อินโดนีเซียเผยมีนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศกว่า 30 รายสนใจร่วมลงทุนพัฒนาเมืองใหม่
เดอะ จาการ์ตา โพสต์ รายงานว่า รัฐบาลอินโดนีเซีย ให้ข้อมูลว่า มีนักลงทุนทั้งในท้องถิ่นและต่างประเทศกว่า 30 ราย สนใจเข้าร่วมพัฒนาเมืองใหม่ ทั้ง North Penajam Paser และ Kutai Kertanegara ทางตะวันออกของเกาะกะลิมันตัน “เราต้องการพันธมิตรที่มีคุณภาพสูง เพราะเราไม่ต้องการการลงทุนที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เมืองหลวงใหม่” Luhut Pandjaitan รัฐมนตรีว่าการกระทรวงประสานงานการเดินเรือและการลงทุน กล่าว เขา กล่าวเพิ่มเติมว่า นักลงทุนมีมาจากสิงคโปร์ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมถึงประเทศอื่นๆ ทั้งนี้ รัฐบาลคาดการณ์ว่าจะมีต้นทุนพัฒนาเมืองหลวงใหม่ 466 ล้านล้านรูเปียห์ หรือประมาณ 33,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย 54.4% มาจากการรัฐร่วมทุนกับเอกชน ส่วน 26.4% มาจากภาคเอกชน และ 19.2% มาจากงบประมาณของรัฐ สำหรับนักลงทุนกว่า 30 ราย […]
ตลาดเวียดนามยังน่าลงทุน มูลค่า-ผลตอบแทนจากเงินปันผลยังอยู่ในเกณฑ์ที่น่าสนใจ
ความกังวลเกี่ยวกับการหยุดชะงักของการค้าและห่วงโซ่อุปทาน เนื่องจากไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกดดันตลาดหุ้นเวียด โดย VN Index ปรับลดลงกว่า 6% ในปีนี้ ภายหลังที่จีนชะลอการเปิดพรมแดน และข้อจำกัดเกี่ยวกับการเดินทาง โดยเวียดนามคาดว่า อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว การเกษตร สิ่งทอ และเครื่องจักร จะได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่นักวิเคราะห์ยังคงมองในแง่ดี โดยคาดการณ์ว่า บริษัทเอกชนในเวียดนามจะยังบริหารจัดการได้ดีและสามารถสร้างกำไรได้ Federico Parenti ผู้จัดการกองทุนของ Sempione Sim SpA กล่าวว่า แนวโน้มการเติบโต การประเมินมูลค่า และผลตอบแทนจากเงินปันผลของของตลาดเวียดนามอยู่ในเกณฑ์ที่น่าสนใจ เขา มองว่า เวียดนามยังคงเป็นหนึ่งในประเทศเขาชื่นชอบ และจับตามองอย่างใกล้ชิด หากมีความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์และปัจจัยรายล้อมต่างๆ เขาจะเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นเวียดนามทันที เราจะเห็นได้ว่า รายได้สำหรับไตรมาสสิ้นสุดในเดือน มี.ค. 2020 จะได้รับผลกระทบจากจำนวนผู้เดินทางที่เป็นชาวจีนที่ลดลง ซึ่งสัดส่วนของนักท่องเที่ยวจีนคิดเป็นหนึ่งในสามของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด และปัจจุบันการเดินทางของกลุ่มนี้ได้หยุดชะงัก ขณะที่การประชุมและงานเทศกาลต่างๆ ถูกยกเลิกเพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่กระจายของไวรัส
ASEAN ASEAN Corner B-ASEAN B-ASEANRMF
ส่องทิศทางเศรษฐกิจอาเซียนปี 2020 ตอน สิงคโปร์
