ลุ้นช่วง Golden Week ของจีน นักท่องเที่ยวแห่เข้าไทยโต 500% รับมาตรการฟรีวีซ่า
สำนักข่าวโกลบอลไทมส์ของจีน รายงานว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนเตรียมแห่เดินทางออกนอกประเทศในช่วงเทศกาลวันหยุด Golden Week ซึ่งตรงกับวันที่ 29 ก.ย.-6 ต.ค. บริษัทท่องเที่ยวหลายแห่ง เปิดเผยว่า การเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวจีนในช่วง Golden Week ถือเป็นการเดินทางท่องเที่ยวออกนอกประเทศครั้งใหญ่ที่สุดของชาวจีน นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 และการเดินทางไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งได้แรงกระตุ้นจากการผ่อนคลายนโยบายของไทย จะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อไป สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีของไทย ได้เป็นประธานให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวตามมาตรการวีซ่าฟรีชั่วคราวให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน และคาซัคสถาน โดยเริ่มวันนี้เป็นวันแรก ตัวแทนจากบริษัท Spring Tours เปิดเผยว่า ชาวจีนให้ความสนใจต่อมาตรการวีซ่าฟรีของไทยเป็นอย่างมาก จนทำให้แพคเกจทัวร์ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.-1 ต.ค. ถูกขายจนเกือบเต็มแล้ว ขณะที่ แพคเกจทัวร์สำหรับวันที่ 2-6 ต.ค.ก็เหลืออีกไม่มากนัก ส่วน Trip.com เปิดเผยว่า การค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวของไทยพุ่งขึ้น 800% นับตั้งแต่ที่ไทยประกาศมาตรการวีซ่าฟรี และคาดว่า ชาวจีนจำนวนมากจะเดินทางเข้ามายังประเทศไทยในช่วงเทศกาล Golden […]
ต่างชาติ ฟันธง ‘บาทไทย’ จ่อแข็งค่าแตะ 34 บาทต่อดอลล์ หวังเศรษฐกิจฟื้น – ท่องเที่ยวรีบาวด์
นักวิเคราะห์ต่างชาติ ฟันธง “เงินบาทไทย” จ่อแข็งค่าขึ้น 5% แตะ 34 บาทต่อดอลลาร์ หวังเศรษฐกิจฟื้น และคาดการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติพุ่ง สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานถ้อยแถลงของนักวิเคราะห์จาก Ebury และ Societe Generale SA วันนี้ (25 ก.ย.66) ว่า “เงินบาทไทย” มีแนวโน้มฟื้นตัวแตะระดับ 34 บาทต่อดอลลาร์ จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน โดยนักกลยุทธ์ตลาดเงินที่ Ebury และ Societe Generale SA คาดว่า เงินบาทไทยจะปรับตัวมาอยู่ที่ 34 บาทต่อดอลลาร์ ภายในสิ้นปี ซึ่งแข็งกว่าระดับปัจจุบันมากกว่า 5% โดยค่าเงินบาทที่มีเสถียรภาพจะช่วยลดภาระหนี้ของภาครัฐ (Sovereign Debt) และลดแรงกดดันต่อตลาดหุ้นไทย ตามรายการของบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี “ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ปัจจัยเสี่ยงเฉพาะตัวของไทยที่กระทบต่อเศรษฐกิจลดลงอย่างมาก เริ่มต้นจากความไม่แน่นอนทางการเมือง รวมไปถึงมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน” […]
‘เงินเฟ้อญี่ปุ่น’ ส.ค.66 เหนือเป้าหมาย BOJ ติดต่อเป็นเดือนที่ 17
เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2566 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของญี่ปุ่นทรงตัวในเดือนสิงหาคม และอยู่เหนือเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางญี่ปุ่นเป็นเดือนที่ 17 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นสัญญาณของแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น อาจส่งผลให้ BOJ เริ่มพิจารณายกเลิกการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ (Ultra-loose Policy) โดยดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมราคาอาหารสด แต่รวมเชื้อเพลิง เพิ่มขึ้น 3.1% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี สูงกว่าการคาดการณ์เฉลี่ยของตลาดที่ระดับ 3.0% โดยดัชนี CPI พื้นฐานเดือนส.ค.ขยายตัวในระดับเดียวกับเดือนก.ค.