บีเอ็มดับเบิ้ลยูผนึกกำลังเทนเซ็นต์ตั้งศูนย์คอมพิวติ้งในจีนพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า ผู้ผลิตรถยนต์เยอรมัน บีเอ็มดับเบิ้ลยู และบริษัทเกมออนไลน์ยักษ์ใหญ่ เทนเซ็นต์ โฮลดิ้งส์ ร่วมกันตั้งทีมงานเปิดตัวศูนย์คอมพิวติ้งในจีน เพื่อร่วมกันพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติในตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างจีน สำหรับศูนย์คอมพิวติ้งนี้ จะเริ่มดำเนินการในช่วงสิ้นปีนี้ โดยจะทำหน้าที่เพิ่มขีดความสามารถในการรับส่งข้อมูลเพื่อช่วยใหรถยนต์ทำงานได้แบบกึ่งอัตโนมัติ และกลายเป็นอัตโนมัติในที่สุด ทั้ง 2 บริษัทไม่ได้เปิดเผยถึงรายละเอียดการลงทุนเกี่ยวกับศูนย์นี้ แต่แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับดีลนี้ กล่าวว่า ศูนย์จะสร้างอยู่ทางตะวันออกของเมืองเทียนจิน ขณะที่สำนักงานใหญ่ของบีเอ็มดับเบิ้ลยู เตรียมเปิดตัวรถยนต์กึ่งอัตโนมัติ หรือรถยนต์ในหมวด L3 ที่จีน ในปี 2021 ซึ่งจำเป็นต้องใช้พลังประมวลผลขนาดใหญ่เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลดิจิทัลเกี่ยวกับถนนและสภาพการจราจรที่เกิดขึ้นแบบเรียลไทม์ รถยนต์ไร้คนขับต้องการความสามารถในการบีบอัดข้อมูลที่ซับซ้อน จึงต้องพึ่งพาปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) หรือเทคโนโลยีเครือข่ายระบบประสาท เพื่อช่วยพวกเขาในการเรียนรู้จากประสบการณ์ และทำให้ขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องมีมนุษย์แทรกแซงในที่สุด Jochen Goller หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของบีเอ็มดับเบิ้ลยูในจีน กล่าวว่า แผนการเปิดตัวศูนย์คอมพิวติ้งในจีนของบีเอ็มดับเบิ้ลยูนั้น เกิดขึ้นหลังจากที่เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิ้ลยูได้เปิดตัวศูนย์คอมพิวติ้งลักษณะคล้ายกันนี้ที่เมืองมิวนิค โดยการเปิดศูนย์แห่งใหม่ในจีนจะสนับสนุนบีเอ็มดับเบิ้ลยูในการพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติและนวัตกรรมในจีน เขา กล่าวเพิ่มเติมว่า บีเอ็มดับเบิ้ลยูสามารถพัฒนาทางเลือกสำหรับรถยนต์ไร้คนขับที่เหมาะสมกับสภาพการขับขี่ในเฉพาะเจาะจงในจีน โดยศูนย์คอมพิวติ้งแห่งใหม่นี้ จะใช้ประโยชน์จากคลาวด์ คอมพิวติ้ง และบิ๊ก ดาต้าของเทนเซ็นต์ นอกจากนี้เทนเซ็นต์จะรับหน้าที่จัดหาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติให้บีเอ็มดับเบิ้ลยูด้วย
การส่งออกไทยเดือนมิ.ย.อยู่ที่ 21,409.30 ล้านดอลลาร์ฯ หดตัว -2.15% YoY
BF Economic Research การส่งออกไทยเดือนมิ.ย.อยู่ที่ 21,409.30 ล้านดอลลาร์ฯ หดตัว -2.15% YoY (vs prev -5.8% YoY) ส่วนการนำเข้า อยู่ที่ 18,197.10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัว -9.44% (vs prev -0.6% YoY) ดุลการค้า มิ.ย. เกินดุล 3,212 ล้านดอลลาร์ฯ (181.5 ล้านดอลลาร์ฯ) สำหรับตัวเลข YTD 6 เดือน (ม.ค.-มิ.ย.) การส่งออกมีมูลค่า 122,970.70 ล้านดอลลาร์ฯ หดตัว -2.91% ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 119,027.40 ล้านดอลลาร์ฯ หดตัว -2.41%YoY ดุลการค้าหกเดือนเกินดุล 3,943 ล้านดอลลาร์ฯ (เมื่อเทียบกับหกเดือนปีที่แล้วเกินดุล 4,263.9 […]
กองทุนบัวหลวง เผยกระแสตอบรับจากนักลงทุนคึกคัก กองทุน ‘SUPEREIF’ เสนอขาย 22-26 และ 30-31 ก.ค. 2562
