ผู้บริโภคมือเติบในยุคเทคโนโลยี The Series ตอนที่ 19
ผู้บริโภคในยุคเทคโนโลยีจะหันมาใช้รถยนต์ไร้คนขับอย่างสบายใจในอนาคตอันใกล้นี้ นาย John Krafcik ซีอีโอ ของบริษัท Waymo Inc ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Alphabet Inc บอกว่าคนอเมริกัน 25% จะนั่งรถยนต์ไร้คนขับ แต่พวกเขาไม่รู้ว่ารถยนต์ไร้คนขับทำงานอย่างไร บริษัท Waymo กำลังเร่งพัฒนาและทดลองรถยนต์ไร้คนขับอย่างแข็งขัน โดยรถยนต์ไร้คนขับของบริษัทได้ทำการทดสอบขับไปแล้ว 8 ล้านไมล์รวมกัน ในจีน หน่วยงานที่เรียกชือว่า National Development and Reform Commission ได้ออกพิมพ์เขียวในเดือน ม.ค. ที่ผ่านมาเกี่ยวกับเทคโนโลยีของรถยนต์ไร้คนขับ ทางจีนคาดว่า รถสมาร์ทคาร์ ซึ่งจะมีฟังก์ชั่นไร้คนขับบางส่วน หรือเต็มอัตราจะมีสัดส่วนเท่ากับ 50% ของรถยนต์ทั้งหมดในจีนภายในปี 2020 นั้นคืออีก 2 ปีกว่าข้างหน้าเอง จีนจะเป็นตลาดรถยนต์ไร้คนขับที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยบริษัทชั้นนำของจีนไม่ว่า Baidu, DiDi หรือ Tencent กำลังเร่งพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับรถยนต์ไร้คนขับอย่างเต็มที่ ในอเมริกา ขณะนี้มี […]
หุ้นไทยปิดตลาดอยู่ที่ 1,626.07 จุด ลดลง -1.62 จุด
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ปิดวันนี้ ( 17 ก.ค. 2018) อยู่ที่ระดับ 1,626.07 จุด ลดลง -1.62 จุด หรือ -0.10% โดยระหว่างวันดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,629.18 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,616.59 จุด มูลค่าการซื้อขาย 47,970.32 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.AOT ปิดที่ 61.50 บาท ลดลง -1.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 4,625.29 ลบ. 2.KTC ปิดที่ 29.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.90 บาท มูลค่าการซื้อขาย 4,084.18 ลบ. 3.PTTEP ปิดที่ […]
B-FUTURE BF Editorial series Shoppingonline Smartphone Uncategorized
ผู้บริโภคมือเติบในยุคเทคโนโลยี The Series ตอนที่ 15
ผู้บริโภคสมัยใหม่มีความเชื่อมโยงมากกว่าเดิม เพียงแค่สมาร์ทโฟนแค่เครื่องเดียว ผู้บริโภคยุคปัจจุบันสามารถค้นหา เลือกดูสินค้าได้ ตรวจสอบราคา เปรียบเทียบราคา ซื้อขายหุ้น หรือแม้กระทั่งสั่งซื้อของจากช่องทางออนไลน์อื่น แม้ว่าจะอยู่ในห้างรีเทลอื่นก็ตาม เทคโนโลยี่สมัยใหม่ทำให้ผู้บริโภคมีพลังสูง หรือมีความหลายหลากในการเลือก แต่ในขณะเดียวกัน ห้างรีเทลที่เข้าใจประเด็นนี้ด้วยการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภคผ่านเทคโนโลยี่จะประสบความสำเร็จในการประกอบธุรกิจ การปฏิสัมพันธ์จะมีลักษณะที่เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น (personalized) ผู้บริโภคสมัยใหม่ในยุคเทคโนโลยี่มีลักษณะเด่น หรือพฤฒิกรรมร่วมกันอย่างน้อย 7 ประการด้วยกัน: 1. ช้อปปิ้งได้ทั้งวันทั้งคืน เทคโนโลยี่สมัยใหม่ไม่เป็นอุปสรรคอีกต่อไปสำหรับผู้บริโภคที่จะเลือกซื้อสินค้า หรือทำธุรกรรมต่างๆได้ตลอดเวลา หรือ24ชั่วโมงต่อหนึ่งวัน