ซึ่งอยู่ที่ 3.1% แม้ว่าเงินอุดหนุนจากรัฐบาลจะกดดันค่าสาธารณูปโภค แต่ราคาอาหารและของใช้ในชีวิตประจำวันก็ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า อัตราเงินเฟ้อคงที่กำลังครอบงำในประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก ขณะที่ ดัชนีราคาบริการเพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนสิงหาคม หลังจากเพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งบ่งชี้ว่า ค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นอาจนำไปสู่แรงกดดันด้านราคาในวงกว้างในประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสามของโลก ส่วนดัชนี Core-Core CPI ซึ่งไม่รวมทั้งราคาเชื้อเพลิงและราคาอาหารสด เพิ่มขึ้น 4.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี และเป็นการขยายตัวในอัตราเดียวกับเดือนก.ค.เช่นกัน ที่มา: […]
วิกฤตอสังหาฯ จีนกระทบเศรษฐกิจเอเชีย
ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ระบุในรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียในปีนี้จะต่ำกว่าคาดเล็กน้อย เนื่องจากความอ่อนแอในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์เอลนีโญทำให้เกิดความเสี่ยงในภูมิภาค ADB ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเอเชียในปี 2023 ลงเหลือ 4.7% จากที่คาดการณ์ไว้ที่ 4.8% ในเดือนกรกฎาคม ส่วนคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจเอเชียในปีหน้า ที่ประกอบด้วย 46 ประเทศในเอเชียแปซิฟิก ไม่รวมญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ถูกปรับเพิ่มเล็กน้อยเป็น 4.8% จาก 4.7% ก่อนหน้านี้ “เราเห็นการเติบโตของเอเชียที่ฟื้นกลับมาอย่างแข็งแกร่ง จากการบริโภคและการลงทุนภายในของแต่ละประเทศ แม้ว่าอุปสงค์จากภายนอกที่ลดลง จะเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของประเทศผู้ส่งออก” อัลเบิร์ต ปาร์ค หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ADB กล่าวในงานแถลงข่าว ADB ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเอเชียในภูมิภาคตะวันออก, ใต้ และตะวันออกเฉียงใต้ในปีนี้ลง โดยจีนและอินเดียคาดว่าจะเติบโต 4.9% และ 6.3% ตามลำดับ ซึ่งต่ำกว่าคาดในเดือนกรกฎาคมที่ 5.0% และ 6.4% เล็กน้อย วิกฤตการณ์ด้านอสังหาริมทรัพย์ของจีน […]
IIF เผย ‘หนี้ทั่วโลก’ พุ่งแตะ 307 ล้านล้านดอลล์ใน Q2/66 ดันอัตราส่วนหนี้สินต่อ GDP เพิ่มขึ้นเป็น 336%
เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2566 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า สถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) กล่าวว่า หนี้ทั่วโลก ในรูปดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้น 10 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 และเพิ่มขึ้น 100 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยหนี้ทั่วโลกแตะระดับ 307 ล้านล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะควบคุมสินเชื่อของธนาคาร โดยตลาดต่างๆ เช่น สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ต่างก็เพิ่มขึ้น โดย IIF ระบุว่า การเพิ่มขึ้นครั้งล่าสุดทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อ GDP ทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็น 336% ในไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน ก่อนปี 2566 อัตราส่วนหนี้สินลดลงมา 7 ไตรมาสแล้ว ทั้งนี้ การเติบโตที่ช้าลงควบคู่ไปกับการชะลอตัวของอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น อยู่เบื้องหลังการเพิ่มขึ้นของอัตราส่วนหนี้สิน “อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันเป็นปัจจัยหลักที่อยู่เบื้องหลังอัตราส่วนหนี้สินที่ลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงสองปีที่ผ่านมา” IIF กล่าว พร้อมเสริมว่าด้วยความกดดันด้านค่าจ้างและราคาที่ผ่อนคลายลง แม้ว่าจะไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายก็ตาม คาดหวังว่าหนี้จะเพิ่มขึ้น อัตราส่วนจะเกิน 337% ภายในสิ้นปี […]
นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยทะลุ 19 ล้านคน นับตั้งแต่ต้นปี 66
