ผู้บริโภคมือเติบในยุคเทคโนโลยี The Series ตอนที่ 15

ผู้บริโภคมือเติบในยุคเทคโนโลยี The Series ตอนที่ 15

ผู้บริโภคสมัยใหม่มีความเชื่อมโยงมากกว่าเดิม เพียงแค่สมาร์ทโฟนแค่เครื่องเดียว ผู้บริโภคยุคปัจจุบันสามารถค้นหา เลือกดูสินค้าได้ ตรวจสอบราคา เปรียบเทียบราคา ซื้อขายหุ้น หรือแม้กระทั่งสั่งซื้อของจากช่องทางออนไลน์อื่น แม้ว่าจะอยู่ในห้างรีเทลอื่นก็ตาม เทคโนโลยี่สมัยใหม่ทำให้ผู้บริโภคมีพลังสูง หรือมีความหลายหลากในการเลือก แต่ในขณะเดียวกัน ห้างรีเทลที่เข้าใจประเด็นนี้ด้วยการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภคผ่านเทคโนโลยี่จะประสบความสำเร็จในการประกอบธุรกิจ การปฏิสัมพันธ์จะมีลักษณะที่เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น (personalized) ผู้บริโภคสมัยใหม่ในยุคเทคโนโลยี่มีลักษณะเด่น หรือพฤฒิกรรมร่วมกันอย่างน้อย 7 ประการด้วยกัน: 1. ช้อปปิ้งได้ทั้งวันทั้งคืน เทคโนโลยี่สมัยใหม่ไม่เป็นอุปสรรคอีกต่อไปสำหรับผู้บริโภคที่จะเลือกซื้อสินค้า หรือทำธุรกรรมต่างๆได้ตลอดเวลา หรือ24ชั่วโมงต่อหนึ่งวัน หรือ7วันต่อสัปดาห์ การซื้อของโดยผู้บริโภคสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาในช่วงเวลาในแต่ละวัน ด้วยเหตุนี้เจ้าของสินค้า หรือห้างรีเทลจะพยายามหาแพลตฟอร์มต่างๆเพื่ออำนวยความนสะดวกให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าออนไลน์ได้ทุกเมื่อเชื่อยาม เมื่อมีความต้องการ 2. ผู้บริโภคเป็นผู้ควบคุมเอง เทคโนโลยี่เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถควบคุมประสพการณ์การช้อปปิ้งของตัวเอง โดยที่ใช้เทคโนโลยี่เพื่อค้นหาข้อมูลสินค้า ทำการบ้านว่าสินค้าหรือบริการอะไรเหมาะกับตัวเอง และหลังจากตกลงใจซื้อสินค้าหรือบริการแล้ว ยังแชร์ข้อมูลให้เพื่อนๆได้รับทราบผ่านโซเซี่ยลมีเดีย ที่สำคัญขบวนการเหล่านี้สามารถทำได้อย่างรวดเร็วผ่านสมาร์ทโฟน หรืออินเทอร์เน็ต 3. ช่องทางในการช้อปปิ้งมีความหลายหลากมากยิ่งขึ้น ในอดีตเวลาจะซื้อของผู้บริโภคต้องไปที่ร้านหรือห้าง แต่ทุกวันนี้ระบบออนไลน์ แอปพลิเกชั่นต่างๆ หรือสมาร์ทโฟนเปิดช่องทางให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าหรือบริการได้หลายหลากยิ่งขึ้น 4. ผู้บริโภคให้ความสนใจกับเนื้อหา (content)ของสินค้า ผู้บริโภคสมัยใหม่มีความรู้มากขึ้น รู้จักหาข้อมูลของสินค้า รู้จักเปรียบเทียบคุณภาพของสินค้า […]