หรือ7วันต่อสัปดาห์ การซื้อของโดยผู้บริโภคสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาในช่วงเวลาในแต่ละวัน ด้วยเหตุนี้เจ้าของสินค้า หรือห้างรีเทลจะพยายามหาแพลตฟอร์มต่างๆเพื่ออำนวยความนสะดวกให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าออนไลน์ได้ทุกเมื่อเชื่อยาม เมื่อมีความต้องการ 2. ผู้บริโภคเป็นผู้ควบคุมเอง เทคโนโลยี่เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถควบคุมประสพการณ์การช้อปปิ้งของตัวเอง โดยที่ใช้เทคโนโลยี่เพื่อค้นหาข้อมูลสินค้า ทำการบ้านว่าสินค้าหรือบริการอะไรเหมาะกับตัวเอง และหลังจากตกลงใจซื้อสินค้าหรือบริการแล้ว ยังแชร์ข้อมูลให้เพื่อนๆได้รับทราบผ่านโซเซี่ยลมีเดีย ที่สำคัญขบวนการเหล่านี้สามารถทำได้อย่างรวดเร็วผ่านสมาร์ทโฟน หรืออินเทอร์เน็ต 3. ช่องทางในการช้อปปิ้งมีความหลายหลากมากยิ่งขึ้น ในอดีตเวลาจะซื้อของผู้บริโภคต้องไปที่ร้านหรือห้าง แต่ทุกวันนี้ระบบออนไลน์ แอปพลิเกชั่นต่างๆ หรือสมาร์ทโฟนเปิดช่องทางให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าหรือบริการได้หลายหลากยิ่งขึ้น 4. ผู้บริโภคให้ความสนใจกับเนื้อหา (content)ของสินค้า ผู้บริโภคสมัยใหม่มีความรู้มากขึ้น รู้จักหาข้อมูลของสินค้า รู้จักเปรียบเทียบคุณภาพของสินค้า […]
B-FUTURE BF Editorial series Uncategorized
ผู้บริโภคมือเติบในยุคเทคโนโลยี The Series ตอนที่ 14
เนื่องจากคนในยุคมิลเลนเนียลเติบโตขึ้นมาพร้อมกับอินเทอร์เน็ต โซเชียลมีเดีย และสมาร์ทโฟน พวกเขามีอิทธิพลสูงต่อนักการตลาดที่จำต้องปรับกลยุทธ์เพื่อที่จะเข้าถึงผู้บริโภคสมัยใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บริโภคในตลาดอาเซียน ในเศรษฐกิจอาเซียนที่ใหญ่ที่สุด6ประเทศ คือสิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ประชาชนที่มีอายุระหว่าง 20-39 ปีมีจำนวน32% หรือ180ล้านคนในปี2015 เทียบกับ26%ในปี1975 คนวัยหนุ่มเป็นลักษณะเด่นของเศรษฐกิจเกิดใหม่อย่างอินเดีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ รวมทั้งเศรษฐกิจที่กำลังตั้งลำไม่ว่าจะเป็นบังคลาเทศ กัมพูชา ลาว เมียนมา ปากีสถาน ด้วยประชากร2,100ล้านคนรวมกัน กลุ่มประเทศเหล่านี้สามารถที่จะใช้ประชากรส่วนที่อยู่ในวัยหนุ่มสาวในการขับเคลื่อนความต้องการภายในประเทศ และผลักดันให้เศรษฐกิจมีการเจริญเติบโต Hakuhodo Institute of Life and Living Asean (HILL-Asean) ได้ทำการศึกษาพฤติกรรมของคนยุคมิลเลนเนียลในอาเซียน โดยทำสำรวจ 8,100คนในภูมิภาคนี้ เพื่อเรียนรู้ทัศนคติและพฤติกรรมการบริโภคของพวกเขา โดยแบ่งพวกมิลเลนเนียลออกเป็น2กลุ่ม คือกลุ่มที่เกิดในทศวรรษ1980 และกลุ่มที่เกิดในทศวรรษ1990เพื่อศึกษาว่าพวกเขามีความแตกต่างกันอย่างไร Hill-Aseanพบว่า กลุ่มคนที่เกิดในยุค1980ใช้อินเทอร์เน็ตในการช้อปปิ้ง แต่พวกเขาแคร์เกี่ยวกับประสบการณ์จริงของการช้อปปิ้ง ด้วยการกลับไปเช็คดูของจริงในร้านค้า หรือเปรียบเทียบราคาสินค้าออฟไลน์ ส่วนคนที่เกิดในยุค1990ช้อปผ่านออนไลน์อย่างเป็นธรรมชาติมาก แต่พวกเขาแคร์ต่อประสบการณ์หลังการช้อปไปแล้ว […]
