ยุโรปเตรียมผ่อนคลายกฎ เปิดทางหนุนลงทุนโรงงานชิป
สหภาพยุโรปกำลังหาวิธีที่จะทำให้หาเงินทุนได้ง่ายขึ้นมาดำเนินการจัดสร้างโรงงานผลิตชิป ภายใต้แผนหลักพันล้านยูโรของคณะกรรมาธิการยุโรปที่วางไว้ โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นการเติบโตของอุตสาหกรรมชิปและลดการพึ่งพาบริษัทในสหรัฐฯ กับเอเชียลง ความเคลื่อนไหวของฝ่ายบริหารสหภาพยุโรปนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่สหรัฐฯ มีแผนการลงทุนในชิป 52,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ออกมาเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับจีน รวมทั้งมาในช่วงที่โลกมีปัญหาขาดแคลนชิป มีปัญหาคอขวดในห่วงโซ่อุปทานที่กระทบต่อผู้ผลิตรถยนต์ ผู้ให้บริการสุขภาพ ผู้ให้บริการโทรคมนาคม และอื่นๆ ทั้งนี้แผนการลงทุนในชิปของยุโรป จะใช้เงินลงทุน 15,000 ล้านยูโร หรือประมาณ 17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งที่เป็นการลงทุนภาครัฐและภาคเอกชน ภายในปี 2030 ตามที่ Ursula von der Leyen ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ระบุกับสื่อ “การลงทุนนี้จะเพิ่มเติมจากการลงทุนภาครัฐ 30,000 ล้านยูโรที่มีแผนออกมาแล้วจากโครงการ NextGenerationEU รวมทั้ง Horizon Europe และงบประมาณของชาติ โดยเงินลงทุนก้อนนี้จะถูกจับคู่กับการลงทุนระยะยาวของภาคเอกชน” เธอ กล่าว เบื้องต้นยุโรปจะผ่อนคลายกฎเกณฑ์ของรัฐที่มีอยู่ ที่มีเป้าหมายเพื่อป้องกันการอุดหนุนที่ผิดกฎหมายและไม่เป็นธรรมที่มอบให้กับบริษัทในยุโรป สำหรับโรงงานชิปที่มีนวัตกรรม ที่มา : Reuters
ผลสำรวจ Reuters คาดเศรษฐกิจญี่ปุ่นโต 5.8% ในไตรมาส 4 ปี 2021
ผลสำรวจของ Reuters ชี้ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มจะฟื้นตัวในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2021 หลังจากการบริโภคเพิ่มขึ้น ในช่วงที่ยอดผู้ติดเชื้อโควิดลดลง จากนั้นเศรษฐกิจก็จะค่อยๆ ชะลอตัวลงในไตรมาสแรกของปี 2022 จากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนที่พุ่งขึ้น ผลสำรวจยังชี้ว่า ราคาค้าส่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในเดือนมกราคม จากปีก่อนหน้า โดยสัญญาณของราคาพลังงานและวัตถุดิบที่สูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัท เศรษฐกิจญี่ปุ่น คาดว่าจะเติบโต 5.8% ในเดือนตุลาคม – ธันวาคม 2021 ฟื้นตัวจากที่ปรับลดลงไป 3.6% ในไตรมาสที่ 3 ปี 2021 ตามค่ากลางที่นักเศรษฐศาสตร์ 18 คน ตอบในแบบสำรวจของ Reuters การปรับเพิ่มขึ้นนี้ มีแรงขับเคลื่อนมาจากการบริโภคภาคเอกชนที่เติบโต 2.2% ซึ่งการบริโภคภาคเอกชน คิดเป็นมากกว่าครึ่งหนึ่งของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของญี่ปุ่น ขณะที่การใช้จ่ายเงินลงทุน เพิ่มขึ้น 0.5% ส่วนความต้องการจากภายนอกทำให้ GDP ไตรมาสสุดท้ายปี 2021 เติบโตเพิ่ม […]
ผู้เชี่ยวชาญมอง โลกถึงเวลาก้าวข้ามการแพร่ระบาดแล้ว