BF Economic Research ปีที่แล้ว สิงคโปร์ถือเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน มากที่สุดในอาเซียน เพราะมีสัดส่วนการส่งออกมากที่สุดในอาเซียน ทำให้ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้ปีที่แล้วค่อนข้างซบเซา ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) โต 0.7% เมื่อปลายปี 2019 กองทุนบัวหลวงมองว่าเริ่มเห็นสัญญาณของภาคก่อสร้างและภาคบริการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ดังนั้นปี 2020 น่าจะมีการฟื้นตัว เศรษฐกิจเติบโตได้สูงกว่าปี 2019 ทั้งนี้ เมื่อมีเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19 มา ทำให้รัฐบาลสิงคโปร์ปรับประมาณการจีดีพีลง เดิมมองไว้ 0.5 ถึง 2.5% ก็ปรับเป็น -0.5 ถึง 1% จะเห็นว่า มีการปรับให้ความเสี่ยงด้านขาลงเป็นติดลบของปี 2020 ทำให้กองทุนบัวหลวง มองว่า ปี 2020 จีดีพีสิงคโปร์น่าจะโตได้ 1% จากปีที่แล้วที่ 0.7% คือไม่ได้ฟื้นตัวขึ้นมามากอย่างที่เคยคาดการณ์ไว้ตอนแรก จากผลของโควิด-19 เพราะสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากติดอันดับ 3 ของโลก ทำให้ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก […]
สิงคโปร์ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจหลังโควิด-19 กระทบท่องเที่ยว-ส่งออก-บริโภคในประเทศ
รายงานข่าวจากซีเอ็นบีซี ระบุว่า สิงคโปร์ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรฐกิจในปี 2020 จากผลกระทบโคโรนาไวรัส 2019 (โควิด-19) ที่ส่งผลให้ประเทศมีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อนอกประเทศจีนมากที่สุด กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม ของสิงคโปร์ ระบุว่า สิงคโปร์คาดาการณ์ว่า เศรษฐกิจของสิงคโปร์ในปีนี้ จะเติบโตประมาณ 0.5% โดยได้ปรับลดคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของจีดีพีประจำปีอยู่ระหว่าง -0.5 – 1.5% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ครั้งก่อนหน้า ที่คาดไว้ว่าจะเติบโตระหว่าง 0.5-2.5% ในแถลงการณ์ระบุว่า ก่อนหน้านี้ คาดการณ์จีดีพีของสิงคโปร์ ภายใต้สมมติฐานที่ว่า เศรษฐกิจโลกปรับตัวลงเล็กน้อย ขณะที่วงจรอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกในปีนี้กลับมาฟื้นตัวขึ้น แต่เมื่อการระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบกับหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะจีน ซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญ และกระทบสิงคโปร์เอง จึงปรับประมาณการลง กระทรวงฯ ระบุว่า การระบาดของไวรัสอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสิงคโปร์ 3 ประการ ได้แก่ 1) กลุ่มอุตสาหกรรมที่มุ่งเน้นเพื่อการส่งออก เช่น ภาคการผลิตและธุรกิจค้าส่ง จะได้รับผลกระทบจากการเติบโตที่อ่อนแอในตลาดอุปสงค์หลักทั้งในประเทศสิงคโปร์ และต่างประเทศอย่างจีน 2) ภาคการท่องเที่ยว และการขนส่ง ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง […]
ASEAN ASEAN Corner B-ASEAN B-ASEANRMF
ส่องทิศทางเศรษฐกิจอาเซียนปี 2020 ตอน ฟิลิปปินส์