กองทุนบัวหลวง เผยกระแสตอบรับกองทุน SUPEREIF จากนักลงทุนคึกคัก พร้อมเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) วันที่ 22-26 และ 30-31 ก.ค. 2562 เหตุจากเล็งลงทุนในสิทธิในการรับโอนรายได้สุทธิจากกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่สร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่แน่นอนและมั่นคง ท่ามกลางสภาวะแนวโน้มดอกเบี้ยที่ต่ำต่อเนื่อง นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) เปิดเผยว่า กระแสการตอบรับของนักลงทุนที่ให้ความสนใจ อีกทั้งสอบถามข้อมูลของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้า ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี หรือ SUPEREIF เข้ามาผ่านช่องทางต่างๆ ของทั้งกองทุนบัวหลวง และธนาคารกรุงเทพ ในช่วงที่ผ่านมาคึกคักมาก โดยที่กองทุน SUPEREIF เสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO)ในวันที่ 22-26 และ 30-31 ก.ค. 2562 ด้วยมูลค่าเงินลงทุนครั้งแรกไม่เกิน 8,150 ล้านบาท แบ่งเป็น การออกและเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ไม่เกิน 5,150 ล้านบาท […]
ธนาคารกลางอินโดนีเซียเริ่มกลับทิศทางดอกเบี้ย พร้อมส่งสัญญาณว่าจะปรับลดลงอีกในปีนี้
BF Economic Research ในการประชุมเดือน ก.ค. ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (Bank Indonesia: BI) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 25bps จาก 6.0% เป็น 5.75% ตามที่เราคาด โดยเป็นการกลับทิศทางนโยบายการเงินจากตึงตัวเป็นผ่อนคลายเป็นครั้งแรกในรอบ 22 เดือน เพื่อหนุนโมเมนตัมการเติบโตของเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และความตึงเครียดจากนโยบายกีดกันทางการค้า หลังจากที่ก่อนหน้านี้เป็นช่วงดอกเบี้ยขาขึ้นมาตั้งแต่เดือน พ.ค. 2018 ทั้งนี้ ในการประชุมเดือนก่อนหน้า BI ได้เริ่มส่งสัญญาณ Dovish ด้วยการปรับลดอัตรากันสำรองหรือ Reserve Requirement Rate (RRR) ของธนาคารพาณิช ย์ลงไป 50bps เหลือ 6.0% เพื่อกระตุ้นยอดสินเชื่อในประเทศ ในการประชุมครั้งนี้ ผู้ว่า BI ได้ส่งสัญญาณ Dovish ต่อเนื่องว่าในระยะข้างหน้ามีโอกาสที่ BI จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงได้อีก ซึ่งเราคาดว่า BI […]
สิ้นสุดดอกเบี้ยขาขึ้น เฟดส่งซิกผ่อนคลายนโยบายการเงิน คาดอาเซียนดำเนินรอยตาม
BF Economic Research ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้มีท่าทีผ่อนคลายในการดำเนินนโยบายทางการเงินมากขึ้น ทำให้ตลาดคาดการณ์กันว่าอาจสิ้นสุดรอบอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นแล้ว ขณะที่แนวโน้มของธนาคารกลางแต่ละประเทศในภูมิภาคอาเซียนน่าจะดำเนินรอยตาม ด้วยการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินเช่นเดียวกับเฟด ส่วนรายละเอียดของแต่ละประเทศอาเซียนจะเป็นอย่างไร สามารถรับฟังความคิดเห็นของ Macro Analyst ของกองทุนบัวหลวงได้ในคลิปวิดีโอนี้
พลังงานแสงอาทิตย์…เทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยลดต้นทุนลงไปอีก