B-FUTURE BF Editorial series Uncategorized
ผู้บริโภคมือเติบในยุคเทคโนโลยี The Series ตอนที่ 13
แม้ว่าอินเดียจะมีประชากร 1,200 ล้านคน หรือมากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองมาจากจีน แต่อินเดียจะเป็นประเทศที่มีประชากรในวัยหนุ่มสาว หรือวัยทำงานมากที่สุดในโลกภายในปี 2020 โดยค่าเฉลี่ยอายุของคนอินเดียจะอยู่ที่ 29 ปี อินเดียมีประชากรที่เกิดยุคมิลเลนเนียล 400 ล้านคน หรือประมาณ 46% ของประชากรทั้งหมด พอๆกับจีนเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้อินเดียยุคมิลเลนเนียล (เกิดระหว่างปี 1982-1997) จะเป็นเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของอินเดีย และของโลกด้วย งานวิจัยของมอร์แกนสแตนเลย์ระบุว่า แม้ว่าคนอินเดียยุคมิลเลนเนียลจะมีอายุน้อย แต่เป็นผู้ที่ทำรายได้หลักให้กับครอบครัว โดยรายได้ของคนอินเดียมิลเลนเนียลเทียบเท่า 70% ของรายได้ครอบครัวของอินเดียทั้งประเทศ พลังของคนหนุ่มสาวอินเดียจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างทางเศรษฐกิจ พฤติกรรมการบริโภคของคนอินเดียมิลเลนเนียลจะมีส่วนสำคัญในการเจริญเติบโตของภาคเศรษฐกิจ 4 ส่วนด้วยกันคือ 1. รถยนต์ มอเตอร์ไซค์และสกู๊ทเตอร์เป็นพาหนะที่จะแพร่หลายที่สุดของคนอินเดีย อย่างไรก็ตาม เมื่อคนอินเดียมีรายได้เพิ่มขึ้น จะซื้อรถยนต์ มอร์แกนสแตนเลย์พบว่า คนอินเดียมิลเลนเนียลมีรถยนต์ส่วนตัวขับเพียง 7% เท่านั้น แต่แนวโน้มการขยายตัวของตลาดรถยนต์มีสูงเมื่อกำลังซื้อของกลุ่มมิลเลเนียลเพิ่ม ในขณะเดียวกันคนอินเดียมิลเลนเนียลมีการใช้แอพในการเรียกแท็กซี่มากยิ่งขึ้น 2. บ้านที่อยู่อาศัย การซื้อรถยนต์เป็นเป้าหมายในอนาคตอันใกล้ของคนอินเดียมิลเลนเนียล […]
B-FUTURE BF Editorial series Uncategorized
ผู้บริโภคมือเติบในยุคเทคโนโลยี The Series ตอนที่ 11
สถาบัน Brookings ของสหรัฐได้ศึกษาเพื่อที่จะได้ภาพของผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนในยุคมิลเลนเนียล (เกิดระหว่างปี 1982-1997)ว่า จะมีอิทธิพลอย่างไรต่อเศรษฐกิจโลก คนรุ่นมิลเลนเนียลมีจำนวน 80-90 ล้านคนในสหรัฐอเมริกา และสิ่งที่พวกเขาชอบ หรือนึกคิดจะเป็นพลังขับดันการผลิต และกลยุทธ์การตลาดในอีกอย่างน้อย 20 ปีข้างหน้า คนยุคมิลเลนเนียลอาจจะไม่จริงจังกับเรื่องการแต่งงาน หรือการเป็นเจ้าของบ้าน แต่พวกเขาเป็นคนรุ่นแรกที่รู้ภาษาดิจิทัล โดยที่รายได้ของพวกเขาจะมีมากกว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมกันในปี 2030 มีคำกล่าวว่า โครงสร้างประชากรเป็นโชคชะตา สหรัฐอเมริกามีคนที่เกิดในยุคมิลเลนเนียลในสัดส่วนที่น้อย เมื่อเทียบกับโลกใบนี้ จีนมีมิลเลนเนียลถึง 400 ล้านคน และในเอเชียมีคนยุคมิลเลนเนียลมากกว่า 1,000 ล้านคน พูดให้ชัดลงไป ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ หรือเศรษฐกิจกำลังพัฒนามีสัดส่วนของคนยุคมิลเลนเนียลถึง 86% ของทั้งโลกรวมกัน ด้วยเหตุนี้ ถ้าหากว่าเรามีบริษัทที่จะทำธุรกิจเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ หรือความต้องการของคนยุคใหม่ที่อยู่ในวัฒนธรรมโลกใหม่ เราต้องมีฐานอยู่ในเอเชีย ทางสถาบัน Brookings ได้ศึกษาคนยุคมิลเลนเนียลด้วยการสำรวจใน 22 ประเทศ ที่มีสัดส่วน 70%ของประชากรโลก ทำให้เห็นภาพว่าคนยุคมิลเลนเนียลจะมีอิทธิพลต่อโลกสูงกว่าที่หลายคนคิดหรือเข้าใจ […]