BF Asean Corner ปี 2019 ถือว่าฟิลิปปินส์มีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมากขึ้น เมื่อเทียบปี 2018 แต่เนื่องจากมีประเด็นความล่าช้าในการอนุมัติงบประมาณปี 2019 เลยทำให้เรื่องงบประมาณเป็นตัวฉุดรั้งเศรษฐกิจฟิลิปปินส์ปี 2019 ไว้ เมื่อมองที่นโยบายการคลังของฟิลิปปินส์ ปีนี้ถือเป็นธีมหลัก เพราะการใช้จ่ายภาครัฐจะกลับมาเติบโตดี โดยงบประมาณปี 2020 มีการอนุมัติไปปลายปีที่แล้ว เมื่อรวมกับงบประมาณปี 2019 ที่ยังเหลืออยู่ จากการอนุมัติงบล่าช้า ทำให้ปีนี้มีงบประมาณเสริมเข้ามาค่อนข้างมาก เป็นตัวที่รัฐบาลนำมากระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี จึงมองว่า ปี 2020 เศรษฐกิจฟิลิปปินส์น่าจะเติบโตดีขึ้นเทียบปี 2019 ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์ มีโครงการชื่อว่า “Build, Build, Build” ซึ่งเราพูดกัน 2-3 ปีแล้ว เพราะโครงการนี้ออกมาตั้งแต่ปี 2017 แต่โครงการล่าช้าค่อนข้างมาก โดยตอนแรกมีถึง 75 โครงการ แต่ที่ทำแล้วเสร็จมีเพียง 2 โครงการ จะเห็นว่าเปอร์เซ็นต์ที่ทำได้เสร็จมีน้อยมาก ทำให้รัฐบาลต้องกลับมาทบทวนและแก้กระบวนการต่างๆ […]
ส่องทิศทางเศรษฐกิจอาเซียนปี 2020 ตอน มาเลเซีย
BF Asean Corner ไตรมาส 3 GDP มาเลเซีย ออกมาที่ 4.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2018 แต่ชะลอตัวลงเมื่อไปเทียบกับครึ่งปีแรกปีนี้ ที่เติบโต 4.7% โดยตัวที่ชะลอลงมา หลักๆ มาจากการบริโภคในประเทศ และการส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ที่มีความขัดแย้งกัน ซึ่งก็เริ่มเห็นชัดว่าส่งผลมาที่มาเลเซียแล้ว อีกประเด็นคือเรื่องการก่อสร้าง โดยตั้งแต่มาเลเซียได้รัฐบาลชุดใหม่มา ก็มีการชะลอการลงทุน และลดมูลค่าโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานหลายโครงการ เพื่อลดหนี้สาธารณะลง เพราะมองว่ารัฐบาลชุดเก่าก่อหนี้ไว้ค่อนข้างมาก ซึ่งทำให้ภาคการก่อสร้างโดยรวมของมาเลเซียชะลอลงต่อเนื่อง สำหรับปีหน้า เมื่อมอง Sentiment ต่างๆ อาจจะดูดีขึ้น แต่ตัวเลข เราให้ใกล้เคียงกับปี 2019 โดยในปีนี้มองว่าทั้งปีน่าจะเติบโต 4.5% ส่วนปีหน้า มองว่าจะเติบโต 4.4% คือเติบโตในอัตราใกล้เคียงกัน โดยมองว่า โครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ของมาเลเซียจะเริ่มกลับมา เพราะว่าครึ่งปีหลัง รัฐบาลเพิ่งประกาศว่าจะกลับมาลงทุนหลายโปรเจ็ก สร้างทางรถไฟ ถนน ซึ่งก็น่าจะช่วยให้การลงทุนปีหน้าดีขึ้นของฝั่งภาครัฐ และอาจส่งผลไปถึงเอกชนทำให้มีความคึกคักมากขึ้นในการลงทุน […]
ยอดโฆษณาผ่านมือถือในอินโดนีเซียพุ่งแรงสุดในโลก
เดอะ จาการ์ตา โพสต์ รายงานว่า สมาคมการตลาดผ่านมือถือ (MMA) ในอินโดนีเซีย เปิดเผยรายงานฉบับล่าสุด ระบุว่า อินโดนีเซียมีปรปะชากรที่ใช้งานอินเทอร์เน็ต 64% ของประชากรทั้งประเทศในปีที่ผ่านมา และอินโดนีเซียกำลังกลายเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนมากที่สุดอันดับ 3 ในโลก ที่ 410 ล้านคนภายในปี 2025 ส่งผลให้อินโดนีเซียเป็นตลาดโฆษณาผ่านมือถือที่มีขนาดใหญ่มาก โดยสมาคมคาดการณ์ว่าปีนี้การโฆษณาบนมือถือจะเติบโตถึง 34% เมื่อเทียบกับปีก่อน