงครึ่งแรกของปี 2567 ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงด้านเสบียงข้าวสาร ข้าวสาลี น้ำมันปาล์ม และผลผลิตอื่น ๆ ทั้งจากผู้ผลิตเพื่อส่งออกและนำเข้า นักธุรกิจและภาครัฐคาดว่า ผลผลิตข้าวสารจากทวีปเอเชียในครึ่งแรกของปี 2567 จะตกต่ำลง เนื่องจากสภาวะอากาศที่แห้งและปริมาณน้ำในเขื่อนที่ลดลงจะส่งผลต่อผลผลิต เสบียงข้าวสารของโลกในปีนี้ได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญ […]
เฟดลดดบ.แน่ แม้เปลี่ยนเก้าอี้ นโยบายการเงินยังคงเดิม
เฟดลดดอกเบี้ยแน่ แม้เปลี่ยนเก้าอี้ นโยบายการเงินยังคงเดิม นักวิเคราะห์มองลดเกิน 0.75% การหมุนเวียนสับเปลี่ยนตำแหน่งประจำปีของคณะกรรมการผู้มีสิทธิออกเสียง กำหนดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ในปี 2567 โน้มเอียงมาทางสายเหยี่ยว (hawkish) มากขึ้นกว่ากลุ่มที่กำลังจะพ้นตำแหน่งไปจากในปี 2566 อย่างไรก็ตาม การสับเปลี่ยนดังกล่าวจะไม่เปลี่ยนมุมมองต่อนโยบายสำคัญการหั่นอัตราดอกเบี้ยลงในปีหน้า นักวิเคราะห์จำนวนมากมีข้อโต้แย้งที่ตรงกันข้าม โดยอัตราเงินเฟ้อที่ร่วงลงรวดเร็วอย่างต่อเนื่องกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งมองว่าผู้กำหนดนโยบายของเฟดหลายคนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.75% การเปิดเผยดัชนีราคาค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (21 ธ.ค.) ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดชอบใช้ในการพิจารณา ยังได้เสริมให้มุมมองที่เฟดต้องลดดอกเบี้ยแข็งแรงมากขึ้นไปอีก ทั้งมาตรวัดเงินเฟ้อผู้บริโภคแบบทั่วไปและแบบพื้นฐานที่ไม่รวมอาหารและพลังงานนั้น ชะลอตัวลงมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า ซึ่งกำลังทำให้อัตราเงินเฟ้อรายปีในช่วง 3 เดือนและ 6 เดือนที่ผ่านมาของสหรัฐฯ ลดลงสู่ระดับหรือต่ำกว่าเป้าหมายที่ 2% ของเฟด ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ศูนย์กลางแรงโน้มถ่วงของการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดได้กลายมาเป็นสายพิราบ (dovish) หรือสายที่เน้นผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้นอย่างชัดเจน เนื่องจากหลักฐานจากข้อมูลที่สะสมมาเห็นชัดว่าแรงกดดันด้านราคาหรือเงินเฟ้อกำลังผ่อนคลายลง และตลาดแรงงานกำลังชะลอความร้อนแรงลงในการเผชิญกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดตั้งแต่เดือน มี.ค. ปี 2565 จนถึงเดือน ก.ค. ปี 2566 […]
ฮอนด้า เรียกคืนรถยนต์ 4.5 ล้านคันทั่วโลก รุ่นดัง ซีวิค-ซีอาร์วี โดนด้วย
รอยเตอร์ รายงานว่า หน่วยงานในอเมริกาของฮอนด้า มอเตอร์ กำลังเรียกคืนรถยนต์ประมาณ 4.5 ล้านคันทั่วโลก จากความเสี่ยงที่ปั๊มเชื้อเพลิงขัดข้อง การเรียกคืนครั้งนี้ ครอบคลุม รถยนต์จำนวน 2.54 ล้านคันในสหรัฐฯ โดยเกิดขึ้นหลังจากผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น เคยเรียกคืนรถยนต์ 628,000 คันในสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ในปี 2564 และ 136,000 คันในปี 2563 จากปัญหาเดียวกัน ฮอนด้า ได้เรียกคืนรถเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา จากปัญหาเดียวกันในจีนและญี่ปุ่น ทั้งนี้ บริษัทได้แจ้งต่อสำนักงานความปลอดภัยด้านการจราจรบนทางหลวงแห่งชาติสหรัฐฯ (NHTSA) ว่าจะทำการเปลี่ยนระบบปั๊มเชื้อเพลิงในรถให้ใหม่ และมีแผนที่จะแจ้งย้ำเรื่องการเรียกคืนรถอีกครั้งในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า การเรียกคืนรถยนต์ครั้งนี้ ครอบคลุมรถยนต์หลายรุ่น ในปี 2018-2020 ได้แก่ Honda Accord, Civic, CR-V, HR-V, Insight, Ridgeline, Odyssey, Passport และรุ่น Acura หลายรุ่น รวมถึง […]
