อินเดียคงดอกเบี้ยกู้ยืม ย้ำให้ความสำคัญการเติบโตมาก่อน
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า ธนาคารกลางอินเดียคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำคัญไว้ในระดับต่ำอยู่ โดยชี้ว่า การเติบโตมีความสำคัญลำดับต้นๆ แต่ก็เตือนถึงความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนที่ะมีผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แม้ว่าธนาคารกลางอินเดียจะยังคงมีท่าทีการใช้นโยบายแบบผ่อนคลาย แต่ก็มีการระบุถึงแผนที่จะดูดซับสภาพคล่องส่วนเกินในระบบธนาคาร รวมทั้งโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในช่วงต้นปีหน้า Suvodeep Rakshit นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส Kotak Institutional Equities กล่าวว่า โดยรวมแล้วนโยบายยังคงผ่อนคลายกว่าที่คาดการณ์ไว้ อาจจะเป็นไปได้ว่า เป็นผลพวงจากความไม่แน่นอนของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ถ้าไวรัสโอมิครอนระบาดไม่รุนแรงในอินเดีย เราคาดการณ์ว่า มีความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางอินเดียจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตร 0.2% ในเดือน ก.พ. และจะดูดซับสภาพคล่องออกจากระบบในเชิงรุกมากขึ้น ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ 50 คน ที่ตอบแบบสำรวจของ Reuters คาดการณ์ว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมหรือดอกเบี้ยในตลาดซื้อคืนพันธบัตรจนกว่าจะถึงช่วงครึ่งปีหลังของปี 2022
ธนาคารกลางจีนไฟเขียวแบงก์ลดอัตราเงินสำรองหนุนเศรษฐกิจแท้จริง
China Daily รายงานว่า ธนาคารกลางจีนออกมาประกาศว่า อัตราส่วนเงินสำรองที่สถาบันการเงินต่างๆ จะต้องมีไว้ จะถูกปรับลดลง ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. เป็นต้นไป เพื่ออัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ตลาดมากขึ้น ธนาคารกลางจีนจะปรับลดอัตราส่วนเงินสำรองที่สถาบันการเงินต่างๆ จะต้องมีประมาณ 0.5% ยกเว้นรายที่ได้รับการกำหนดอัตราส่วนไว้ที่ 5% อยู่แล้ว โดยหลังจากที่ปรับลดอัตราส่วนเงินสำรอง จะทำให้สัดส่วนเงินสำรองที่สถาบันการเงินต้องมีจะอยู่ที่ 8.4% ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจที่แท้จริง และลดต้นทุนทางการเงิน โดยธนาคารกลางจีน ระบุว่า เพื่อการดำเนินนโยบายการเงินอย่างรอบคอบต่อไป จะไม่ใช้การผ่อนคลายทางการเงินเชิงรุกออกมาในรูปมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่จะปรับปรุงสิ่งที่เชื่อมโยงในวัฎจักรและการเชื่อมโยงนโยบายมหภาคที่ดีขึ้นจากปีนี้ไปสู่ปีหน้า สัดส่วนเงินสำรองที่ลดลง คาดว่าจะเป็นการปล่อยเม็ดเงิน 1.2 ล้านล้านหยวน หรือ 188,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ออกมา ช่วยลดต้นทุนให้สถาบันการเงินได้ 15,000 ล้านหยวนต่อปี สำหรับการลดสัดส่วนเงินสำรองครั้งนี้เกิดขึ้น หลังจากที่ Li Keqiang นายกรัฐมนตรีจีน ประชุมร่วมกับ Kristalina Georgieva กรรมการผู้จัดการ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) […]
ประชากรโลกอาจพุ่งแตะ 8,000 ล้านคน ภายในสิ้นปี 2022
เว็บไซต์ weforum.org ของสภาเศรษฐกิจโลก รายงานว่า ณ วันนี้ประชากรโลกคาดการณ์ว่าจะมีประมาณ 7,910 ล้านคน ส่วนภายในสิ้นปี 2022 หรือภายในเดือนแรกของปี 2023 จำนวนประชากรโลกคาดการณ์ว่าจะขยับขึ้นไปเป็น 8,000 ล้านคน อย่างเป็นทางการ ซึ่งถือว่าจำนวนประชากรขยับข้ามจาก 7,000 ล้านคน มาเป็น 8,000 ล้านคน ที่เร็วมากๆ โดยใช้เวลาแค่ 10 ปี เท่านั้น กับจำนวนประชากรที่เพิ่มมาอีก 1,000 ล้านคน จากข้อมูลของ Our World in Data พบว่า ไม่ใช่แค่นิวยอร์ก เซาเปาโล และจาการ์ตา ที่เป็นมหานครที่คนพลุกพล่าน แต่ยังมีอีกหลายเมืองที่กลายเป็นศูนย์กลางประชากร โดยประชากรจะเคลื่อนที่ไปตามโอกาสและเสรีภาพใหม่ๆ ทั้งนี้ ปี 1803 เป็นครั้งแรกที่ประชากรโลกแตะ 1,000 ล้านคน จากนั้นใช้เวลา 124 […]
เศรษฐกิจอินเดียกลับมาเติบโต แต่ต้องจับตาโควิดสายพันธุ์ใหม่อาจส่งผลกระทบในอนาคต
CNBC รายงานว่า เศรษฐกิจอินเดียขยายตัวอยู่ในระดับที่ตลาดคาดการณ์ไว้สำหรับไตรมาสสิ้นสุดเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา แต่นักเศรษฐศาสตร์ก็ระบุว่า ความเสี่ยง เช่น เชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่โอมิครอนอาจมีผลกระทบต่อการเติบโตในอนาคตได้ กระทรวงสถิติอินเดีย เผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอินเดียในเดือน ก.ค.- ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณอินเดีย เติบโต 8.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งตัวเลขนี้ถือว่าอยู่ในกรอบการเติบโตที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ในผลสำรวจของ Reuters ในช่วงเดียวกันของปีก่อนนี้ เศรษฐกิจอินเดียหดตัวถึง 7.4% เนื่องจากเป็นช่วงเดือนที่ประเทศมีการล็อคดาวน์ยาวนาน อันเป็นผลพวงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ข้อมูลที่ออกมานี้ จะเป็นผลบวกที่ชัดเจน สำหรับธนาคารกลางอินเดียที่จะใช้ในการพิจารณานโยบายการเงิน ในการประชุมสัปดาห์ถัดไป อย่างไรก็ตามการฟื้นตัวยังไม่ได้เกิดขึ้นในวงกว้างและการเติบโตยังน่าผิดหวังอยู่ในบางด้าน เช่น กลุ่มที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน บริการที่ไม่ใช่สาธารณะ และการผลิต ตามข้อมูลของ ANZ Research ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ย้ำว่า การพบโควิดสายพันธุ์โอมิครอน ที่ถูกระบุเป็นครั้งแรกโดยนักวิทยาศาสตร์แอฟริกาใต้นั้น ถือเป็นปัจจัยความไม่แน่นอนที่อาจจะกระทบเศรษฐกิจอินเดียได้ในอนาคตข้างหน้า โดยนักวิเคราะห์ของ Goldman Sachs […]
PayPal ชี้ยอดใช้งานทางเลือกซื้อก่อนผ่อนทีหลังพุ่ง 400% ในช่วง Black Friday
CNBC รายงานว่า Dan Schulman ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PayPal ระบุว่า การใช้งานทางเลือกซื้อก่อนผ่อนทีหลังพุ่งขึ้นในช่วง Black Friday ซึ่งเป็นเทศกาลชอปปิงตรงกับวันศุกร์ที่ 4 ของเดือน พ.ย. ทุกปี โดยบริการผ่อนชำระเงินของ PayPal นี้ ถือเป็นหนึ่งในดาวเด่นช่วงเทศกาลนี้ Schulman กล่าวว่า ระหว่างช่วง Black Friday มูลค่าการใช้จ่ายแบบซื้อก่อนผ่อนทีหลังเพิ่มขึ้นเกือบ 400% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มียอดการทำธุรกรรมถึง 750,000 รายการ เฉพาะวัน Black Friday วันเดียว ซึ่งวันนี้ถือเป็นเทศกาลชอปปิงสำคัญถัดจากวันขอบคุณพระเจ้า ขณะที่กิจกรรมในวัน Black Friday เป็นเทรนด์ที่ PayPal จับตาตลอดเดือน พ.ย. โดยถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทมียอดชำระเงินในช่วงนี้มากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่านการใช้ทางเลือกซื้อก่อนผ่อนทีหลังในเดือนนี้เดือนเดียว ซึ่งเกิดจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคมากกว่า 10 ล้านคน ทางเลือกซื้อก่อนผ่อนทีหลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ […]
Xiaomi เปิดโรงงานผลิตรถยนต์ในปักกิ่ง คาดว่าจะมีกำลังผลิต 3 แสนคันต่อปี
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า หน่วยงานกำกับของกรุงปักกิ่ง ออกมาให้ข้อมูลว่า บริษัทสมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่ของจีน Xiaomi Corp จะสร้างโรงงานที่สามารถผลิตรถยนต์ได้ปีละ 300,000 คัน ในปักกิ่ง สำหรับหน่วยงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของตัวเอง สำหรับโรงงานแห่งนี้แบ่งการก่อสร้างเป็น 2 ระยะ โดย Xiaomi จะสร้างสำนักงานใหญ่ของหน่วยธุรกิจรถยนต์ สำนักงานขายและวิจัยในเขตพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีปักกิ่ง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Beijing E-Town หน่วยงานพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาล ทั้งนี้ Beijing E-Town ระบุว่า โรงงานผลิตของ Xiaomi ในพื้นที่นี้น่าจะเริ่มการผลิตสำหรับตลาดสาธารณชนในปี 2024 ตามข้อมูลที่ Lei Jun ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Xiaomi เคยประกาศไว้เมื่อเดือน ต.ค. เมื่อเดือน มี.ค. Xiaomi ระบุว่า จะลงทุน 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กับหน่วยงานรถยนต์ไฟฟ้าในช่วง 10 ปีข้างหน้า โดยบริษัทจดทะเบียนธุรกิจหน่วยงานรถยนต์ไฟฟ้าของตัวเองไปเรียบร้อยแล้วเมื่อปลายเดือน […]
ค้าปลีกญี่ปุ่นลุยขยายสาขาในเวียดนาม หลังผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม
เว็บไซต์ข่าว vnexpress.net รายงานว่า ธุรกิจค้าปลีกของญี่ปุ่นเริ่มกลับมาขยายธุรกิจในเวียดนามอีกครั้งหลังจากที่คนในท้องถิ่นเริ่มผ่อนคลายจากการเว้นระยะห่างทางสังคม และเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทั้งนี้ เชนร้านกาแฟ Arabica ซึ่งมีสาขาอยู่มากกว่า 100 แห่ง ใน 18 ประเทศ ประกาศออกมาแล้วว่าจะเปิดสาขาแรกในเวียดนามบนถนนคนเดิน Nguyen Hue ของโฮจิมินห์ ส่วนปลายเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายเสื้อผ้า Uniqlo ก็เพิ่งเปิดสาขาใหม่ในฮานอย ซึ่งเป็นสาขาที่ 10 ในเวียดนาม ส่วนในช่วงต้นเดือน พ.ย. ก็เปิดตัวร้านออนไลน์ในประเทศเวียดนามด้วย ขณะที่ ReFa ซึ่งเป็นแบรนด์ความงามประกาศว่าจะเปิดสาขา 3 แห่ง ในโฮจิมินห์ ปลายปีนี้ ก่อนที่จะขยายไปฮานอยในช่วงกลางปี 2022 ด้าน Aeon กลุ่มค้าปลีกซึ่งลงทุนในเวียดนามถึง 1,180 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ก็มีแผนที่จะเพิ่มจำนวนชอปปิง มอลล์ เป็นเท่าตัวในประเทศนี้ ในช่วงเวลาข้างหน้า โดยบริษัทยังวางแผนที่จะจดทะเบียนในตลาดหุ้นเวียดนามอีกด้วย ทั้งยังวางแผนจะส่งออกอาหารทะเล […]
EU เล็งประกาศให้เอกสารรับรองการฉีดวัคซีนโควิดมีอายุแค่ 9 เดือน
CNBC รายงานว่า สหภาพยุโรป (EU) กำลังพิจารณาให้ใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 มีอายุแค่ 9 เดือน สำหรับการอนุญาตให้นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวได้อย่างอิสระ ในขณะที่การแพร่ระบาดยังคงอยู่ ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นหน่วยงานบริหารของ EU เผยว่า ใบรับรองโควิดดิจิทัลของ EU จะถูกปรับปรุงใหม่ โดยเอกสารนี้อนุญาตให้ประชาชนเดินทางได้ง่ายขึ้นท่ามกลางการแพร่ระบาด ด้วยการแสดงสถานะการรับวัคซีน การหายป่วยจากไวรัส หรือการมีผลทดสอบเชื้อเป็นลบ สำหรับแนวคิดตอนนี้คือ เอกสารจะมีอายุ 9 เดือน หลังจากที่ได้รับการฉีดวัคซีนชุดแรก เช่น หลังจากได้รับวัคซีน Pfizer-BioNTech 2 โดส หรือหลังจากได้รับวัคซีนของ Johnson & Johnson 1 โดส อย่างไรก็ดี คำแนะนำในเอกสารนี้ยังไม่ได้มีการพูดถึงประเด็นการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยคณะกรรมาธิการ ระบุว่า เป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่คาดการณ์ได้ว่า การป้องกันที่เกิดจากการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นจะอยู่ได้ยาวนานกว่าการฉีดวัคซีนชุดเบื้องต้น วันหมดอายุใหม่จะถูกประกาศออกมาในอีกไม่กี่สัปดาห์ครั้งหน้า รวมถึงคำแนะนำในการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นด้วย ขณะที่การเปลี่ยนแปลงนโยบายหลักของศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งยุโรปคือ แนะนำให้ผู้ใหญ่ทุกคนควรจะได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยเแพาะผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 […]
