Fund Comment สิงหาคม 2024: มุมมองตลาดตราสารหนี้

Fund Comment สิงหาคม 2024: มุมมองตลาดตราสารหนี้

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ รุ่น 2 และ 10 ปี ปรับลดลง โดยมีประเด็นหลักจากตัวเลขสําคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ส่งสัญญาณชะลอตัวลง อาทิ อัตราการว่างงานในเดือน ก.ค. ที่ปรับสูงขึ้นไปที่ 4.3% ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี อีกทั้งปรับทบทวนตัวเลข Nonfarm Payrolls ลดลงถึง 8.18 แสนตำแหน่ง ในช่วง 1 ปี ซึ่งบ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานไม่ได้อยู่ในภาวะแข็งแกร่งมากเท่ากับที่ Fed เคยคิดไว้และสื่อสารออกมาในตอนนั้น ส่งผลให้ตลาดกลับไปกังวลว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะ Recession ตลาดจึงให้น้ำหนักการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed ที่ค่อนข้างแรงและต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังเสริมด้วยถ้อยแถลงของคณะกรรมการ Fed ที่ส่งสัญญาณเชิงผ่อนคลายมากขึ้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย ปรับลดลงเกือบทุกช่วงอายุตามการปรับลดลงของพันธบัตรสหรัฐฯ ขณะที่ ปัจจัยในประเทศ มีทั้งสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ และการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) โดยในส่วนของประเด็นการเมือง ในช่วงแรกตลาดก็มีความกังวลถึงสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน […]

BBLAM เสนอขาย IPO ‘BP20/24(AI)’ วันที่ 4 – 10 ก.ย. 2567

BBLAM เสนอขาย IPO ‘BP20/24(AI)’ วันที่ 4 – 10 ก.ย. 2567

BBLAM เสนอขาย IPO ‘กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 20/24 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย’ หรือ BP20/24(AI) ซึ่งเป็นเทอมฟันด์ อายุ 6 เดือน วันที่ 4 – 10 กันยายน 2567 นี้ ลงทุนขั้นต่ำ 500,000 บาท   เป็นทางเลือกให้ผู้ลงทุนที่มองหาการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่เหมาะสม  รายงานข่าวจาก  บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ BBLAM  เปิดเผยว่า  BBLAM  เสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 20/24 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย หรือ BP20/24(AI)  ระหว่างวันที่ 4 – 10 กันยายน 2567 ประมาณการผลตอบแทน 2.15% ต่อปี โดยเสนอขายในราคา 10 […]

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 3 ก.ย. 2024 ปิดตลาดที่ 1,364.60 จุด เพิ่มขึ้น 10.96 จุด (+0.81%) 

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 3 ก.ย. 2024 ปิดตลาดที่ 1,364.60 จุด เพิ่มขึ้น 10.96 จุด (+0.81%) 

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 3 ก.ย. 2024 ปิดตลาดที่ 1,364.60 จุด เพิ่มขึ้น 10.96 จุด (+0.81%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,354.26 จุด และสูงสุดที่ 1,370.04 จุด มูลค่าการซื้อขาย 42,261.36 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่  KBANK ปิดที่ 144.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 (+1.77%) มูลค่าการซื้อขาย 2,133.63 ล้านบาท PTTEP ปิดที่ 139.50 บาท ลดลง 0.50 (-0.36%) มูลค่าการซื้อขาย 1,480.32 ล้านบาท  IVL ปิดที่ 19.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.10 (+5.98%) มูลค่าการซื้อขาย […]

จับตา ‘แอฟริกา’ แหล่งระบายสินค้า ‘จีน’ ลุยปิดดีลประชุมใหญ่ 50 ประเทศสัปดาห์นี้

จับตา ‘แอฟริกา’ แหล่งระบายสินค้า ‘จีน’ ลุยปิดดีลประชุมใหญ่ 50 ประเทศสัปดาห์นี้

‘จีน’ หนีซบ ’แอฟริกา’ เร่งปิดดีลประชุมใหญ่ 50 ประเทศสัปดาห์นี้ ส่งออกเทคโนโลยีสีเขียว ตั้งแต่รถยนต์ไฟฟ้าไปจนถึงแผงโซลาร์เซลล์ ก่อน ’สหรัฐฯ -อียู’ ตั้งกำแพงภาษี สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า “จีน” จะเชิญชวนให้ผู้นำจาก 50 ประเทศในแอฟริกาที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดความร่วมมือจีน-แอฟริกา (FOCAC) ปี 2024 ที่ปักกิ่งในสัปดาห์นี้ซื้อสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้น ก่อนที่มาตรการจำกัดการส่งออกสินค้าจีนจากชาติตะวันตกจะมีผลบังคับใช้ โดยเฉพาะสินค้าประเภทรถยนต์ไฟฟ้าและแผงโซลาร์เซลล์ แลกกับคำมั่นสัญญาที่จะให้เงินกู้และการลงทุนเพิ่มเติม แม้ผู้นำแอฟริกาจะเดินทางมาปักกิ่งเพื่อเข้าร่วมการประชุมครั้งสำคัญนี้ แต่การบรรลุดีลก็อาจไม่ใช่เรื่องง่าย โดยพวกเขาต้องการคำตอบที่ชัดเจนว่าจีนจะทำอย่างไรเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการซื้อสินค้าจากแอฟริกามูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ตามที่เคยให้คำมั่นสัญญาไว้ในปี 2564 นอกจากนี้ บรรดาผู้นำในแอฟริกายังให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการติดตามความคืบหน้าของโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่ได้รับเงินทุนจากจีน โดยเฉพาะโครงการรถไฟที่มุ่งเชื่อมต่อภูมิภาคแอฟริกาตะวันออก พวกเขาต้องการคำยืนยันที่ชัดเจนว่าโครงการเหล่านี้จะดำเนินไปตามแผนและแล้วเสร็จตามกำหนดเวลา เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนในภูมิภาคหรือไม่ เอริค โอแลนเดอร์ ผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ China-Global South มองว่า ประเทศใดที่สามารถศึกษาการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในจีนอย่างละเอียด และปรับนโยบายของตนเองให้สอดคล้องกับความสำคัญใหม่ๆ ของจีนได้สำเร็จ ประเทศนั้นย่อมได้เปรียบในการแข่งขันครั้งนี้ เนื่องจากทวีปแอฟริกาโดยรวมยังมีความรู้เกี่ยวกับจีนไม่มากนัก ทำให้การปรับตัวเป็นเรื่องที่ท้าทาย ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับแอฟริกากำลังเปลี่ยนแปลงไป จากเดิมที่จีนเน้นให้เงินทุนเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ตอนนี้จีนหันมาเสนอเทคโนโลยีทันสมัย […]