ดร.Stefanos Kales ศาสตราจารย์จากโรงเรียนแพทย์ Harvard ซึ่งดูแลสาขาเด็กและผู้ใหญ่ ระบุว่า โควิด-19 ไม่ใช่ภัยคุกคามที่ร้ายแรงอีกแล้ว เป็นเพียงสิ่งที่สร้างความรำคาญขัดขวางการเรียน การทำงาน และการเดินทางเท่านั้น ทั้งนี้ เมื่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนไปถึงจุดสูงสุด ไวรัสย่อยๆ ที่จะตามมาหลังจากนั้นก็จะยิ่งอ่อนแอลง เราจำเป็นต้องปล่อยให้คนทั่วไป รวมถึงคนหนุ่มสาว กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์ที่มีเหตุผล พูดตรงไปตรงมา และมีความซื่อสัตย์ หลายๆ คน ชี้ว่า โควิด-19 กำลังเคลื่อนย้ายตัวเองอย่างรวดเร็วจากโรคระบาดไปสู่โรคประจำถิ่น เทียบได้กับไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ สำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว โควิด-19 เป็นเพียงฝันร้ายมากกว่าภัยคุกคามสุขภาพไปแล้ว ยกเว้นสำหรับผู้สูงอายุ ที่มีปัญหาสุขภาพและยังไม่ได้รับวัคซีน เขา มองว่า นี่ถึงเวลาแล้วที่จะหยุด หรือลดลงอย่างมาก สำหรับการทดสอบสุขภาพผู้คนที่ไม่แสดงอาการโควิด โดยการทดสอบในวงกว้างสำหรับการเดินทางและทำงาน ทำให้ผู้ป่วยและผู้ที่อ่อนแอพบความยากลำบากมากขึ้นในการทดสอบ “เราก็ไม่ได้ทดสอบคัดกรองผู้คนที่ป่วยเป็นไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ได้ดี ดังนั้นควรจะหยุดทดสอบสุขภาพของเด็กที่ไปโรงเรียนและมหาวิทยาลัย และในเวลานี้ครู และพนักงานต่างมีโอกาสได้รับวัคซีน ดังนั้นพวกเขาจึงมีความเสี่ยงน้อยลงแล้ว” เขา กล่าว ที่มา : CNBC
รัฐบาล Biden เบรกแผนของไปรษณีย์สหรัฐฯ ที่จะใช้จ่ายงบหลักพันล้านดอลลาร์สหรัฐกับยานพาหนะที่ใช้ก๊าซ
รัฐบาลบริหารของ Joe Biden ประธานาธิบดีสหรัฐฯ พยายามจะระงับแผนการใช้จ่ายของบริการไปรษณีย์ของสหรัฐฯ ที่วางแผนว่าจะใช้จ่าย 11,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการเปลี่ยนยานพาหนะสำหรับส่งพัสดุที่ใช้พลังงานก๊าซหลายพันคัน โดยชี้ว่ายานพาหนะประเภทนี้จะส่งผลเสียต่อการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ และสุขภาพของประชาชน ทั้งนี้ EPA และสภาคุณภาพสิ่งแวดล้อมของทำเนียบขาว ส่งจดหมายไปถึงบริการไปรษณีย์ของสหรัฐ โดยเรียกร้องและอัปเดตรายละเอียดทางเทคนิค รวมถึงทำประชาพิจารณ์เกี่ยวกับแผนการเปลี่ยนยานพาหนะครั้งนี้ แผนงานของผู้ให้บริการไปรษณีย์ของสหรัฐฯ ที่จะเปลี่ยนยานพาหนะนั้นขัดแย้งกับแผนของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ต้องการจะเปลี่ยนรถยนต์และรถบรรทุกกว่า 600,000 คัน ของรัฐบาลกลางไปสู่ยานพาหนะที่ใช้พลังงานไฟฟ้า และตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนของรัฐบาลกลางลง 65% ภายในปี 2030 นอกจากนี้รัฐบาลยังสัญญาจะลดก๊าซเรือนกระจกเกือบครึ่งหนึ่งภายในปลายทศวรรษนี้ และเปลี่ยนเศรษฐกิจไปสู่การปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ภายในช่วงกลางศตวรรษ (ปี 2050) ที่มา : CNBC
เวียดนามเผยธุรกิจต่างๆ กลับมาดำเนินการปกติแล้วในเดือนมกราคม 2022
สำนักงานสถิติแห่งชาติ เผยว่า กิจการกว่า 19,100 ราย กลับมาดำเนินงานในเดือนมกราคม 2022 หลังจากที่ต้องปิดการดำเนินงานไปหลายเดือน โดยจำนวนกิจการที่ดำเนินงาน เพิ่มขึ้น 353% จากเดือนธันวาคม 2021 จำนวนกิจการที่กลับมาดำเนินการเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ ถือเป็นสัญญาณที่ทำให้มีกำลังใจขึ้น หลังจากเวียดนามผ่อนคลายมาตรการควบคุมไวรัสโคโรนา กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมก็เริ่มกลับมามากขึ้น ช่วยฟื้นฟูธุรกิจได้ ทั้งนี้ มีธุรกิจประมาณ 13,000 ราย ที่มีทุนจดทะเบียนรวมกันกว่า 192 ล้านล้านดอง หรือ 8,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ดำเนินการอยู่ระหว่างเดือนมกราคม ขณะนี้ในจำนวนนี้ 2,250 ราย อยู่ในฮานอย และ 2,000 ราย อยู่ในโฮจิมินห์ อย่างไรก็ตามในเดือนมกราคม 2022 มีธุรกิจประมาณ 38,400 ราย ที่ออกจากตลาดไป ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดที่เคยมีมา และเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า เมื่อเทียบเดือนก่อนหน้านั้น ที่มา : […]
อัตราการว่างงานในญี่ปุ่นลดลง ขณะที่การจ้างงานไต่ระดับสูงสุดในรอบ 36 ปี
รัฐบาลญี่ปุ่นเผยแพร่ข้อมูลล่าสุดออกมาว่า อัตราการว่างงานในญี่ปุ่นลดลงไปอยู่ที่ 2.7% ในเดือนธันวาคม 2021 ท่ามกลางตัวเลขการจ้างงานรายเดือนที่ทำสถิติสูงสุดในรอบ 36 ปี ทั้งนี้ เมื่อปรับปัจจัยเรื่องฤดูกาลแล้ว อัตราการว่างงานในเดือนธันวาคม 2021 อยู่ต่ำกว่าระดับ 2.8% ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นค่ากลางตามที่นักเศรษฐศาสตร์ตอบแบบสำรวจของ Reuters ไว้ อัตราการจ้างงานที่ปรับปัจจัยเรื่องฤดูกาลเพิ่มขึ้น 490,000 ตำแหน่ง ไปอยู่ที่ 66.7 ล้านตำแหน่ง ในเดือนธันวาคม 2021 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 1986 “ตัวเลขการจ้างงานที่ออกมาเติบโตในกลุ่มธุรกิจเช่น โรงแรม และบริการร้านอาหาร เป็นตัวสะท้อนอัตราการติดเชื้อโควิด-19 ที่อยู่ในระดับต่ำในเดือนธันวาคม 2021 อย่างไรก็ตามเรายังต้องจับตาแนวโน้มอย่างใกล้ชิด หลังยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มขึ้น” รัฐบาลญี่ปุ่น ระบุ ที่มา : Reuters
กระเป๋ามือสองกำลังเป็นเทรนด์ฮิตในหมู่ผู้บริโภคจีน
สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบสินค้าหรูหราในจีน ของเก่ากำลังเป็นเทรนด์ใหม่ที่มาแรง ซึ่งผู้ค้าปลีกสินค้าหรูมือสองในจีนก็ได้ใช้โอกาสจากไลฟ์สตรีมมิ่งแพลตฟอร์มและร้านค้าออฟไลน์ในการมอบประสบการณ์ชอปปิงแบบหลากหลายช่องทางให้ลูกค้ากลุ่มนี้ หลังจากการเดินทางไปต่างประเทศได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้การใช้จ่ายกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยในประเทศเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ พบว่า พื้นที่ชอปปิงยอดนิยมสำหรับผู้บริโภครุ่นใหม่ในกรุงปักกิ่ง มีร้านค้าชื่อ Panghu เปิดขายสินค้าหรูมือสองอยู่ ร้านค้ามีพื้นที่ 1,200 ตารางเมตร จัดแสดงกระเป๋าหรูมือสองบนชั้นวาง มีทั้งแบรนด์ Hermes และ Louis Vuitton ขณะที่การออกแบบโซนต่างๆ ในร้านก็เน้นความทันสมัย และกลายเป็นจุดสนใจในเมือง Ma Cheng ผู้ก่อตั้ง Panghu Technology Co Ltd กล่าวว่า การจัดแสดงกระเป๋าจำนวนมากในร้าน ทำเพื่อสร้างความแตกต่างจากร้านขายสินค้าหรูหรามือหนึ่ง ขณะเดียวกันก็เน้นเรื่องการสร้างประสบการณ์ชอปปิงแบบไร้แรงกดดัน โดยมีแบรนด์สินค้าหลากหลาย มีบริการทั้งขายและรับซื้อคืน รวมทั้งมีห่วงโซ่อุปทานที่เชื่อถือได้ ทั้งนี้ มีการลงทุนไปกว่า 200 ล้านหยวน หรือประมาณ 31.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กับร้านค้าแห่งนี้ ซึ่งก็พบว่า มีผู้มาเยี่ยมชมมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ต้องแพ็คสินค้ามากกว่าที่คาดการณ์ในช่วงสุดสัปดาห์ โดยในเดือนแรกที่เปิดทำการคือ เดือนพฤศจิกายน […]
Meituan ร่วมวงขยายการใช้งานสกุลเงินหยวนดิจิทัล
Meituan บริษัทที่ให้บริการส่งอาหารและบริการในท้องถิ่น ได้ร่วมขยายการใช้งานเงินหยวนดิจิทัล โดยอนุญาตให้ใช้เงินหยวนดิจิทัลบนแพลตฟอร์มของตัวเองเพื่อซื้อสินค้าได้ นี่คือเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บริษัทเทคโนโลยีเข้ามาช่วยสนับสนุนสกุลเงินหยวนดิจิทัลที่ธนาคารกลางจีนออกมา เพื่อเพิ่มจำนวนคนที่เข้ามาใช้งาน ทั้งนี้ ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดเงินหยวนดิจิทัล หรือแอปพลิเคชัน e-CNY และเชื่อมต่อกับแอป Meituan ได้ จากนั้นก็จะใช้เงินหยวนดิจิทัลเพื่อจ่ายทุกสิ่งได้ตั้งแต่ตั๋วชมภาพยนตร์ ค่าแท็กซี่ และโรงแรม สำหรับ Meituan มีผู้ใช้งานที่ทำธุรกรรมมากกว่า 660 ล้านราย โดยเป็นการนับจากการใช้บริการในช่วง 12 เดือน สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2021 โดยแอปนี้ถือเป็นหนึ่งในยักษ์ใหญ่ส่งอาหารในจีน และยังอนุญาตให้ผู้บริโภคเข้าถึงบริการออฟไลน์อื่นๆได้ เช่น การจองโรงแรม ที่มา : CNBC
IMF มองตลาดอาจจะผันผวนมากขึ้นหลังธนาคารกลางขึ้นดอกเบี้ย
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกมาเตือนว่าอาจจะได้เห็นความปั่นป่วนเกิดขึ้นในตลาดการเงินในอนาคต โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่รัฐบาลทั่วโลกกำลังปรับแนวทางเข้าสู่ช่วงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ Tobias Adrian ที่ปรึกษาทางการเงินและผู้อำนวยการตลาดการเงินและตลาดทุนของ IMF กล่าวว่า การที่ธนาคารกลางเริ่มหันมาใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดและควบคุมเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น จะผลักดันให้หุ้นที่มีความเสี่ยงสูงปรับตัวลดลง แม้ผู้กำหนดนโยบายจะให้คำมั่นว่าจะทำให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างราบรื่นก็ตาม “เราอาจได้เห็นภาวะตลาดเงินที่ตึงตัวแน่นอน และนั่นก็หมายความว่า สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง เช่น หุ้น อาจถูกขายออกไปอีก” Adrian กล่าว สำหรับปฏิกิริยาของตลาดที่มีจะขึ้นอยู่กับความสามารถของธนาคารกลางในการสื่อสารเจตนารมณ์ที่มีออกมา ที่มา : CNBC
แนะนักลงทุนระยะยาวไม่ควรกังวลมากนักกับตลาดหุ้นที่ตกลงไป 10% จากระดับสูงสุด
เมื่อวันจันทร์ที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมา ดัชนี S&P500 ตกลงไป 10% จากจุดสูงสุดที่เพิ่งทำมาเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งนักลงทุนที่กำลังตื่นตระหนกอยู๋ ก็อาจจะไปมองถึงแนวโน้มระยะยาวด้วย อย่างไรก็ตาม การที่ดัชนีปรับฐานลงไป 10% ไม่ถือเป็นเรื่องผิดปกติ สิ่งที่ไม่ปกติก็คือ จะมีระยะเวลานานเท่าไหร่ในการปรับฐาน จากข้อมูลพบว่า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2020 ดัชนี S&P500 ลดลงไปประมาณ 33% ก่อนที่จะฟื้นตัวกลับมา ส่วนการปรับลดลงมากกว่า 10% ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น คือช่วงปลายปี 2018 ซึ่ง Fed มีการพูดถึงเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเชิงรุก โดยในเวลานั้น นับตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนจนถึงช่วงก่อนคริสต์มาส S&P500 ปรับลงไป 19% โดยรวมแล้ว 2 ช่วงเวลาที่ตลาดปรับลดลงมากกว่า 10% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เกิดขึ้นทุกๆ 19 เดือน ทั้งนี้ […]