BBLAM Economic Update: เมื่อ Fed น็อครอบดอกเบี้ยนโยบาย ค่าเงินจึงกลายเป็นเรื่องสำคัญ

BBLAM Economic Update: เมื่อ Fed น็อครอบดอกเบี้ยนโยบาย ค่าเงินจึงกลายเป็นเรื่องสำคัญ

โดย ดร.มิ่งขวัญ  ทองพฤกษา Chief Economist, BBLAM การประชุมนโยบายการเงินสหรัฐฯ (FOMC) ครั้งล่าสุด ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed ส่งสัญญาณหนักหน่วงว่า มื้อนี้ ต้องเอาเงินเฟ้อลงให้ได้ แม้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะสู่ขิตก็ยอมแลก เล่นเอาหลายๆ ประเทศอกสั่นขวัญแขวนค่ะ เพราะไม่ว่า Fed จะสามารถพิชิตภารกิจนี้ได้ไหม แต่ที่แน่ๆ การที่ Fed ดีดนิ้วหนึ่งครั้ง เท่ากับ น็อครอบธนาคารกลางอื่นไปแล้วสามรอบ ก็ Fed ขึ้นดอกเบี้ยครั้งละ 75 ตัง ทั้งที่ประเทศอื่นปรับขึ้นครั้งละ 25 ตัง และเมื่อ Fed มีความมุ่งมั่นเช่นนี้ ดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ก็ดีดนำประเทศชาติบ้านอื่นให้ส่วนต่างระหว่างกันกว้างขึ้นไปอีก น็อครอบประเทศอื่นไปหลายรอบสนามเลย เดือดร้อนญี่ปุ่น ต้องออกมาตรการมาป้องกันค่าเงินเยนที่อ่อนสุดโต่ง และเมื่อมีคนหนึ่งทำ อีกคนต้องทำตาม นั่นคือ เวียดนาม และประเทศกลุ่ม […]

เฟดขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ อีก 0.75% เป็นรอบที่ 3 ลั่นใช้นโยบายนี้จนสิ้นปีหน้า ส่งผลกระแทกใส่ ‘เอเชีย’ แรง

เฟดขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ อีก 0.75% เป็นรอบที่ 3 ลั่นใช้นโยบายนี้จนสิ้นปีหน้า ส่งผลกระแทกใส่ ‘เอเชีย’ แรง

ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% ในวันพุธ (21 ก.ย.) เป็นรอบที่ 3 ต่อเนื่องกัน ขณะที่ประธานพาวเวล ลั่นพร้อมใช้ยาแรงต่อเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แม้อาจต้องแลกด้วยภาวะการเติบโตชะลอตัวและอัตราว่างงานพุ่งขึ้นก็ตาม ความเคลื่อนไหวคราวนี้นอกจากทำวอลล์สตรีทร่วงแรง ยังฉุดตลาดหุ้นเอเชียดิ่งตาม และค่าเงินสกุลต่างๆ อ่อนลงต่อเนื่องเมื่อเทียบดอลลาร์ คณะกรรมการกำหนดนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เอฟโอเอ็มซี) ประกาศในวันพุธภายหลังการประชุม 2 วัน ขยับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเฟด ฟันด์ส เรต ไปอีก 0.75% เป็นการเพิ่มอย่างแรงขนาดนี้รอบที่ 3 ต่อเนื่องกัน และถือเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 5 สำหรับปีนี้ ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้นตัวนี้อยู่ที่ระดับ 3.0-3.25% ไม่เพียงเท่านั้น เฟดยังแถลงคาดการณ์ด้วยว่า ควรขึ้นดอกเบี้ยต่อไปอีก ทั้งนี้ เฟดแสดงความกังวลกับอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ซึ่งพุ่งสูงสุดในรอบ 40 ปี จนกดดันอย่างแรงใส่ครอบครัวและธุรกิจอเมริกัน รวมทั้งกลายเป็นภาระทางการเมืองสำหรับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่จะต้องเผชิญศึกเลือกตั้งกลางเทอมต้นเดือนพฤศจิกายนที่จะถึง เจอโรม พาวเวล ประธานของเฟด […]

Economic Update: Japan: BoJ คงนโยบายการเงินตามคาด สวนทาง Fed และธนาคารกลางอื่นทั่วโลก

Economic Update: Japan: BoJ คงนโยบายการเงินตามคาด สวนทาง Fed และธนาคารกลางอื่นทั่วโลก