By…จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์ ปัจจุบันพลังงานทางเลือกที่มีต้นทุนถูกที่สุด คือ พลังงานแสงอาทิตย์ ด้วยเหตุนี้ จึงมีนักลงทุนจำนวนมากสนใจลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และในอนาคตมีแนวโน้มว่า ต้นทุนของพลังงานแสงอาทิตย์จะถูกลงยิ่งกว่านี้ไปอีก เมื่อไม่นานมานี้ สมาคมอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ (SEIA) และมูลนิธิพลังงานแสงอาทิตย์ ร่วมกับ ศูนย์ปฏิบัติการพลังงานทดแทนแห่งชาติ (NREL) บริษัทพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับที่อยู่อาศัยหลายๆ แห่ง รวมถึงองค์กรไม่แสวงหากำไรอื่น พัฒนาซอฟต์แวร์ใหม่สำหรับการกระจายและจัดเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์และประหยัดทรัพยากรสำหรับรัฐบาลท้องถิ่นและผู้จ่ายภาษี NREL ได้รับเงินทุน 685,000 ดอลลาร์สหรัฐ จากสำนักงานเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี กระทรวงพลังงาน รวมทั้งกองทุนเทคโนโลยีเพื่อการค้า เพื่อพัฒนาและปรับปรุงซอฟต์แวร์แพลตฟอร์มในการประมวลผลพลังงานแสงอาทิตย์อัตโนมัติ (SolarAPP) จุดประสงค์ของการพัฒนาครั้งนี้ คือ ลดระยะเวลาและต้นทุนของกระบวนการทำงานสำหรับพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งจะช่วยลดจำนวนลูกค้าที่ยกเลิกการใช้งาน รวมทั้งขยายการพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์ และการเติบโตของงานที่เกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์ได้ (ที่มา : https://www.seia.org/news/new-solar-permit-software-reduce-costs-and-expand-residential-markets) นี่คือ หนึ่งในความเคลื่อนไหวล่าสุด ที่สะท้อนว่า การพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ยังจะสามารถก้าวหน้าได้อีกไกล อันจะเป็นผลดีที่ทำให้เกิดการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในวงกว้างยิ่งขึ้นในอนาคต
ตลาดหุ้นไทยวันที่ 19 ก.ค. ปิดตลาดที่ 1,735.10 จุด เพิ่มขึ้น 11.66 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นไทย วันที่ 19 ก.ค. 2562 ปิดที่ 1,735.10 จุด เพิ่มขึ้น 11.66 จุด หรือ 0.68% ระหว่างวันดัชนีสูงสุดอยู่ที่ 1,738.70 จุด และต่ำสุดที่ 1,732.16 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 61,925.48 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.KTC ปิดที่ 42.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท (+0.60%) มูลค่าการซื้อขาย 2,394.94 ลบ. 2.CPALL ปิดที่ 87.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท (+0.57%) มูลค่าการซื้อขาย 2,141.17 ลบ. 3.KBANK ปิดที่ 180.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง […]
ตลาดโดรนทั่วโลกจะมีมูลค่าเพิ่ม 3 เท่าตัวในอีก 10 ปีข้างหน้า
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า ตลาดโดรนที่ไม่ได้ใช้ในการทหารทั่วโลกเวลานี้ มีการผลิตในจีนเป็นหลัก โดยคาดว่า ขนาดของตลาดโดรนที่ไม่ได้ใช้เพื่อการทหารจะมียอดขายสูงถึง 3 เท่าตัวเป็น 14,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 10 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ ผลศึกษาของนักวิเคราะห์ด้านการบินและอวกาศ บริษัท Teal Group คาดการณ์ว่า ปีนี้ตลาดโดรนที่ไม่ใช่เพื่อการทหาร จะมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 4,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจะได้รับประโยชน์จากการที่สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ หรือ เอฟเอเอ เปิดน่านฟ้าให้ รวมทั้งการใช้งานเพิ่มขึ้นของอุตสาหกรรมเชิงพาณิชย์ รายงานนี้ออกมาท่ามกลาง ความกังวลเรื่องความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นของรัฐบาลสหรัฐ รวมทั้งบริษัทเอกชนสหรัฐ จากกรณีที่จีนสามารถเข้าถึงข้อมูลที่มีความอ่อนไหว รวมถึงจัดเก็บภาพที่ถ่ายด้วยโดรนของจีนได้ Phil Finnegan นักวิเคราะห์ของ Teal Group กล่าวว่า ปัจจุบันโรงงานผลิตในจีน ผลิตโดรนคิดเป็น 3 ใน 4 ของโดรนทั้งหมดที่อยู่ในตลาดโดรนเพื่อการพาณิชย์และการบริโภคของโลก เมื่อนับตามจำนวนชิ้นของโดรน เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา หน่วยงานด้านความปลอดภัยของสหรัฐออกมาเตือนบริษัทสหรัฐถึงความเสี่ยงเกี่ยวกับข้อมูลบริษัทที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้โดรนที่ผลิตในจีน […]
Cryptocurrency Japan Morning Brief
ญี่ปุ่นเดินหน้าพัฒนาระบบคล้าย SWIFT สำหรับคริปโตเคอเรนซี
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นเป็นผู้นำของโลกผลักดันให้มีการจัดตั้งเครือข่ายระหว่างประเทศสำหรับระบบชำระเงินคริปโตเคอเรนซีซึ่งมีลักษณะคล้ายกับเครือข่าย SWIFT ที่ธนาคารใช้กันอยู่ โดยมีความมุ่งหวังเพื่อต่อสู้กับการฟอกเงิน แหล่งข่าว กล่าวว่า ญี่ปุ่นตั้งเป้าหมายจะทำเครือข่ายนี้ใช้งานให้ได้ภายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แต่ปฏิเสธที่จะระบุข้อมูลมากกว่านี้ เพราะข้อมูลต่างๆ ยังไม่เปิดเผยให้สาธารณชนรับทราบ อย่างไรก็ตาม ทีมงานที่ทำนี้จะอยู่ในส่วนของคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการเงินระหว่างรัฐบาล (FATF) โดยจะจับตาพัฒนาของคริปโต และญี่ปุ่นจะทำงานร่วมกับประเทศอื่นๆ แม้จะยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า เครือข่ายคริปโตเคอเรนซีจะเป็นสิ่งที่ทำงานได้ดี ขณะที่ SWIFT เป็นระบบชำระเงินระหว่างประเทศ ที่ใช้สื่อสารกันระหว่างธนาคารเพื่อส่งเงินทั่วโลก แต่ญี่ปุ่นก็เดินหน้าแล้ว โดยคณะทำงาน FATF ได้อนุมัติแผนเมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อสร้างเครือข่ายใหม่ เป็นไปตามความมุ่งหมายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และหน่วยงานกำกับบริการทางการเงินของญี่ปุ่น ทั้งนี้ ญี่ปุ่นต้องการผลักดันเพื่อให้แน่ใจในความปลอดภัยของสกุลเงินเสมือนจริงนี้ โดยหวังว่าจะทำให้อุตสาหกรรมเทคโนโลยีทางการเงิน (ฟินเทค) มีส่วนขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจเติบโต โดยที่ผ่านมาญี่ปุ่นก็เป็นประเทศแรกในโลกที่กำกับตลาดซื้อขายคริปโตเคอเรนซี ด้วยมาตรการระดับชาติ เมื่อปี 2017
ตลาดหุ้นไทยวันที่ 18 ก.ค. ปิดตลาด 1,723.44 จุด เพิ่มขึ้น 4.59 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นไทย วันที่ 18 ก.ค. 2562 ปิดที่ 1,723.44 จุด เพิ่มขึ้น 4.59 จุด หรือ +0.27% ระหว่างวันดัชนีสูงสุดอยู่ที่ 1,725.94 จุด และต่ำสุดที่ 1,714.41 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 54,793.51 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.KBANK ปิดที่ 180.00 บาท ลดลง -3.50 บาท (-1.91%) มูลค่าการซื้อขาย 2,373.16 ลบ. 2.PTT ปิดที่ 47.75 บาท ลดลง 0.25 บาท (-0.52%) มูลค่าการซื้อขาย 2,049.33 ลบ. 3.CPALL ปิดที่ 87.25 […]