B-CHINE-EQ China Morning Brief
จีนจะกลายเป็นประเทศรายได้สูงในปี 2025
ไชน่าเดลี รายงานว่า Justine Yifu Lin อดีตรองประธานอาวุโสและหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารโลก เปิดเผยว่า จีนจะกลายเป็นประเทศที่มีรายได้สูงในปี 2025 และจะมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลกปี 2030 โดยเขากล่าวประเด็นนี้ภายในงาน “The Economics of China’s New Era” ซึ่งเป็นงานอีเวนท์ที่จัดในยุโรป Lin กล่าวว่า แม้จีนจะเติบโตมาเป็นพิเศษตลอด 40 ปีที่ผ่านมา แต่หลังจากนี้จีนก็ยังมีศักยภาพที่เศรษฐกิจจะเติบโตแบบมีไดนามิกได้ โดยจากข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ต่อประชากรจีนในปี 2008 คิดเป็น 21% ของสหรัฐ ซึ่งเป็นอัตราเดียวกับญี่ปุ่นเมื่อปี 1951 สิงคโปร์เมื่อปี 1967 ไต้หวันในปี 1975 และเกาหลีใต้ในปี 1977 เขา กล่าวเพิ่มเติมว่า ความท้าทายจากภายนอก เช่น การกีดกันทางการค้าและความขัดแย้งทางการค้า แน่นอนว่าจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ ในประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่และขนาดกลาง ขณะที่การก่อสร้างในจีนและการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเป็นการเปิดโอกาสด้านการลงทุน “จีนเข้าสู่ยุคใหม่ […]
B-ASIA B-ASIARMF B-CHINE-EQ Morning Brief
จีนประกาศหลายมาตรการหนุนภาคเอกชนหลังเศรษฐกิจชะลอตัว–เจอพิษสงครามการค้า
รัฐบาลจีนเตรียมยกระดับการสนับสนุนภาคเอกชนในปี 2019 โดยคณะรัฐมนตรีจีนประกาศมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือบริษัทเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง รวมถึงปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน แถลงการณ์จากการประชุมคณะรัฐมนตรีจีนซึ่งมีนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนเป็นประธานการประชุม ระบุว่า จะทำการปรับปรุงนโยบายต่างๆ เพื่อช่วยเหลือบริษัทเอกชน โดยธนาคารกลางจีน (PBOC) จะปรับลดอัตรากันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) แบบมีเป้าหมาย และส่งเสริมให้การเข้าถึงบริการทางการเงินครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เพื่อช่วยสนับสนุนบริษัทเอกชน นอกจากนี้รัฐบาลจีนจะเพิ่มการปรับลดภาษี และเร่งกระบวนการตรวจสอบการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) ของบริษัทเอกชน รวมถึงขั้นตอนการรีไฟแนนซ์ อีกทั้งจะหามาตรการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ด้านการบริหารจัดการทรัพย์สินและกองทุนประกัน เพื่อช่วยลดความเสี่ยงเกี่ยวกับสินเชื่อของหุ้นที่นำมาวางประกันสำหรับบริษัทเอกชน รัฐบาลพร้อมให้คำมั่นที่จะปฏิบัติต่อบริษัทต่างๆ อย่างเท่าเทียมในด้านการประมูลราคาและการใช้ที่ดิน โดยไม่จำกัดว่าบริษัทจะเป็นของรัฐหรือของเอกชน เพื่อความเป็นกลางทางการแข่งขัน ขณะเดียวกัน รัฐบาลจะปกป้องสังหาริมทรัพย์ของผู้ประกอบการภาคเอกชนตามหลักกฎหมาย
สรุปภาวะตลาด และสถานการณ์การลงทุน B-CHINE-EQ ไตรมาส 4/18
สรุปภาวะตลาด และสถานการณ์การลงทุน การยกระดับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ต่อเนื่องและบานปลายเป็นปัจจัยเสี่ยงใหม่ที่ช่วงต้นปีตลาดไม่เคยคาดไว้ว่าจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและยืดเยื้อ ส่งผลกระทบต่อราคาหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีน ธนาคารกลางจีนเองพยายามประคับประคองสถานการณ์ด้วยการลดอัตราเงินทุนสำรอง (RRR) ลงเพื่อเพิ่มการกู้ยืมของภาคเอกชนที่เป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก แต่ยอดสินเชื่อยังไม่กระเตื้องขึ้น การขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐฯในส่วนที่เหลือแม้ยังไม่ใช้อย่างเป็นรูปธรรม