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 2 ก.ย. 2024 ปิดตลาดที่ 1,353.64 จุด ลดลง 5.43 จุด (-0.40%) 

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 2 ก.ย. 2024 ปิดตลาดที่ 1,353.64 จุด ลดลง 5.43 จุด (-0.40%) 

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 2 ก.ย. 2024 ปิดตลาดที่ 1,353.64 จุด ลดลง 5.43 จุด (-0.40%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,352.11 จุด และสูงสุดที่ 1,357.98 จุด มูลค่าการซื้อขาย 33,174.74 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่  IVL ปิดที่ 18.40 บาท เพิ่มขึ้น 1.30 (+7.60%) มูลค่าการซื้อขาย 1,705.20 ล้านบาท KBANK ปิดที่ 141.50 บาท ลดลง 1.50 (-1.05%) มูลค่าการซื้อขาย 1,661.08 ล้านบาท  AWC ปิดที่ 3.34 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 (+0.60%) มูลค่าการซื้อขาย […]

ปรับแผนรีไฟแนนซ์สินเชื่อบ้าน ผู้เชี่ยวชาญคาดศก.แดนมังกรอาจโตต่ำเป้าปีนี้

ปรับแผนรีไฟแนนซ์สินเชื่อบ้าน ผู้เชี่ยวชาญคาดศก.แดนมังกรอาจโตต่ำเป้าปีนี้

รัฐบาลจีนกำลังพิจารณาแผนการอนุญาตให้เจ้าของบ้านรีไฟแนนซ์สินเชื่อที่อยู่อาศัยด้วยมูลค่าสูงสุด 5.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อลดต้นทุนการกู้ยืมและกระตุ้นการบริโภคของประชากรในประเทศ แผนดังกล่าวจะอนุญาตให้เจ้าของบ้านสามารถเจรจาเงื่อนไขใหม่กับผู้ให้กู้รายปัจจุบันก่อนที่จะมีการปรับราคาสินเชื่อที่อยู่อาศัยในเดือนมกราคม โดยยังอนุญาตให้เจ้าของบ้านสามารถรีไฟแนนซ์สินเชื่อกับธนาคารรายอื่นได้ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินทั่วโลก ทั้งนี้ รัฐบาลกำลังเร่งผลักดันเพื่อลดต้นทุนการจำนองหลังได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกลางเมื่อปีที่ผ่านมา ขณะที่ธนาคารต่างๆ ตอบสนองมาตรการดังกล่าวด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จากการซื้อบ้านหลังแรกที่ยังค้างชำระ อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่ชัดเจนว่าแผนการเหล่านี้จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับบ้านทุกหลังได้หรือไม่ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของจีนทวีความรุนแรงขึ้น จากรายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวังของหลายบริษัท รวมถึงการปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโดย UBS Group AG การปรับลดดังกล่าวสะท้อนถึงฉันทามติที่เกิดขึ้นใหม่ในหมู่ธนาคารทั่วโลกว่า ประเทศจีนอาจพลาดเป้าการเติบโตที่ระดับ 5% ในปี 2567 โดยจีนประสบกับความล้มเหลวในลักษณะดังกล่าวเมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา ท่ามกลางมาตรการล็อกดาวน์จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างกะทันหัน แผนการรีไฟแนนซ์ฉบับใหม่มุ่งเป้าไปที่ประชาชนที่มีบ้านอยู่แล้ว แต่ถูกละเลยสิทธิบางส่วน หลังผู้ซื้อบ้านรายใหม่ได้รับประโยชน์จากการลดอัตราดอกเบี้ยหลักลง โดยหากได้รับการอนุมัติ ก็อาจช่วยบรรเทาภาระสินเชื่อที่อยู่อาศัยของประชาชนในประเทศได้เร็วกว่าที่คาด แม้ว่าในปีนี้ รัฐบาลจะผลักดันต้นทุนสินเชื่อที่อยู่อาศัยโดยเฉลี่ย ให้อยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์แล้วก็ตาม แต่ครัวเรือนส่วนใหญ่ก็ยังไม่ได้รับประโยชน์ เนื่องจากธนาคารจะยังไม่ปรับราคาสินเชื่อที่มีอยู่จนกว่าจะถึงปีถัดไป มาตรการลดค่าใช้จ่ายด้านสินเชื่อที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่ของรัฐบาลจีนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีส่วนช่วยเหลือผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์รายใหม่เป็นหลัก โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำ 5 ปี ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานสำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัยระยะยาว ถูกปรับลดลงเหลือ 3.85% ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ […]