วุฒิสภาสหรัฐฯ ไฟเขียวงบ 52,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หนุนเซมิคอนดักเตอร์
วุฒิสภาสหรัฐฯ อนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณ 52,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับใช้ในการอุดหนุนอุตสาหกรรมการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ หลังจากหารือกันมาหลายเดือน ปัญหาขาดแคลนชิปของภาคอุตสาหกรรมในวงกว้าง ทำให้เกิดปัญหาการผลิตหยุดชะงักในภาคยานยนต์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และทำให้บางบริษัทต้องลดขนาดการผลิตลงมา ทั้งยังทำให้เกิดการเรียกร้องลดการพึ่งพาประเทศอื่นในด้านเซมิคอนดักเตอร์มากขึ้น วุฒิสภามีการผ่านกฎหมายชิปออกมาเมื่อเดือนมิถุนายน 2021 ซึ่งให้ใช้เงิน 190,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับเทคโนโลยีและการวิจัยของสหรัฐฯ เพื่อแข่งขันกับจีน ขณะที่สภาผู้แทนราษฎร ก็ผ่านกฎหมายในเวอร์ชันของตัวเองไปช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ร่างกฎหมายนี้มีการใช้แนวทางต่างๆ มาจัดการเรื่องความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐฯ กับจีน หลากหลายประเด็น รวมถึงการค้า และข้อกำหนดด้านสภาพอากาศบางส่วนด้วย Jen Psaki โฆษกทำเนียบขาวสหรัฐฯ กล่าวว่า การที่วุฒิสภาลงมติถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของการทำให้ห่วงโซ่อุปทานของเราเข้มแข็งขึ้น มีการดำเนินงานในอเมริกามากขึ้น เอาชนะจีนและส่วนอื่นๆ ของโลกในทศวรรษถัดไปได้ โดยเราหวังว่าสภาผู้แทนราษฎรก็จะดำเนินการอย่างรวดเร็ว เพื่อเริ่มกระบวนการประชุมอย่างเป็นทางการเช่นกัน ที่มา : Reuters
รัสเซียเล็งขายน้ำมันและก๊าซรับเป็นบิทคอยน์ท่ามกลางมาตรการฝั่งตะวันตกที่รุนแรงขึ้น
รัสเซียเผชิญกับการคว่ำบาตรที่รุนแรงขึ้นจากประเทศฝั่งตะวันตก จากกรณีการรุกรานยูเครน ทำให้รัสเซียกำลังพิจารณาที่จะรับชำระเงินด้วยบิทคอยน์สำหรับการส่งออกน้ำมันและก๊าซ Pavel Zavalny ประธานคณะกรรมการที่ดูแลด้านพลังงานของรัสเซีย กล่าวว่า สำหรับประเทศที่เป็นมิตรกับรัสเซีย เช่น จีน หรือตุรกี รัสเซียยินดีที่จะมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในทางเลือกการชำระเงิน โดยพร้อมรับทั้งสกุลเงินท้องถิ่นของผู้ซื้อ เช่นเดียวกับบิทคอยน์ ที่ได้รับการพิจารณาให้เป็นทางเลือกอื่นสำหรับการชำระเงินค่าส่งออกพลังงานของรัสเซีย Zavalny กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เราเสนอให้จีนเปลี่ยนมาชำระบัญชีด้วยสกุลเงินประจำชาติ ระหว่างรูเบิลและหยวน ส่วนตุรกี ก็จะซื้อขายด้วยสกุลเงินลีรากับรูเบิล นอกจากนี้ก็ยังสามารถซื้อขายกันด้วยบิทคอยน์ได้ ราคาบิทคอยน์ปิดเพิ่มขึ้น 4% ใน 24 ชั่วโมง เป็น 44,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 เหรียญบิทคอย์ ขณะที่ราคาคริปโทเคอร์เรนซี เพิ่มขึ้นในรอบเวลาเดียวกัน หลังข่าวนี้ออกมา ที่มา : CNBC
BBASIC News Update Press Release
BBASIC ส่งข่าวดีจ่ายปันผล 0.02 บาท 30 มี.ค. นี้
รายงานข่าวจาก บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ BBLAM เปิดเผยว่า กองทุนเปิดบัวหลวงปัจจัย 4 หรือ BBASIC เตรียมจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 13 สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 17 กันยายน 2564 ถึงวันที่ 16 มีนาคม 2565 ในอัตรา 0.02 บาทต่อหน่วยลงทุน โดยกำหนดปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผล ในวันที่ 23 มีนาคม 2565 และกำหนดจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 30 มีนาคม 2565 สำหรับ BBASIC เป็นกองทุนหุ้นไทย ที่จะเน้นลงทุนในบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับปัจจัย 4 ได้แก่ อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่มห่ม และยารักษาโรค ที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี มีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง หรือมีแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจสูง ที่สำคัญ คือ มีโมเดลธุรกิจที่สามารถก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและเศรษฐกิจโลก […]
BBLAM เสนอขาย IPO “BP5/22 (AI)” วันที่ 23-29 มี.ค.นี้
ข่าวประชาสัมพันธ์ Press Release BBLAM เสนอขาย IPO ‘กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 5/22 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย’ หรือ BP5/22 (AI) ซึ่งเป็นเทอมฟันด์ อายุ 6 เดือน วันที่ 23-29 มีนาคม 2565 นี้ ลงทุนขั้นต่ำ 500,000 บาท เป็นทางเลือกให้ผู้ลงทุนที่มองหาการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่เหมาะสม รายงานข่าวจาก บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ BBLAM เปิดเผยว่า BBLAM เสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 5/22 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย หรือ BP5/22 (AI) ระหว่างวันที่ 23-29 มีนาคม 2565 นี้ โดยเสนอขายในราคา 10 บาทต่อหน่วย […]
Credit Suisse หนุนเพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้นจีน
Credit Suisse ธนาคารสวิตเซอร์แลนด์ ออกมาปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นจีน หลังจากที่ฝ่ายนโยบายของประเทศให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนเศรษฐกิจ “เราคิดว่าหุ้นจีนนำเสนอโอกาสที่ราคาจะปรับขึ้น (upside) น่าดึงดูดใจ ด้วยมูลค่าหุ้นที่ยังต่ำ ขณะที่ความพยายามในการควบคุมโควิด-19 ในปัจจุบัน ทำให้จีนมีแนวโน้มได้รับผลกระทบจำกัดกว่าในช่วงปี 2020 และปี 2021” คณะกรรมการการลงทุนของ Credit Suisse กล่าวไว้ในรายงาน ที่ผ่านมา Credit Suisse จัดให้หุ้นทั่วโลกเป็นกลุ่มที่ควรใช้กลยุทธ์เพิ่มน้ำหนักลงทุน จากเดิมที่มองเป็นกลาง โดยแนะนำให้เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะมีความยืดหยุ่นมากขึ้นต่อสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนที่รุนแรงขึ้น ที่มา : Reuters
News Update Press Release TRIGGER
BBLAM จับจังหวะหุ้นไทยย่อตัวช่วงทั่วโลกฝุ่นตลบ ส่ง ‘TRIGGER 12-22’ ลงสนาม เสนอขาย IPO วันที่ 21-23 มี.ค. นี้ ตั้งเป้าผลตอบแทน 6% ได้ใน 9 เดือน
ข่าวประชาสัมพันธ์ Press Release นายสันติ ธนะนิรันดร์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ BBLAM เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดีอยู่ ทำให้ BBLAM เชื่อมั่นว่า หุ้นของบริษัทที่อิงกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ยังมีมูลค่าหุ้นที่มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นได้ เช่น กลุ่มธนาคาร การเงิน การท่องเที่ยว ค้าปลีก โรงพยาบาล เป็นต้น ดังนั้น ในช่วงที่มีสถานการณ์ระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงมา BBLAM ก็มองเป็นจังหวะที่ดีในการใช้กลยุทธ์คัดเลือกหุ้นรายตัว จับจังหวะลงทุน เพื่อคาดหวังผลตอบแทนระยะสั้น จึงเตรียมเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) และเสนอขายเพียงครั้งเดียว กองทุนเปิดบัวหลวงทริกเกอร์ 12-22 หรือ TRIGGER12-22 ระหว่างวันที่ 21-23 มีนาคม 2565 โดยกองทุนนี้ตั้งเป้าหมายผลตอบแทนไว้ที่ 6% ในเวลา 9 เดือน “เรามองว่า ตลาดหุ้นของประเทศที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความขัดแย้งของรัสเซีย-ยูเครนโดยตรงจะฟื้นตัวได้เร็ว […]
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ไฟเขียวขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 3 ปี
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อนุมัติปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบมากกว่า 3 ปี เพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่กำลังสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจเติบโต หลังจากคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับใกล้ 0% มานานตั้งแต่เริ่มเกิดการแพร่ระบาดของโควิด หน่วยงานที่ดูแลตลาดอย่าง Fed ก็ระบุว่า จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยไปอยู่ที่ 0.25-0.5% โดยความเคลื่อนไหวนี้สอดคล้องกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยพิเศษและจะส่งผ่านไปทำให้ต้นทุนทางการเงินสูงขึ้นทันทีในรูปแบบการกู้ยืมและสินเชื่อของผู้บริโภค นอกจากนี้ Fed ยังระบุด้วยว่าการขึ้นดอกเบี้ยจะมาพร้อมกับเศรษฐกิจที่เติบโตช้าลงในปีนี้ นอกจากการขึ้นดอกเบี้ยแล้ว คณะกรรมการของ Fed ยังย้ำว่าจะมีการเพิ่มดอกเบี้ยขึ้นอีกในการประชุมอีก 6 ครั้งที่เหลือของปีนี้ โดยชี้ไปว่าดอกเบี้ยจะไปอยู่ในระดับ 1.9% ภายในสิ้นปี ซึ่งสูงกว่าที่เคยประเมินไว้ในเดือนธันวาคม 2021 นอกจากนี้คณะกรรมการยังมองไปถึงการขึ้นดอกเบี้ยอีก 3 ครั้ง ในปี 2023 ก่อนที่จะไม่มีการปรับขึ้นอีกในปีถัดไป ที่มา : CNBC
ญี่ปุ่นเตรียมยกเลิกมาตรการจำกัดทั้งหมดที่เกี่ยวกับโควิด หลังการติดเชื้อใหม่ลดลง
ญี่ปุ่นเตรียมประกาศยกเลิกมาตรการจำกัดเพื่อควบคุมโควิด-19 ที่ใช้อยู่ในกรุงโตเกียวและอีก 17 จังหวัดออกไป หลังจากที่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสระลอกใหม่ ซึ่งมีสาเหตุมาจากสายพันธุ์โอมิครอนลดลงต่อเนื่อง สื่อท้องถิ่นของญี่ปุ่น รายงานว่า นายกรัฐมนตรี Fumio Kishida ของญี่ปุ่นวางแผนแถลงในช่วงเวลา 19.00 น. ตามเวลาของญี่ปุ่น โดยคาดการณ์ว่าจะประกาศยกเลิกข้อจำกัดตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม เป็นต้นไป รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการเกี่ยวกับการข้ามแดนด้วย ที่มา : Reuters
จีนรายงานตัวเลขเศรษฐกิจ 2 เดือนแรกออกมาดีกว่าที่คาดไว้
จีนเผยแพร่รายงานออกมาเมื่อวันอังคาร พบว่า ตัวเลขยอดค้าปลีก การลงทุนสินทรัพย์ถาวร และการผลิตอุตสาหกรรมออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเผยแพร่ ข้อมูลที่รวมเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์แล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงความคลาดเคลื่อนของข้อมูลที่จะเกิดจากช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งอาจทำให้ตัวเลขลดลงในเดือนที่มีเทศกาล ขึ้นอยู่กับว่าปีนั้นตรงกับเดือนไหน โดยจากข้อมูลพบว่า ยอดค้าปลีกโต 6.7% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เหนือกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ผ่านผลสำรวจ Reuters ที่มองไว้ว่าจะเติบโต 3% ซึ่งเฟอร์นิเจอร์เป็นสินค้าประเภทเดียวในกลุ่มยอดค้าปลีกที่ลดลงไป 6% ขณะที่ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและทองคำ กับเงินและเครื่องประดับ มียอดเพิ่มขึ้นมาก ส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร เพิ่มขึ้น 12.2% เหนือระดับที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่ม 5% โดยในการลงทุนสินทรัพย์ถาวร พบว่า กลุ่มการผลิตที่มีเทคโนโลยีสูงเป็นหนึ่งในกลุ่มที่เติบโตสูงที่สุด เพิ่มขึ้น 42.7% ส่วนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เติบโต 8.1% การลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เติบโต 3.7% แม้ว่ายอดขายพื้นที่เชิงพาณิชย์จะตกลงไป 9.6% ขณะที่การผลิตอุตสาหกรรม ก็เพิ่มขึ้น 7.5% เมื่อเทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเติบโต 3.9% ส่วนตัวเลขอัตราการว่างงานในเมือง เพิ่มขึ้นเป็น 5.5% ในเดือนกุมภาพันธ์ […]
เผย 5 สัญญาณที่บ่งบอกว่าเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวจากโควิดแล้ว
ราคาน้ำมันร่วงลง การเดินทางหยุดชะงัก และอัตราการว่างงานสูงขึ้น เกิดในช่วงที่ไวรัสโคโรนาเข้ามากระทบในช่วงต้นปี 2020 แต่ตอนนี้เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวแล้ว จากตลาดหุ้นที่เด้งกลับขึ้นมา และผ่านระดับที่เคยทำไว้ในปี 2019 อย่างรวดเร็ว ขณะที่เศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว โดยมีความรวดเร็วแตกต่างกันไปในหลายภูมิภาคและอุตสาหกรรม และ 2 ปีหลังจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้โควิดเป็นการแพร่ระบาดใหญ่ ก็พบว่ามี 5 ข้อมูลที่สะท้อนถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก อันดับแรกคือ ความต้องการน้ำมัน โดยความต้องการน้ำมันโลกยืนอยู่แถวๆ 100.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในปี 2019 และจะไม่ได้ฟื้นตัวกลับมาเต็มที่จนถึงตอนนี้ แต่หลังจากรัสเซียและยูเครนทำสงครามกัน น้ำมันดิบรัสเซียถูกคว่ำบาตรโดยสหรัฐฯ และอังกฤษ ตลาดน้ำมันก็วุ่นวายอีกครั้ง โดยราคาน้ำมันพุ่งขึ้นต่อเนื่อง และมีแนวโน้มสูงขึ้นอีกตามความต้องการ สัญญาณต่อมาคือ จำนวนผู้โดยสารทางอากาศ เพราะอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้รับผลกระทบหนักในช่วงการแพร่ระบาด จากการที่หลายประเทศปิดพรมแดน และขอให้ประชาชนอยู่ที่บ้านมากที่สุดเท่าที่ทำได้ ทำให้ยอดบรรทุกผู้โดยสารบนเครื่องบินลดลง ก่อนจะฟื้นตัวอีกครั้ง แต่ก็ยังห่างไกลจากค่าเฉลี่ยในปี 2019 อยู่ ตามข้อมูลของ OAGอผู้ให้บริการข้อมูลการเดินทางโลก ขณะที่ตัวเลขอัปเดตล่าสุด อัตราที่นั่งโดยสารบนเครื่องบินทั่วโลกรายสัปดาห์ ณ 7 มีนาคม […]