อเมซอนเตรียมเปิดตัวร้านค้าปลีกไร้เงินสดแห่งที่สอง

อเมซอนเตรียมเปิดตัวร้านค้าปลีกไร้เงินสดแห่งที่สอง

ไชน่าเดลี่ รายงานว่า อี-คอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอย่างอเมซอน เตรียมเปิดตัวร้านที่ใช้ระบบไร้เงินสดแห่งที่สองในปีนี้ในย่านเมืองซีแอตเทิล โดยคาดว่าจะเปิดในช่วงฤดูใบไม้ร่วง 2018 อเมซอน ได้ประกาศออกมาว่าภายในไม่เกิน 6 เดือน หลังจากที่เปิดตัวร้านสะดวกซื้อที่ใช้ระบบไร้เงินสด Amazon Go แห่งแรกไปเมื่อเดือน ม.ค. จะเปิดตัวร้านแห่งต่อไป โดยร้านค้านี้เกิดขึ้นภายใต้แนวคิดของความทันสมัย แต่เดินออกมาก็ช้อปปิ้งได้แล้ว เนื่องจากผู้บริโภคสามารถสแกนสมาร์ทโฟนของตัวเองที่ติดตั้งแอพพลิเคชั่นเอาไว้ก่อนที่จะเข้าไปสู่ร้านค้า เมื่อผู้บริโภคหยิบสิ่งของที่ต้องการและใส่ลงในรถเข็นเสมือนจริง กล้องและเซนเซอร์ติดตั้งอยู่บนเพดานของร้านก็จะติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ ภายในร้าน เมื่อจบการช้อปปิ้งแล้ว ทางร้านก็จะตัดเงินอัตโนมัติผ่านแอพพลิเคชั่นอเมซอนเมื่อเดินออกจากร้านผ่านประตูที่มีเครื่องสแกนอยู่ สื่อต่างชาติรายงานว่า ร้านค้าแห่งที่สองจะตั้งอยู่ห่าง 1.6 กิโลเมตรจากสาขาแรกที่เปิดไปแล้ว ขณะที่อนาคตก็เตรียมเปิดตัวร้านค้าในลักษณะเดียวกันนี้ที่ชิคาโก และซานฟรานซิสโก เพื่อขยายธุรกิจจากร้านค้าปลีกออนไลน์ไปสู่ร้านค้าปลีกที่มีสถานที่ตั้งจริง

สหรัฐบีบ ไม่ให้ AT&T ทำธุรกิจร่วมกับ Huawei

สหรัฐบีบ ไม่ให้ AT&T ทำธุรกิจร่วมกับ Huawei

สหรัฐบีบให้ AT&T ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่อันดับสองของสหรัฐระงับความสัมพันธ์ทางการค้ากับ Huawei ผู้ผลิตโทรศัพท์จากจีน ด้วยเหตุผลความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ นอกจากนี้ยังต่อต้านแผนการตลาดของ ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ อย่าง China Mobile ที่จะเข้ามาขยายตลาดในสหรัฐอีกด้วย ก่อนหน้านี้ AT&T ถูกบังคับให้ล้มเลิกการส่งเสริมการขายโทรศัพท์มือถือ Huawei ให้แก่ลูกค้าของตน หลังจากที่มีสมาชิกสภาคองเกรส (members of Congress )บางคนทำการล็อบบี้ โดยแสดงความไม่เห็นด้วยกับความคิดของหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐบาลกลาง นอกจากนี้รัฐบาลสหรัฐยังคงกีดกันทางการค้า ซึ่งรวมถึงการคัดค้านบริษัท Ant Financial ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Alibaba ในการเข้าซื้อกิจการบริษัท MoneyGram ซึ่งเทำธุรกิจบริการโอนเงินด่วน ระหว่างประเทศอีกด้วย ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลสหรัฐเอาจริงเอาจังกีดกันทางการค้ากับจีน ตามนโยบายของประธานาธิบดี Donald Trump นาย Michael Wessel หนึ่งในคณะกรรมการทบทวนเรื่องเศรษฐกิจและความมั่นคงสหรัฐฯ-จีน (the U.S.-China Economic and Security Review Commission) กล่าวว่า “แนวโน้มของธุรกิจการสื่อสารแบบไร้สายถือเป็นคลื่นลูกต่อไปที่มีผลต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงอย่างมาก […]

บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟน Xiaomi เตรียมทำไอพีโอปีนี้

บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟน Xiaomi เตรียมทำไอพีโอปีนี้

Xiaomi บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนของจีนเตรียมที่จะทำไอพีโอในปีนี้ โดยคาดการว่ามูลค่าตลาดรวมของบริษัทจะอยู่ที่ $100,000 ล้าน เสี่ยวหมีกำลังอยู่ในขั้นตอนเลือกบริษัทที่จะมาดูแลการทำไอพีโอ โดยมีข่าวว่า Citic Securities, Goldman Sachs และMorgan Stanley เสี่ยวหมีเป็นบริษัทอีเลคโทรนิกส์และซอฟแวร์ของจีน มีสำนักงานใหญ่ที่กรุงปักกิ่ง บริษัทนี้มีธุรกิจออกแบบ พัฒนาและขายสมาร์ทโฟน โมไบแอ็ป แล็ปท็อป และสินค้าอีเลคโทรนิกส์อื่นๆ เสี่ยวหมีเป็นบริษัทที่มีอัตราการเจริญเติบโตสูง โดยในปี 2014 บริษัทมีมูลค่า $46,000 ล้าน แต่ปีนี้จะมีมูลค่า $100,000 ล้าน

มือถือ คอมพิวเตอร์ โดนแฮ็คได้ทุกเครื่อง

มือถือ คอมพิวเตอร์ โดนแฮ็คได้ทุกเครื่อง

นักวิจัยทางความมั่นคงทางไซเบอร์ได้ค้นพบว่า มีจุดบกพร่องในรักษาความปลอดภัยทางข้อมูลทำให้แฮ็คเก้อร์สามารถขโมยข้อมูลที่อ่อนไหวจากอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่ใช้ไมโครชิปของบริษัทอินเทล บริษัทแอดแวนซ์ไมโครดีไวซ์ และบริษัทเออาร์เอ็มโฮลดิ้ง ไวรัสตัวหนึ่งเล่นงานเฉพาะชิปของอินเทล ไวรัสอีกตัวจะมีผลกระทบต่อแล็ปท็อป คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ สมาร์ทโฟน แท็ปเล็ต และอินเทอร์เน็ตเชิร์ฟเวอร์ ทั้งบริษัทอินเทล และเออาร์เอ็มออกมาบอกว่า ปัญหาไม่ได้เกิดจากการความผิดพลาดในดีไชน์ของไมโครชิป แต่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดคำสั่งในภาษาเครื่องเพื่อที่จะอัพเดทระบบทำงาน “โทรศัพท์ เครื่องพีซี ทุกอย่างจะได้รับผลกระทบ ขึ้นอยู่กับเครื่องแต่ละอย่าง” นาย Brian Krzanich ซีอีโอของอิลเทลกล่าว นักวิจัยในโครงการ Google Project Zero ของบริษัทอัลฟาเบทได้ร่วมมือกับนักวิจัยจากหลายประเทศได้พบข้อบกพร่องใหญ่ 2 ประเด็นด้วยกัน ข้อพกพร่องแรกเรียกว่า Meltdown ซึ่งมีผลกระทบต่อชิปของอินเทล และเปิดโอกาสให้แฮ็คเก้อร์สามารถข้ามอุปสรรคของฮาร์ดแวร์ระหว่างแอปพลิเคชั่นที่ผู้ใช้ใช้งาน และเมมโมรี่ของคอมพิวเตอร์, ซึ่งทำให้แฮ็คเก้อร์อ่านเมมโมรี่ได้และขโมยรหัสพาสเวิร์ดไป ข้อบกพร่องที่ 2 เรียกว่า Spectre ซึ่งมีผลกระทบกับชิปของอินเทล เอเอ็มดี และเออาร์เอ็ม โดยแฮ็คเก้อร์สามารถหลอกให้แอปพลิเกชั่นที่ดูเหมือนว่าไม่มีข้อผิดพลาดให้ยอมเปิดข้อมูลลับ