จีนมีความได้เปรียบในการก้าวสู่โลกเมตาเวิร์ส
China Daily รายงานว่า จีนมีความโดดเด่นในเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐาน 5G และยังมีความก้าวหน้ารวดเร็วในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) กับคลาวด์ คอมพิวติ้ง ทำให้มีความได้เปรียบในการเคลื่อนเข้าสู่เมตาเวิร์ส การแสดงความคิดเห็นนี้ เกิดขึ้นหลังจากผู้ประกอบการระดับโลกกำลังคลั่งไคล้กับเมตาเวิร์ส ขณะที่ประเทศต่างๆ ก็กระตือรือร้นในการเข้าร่วมในโลกเสมือนจริงนี้ หลักๆ แล้ว เมตาเวิร์สเป็นการแบ่งปันสภาพแวดล้อมเสมือนจริงด้วยเทคโนโลยีความจริงเสมือน (VR) และการรวมความจริงมาอยู่ในโลกเสมือน (AR) เพื่อสร้างความรู้สึกของการอยู่ในโลกเสมือนจริง Yu Jianing ผู้อำนวยการบริหาร คณะกรรมการอุตสาหกรรมเมตาเวิร์ส สมาคมการสื่อสารเคลื่อนที่ของจีน ระบุว่า หนึ่งในคำศัพท์เทคโนโลยีที่ร้อนแรงที่สุดตอนนี้คือเมตาเวิร์ส ซึ่้งเป็นสัญญาอนาคตที่แสดงให้เห็นถึงการมุ่งสู่โลกเสมือนและการเชื่อมโยงกับโลกกายภาพอย่างแยกไม่ออก “เมตาเวิร์สกำลังเป็นสนามการต่อสู้ใหม่ด้านนวัตกรรม” Yu กล่าว Jiao Juan นักวิเคราะห์ Essence Securities บริษัทหลักทรัพย์ในจีน กล่าวว่า เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ จีนถือว่าเคลื่อนไหวเร็วกว่าในด้านเครือข่าย 5G และการใช้เทคโนโลยี 5G ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งทำให้จีนได้เปรียบในการวางโครงสร้างพื้นฐานสำหรับเมตาเวิร์ส
ธนาคารสหรัฐฯ ต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานกำกับก่อนเข้าร่วมกิจรรมคริปโทฯ
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า หน่วยงานกำกับหลักในสหรัฐฯ ออกมาระบุว่า ธนาคารในสหรัฐฯ จะต้องทำเรื่องขอและได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากหัวหน้างานธนาคารของตัวเองก่อนที่จะเข้าร่วมในกิจกรรมบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับคริปโทเคอร์เรนซี ทั้งนี้ สำนักงานบัญชีกลางของเงินตรา หรือ OCC ชี้ว่า ธนาคารจะต้องแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีเครื่องมือบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสมก่อนที่จะเข้าไปร่วมกิจกรรม เช่น การให้บริการดูแลลูกค้าที่ถือครองคริปโทฯ Michael Hsu รักษาการผู้บังคับการบัญชี OCC กล่าวว่า เนื่องจากเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์เหล่านี้จำนวนมากมีความเสี่ยงใหม่ๆ ดังนั้นธนาคารต้องมีระบบบริหารจัดการความเสี่ยงและการควบคุมที่เหมาะสมเพื่อดำเนินการได้อย่างปลอดภัย ท่าทีใหม่ของหน่วยงานกำกับนี้ออกมา ทำให้ธนาคารต้องพิจารณามากขึ้นเกี่ยวกับกิจกรรมคริปโทฯ จากเดิมที่หน่วยงายภายใต้อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump เคยเปิดทางให้ธนาคารเข้าร่วมในงานด้านคริปโทฯ ได้ ตามจดหมายฉบับใหม่ของหน่วยงานกำกับ ธนาคารไม่ได้รับอนุญาตให้ร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโทฯ เช่น การดูแลทรัพย์สินคริปโทฯ และการใช้เงินฝากดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงเงินสำรองเพื่อหนุนหลัง stablecoins (คริปโทฯ ที่มีสินทรัพย์ในโลกจริงหนุนหลัง) โดยปราศจากการแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาของธนาคารทราบถึงความตั้งใจในการเข้าร่วมกิจกรรมนี้ ส่วนผู้บังคับบัญชาจะต้องพิจารณาเครื่องมือและระบบจัดการความเสี่ยงของธนาคารและอนุญาตให้ทำกิจกรรมได้ก็ต่อเมื่อธนาคารแสดงให้เห็นว่าสามารถทำได้อย่างปลอดภัยและถูกต้อง