ราคาน้ำมันดิบโลก พุ่ง 1% ดันเบรนท์ทะลุ 80 ดอลล์ วิตกความตึงเครียดในทะเลแดง
ราคาน้ำมันดิบโลก พุ่ง 1% ดันเบรนท์ทะลุ 80 ดอลล์ WTI เฉียด 75 ดอลล์ โดยสัญญาทั้งสองยังเพิ่มขึ้นมากกว่า 4% เป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน วิตกความตึงเครียดในทะเลแดง วันที่ 22 ธันวาคม 2566 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบโลก พุ่งขึ้นมากถึง 1% ในการซื้อขายวันศุกร์ (22 ธ.ค.2566) เนื่องจากความตึงเครียดยังคงมีอยู่ในตะวันออกกลาง ภายหลังการโจมตีเรือของกลุ่มฮูตีในทะเลแดง แม้ว่าการตัดสินใจของแองโกลาที่จะออกจากโอเปก (OPEC) ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพของกลุ่มในการสนับสนุนราคาน้ำมัน สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ หรือ 1.1% สู่ 80.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 04.09 น. GMT ขณะที่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) […]
ดอลลาร์อาจอ่อนค่าในปี 2567 โพลชี้สกุลเงินสหรัฐจะร่วงลงเมื่อเทียบ G10 ในครึ่งปีหลัง
การปรับแกนนโยบายสำคัญของธนาคารกลางสหรัฐฯ มาเป็นสายพิราบ (dovish) หรือผ่อนคลายทางการเงินในเดือน ธ.ค.ได้สนับสนุนกรณีการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐให้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องจนเข้าสู่ปี 2567 แม้ว่าความเข้มแข็งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจจำกัดการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากทะยานสูงสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ทศวรรษ จากการกลับมาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2565 ค่าเงินของสหรัฐฯ ได้เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบเป็นส่วนใหญ่ในปีนี้ จากการกลับมาของการเติบโตของสหรัฐฯ ที่ยืดหยุ่นกลับคืนสู่สภาพเดิม และการให้คำมั่นของธนาคารกลางจะยังคงรักษาต้นทุนการกู้ยืมให้สูงขึ้น การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งหนึ่งที่ไม่ได้คาดไว้ หลังจากประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ กล่าวว่า การคุมเข้มนโยบายการเงินครั้งประวัติศาสตร์ซี่งได้นำพาอัตราดอกเบี้ยไปสู่ระดับสูงสุดของเฟดในรอบหลายทศวรรษนั้น น่าที่จะจบลงแล้ว เนื่องจากการชะลอลงของอัตราเงินเฟ้อ ทั้งนี้ ผู้กำหนดนโยบายในขณะนี้ คาดการณ์ว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.75% ในปีหน้า อัตราดอกเบี้ยที่ร่วงลงโดยทั่วไปถูกมองว่าเป็นแรงต้านสำหรับเงินดอลลาร์ ทำให้สินทรัพย์ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐมีความน่าดึงดูดน้อยลงต่อนักลงทุนที่แสวงหาอัตราผลตอบแทน ถึงแม้ว่านักกลยุทธ์ได้คาดการณ์ว่าค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลงในปีหน้า ซึ่งความรวดเร็วของการหั่นอัตราดอกเบี้ยที่เร็วขึ้นอาจจะเร่งให้มีการปรับตัวลดลงของเงินดอลลาร์ การเดิมพันต่อการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ยังคงเป็นการดำเนินการที่ไม่น่าปลอดภัยในช่วงไม่กี่ปีมานี้ และนักลงทุนบางส่วนได้ระมัดระวังการดำเนินการก่อนช่วงเวลาที่เหมาะสม ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในกลุ่ม อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงอุปสรรคต่อนักลงทุนที่มองในขาลง (bearish) ของเงินดอลลาร์ โพลของรอยเตอร์ที่สำรวจนักกลยุทธ์ 71 รายเมื่อต้นเดือน […]
