Morning Brief 19/10/17
สีเน้นเปิดประเทศจีนกว้างขึ้นสำหรับนักลงทนต่างประเทศ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงประกาศว่าจีนสนับสนุนระบบเศรษฐกิจโลกที่เปิด และสัญญาว่าจีนจะเดินหน้าเปิดเสรีเพื่อให้นักลงทุนต่างชาติสามารถเข้ามาลงทุนในจีนได้สะดวกยิ่งขึ้น “ประตูของประเทศจีนจะไม่ปิด แต่จะเปิดกว้างมากขึ้น” สีพูด สีพูดในช่วงงานเปิดประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ครั้งที่19ที่กรุงปักกิ่ง โดยย้ำว่าที่ผ่านมาจีนประสบความสำเร็จในการดำเนินตามระบบสังคมนิยมแบบจีนๆ และจีนจะสามารถสร้างสังคมที่มีความร่ำรวยพอประมาณตามเป้าหมายได้ สีบอกว่า นอกจากจะผลักดันนโยบายเปิดเสรีแล้ว จีนจะเปิดโอกาสให้กลไกตลาดได้ทำงาน เพื่อที่จะทำให้ระบบเศรษฐกิจมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในการใช้ทรัพยากร โดยที่ระบบอัตราแลกเปลี่ยน และระบบอัตราดอกเบี้ยต่อไปจะถูกกำหนดโดยกลไกตลาดมากยิ่งขึ้น สีบอกว่า รัฐบาลจะยกเลิกกฎระเบียบ หรือวิธีปฏิบัติที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาตลาด และการแข่งขันที่เป็นธรรม และจะสนับสนุนบริษัทของเอกชน และกระตุ้นให้มีการแข่งขัน นักวิเคราะห์และนักลงทุนต่างประเทศให้ความสนใจกับนโยบายที่สีแถลงมาก เพราะว่าทุกคนอยากจะเห็นว่าสีมีความเด็ดเดี่ยวเพียงใดในการดำเนินการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจของจีน ซึ่งได้ชะลอตัวลงในช่วงที่ผ่านมา การที่เศรษฐกิจจีนจะต่ออย่างยั่งยืนต่อไปได้ ต้องผ่านการปฏิรูป โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐวิสาหกิจใหญ่ๆทั้งหลาย ที่หลายแห่งไม่สามารถแข่งขั้นได้อีกต่อไป สีบอกว่า รัฐบาลจะสนับสนุนกลไกตลาดในการแก้ไขรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งจะสนับสนุนการควบรวมกิจการสำหรับรัฐวิสาหกิจ
การทำนายเศรษฐกิจจีนและอินเดียในอนาคต
PricewaterhouseCoopers (PwC) ได้เขียนรายงานเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ภายในปี 2050 อินเดียจะมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่กว่าสหรัฐเมื่อวัดตามความเสมอภาคของอำนาจซื้อ (Purchasing Power Parity) ความเสมอภาคของอำนาจซื้อจะสะท้อนว่าประเทศนั้นๆ ได้ผลิตสินค้าและบริการรวมกันมากน้อยแค่ไหน หากใช้ราคาสินค้าและบริการในสหรัฐอเมริกาเป็นฐานในการคำนวณ (หรือง่ายๆ คือ สมมุติราคาสินค้าให้เท่ากับในสหรัฐอเมริกา) ปรากฎว่า จีนแซงหน้าสหรัฐเรียบร้อยแล้วในปี 2016 เมื่อเทียบขนาดเศรษฐกิจของจีนกับสหรัฐตามความเสมอภาคของอำนาจซื้อ โดยที่จีนมีขนาดเศรษฐกิจ 21.26 ล้านล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ ตามมาด้วยสหรัฐที่ 18.56ล้านล้านเหรียญดอลล่าห์สหรัฐ อินเดียที่ 8.7 ล้านล้านเหรียญดอลล่าห์สหรัฐ ญี่ปุ่นที่ 4.9 ล้านล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ เยอรมันนีที่ 3.9 ล้านล้านเหรียญดอลล่าห์สหรัฐ รัสเซียที่ 3.7 ล้านล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ บราซิลที่ 3.1 ล้านล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ อินโดเนเซียที่ 3.0 ล้านล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ อังกฤษที่ 2.7 ล้านล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ และฝรั่งเศสที่ 2.7 ล้านล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ PwC […]
หมู่บ้าน “เฮดจ์ฟันด์” ของจีน
“ยูฮวง ชานนาน” เป็นชื่อหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งในเมืองหางโจ หนึ่งในเมืองโบราณอันเก่าแก่และสวยงามที่สุดของจีน แต่หากพูดถึงด้านการเงินแล้ว หมู่บ้านนี้กลับไม่เล็กเลย รายงานพิเศษของบลูมเบิร์กระบุว่า ด้วยการสนับสนุนจากทางการจีน ยูฮวง ชานนานได้กลายเป็นแหล่งชุมชนของเฮดจ์ฟันด์ และผู้บริหารการเงินของจีน คล้ายๆ กับเมืองกรีนวิชในรัฐคอนเนตทิคัตของสหรัฐอเมริกา ที่ว่าเป็นเมืองเฮดจ์ฟันด์ของสหรัฐฯ ก็เพราะบรรยากาศความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย แต่มีคุณภาพ ในปี 2012 จีนแทบจะไม่มีเฮดจ์ฟันด์เลย แต่หลังจากเปิดเสรีทางการเงิน จำนวนเฮดจ์ฟันในจีนเมื่อปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว และปริมาณกองทุนต่างๆ เพิ่มเป็น 3 เท่าตัว ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้จึงไม่น่าแปลกใจ ที่มีเฮดจ์ฟันด์ 1,000 กว่าแห่ง และกองทุนหุ้นที่มีขนาดรวมกัน 580,000 ล้านหยวน หรือ 84,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ได้เข้ามาจดทะเบียนที่หมู่บ้านยูฮวง ชานนาน ซึ่งผ่านการปรับเปลี่ยนแบรนด์ตัวเอง จนเรียกกันว่า “ยูฮวง ชานนาน ฟันด์ทาวน์” เนื่องจากมีการให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ รวมทั้งลดภาษีถึง 30% […]