ปี66 ผ่านไป 8 เดือนเศษ นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยแล้ว 19 ล้านคน สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว Thailand recorded 19 mln foreign tourists so far this year อ้างการเปิดเผยของ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทย ว่า ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเยือนไทย ตั้งแต่ 1 ม.ค.-17 ก.ย. 2566 อยู่ที่ 19 ล้านคน สร้างรายได้ 795,000 ล้านบาท (ราว 22,260 ล้านเหรียญสหรัฐ) ชี้ให้เห็นถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวในประเทศไทยเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น และยังเชื่อว่า มาตรการยกเว้นวีซ่าของรัฐบาลสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนจะช่วยส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวได้อีกทางหนึ่ง ในสัปดาห์นี้ ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว (High Season) โดยมีช่วงวันหยุดยาวในบางประเทศ เช่น มาเลเซีย ญี่ปุ่น จึงคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยน่าจะเพิ่มขึ้น ขณะที่รัฐบาลชุดใหม่ของไทย […]
JPMorgan ฟันธง ปี 67 ยอดระดมทุน ‘ตลาดหุ้นอินเดีย’ อย่างต่ำ 1 ล้านล้านบาท
JPMorgan Chase & Co. ฟันธง ปี 2567 และในอนาคต อินเดียจะเห็นการระดมทุนอย่างน้อย 3 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 9.9 แสนล้านบาท) ต่อปี ผ่านการขายหุ้นหลัก และรอง หลังพบบรรดาบริษัทเอกชนพร้อมระดมทุนในตลาดหุ้น สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานโดยอ้างอิงรายงานของ JPMorgan Chase & Co. วันนี้ (18 ก.ย.66) ว่า ในปี 2567 และในอนาคตจะเห็นการระดมทุนในตลาดหุ้นอินเดียอย่างน้อย 3 หมื่นล้านดอลลาร์ (9.9 แสนล้านบาท) ต่อปีผ่านการขายหุ้นหลัก และรอง เนื่องจากกลุ่มบริษัทเอกชน และผู้ถือหุ้นอินเดียเต็มใจที่จะเข้าถึงตลาดเพื่อหาเงินทุนมากขึ้น หากอ้างอิงข้อมูลซึ่งรวบรวมโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์ก พบว่า ยอดขายหุ้นเพิ่มเติม (Sales of Additional Shares) ในบริษัทจดทะเบียนของอินเดียทะลุ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ (3.3 แสนล้านบาท)ในปีนี้ ซึ่งมากกว่ายอดทั้งหมดในปี 2565 โดย Abhinav […]
‘ซิตี้กรุ๊ป’ เริ่มเจรจาเลิกจ้างพนักงาน หลังปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ในรอบ 20 ปี
เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2566 เวลา 08.50 น. สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า แหล่งข่าวระบุว่า ในขณะที่ ซิตี้กรุ๊ป (Citigroup) เริ่มดำเนินการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ นอกจากปลดพนักงานฝ่ายบริหารออกแล้ว ยังมีนโยบายลดตำแหน่งงาน โดยตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการกำกับพนักงานในการปฏิบัติตามกฎระเบียบและการบริหารความเสี่ยง เป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีแนวโน้มมากที่สุดที่จะถูกเลิกจ้าง รวมถึงตำแหน่งงานด้านเทคโนโลยีที่ทำงานในหน้าที่ทับซ้อนกันก็มีความเสี่ยงที่จะถูกเลิกจ้างเช่นกัน แหล่งข่าว ระบุว่า ผู้จัดการของซิตี้กรุ๊ปกำลังหารือกับพนักงานเกี่ยวกับการเลิกจ้างที่อาจเกิดขึ้น ขณะที่ แหล่งข่าวคนหนึ่งกล่าวว่า การประชุมแบบตัวต่อตัวเกี่ยวกับการเลิกจ้างก็เริ่มต้นขึ้นเช่นกัน การเจรจาเกิดขึ้น หลังจากที่ซิตี้กรุ๊ปประกาศเมื่อวันพุธ (13 ก.ย.) ว่า จะเลิกจ้างผู้บริหารและเลิกจ้างงาน เฟรเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของซิตี้กรุ๊ป เรียกว่า การปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ที่สุดของซิตี้ในรอบเกือบ 2 ทศวรรษ สามารถควบคุมได้โดยตรงมากขึ้น เพื่อความคล่องตัวในการตัดสินใจ และการบริหารงาน ซึ่งเป็นความพยายามที่จะเพิ่มผลกำไรและราคาหุ้น แหล่งข่าว ระบุว่า ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินได้อธิบายการเปลี่ยนแปลงและสร้างความมั่นใจให้กับทีมว่า การยกเครื่องจะช่วยลดระบบราชการและจัดลำดับความสำคัญของกิจกรรมการทำกำไร ซิตี้กรุ๊ปยังคงจัดการกับคำสั่งยินยอมในปี 2563 โดยหน่วยงานกำกับดูแลเรียกร้องให้แก้ไขข้อบกพร่องที่มีมายาวนานหลายประการในการควบคุมภายใน บริษัทกล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันพุธ (14 ก.