สื่อนอกตีข่าว ‘กสิกรไทย’ รุกตลาดคริปโท หนุนบริษัทระดมทุน ’โทเคนดิจิทัล’
สื่อนอกตีข่าว ‘กสิกรไทย’ รุกตลาดคริปโท เพื่อสนับสนุนให้เป็นเส้นทางการระดมทุนของบริษัทต่างๆ ผ่าน ’โทเคนดิจิทัล’ หลังจากเห็นศักยภาพของตลาดคริปโท ซึ่งย้อนแย้งกับทิศทางธุรกิจของสถาบันการเงินหลายแห่งที่ยังไม่เปิดรับคริปโทอย่างเต็มที่ สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (bloomberg) รายงานถึงธนาคารกสิกรไทย ธนาคารที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศไทย กําลังพัฒนาระบบนิเวศ ”สินทรัพย์ดิจิทัล” เพื่อเปิดโอกาสเส้นทางการระดมทุนสําหรับบริษัทต่างๆ ขณะที่สถาบันการเงินที่เป็นแหล่งเงินกู้ใหญ่ๆทั่วโลกยังคลางแคลงใจกับ ”คริปโท” เมื่อไม่นานมานี้ กสิกรไทยเข้าซื้อแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล Satang Corp. ซึ่งได้รับอนุญาตจาก สำนักงานก.ล.ต.ในเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ ที่ต่างจากผู้ให้กู้รายอื่นๆ โดยธนาคารมีแผนกที่ดูแลเรื่องเทคโนโลยีบล็อกเชนและบริการดูแลสําหรับโทเคนเสมือน พิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ให้สัมภาษณ์ว่า “ธนาคารกําลังแนะนําให้ลูกค้าบางรายออกโทเคนสําหรับการระดมทุน หลังจากที่เห็นศักยภาพในตลาดนี้ ทำให้ธนาคารจริงจังกับการพัฒนาระบบนิเวศของ digital-asset ที่จะคุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มดั้งเดิมที่มีอยู่” บริษัทไทยกําลังก้าวสู่โอกาสในสินทรัพย์ดิจิทัล เนื่องจากตลาดคริปโทกำลังปรับตัวขึ้น หลังจากตลาดขาลงตั้งแต่ปี 2564 รวมทั้งรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ยังเปิดรับเทคโนโลยีบล็อกเชนและได้มีนโยบายใช้ดิจิทัลวอลเล็ตเพื่ออํานวยความสะดวกในการแจกเงินสดมูลค่ากว่า 5.6 แสนล้านบาท โทเคนดิจิทัลต้นทุนต่ำ อย่างไรก็ตาม พิพิธไม่ได้ระบุว่า บริษัทใดได้รับคําแนะนําให้ออกเสนอขายโทเคน แต่เสริมว่า บริษัทเหล่านี้คุ้มค่ากว่าการใช้เงินกู้หรือการขายหุ้น รวมทั้งจะให้ผลตอบแทน โดย ก.ล.ต. หน่วยงานกํากับดูแลหลักทรัพย์ของไทยได้กําหนดนโยบายสําหรับการเสนอขายเหรียญโทเคนดิจิทัล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งภายใต้พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งธนาคารกสิกรไทยได้รับใบอนุญาตในการดำเนินกิจการและบางส่วนกำลังอยูระหว่างการอนุมัติ ตัวอย่างเช่น เมื่อปีที่แล้ว หน่วยของ Grammy Entertainment ร่วมกับ Broadcast Thai Television พยายามระดมทุนมากถึง 265 ล้านบาท (7.6 ล้านดอลลาร์) จากการเสนอโทเคนเพื่อช่วยสนับสนุนการลงทุนในภาพยนตร์ การเสนอขายเหรียญเฟื่องฟูทั่วโลกในปี 2560 แต่มูลค่าของโทเคนจํานวนมากล้มเหลวในเวลาต่อมา จากผลกระทบตลาดคริปโทขาลง ตามข้อมูลเผยว่าในเดือน พ.