ธนาคารกลางญี่ปุ่น หรือ Bank of Japan (BoJ) มีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษ (Ultraeasy Monetary Policy) ในการประชุมวันนี้ ทั้งในส่วนของอัตราดอกเบี้ยนโยบายและมาตรการ Yield Curve Control ท่ามกลางเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเยนอ่อนค่าแรงทะลุ 140 เยนต่อดอลลาร์ฯ ซึ่งสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ แต่ยิ่งทำให้นโยบายการเงินของญี่ปุ่นสวนทางกับธนาคารกลางอื่นๆ ทั่วโลกที่ต่างพากันใช้นโยบายคุมเข้มมากขึ้นเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นเร่งตัวขึ้นจากราคาพลังงานและอาหารที่ยังคงอยู่ในระดับสูง รวมทั้งต้นทุนการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าอย่างรวดเร็ว สำหรับในเดือนส.ค. เงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมราคาอาหารสดและเป็นเงินเฟ้อเป้าหมายของ BoJ เร่งตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 31 ปีที่ 2.8% YoY จากการเพิ่มขึ้นของราคาพลังงาน ราคาไฟฟ้า และอาหารแปรรูป ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเร่งตัวขึ้นเป็น 3.0% YoY จาก 2.6% ในเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้ ในแถลงการณ์หลังการประชุม นาย Haruhiko Kuroda […]

BBLAM Economic Note: เมื่อ Fed พร้อมแลกทุกอย่างเพื่อจัดการเงินเฟ้อ นักลงทุนจะหลบพายุจากพ่อพาวเวรได้อย่างไร   

BBLAM Economic Note: เมื่อ Fed พร้อมแลกทุกอย่างเพื่อจัดการเงินเฟ้อ นักลงทุนจะหลบพายุจากพ่อพาวเวรได้อย่างไร   

โดย ดร.มิ่งขวัญ ทองพฤกษา Chief Economist, BBLAM  ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ (12: 0) ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 75 bps เป็นผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ขยับขึ้นมาที่ 3.0-3.25% ในการประชุมเดือนก.ย. เป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับ 75 bps สามครั้งติดต่อกันแล้ว และเป็นผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายขยับมาสู่ระดับสูงสุดตั้งแต่ปี 2008 โดยในการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการต่างเห็นพ้องกันว่า จะต้องมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครั้งถัดๆ ไปอีก ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับที่ประธาน Fed ได้ให้สัมภาษณ์ในช่วง Press Conference ในการประชุมครั้งนี้ได้มีการเปิดเผย Dot Plot และข้อมูลประมาณการทางเศรษฐกิจออกมาเพิ่มเติมด้วย โดย Dot Plot ในรอบนี้ได้สะท้อนว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะวิ่งไปถึง 4.4% สิ้นปีนี้ (สูงกว่าประมาณการครั้งก่อนที่ 3.4%) และอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะวิ่งขึ้นไปต่อในปีหน้าที่ 4.6% ด้านประมาณการทางเศรษฐกิจนั้นถูกปรับลงมาโดย Fed มองว่าปีนี้ […]

ฟันด์โฟลว์จ่อทิ้ง ‘ตลาดเกิดใหม่’ หากเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรง

ฟันด์โฟลว์จ่อทิ้ง ‘ตลาดเกิดใหม่’ หากเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรง

“นักวิเคราะห์” ชี้หากเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรง อาจเร่งกองทุนต่างชาติแห่ถอนลงทุนจากตลาดหุ้นในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ของเอเชียเร็วขึ้น “เวิลด์แบงก์” แนะจีนกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม นักวิเคราะห์ คาดการณ์ว่า หากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่อีกครั้ง ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ อาจเป็นตัวเร่งให้กองทุนต่างชาติแห่ถอนการลงทุนออกจากตลาดหุ้นในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ของเอเชียรวดเร็วขึ้น ซึ่งซ้ำเติมตลาดกลุ่มนี้ให้ย่ำแย่ลงอีก จากเดิมที่ได้รับผลกระทบอยู่แล้วจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 80% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. โดยหากเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมครั้งนี้ ก็จะส่งผลให้เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 หลังจากปรับขึ้น 0.75% ทั้งในเดือน มิ.ย.และ ก.ค. ด้านบลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์ ระบุว่า นักลงทุนต่างชาติถอนการลงทุนออกจากตลาดหุ้นในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ ยกเว้นจีน ติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 […]

BBLAM Economic Note: หาเรื่องลงไม่เนียนเลย…บ่องตง

BBLAM Economic Note: หาเรื่องลงไม่เนียนเลย…บ่องตง

โดย ดร.มิ่งขวัญ ทองพฤกษา Chief Economist, BBLAM อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของสหรัฐฯ ขยับมาที่ 8.3% YoY (0.1%MoM) โดยจุดสนใจของตลาดอยู่ที่ Core Inflation ขยับมาที่ 0.6%MoM เป็นเหตุให้เกิดความปั่นป่วนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นอื่นๆ ทั่วโลก ขณะที่โบรกเกอร์ (นำโดย Nomura) ส่งเสียงว่า 75 ตัง เอาไม่อยู่แล้ว ขึ้นไปเลย 1 บาท ขออนุญาตให้ข้อสังเกตดังนี้ค่ะ อัตราเงินเฟ้อที่ ธนาคารกลางสหรัฐฯ ระบุให้เป็นเป้าหมาย คือ เงินเฟ้อที่เรียกว่า Core PCE ไม่ใช่เจ้าอัตราเงินเฟ้อที่ประกาศไปเมื่อคืน เจ้า Core PCE ใช้วิธีคิดที่ต่างกันกับเงินเฟ้อเมื่อคืนค่ะ   Core PCE (กราฟเขียว) ที่เป็น KPI ของ Fed […]

นักเศรษฐศาสตร์ต่างชาติ คาดเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือน ก.ย.

นักเศรษฐศาสตร์ต่างชาติ คาดเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือน ก.ย.

นักเศรษฐศาสตร์รอยเตอร์ ชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ในเดือนกันยายน ท่ามกลางคาดการณ์ว่า เงินเฟ้อจะพุ่งถึงจุดสูงสุด เพราะกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มขึ้น อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงเมื่อเดือนที่แล้ว ก็ถือว่ายังอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี ส่งผลให้กองทุนฟิวเจอร์สของเฟดปรับราคาให้แคบลงอยู่พื้นฐานที่ 0.50% ในเดือน ก.ย. หลังจากที่เคลื่อนไหวในเดือนมิ.ย.และ ก.ค.อยู่ที่ 0.75%  ในผลสำรวจของรอยเตอร์ เมื่อวันที่ 19 – 20 ส.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครึ่งเปอร์เซ็นต์ในเดือนหน้า ซึ่งจะนำไปสู่อัตราดอกเบี้ยหลักที่ระดับ 2.75-3.00% เมื่อเดือนที่แล้ว นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ กล่าวว่า ในการประชุมที่แจ็กสันโฮล วันที่ 26 – 27 ส.ค. อาจพิจารณาชะลอการเพิ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ย น่าจะเป็นสิ่งที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม นายพาวเวล จะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในวันที่ 26 ส.ค.เวลา 10.00 […]

ผู้บริโภคสหรัฐฯ มองเงินเฟ้อเริ่มแผ่ว หวังเฟดผ่อนนโยบายขึ้นดอกเบี้ย

ผู้บริโภคสหรัฐฯ มองเงินเฟ้อเริ่มแผ่ว หวังเฟดผ่อนนโยบายขึ้นดอกเบี้ย

ผู้บริโภคมองว่าแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ในเดือนกรกฎาคม 2565 จะลดลงอย่างมาก สืบเนื่องจากราคาก๊าซที่ร่วงลงอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงความเชื่อที่มองว่าการเร่งตัวของราคาอาหาร และที่อยู่อาศัยจะเบาลงในอนาคตด้วยเช่นกัน ผลสำรวจรายเดือนของธนาคารกลางนิวยอร์ก พบว่า ผู้บริโภคในสหรัฐฯ มองว่า อัตราเงินเฟ้อจะเคลื่อนตัวอยู่ในระดับ 6.2% ในปี 2566 และ 3.2% ในอีกสามปีหลังจากนั้น ถึงแม้ว่าตัวเลขดังกล่าวจะยังอยู่สูงเมื่อเทียบกับมาตรฐานในอดีต แต่ถือว่าเป็นการปรับตัวลดลงที่สูงมากจากผลสำรวจที่ทำขึ้นในเดือนมิถุนายน ซึ่งตัวเลขที่ได้มานั้นอยู่ที่ 6.8% และ 3.6% ตัวเลขจากสำนักสถิติแรงงานสหรัฐฯ บ่งชี้ว่า ราคาอาหารในปีนี้จนถึงเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา เพิ่มสูงขึ้น 10.4% และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก  6.7% ในอีก 12 เดือนหลังจากนี้ แต่ยังลดลง 2.5 จุดเปอร์เซ็นต์จากผลสำรวจในเดือน มิ.ย. ในขณะเดียวกัน ราคาก๊าซที่เพิ่มสูงขึ้น 60% ในช่วงปีนี้ ผลสำรวจพบว่า ราคาก๊าซคาดจะสูงขึ้นเพียง 1.5% เท่านั้นในปีหน้า ซึ่งลดลง 4.2 จุดเปอร์เซ็นต์จากผลสำรวจในเดือน […]

Killing Inflation is Fed’s Top Priority

Killing Inflation is Fed’s Top Priority

Economic Research การประชุม FOMC เดือนมี.ค. Fed พร้อมขึ้นดอกเบี้ยเพื่อจัดการเงินเฟ้อ Key Event การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯหรือ FOMC Meeting ประจำเดือนมี.ค. มีมติ 8:1 ให้ปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 0.25% สู่กรอบ 0.25-0.5% โดยมีคณะกรรมการ 1 ท่านคือ James Bullard ซึ่งดำรงตำแหน่ง ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) สาขา St. Louis ไม่เห็นด้วยและมองว่าควรปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น 0.5% ในครั้งนี้ ใจความหลักสำคัญของการประชุมในครั้งนี้ ได้แก่ คณะกรรมการ FOMC มองว่าประเด็นด้านการบริหารจัดการอัตราเงินเฟ้อคือภารกิจหลักของ Fed โดยในผลการประชุมได้ระบุถึงแรงกดดันอัตราเงินเฟ้อที่มีมากขึ้นหรือ Broader Price Pressure (อันเป็นผลจาก Supply-Disruption และราคาพลังงาน) พร้อมกันนี้ยังได้ระบุเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์ในรัสเซียและยูเครนจะส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อในระยะเวลาอันใกล้ด้วย ขณะที่คณะกรรมการ FOMC ยังคงเห็นว่าการจ้างงานในสหรัฐฯ […]

ความขัดแย้งของรัสเซีย-ยูเครน จะทำให้ Fed ตัดสินใจยากขึ้นในการขึ้นดอกเบี้ย

ความขัดแย้งของรัสเซีย-ยูเครน จะทำให้ Fed ตัดสินใจยากขึ้นในการขึ้นดอกเบี้ย

มุมมองของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังเดือนมีนาคมนี้ไปแล้ว อาจจะยังไม่ชัดเจน ถ้าหากรัสเซียยังคงรุกรานยูเครนต่อไป เนื่องจากความตึงเครียดที่เกิดขึ้นนี้ไปกดดันให้ราคาน้ำมันและน้ำมันเบนซินปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งหลักที่คนอเมริกันจำนวนมากต้องซื้อ และการบริโภคในสหรัฐฯ คิดเป็น 70% ของเศรษฐกิจสหรัฐฯ สำหรับราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ปรับขึ้น ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของกองทัพรัสเซียที่เข้าไปในยูเครน และการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ และพันธมิตร ซึ่งอาจจะนำไปสู่การจำกัดในฝั่งอุปทาน เนื่องจากรัสเซียเป็นผู้ส่งออกรายหลักน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ นอกจากนี้ยังเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดในกลุ่มข้าวสาลีและแร่แพลเลเดียม ทั้งยังเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ในกลุ่มนิกเกิล อะลูมิเนียม และโลหะอื่นๆ ด้วย Mark Zandi หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ ของหน่วยงานวิเคราะห์ของ Moody’s กล่าวว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับน้ำมันมากกว่าสิ่งอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ข้าวสาลี แพลเลเดียม และนิกเกิล โดยน้ำมันอาจจะราคาปรับขึ้น 10-15 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลได้ เพราะว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้น และอาจจะเพิ่มอีก 30-40 เซ็นต์ต่อแกลลอน สำหรับน้ำมันไร้สารตะกั่ว ซึ่งเท่ากับการเพิ่มขึ้นครึ่งเปอร์เซ็นต์ของอัตราเงินเฟ้อฝั่งผู้บริโภคเมื่อเทียบรายปี ปัจจุบันอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ อยู่ในระดับ 7.5% อยู่แล้ว เราจึงมองว่า มีความซับซ้อนมากขึ้นสำหรับการตัดสินใจของ Fed […]