นับเป็นอัตราการเติบโตที่เร็วที่สุดในโลก Azalea Aina ผู้อำนวยการสมาคม MMA อินโดนีเซีย กล่าวว่า มูลค่าโฆษณาผ่านมือถือของประเทศอินโดนีเซียจะแตะระดับ 98 ล้านล้านรูเปียห์ หรือ 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ และคาดว่าจะเติบโต 7.9% เป็น 105 ล้านล้านรูเปียห์ในปี 2020 ทั้งนี้ พบว่าผู้คนเปลี่ยนจากการใช้อินเทอร์เน็ตบนแล็บทอปและแท็บเล็ตมาเป็นสมาร์ทโฟนมากขึ้น ระหว่างปี 2014 ถึง 2019 ส่งผลให้นักการตลาดเปลี่ยนมาใช้การโฆษณาบนมือถือมากขึ้น เป็นแรงผลักดันให้ตลาดโฆษณาบนมือถือเติบโต […]
อินโดนีเซียขยายสิทธิประโยชน์ทางภาษี ครอบคลุมหลายภาคธุรกิจมากขึ้น หวังกระตุ้นการลงทุนในประเทศ
รัฐบาลอินโดนีเซียจะขยายโครงการสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อให้ครอบคลุมภาคธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ดึงดูดการลงทุน กฎระเบียบของรัฐฉบับที่ 78/2019 ซึ่งลงนามโดยประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ของอินโดนีเซีย และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 13 ธ.ค. นี้ น่าจะกระตุ้นให้ภาคธุรกิจที่มีสิทธิ์สมัครโครงการลดหย่อนภาษีเพิ่มมากขึ้นจาก 145 แห่ง เป็น 183 แห่ง ครอบคลุม 17 กลุ่มธุรกิจในหลายพื้นที่ของประเทศ อุตสาหกรรมการเกษตรเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ได้รับสิทธิประโยชน์จากการขยายโครงการ โดยเฉพาะผู้ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ที่ได้รับการคัดเลือก เช่น ข้าวโพด ถั่วเหลือง ปลา และยาแผนโบราณก็ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีด้วย สิ่งจูงใจจะถูกจัดเตรียมไว้ สำหรับผู้ผลิตที่ต้องการขยาย หรือสร้างธุรกิจที่ผลิตสินค้าเพื่อการส่งออก เช่นเดียวกับผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างธุรกิจให้มีมูลค่าการลงทุนสูงขึ้น โดยยกระดับทรัพยกรในท้องถิ่น และการสร้างงานเป็นสำคัญ สำหรับกฎระเบียบใหม่ จะขยายภาคที่มีสิทธิ์ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ขณะที่แรงจูงใจยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยสิ่งจูงใจรวมถึงการลดภาษี 5% สำหรับสินทรัพย์ถาวร (Fixed Assets) เป็นเวลา 6 ปี ขณะที่ อัตราภาษีเงินได้สำหรับผู้เสียภาษีต่างประเทศที่ไม่มีสถานประกอบการถาวร (BUT) ในประเทศอินโดนีเซียจะถูกกำหนดไว้ที่ 10% ตามข้อตกลงที่มีอยู่ […]
ASEAN B-ASEAN B-ASEANRMF Product Update
กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นอาเซียน (B-ASEAN) และกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นอาเซียนเพื่อการเลี้ยงชีพ (B-ASEANRMF)
สรุปภาวะตลาดหุ้นอาเซียนในช่วง ต.ค. 2019 ในช่วงเดือน ต.ค. ต่อมาถึงเดือน พ.ย. บรรยากาศการลงทุนทั่วโลกผ่อนคลายมากขึ้น จากปัจจัยความเสี่ยงต่างๆที่ตลาดจับตามองนั้น มีพัฒนาการออกมาในเชิงบวก ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ที่ใกล้จะบรรลุข้อตกลงเฟสแรกร่วมกันได้ รวมถึง Brexit ที่สามารถเลื่อนกำหนดเส้นตายออกไปได้อีก 3 เดือน และอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ ได้แก่ การผ่อนคลายของนโยบายการเงินจากธนาคารกลางทั่วโลก โดยเฉพาะ FED ที่ในปีนี้ได้ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายมาแล้วถึง 3 ครั้ง ท่ามกลางความเสี่ยงจากพัฒนาการเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันเงินเฟ้อที่อ่อนแอ ด้านตลาดหุ้นอาเซียน ในเดือน ต.ค. เมื่อพิจารณาจากดัชนี MSCI AC ASEAN Index กลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ +2.35% เมื่อเทียบรายเดือน นำโดยตลาดหุ้นสิงคโปร์ที่ +3.5% ด้วยสถานการณ์เรื่องการค้าโลกที่ดีขึ้น รองลงมาได้แก่ ฟิลิปปินส์ที่ +2.6% หนุนโดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงรวมถึงปรับลดอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่อง (RRR) ของธนาคารพาณิชย์ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจากธนาคารกลางฟิลิปปินส์ (BSP) อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นอาเซียนในเดือน […]
อินโดนีเซียเล็งเสนอร่างกฎหมายแรงงานฉบับปรับปรุงในเดือน ม.ค. 2020
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า Mulyani Indrawati รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า รัฐบาลอินโดนีเซียวางแผนที่จะนำเสนอร่างกฎหมายแรงงานฉบับปรับปรุงให้สภาพิจารณาในช่วงต้นเดือน ม.ค. 2020 เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางกระตุ้นการจ้างงานของประเทศ ซึ่งถือว่ามีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Indrawati กล่าวว่า ร่างกฎหมายฉบับใหม่จะมีการลดกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดบางประการ ซึ่งเคยใช้ในกฎหมายแรงงานเมื่อปี 2003 เกี่ยวกับการรับสมัคร หรือเลิกจ้างพนักงาน การทบทวนกฎหมายแรงงาน ซึ่งถือว่ามีความอ่อนไหวทางการเมืองสูงเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ที่นักลงทุนต่างชาติหวังว่ารัฐบาลสมัยที่ 2 ของประธานาธิบดีโจโค วิโดโด (โจโควี) จะดำเนินการ ควบคู่ไปกับการปรับปรุงเรื่องการศึกษา กฎหมายแรงงานที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนั้น มีประเด็นเกี่ยวกับการจ่ายเงินชดเชย ที่ถือว่ามากเมื่อเทียบกับในโลก ซึ่งนักลงทุนมองว่า ประเด็นนี้เป็นอุปสรรคต่อการจ้างพนักงานอย่างเป็นทางการ “กฎหมายแรงงานที่มีอยู่เดิม ไม่ได้ช่วยให้เกิดการสร้างงานได้ง่ายๆ สำหรับคนที่เพิ่งจบใหม่” Indrawati กล่าว ทุกๆ ปี จะพบว่า มีจำนวนแรงงานใหม่ที่เข้าสู่ตลาดแรงงานประมาณ 110 ล้านคน ซึ่งกฎหมายฉบับเดิมนั้นเป็นประโยชน์อย่างมากเพียงผู้ที่มีงานทำอยู่เดิมแล้ว การออกกฎหมายฉบับปรับปรุงนี้ก็มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างโอกาสที่เหมือนๆ กัน ให้กับทุกคนในตลาดแรงงาน เพื่อให้ได้งาน ท่ามกลางสถานการณ์ที่บริษัทต้องการแรงจูงใจเพื่อยกระดับทักษะแรงงาน ที่ผ่านมาสหภาพแรงงานออกมาเดินขบวนประท้วงบนถนน […]