ย.2566 มีบัญชีซื้อขายคริปโทที่ใช้งานอยู่ประมาณ 116,000 บัญชี เมื่อเทียบกับจุดสูงสุดประมาณ 700,000 บัญชีในช่วงยุคเฟื่องฟูของสินทรัพย์ดิจิทัล ในช่วงการระบาดใหญ่ในปี 2564 ไม่เพียงแค่ธนาคารเท่านั้นที่เข้ามาในตลาดคริปโท โครงการคริปโทอื่นๆ ของไทยยังได้รับความสนใจ จาก สารัชถ์ รัตนาวะดี เจ้าของ Gulf Energy Development Pcl ผู้นำอุตสาหกรรมพลังงานและแชมป์มหาเศรษฐีไทยที่กังจะร่วมมือกับ Binance ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อเริ่มดำเนินการแพลตฟอร์มคริปโทในประเทศไทย ความเสี่ยงด้านคริปโท ด้านธนาคารกสิกรไทยจะปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่าง “ระมัดระวัง” พิพิธ กล่าว พร้อมเสริมว่า “ด้วยการกํากับดูแลที่เหมาะสมในหลายประเทศ ถึงเวลาแล้วสําหรับการขยายตัวที่ดีต่อองค์กร” เมื่อเดือนที่แล้ว Binance สารภาพกับการต่อต้านการฟอกเงินและการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และถูกลงโทษด้วยค่าปรับ 4.3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความเสี่ยงที่ทําให้ตลาดคริปโทเผชิญกับความกดดัน รัฐบาลต่างๆ เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ ดูไบ และสหภาพยุโรป กําลังพยายามส่งเสริมสินทรัพย์ดิจิทัล และสหรัฐเข้มงวดกับคริปโทมากขึ้น ขณะเดียวกันสถาบันการเงินทั่วโลก เช่น JPMorgan Chase & Co, HSBC Holdings Plc และ Franklin Templeton กําลังเริ่มต้นอย่างระมัดระวังในระบบใหม่ที่สร้างขึ้นจากบล็อกเชน แต่คงต้องรอดูกันต่อไปการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะเติบโตได้เร็วแค่ไหน ที่มา: บลูมเบิร์ก
ทุนอินเดียบุก Devyani International ทุ่ม 4.5 พันล้าน ซื้อ RD แฟรนไชส์ KFC ในไทย
วันที่ 19 ธันวาคม RD หรือ Restaurants Development หนึ่งในผู้บริหารแฟรนไชส์ของ KFC ในประเทศไทย ซึ่งมีสาขา 274 สาขา ประกาศผนึกพันธมิตรใหม่ Devyani International DMCC บริษัทในเครือ Devyani International Limited หรือ DIL หวังช่วยสปีดสาขา โดย RD ระบุว่า กลุ่มบริษัท DIL ในประเทศอินเดียเป็นกลุ่มบริหารจัดการขนาดใหญ่ในสายธุรกิจ QSR/LSR ให้กับแบรนด์ระดับโลก อย่าง KFC, Pizza Hut, Costa Coffee และกลุ่มธุรกิจในเครือ โดยมีเครือข่ายสาขามากกว่า 1,350 แห่งทั่วโลก ในความร่วมมือนี้ Devyani International DMCC บริษัทในเครือ Devyani International Limited (DIL) เซ็นสัญญาลงทุนในบริษัท RD เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนธุรกิจ QSR ในประเทศไทย […]
Goldman Sachs ปรับลดคาดการณ์ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ เหลือ 70-90 ดอลล์/บาร์เรล ในปี 67
Goldman Sachs ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ เหลือ 70-90 ดอลล์/บาร์เรล ในปี 67 ผลพวงจากการผลิตที่แข็งแกร่งจากสหรัฐอเมริกาจะช่วยลด upside ของราคาน้ำมัน วันที่ 18 ธันวาคม 2566 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า Goldman Sachs ปรับลดคาดการณ์ “ราคาน้ำมันดิบเบรนท์” (Brent) ในปี 2567 ลง 10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เหลือระหว่าง 70-90 ดอลลาร์ โดยกล่าวว่า การผลิตที่แข็งแกร่งจากสหรัฐอเมริกาจะช่วยลด upside ของราคาน้ำมันได้ นักวิเคราะห์ Goldman Sachs กล่าว เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.2566 ว่า “เรายังคงมองหาราคาที่มีขอบเขตจำกัดและมีความผันผวนของราคาในระดับปานกลางเท่านั้นในปี 2567 กำลังการผลิตสำรองที่เพิ่มขึ้นเพื่อรับมือกับแรงกระแทกที่ตึงตัวควรจำกัดการเคลื่อนไหวของราคาขาขึ้น” ขณะนี้ Goldman Sachs คาดว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะฟื้นตัวสู่จุดสูงสุดที่ 85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเดือนมิถุนายน 2567 และจะเฉลี่ยอยู่ที่ […]