กระนั้นเศรษฐกิจจีนในไตรมาสสามก็ชะลอตัวลงเหลือ 6.5% จาก 6.7% ในไตรมาสสอง หุ้นจีนตั้งแต่ต้นปีลดลง -20% YTD และเมื่อวัดจากจุดสูงสุดลดลง -26% แรงขายที่เกิดขึ้นพบในหุ้นจีนที่จดทะเบียนในประเทศจีน (A-Shares) ในกลุ่มธนาคาร และหุ้นจีนที่จดทะเบียนที่ฮ่องกง (H-Shares) ในกลุ่มเทคโนโลยี ระดับมูลค่าหุ้นจีน (Valuation) ที่ลดลง ณ ปัจจุบัน หากวัดจากดัชนี MSCI China ที่ไม่รวมบริษัทที่จดทะเบียนซึ่งซื้อขายอยู่ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ พบว่าซื้อขายที่ระดับ Forward PE 8.90 x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงปลายปี 2012 ถึง 2014 เสียอีก ในช่วงสองปีนั้นเศรษฐกิจของจีนถูกกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงมากกว่าตอนนี้ โดยได้รับผลพวงจากปัญหาหนี้สินยุโรปร่วมกับหนี้สินภาคธนาคารท้องถิ่นของจีนเข้าไว้ด้วยกัน ช่วงเวลาดังกล่าวหุ้นจีนซื้อขายที่ระดับ Valuation เฉลี่ย 9.0 […]
สิ่งน่ารู้ต่อผลกระทบของสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน
1.สหรัฐฯและจีนพึ่งพิงการส่งออกไปยังประเทศอื่นทั่วโลกคิดเป็นสัดส่วนที่ลดลงตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) พบว่า จีนพึ่งพาการส่งออก (China Export) คิดเป็นสัดส่วน 18% ของ GDP จีน (ในปี 2017) ลดลงจาก 36% (ในปี 2006) ขณะที่สหรัฐฯ พึ่งพาการส่งออก (US Export) คิดเป็นสัดส่วน 12% ของ GDP (ในปี 2017) หากมองลึกลงไปว่าสองประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจส่งออกสินค้าไปมาหากันขนาดไหนพบว่า จีนส่งออกไปสหรัฐฯ (China export to US) เพียง 2.5% ของ GDP จีน ขณะที่สหรัฐฯ ส่งออกไปจีน (US export to China) เพียง 1% ของ GDP สหรัฐฯ […]
MSCI China มีโอกาสปรับขึ้นประมาณ 14% ในระยะถัดไปถึงสิ้นปี 2018
MSCI China มีโอกาสปรับขึ้นประมาณ 14% ในระยะถัดไปถึงสิ้นปี2018หลังแรงขายอย่างหนักจบรอบ หุ้นจีน A-Shares, H-Shares และ US listed มีโอกาสฟื้นตัวขึ้นจากแรงส่งของ การดำเนินนโยบายผ่อนคลายของธนาคารกลางจีน ระดับค่าเงินหยวนที่เริ่มกลับมามีเสถียรภาพหลังอ่อนค่าลง 6% จากต้นไตรมาส 2 บริษัทจดทะเบียนที่ผลกำไรสุทธิออกมาต่ำกว่าคาด ถูกปรับลดราคาเป้าหมายสิ้นปีไปแล้ว Mr.Habin Zhu, Head of China Equity Strategy JP Morgan Asset Management คาดว่าหุ้นจีนจะมี Upside +14% สิ้นปี 2018 เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจจีนตั้งแต่ต้นปีก้าวมาได้อย่างดี ท่ามกลางราคาหุ้นที่สะท้อนข่าวลบ(Price in)ไปค่อนข้างมาก ภาคอสังหาริมทรัพย์และภาคการผลิตซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจมีทิศทางฟื้นตัว บรรยายกาศทางการเงินค่อนข้างสนับสนุนสินทรัพย์เสี่ยงจากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายของธนาคารกลางจีน (PBOC) ในครึ่งปีหลัง 2H2018 และยังมีเครื่องมือเพิ่มสภาพคล่องในระบบสถาบันการเงิน อาทิ อัตราส่วนเงินทุนสำรอง (RRR) ก็ยังพิจารณาใช้ได้ตามความเหมาะสม เมื่อดู Bottom […]
กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีน (B-CHINE-EQ)
เกิดอะไรขึ้นกับตลาดหุ้นจีน ตลาดหุ้นจีนช่วงที่ผ่านมาเผชิญกับภาวะการขายโดยใช้อารมณ์จากนักลงทุนรายย่อยที่มองตลาดทุนเป็นเครื่องมือสำหรับการทำกำไรระยะสั้น (Short term Focus) และมีพฤติกรรมซื้อขายหลักทรัพย์โดยดูจากโมเมนตัมเป็นหลัก นักลงทุนกลุ่มดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วน 85% ของมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์รายวัน (Daily Market turnover) ปัจจัยระยะสั้นที่ว่านี้กระทบต่อจิตวิทยาของนักลงทุนรายย่อยจีนเนื่องจากกังวลสงครามการค้าและเศรษฐกิจมหภาคในช่วงที่มีการลดหนี้ (De-leveraging) ว่าอาจทำให้เครื่องยนต์ที่เคยใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในหลายปีที่ผ่านมาจะหยุดชะงักลง ด้วยเหตุที่ว่านี้ราคาหุ้นจีนที่จดทะเบียนในประเทศจึงลดลงมากกว่าราคาหุ้นจีนที่จดทะเบียนซื้อขายอยู่ในต่างประเทศอาทิ ฮั่งเส็ง และแนสแดก การเคลื่อนไหวด้านพอร์ตโฟลิโอของกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีน (B-CHINE-EQ) เล็งเห็นโอกาสในช่วงที่ราคาหุ้นลดลงจึงเพิ่มสัดส่วนถือครองหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรม เทคโนโลยี และวัสดุ ตัวอย่างการลงทุนที่เห็นได้ชัดคือ บริษัท Hua Hong Semiconductor ผู้ผลิตชิปเทคโนโลยีชั้นสูงประเภท 8 inch wafers กองทุนถือครองหุ้นดังกล่าวอยู่ในอันดับ 7 ของพอร์ตลงทุนในสัดส่วน 3.1% หุ้นดังกล่าวสร้างผลตอบแทนให้กับพอร์ตมากที่สุด (Top Positive Contributor) โดยนับตั้งแต่วัดจัดตั้งกองทุน B-CHINE-EQ ราคาหุ้นบริษัท Hua Hong เพิ่มขึ้นถึง 67% หากมองย้อนหลัง 1 ปีราคาหุ้นเพิ่มถึง […]
กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีน (B-CHINE-EQ)
มุมมองต่อทิศทางตลาดหุ้นจีน 2H2018 กองทุนฯ เชื่อว่าในครึ่งปีหลังตลาดหุ้นจีนน่าจะกลับมาดีขึ้นจากครี่งปีแรก เนื่องจากตั้งแต่ต้นปี ตลาดหุ้นจีนมีความกังวลอยู่สามประการ คือ 1.ประเด็นการค้ากับสหรัฐฯ 2.ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และ 3.การตึงตัวในภาคสินเชื่อ อย่างไรก็ตาม ทั้งสามประเด็นมีแนวโน้มคลี่คลายลง เนื่องจาก 1.โอกาสเกิดสงครามการค้าแบบเต็มรูปแบบมีจำกัด ดัชนีที่ลดลงเป็นเพียง Noise ระยะสั้น มาตรการกีดกีนการค้าของสหรัฐฯ ก็มุ่งเป้าเพื่อเพิ่มคะแนนเสียงของพรรครีพับริกันในการเลือกตั้งเดือน พ.ย. นี้ อีกทั้งเสียงต่อต้านภายในพรรครีพับลีกันเองก็น่าจะเพียงพอที่จะช่วยยับยั้งมาตรการที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจ 2.เศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลงเป็นภาวะชั่วคราวที่เกิดขึ้นตามวัฏจักรของสินค้าคงคลัง (Inventory cycle) ท่ามกลางความต้องการอุปโภคบริโภคที่ยังเติบโต เชื่อว่าในที่สุดจะเห็นการลงทุนเพิ่มในสินค้าทุน (capex up-cycle) และเงินลงทุนในเครื่องจักร ภายหลังจากที่อุปทานสินค้าคงคลังในระบบเศรษฐกิจลดลงก่อนหน้า 3.ช่วงเวลาแห่งการลดภาระหนี้ในระบบ (De-leveraging) ในระยะแรกเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เนื่องจากเริ่มเห็นพัฒนาการเชิงบวก เชื่อว่าทางการจีนจะใช้สองวิธีการ คือ “แปลงหนี้เป็นทุน” กับ “เพิ่มต้นทุนทางการเงินให้สูงขึ้น” เชื่อว่าเมื่อปฏิบัติควบคู่กันแล้วจะสามารถจำกัดการเพิ่มขึ้นของหนี้ภาครัฐวิสาหกิจและธนาคารท้องถิ่นลงได้ ปัจจับบวก/ลบต่อตลาดหุ้นจีนในระยะถัดไป (+) MSCI Emerging Market Index รวมหุ้นจีน A-Shares […]
Product Special B-CHINE-EQ : A-Share จะเริ่มถูกรวมเข้าในดัชนีของ MSCI
หุ้นจีน A-Share (จดทะเบียนในตลาดเซี่ยงไฮ้/เสิ่นเจิ้น) รวม 234 บริษัท จะเริ่มถูกเข้าร่วมในดัชนี MSCI EM ตั้งแต่ 1 มิ.ย. 2018 เป็นต้นไป 1) MSCI จะช่วยหนุนให้ fund flow ไหลเข้าจีนอย่างต่อเนื่อง (โดย A-Share มีสัดส่วนใน MSCI EM ที่ 0.70% และจะค่อยๆ เพิ่มน้ำหนักจนกระทั่งสูงสุดที่ 18% ประมาณปี 2023) โดยคาดว่าปีนี้ flow จะไหลเข้าหุ้นจีน US$ 17 -18 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (เข้ามาลงทุนแล้ว US$ 11.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯตั้งแต่ต้นปี) 2) รัฐบาลจีนมีแผนขยายเพดานการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ จะทำให้ในระยะยาวมีโอกาสที่ A-Share จะมีสัดส่วนในดัชนีสูงขึ้นกว่าแผนที่ MSCI วางไว้ในปัจจุบัน […]