ย.) ว่า “การลดความซับซ้อนขององค์กรจะช่วยให้การดำเนินการเปลี่ยนแปลงของ ซิตี้กรุ๊ปมีความสำคัญสูงสุดของบริษัท” ทั้งนี้ แหล่งข่าวระบุว่า ซิตี้กรุ๊ปได้ลงทุนอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาในระบบเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มการควบคุมความเสี่ยงและการปฏิบัติตามคำสั่งเพื่อขอความยินยอม […]
‘มูดี้ส์’ หั่นแนวโน้มภาคอสังหาฯ ในจีน เป็นลบ จากมีเสถียรภาพ
เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2566 เวลา 12.49 น. สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า มูดี้ส์ (Moody’s) ปรับลดแนวโน้ม ภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีน ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตของจีนเป็นลบ (negative) จากมีเสถียรภาพ (stable) โดยกล่าวถึงความท้าทายในการเติบโตทางเศรษฐกิจที่จะทำให้ยอดขายลดลง แม้ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการมาสนับสนุนก็ตาม มูดีส์กล่าวว่าคาดว่ายอดขายตามสัญญาจะลดลงประมาณ 5% ในช่วง 6 ถึง 12 เดือนข้างหน้าในจีน และผลกระทบของมาตรการของรัฐบาลในการกระตุ้นการซื้ออสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มว่าจะคงอยู่ระยะสั้นและไม่สม่ำเสมอ ทั้งนี้ การปรับลดแนวโน้มเกิดขึ้นท่ามกลางการผิดนัดชำระหนี้จำนวนมาก โดยบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกบีบด้วยปัญหาสภาพคล่องของ China Evergrande Group ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีหนี้มากที่สุดในโลก เป็นศูนย์กลางของวิกฤติในครั้งนี้ วิกฤติดังกล่าวส่งผลให้บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เอกชนรายใหญ่ที่สุดของจีนอย่าง Country Garden Holdings ซึ่งกำลังต่อสู้เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ โดยได้รับการอนุมัติจากเจ้าหนี้ในสัปดาห์นี้ เพื่อขยายอายุการชำระของพันธบัตรในประเทศหลายชุด ที่มา: รอยเตอร์
ไม่ใช่แค่ดอลลาร์ ‘จีน’ อุ้มค่าเงินหยวนเทียบกับอีก 23 ประเทศ ท่ามกลาง ‘แรงขายหยวน’ อื้อ
“ธนาคารกลางจีน” ไม่เพียงเข้าอุ้มเงินหยวนที่เทรดคู่กับสกุลเงิน “ดอลลาร์” เท่านั้น แต่ยังเข้าแทรกแซงเงินหยวนที่ซื้อขายคู่กับค่าเงินอีก 23 ประเทศ เช่น ยูโร เยน และปอนด์ ท่ามกลาง “แรงขายหยวน” จำนวนมาก เพราะเศรษฐกิจปั่นป่วน สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานวันนี้ (13 ก.ย.) ว่า ภาระของรัฐบาลจีนใน “การควบคุมค่าเงินหยวนไม่ให้อ่อนค่า” ลงหนักนั้น ขยายตัวไปไกลมากกว่าแค่การเทรดแบบเทียบเคียงกับดอลลาร์ โดยธนาคารประชาชนจีน (PBOC) เข้าอุ้มสกุลเงินหยวนเทียบกับอัตราแลกเปลี่ยนของคู่ค้าอีก 23 ประเทศ เช่น ยูโร เยน และปอนด์ ผ่านการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนรายวัน (Reference Rate) เทียบกับสกุลเงินเหล่านี้ตั้งแต่กลางเดือน ส.ค. ตามการคำนวณของบลูมเบิร์ก ซึ่งส่งผลให้ดัชนีค่าเงินหยวนมีเสถียรภาพอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับประเทศคู่ค้าอื่น ทั้งนี้ บทวิเคราะห์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ระบุว่า ในปีนี้นักลงทุนขายเงินหยวนออกมาจำนวนมาก เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังและความวุ่นวายในภาคอสังหาริมทรัพย์ กระตุ้นให้ PBOC ต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากนโยบายการเงินแตกต่างไปจากส่วนอื่นๆ ของโลกและทำให้ค่าเงินอ่อนค่าลง โดยจากเหตุการณ์ดังกล่าวเจ้าหน้าที่จีนจึงต้องชั่งน้ำหนักว่า สิ่งนี้อาจนำไปสู่เงินทุนไหลออกปริมาณเท่าใด เมื่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนอ่อนตัวลง ที่มา: […]