ญี่ปุ่นปรับครม.ครั้งใหญ่ หลังคะแนนนิยมรัฐบาลดิ่งเป็นประวัติการณ์
คะแนนนิยมของคณะรัฐมนตรีนายกรัฐมนตรี ฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น ลดลงเหลือร้อยละ 17.1 ในเดือนธันวาคม ต่ำที่สุดนับตั้งแต่พรรคเสรีประชาธิปไตย หรือ แอลดีพี กลับมาบริหารประเทศอีกครั้งในเดือนธันวาคม 2012 หลังเหตุอื้อฉาวเรื่องการเงินและสินบนของคนในรัฐบาล จนต้องปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่ ผลสำรวจความเห็นประชาชนที่จัดทำ โดยสำนักข่าวจิจิ เพรส ระหว่างวันศุกร์ถึงวันจันทร์ที่ผ่านมา และเผยแพร่ผลการสำรวจในวันนี้พบว่า คะแนนนิยมของรัฐบาลลดลงเหลือร้อยละ 17.1 ในเดือนธันวาคม ลดลง 4.2 จุดเมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อเดือนพฤศจิกายน และยังเป็นครั้งแรกที่คะแนนนิยมลดลงไปต่ำกว่าร้อยละ 20 นับตั้งแต่เดือนกันยายน 2009 โดยในตอนนั้นรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีทาโร อาโสะ ได้รับคะแนนสนับสนุนเพียงร้อยละ 13.4 สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ส่งผลให้เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. นายกรัฐมนตรี คิชิดะ ต้องขยับปรับคณะรัฐมนตรีเป็นรอบที่ 3 ภายในระยะเวลา 16 เดือน หลังจากเข้าดำรงตำแหน่งผู้นำญี่ปุ่น นายอิโรคาสุ มัตสึโนะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ซึ่งทำหน้าที่โฆษกรัฐบาลประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังจากที่รัฐมนตรี […]
COP28 บรรลุข้อตกลง ลดใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
ผู้แทนจากเกือบ 200 ประเทศเห็นพ้องกับข้อตกลงในการประชุมสุดยอดสภาพภูมิอากาศ COP 28 เมื่อวันพุธที่นครดูไบ เรื่องเริ่มลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลทั่วโลกและให้ใช้พลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เลวร้ายที่สุด สำนักข่าวรอยเตอร์และเอเอฟพี รายงานว่า ผู้แทนจาก เกือบ 200 ประเทศเห็นพ้องในข้อตกลงการประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประ ชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 28 หรือ COP28 ที่นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อวันพุธที่ 13 ธันวาคม 2566 ข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากการเจรจาที่ดำเนินมาเกือบ 2 สัปดาห์ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งสัญญาณอันทรงพลังไปยังนักลงทุนและผู้กำหนดนโยบายว่าโลกเป็นหนึ่งเดียวกันด้วยความปรารถนาที่จะลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล สุลต่านอัล จาเบอร์ ประ ธาน COP28 เรียกข้อตกลงนี้ว่าเป็นข้อตกลงประวัติศาสตร์ แต่เสริมว่าความสำเร็จที่แท้จริงของข้อตกลงนี้อยู่ที่การนำไปปฏิบัติ เขากล่าวกับที่ประชุมเมื่อวันพุธว่า เราเป็นสิ่งที่เราทำ ไม่ใช่สิ่งที่เราพูด เราต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็น เพื่อเปลี่ยนข้อตกลงนี้ให้เป็นการกระทำที่จับต้องได้ สุลต่านอัล จาเบอร์ กล่าวว่า โลกจำเป็นต้องค้นหาวิธีการใหม่และโดยการติดตามดาวเหนือของเรา เราก็พบเส้นทางใหม่ เขากล่าวอ้างถึงเป้าหมายในการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยไม่ให้อุณหภูมิของโลกร้อนขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส ข้อตกลงในที่ประชุม […]