B-FUTURE BF Editorial series Uncategorized
ผู้บริโภคมือเติบในยุคเทคโนโลยี The Series ตอนที่ 8
แม้ว่าเศรษฐกิจจีนจะมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองมาจากสหรัฐ แต่ตลาดรถยนต์ของจีนมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เนื่องจากผู้บริโภคจีน และชนชั้นกลางมีการเพิ่มจำนวนขึ้นนั้นเอง จากการที่รัฐบาลจีนให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อเป็นพลังงานทางเลือก และเพื่อที่จะลดมลภาวะ ทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าของจีนจะเป็นเจ้าโลกในอนาคตด้วย ไม่น่าแปลกใจที่บริษัทเทสล่า ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนท์ของสหรัฐมีแผนที่จะลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในเซี่ยงไฮ้ โดยจะมีกำลังการผลิต 500,000 คันต่อไป ในปีที่แล้ว จีนครองความเป็นแชมป์ตลาดรถยนต์โลกเป็นปีที่ 9 ติดต่อกัน โดยทางสมาคมผู้ผลิตรถยนต์จีน รายงานว่า ตลาดจีนมียอดขายเพิ่ม 3% เป็น 28,878,900 ล้านคัน ยอดขายรถยนต์ของจีนมากกว่าสหรัฐถึง70% หรือมากกว่าญี่ปุ่นถึง 5.5เท่า ยอดขายรถยนต์ส่วนบุคคลปีที่แล้วอยู่ที่ 24,718,300 คัน เทียบกับ11.84 คันสำหรับรถเก๋งหรู แต่คนจีนเริ่มนิยมรถยนต์ SUVเพิ่มขึ้น โดยยอดขายเพิ่มเป็น 10.25 ล้านคัน หรือเทียบเท่ามากกว่า 40% ของยอดขายรถยนต์ส่วนบุคคล ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2018 ยอดขายรถยนต์ในจีนมีจำนวน 8 ล้านคัน หรือเพิ่มขึ้น […]
B-FUTURE BF Editorial series Uncategorized
ผู้บริโภคมือเติบในยุคเทคโนโลยี The Series ตอนที่ 7
แม้ว่าสงครามการค้าระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และจีนกำลังดำเนินไปอย่างถึงพริกถึงขิง บริษัท เทสล่า ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าไฮเอนด์ของสหรัฐกลับมีแผนที่จะลงทุนตั้งโรงงานผลิตรถยนต์เทสล่าด้วยกำลังการผลิต 500,000 คันต่อปี ที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน มันเป็นเรื่องที่ชัดเจนว่า เทสล่า ซึ่งมีนายอีลอน มัสก์เป็นซีอีโอและผู้ก่อตั้งเล็งเห็นว่าตลาดรถยนต์ของจีนเป็นอนาคตของตลาดรถยนต์โลก เนื่องจากจีนมีโครงสร้างพื้นฐานที่เพียบพร้อมในการรองรับการผลิตรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นซับพลายเออร์ หรืออุตสาหกรรมที่สนับสนุน รวมทั้งระบบโลจิสติกส์ที่สมบูรณ์แบบ แต่ที่สำคัญที่สุด ตลาดรถยนต์จีนมีผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อมากที่สุดในโลก ในขณะที่อุตสาหกรรมรถยนต์กำลังเข้าสู่ช่วงของการเปลี่ยนถ่ายจากรถยนต์เติมน้ำมันเชื้อเพลิงไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าที่เทสล่าเป็นผู้นำ และรถยนต์ไร้คนขับในอนาคต ด้วยเหตุนี้ ทางเทสล่าจึงไม่ได้ให้ความสำคัญต่อนโยบายที่จะทำให้สหรัฐกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง (Make America Great Again) ของประธานาธิบดีทรัมป์ ทรัมป์ต้องการดึงดูดให้บริษัทอเมริกันหันกลับมาลงทุนในบ้านตัวเอง เพื่อการจ้างงาน และลดการขาดดุลการค้ามโหฬาร เขาได้ลดภาษีนิติบุคคลเพื่อสร้างแรงจูงใจ และก่อสงครามการค้าไปพร้อมๆ กันกับทุกประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้ากับสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับจีนที่ได้เปรียบดุลการค้ากับสหรัฐถึง 375,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2017 ทรัมป์ขึ้นภาษีศุลากร 25% กับสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่ารวม 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา และจีนได้ตอบโต้อย่างทันควันด้วยมาตรการภาษีที่เทียบเท่ากัน ทรัมป์ออกอาการโทษะด้วยการขู่ว่าจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในปริมาณ 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ […]
B-FUTURE BF Editorial series Uncategorized
ผู้บริโภคมือเติบในยุคเทคโนโลยี The Series ตอนที่ 6
จีนเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลก แต่ขนาดเศรษฐกิจของจีนจะแซงหน้าสหรัฐในปี 2028 โดย 1 ใน 3 ของประชากรจีน 1,300 ล้านคน เป็นคนที่เกิดในยุคมิลเลเนียล (ปี 1982 – 1998) และคนจีนยุคใหม่นี้จะเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนและโลกในอนาคต ด้วยอำนาจซื้อที่สูง ต่อไปนี้ จะเป็นการเปรียบเทียบพฤฒิกรรมการใช้จ่ายของคนจีน และคนอเมริกันมิลเลเนียล 1. ในปี 2016 มีคนจีนยุคมิลเลเนียล 400 ล้านคน เทียบกับ 80 ล้านคนสำหรับคนอเมริกัน 2. คนจีนมิลเลเนียลแบ่งออกได้เป็น 2 ชั่วอายุ คือหลังทศวรรษ 1980 (อายุ 28-37 ปี) และหลังทศวรรษ 1990 (อายุ 18-27 ปี) 3. ในปี 2015 สัดส่วนของคนจีนมิลเลเนียลที่จับจ่ายบนมือถือมีถึง 70% […]
Fund Comment Uncategorized
Fund Comment ภาพรวมตลาดหุ้น ก.ค. 2018
ภาพรวมตลาดหุ้น ภาพรวมผลตอบแทนตลาดหุ้นไทยในเดือน ก.ค. พลิกกลับมาให้อัตราผลตอบแทนเป็นบวกร้อยละ 6.65 ต่างกับเดือน มิ.ย. ที่ให้ผลตอบแทนติดลบร้อยละ 7.61 นำโดยกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับตัวขึ้นจากผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ที่ดีกว่าตลาดคาด ประกอบกับตัวเลข NPL ที่ดีขึ้น โดยธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่สามารถควบคุมต้นทุนได้ดี ชดเชยการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียม ส่วนราคาของหุ้นในกลุ่มสื่อสารฟื้นตัว จากประเด็นที่กสทช.ประกาศปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์ที่ผ่อนปรนกับผู้ประกอบการ ทำให้ราคาประมูลตั้งต้นลดลง และลดแรงกดดันในการตั้งราคาประมูลของผู้ประกอบการ ในขณะที่กลุ่มพลังงาน มีปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบและค่าการกลั่นที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น เม็ดเงินลงทุนต่างชาติในตลาดอาเซียนไหลออกอย่างต่อเนื่องมาตลอด 3 เดือนก่อนหน้า แม้ว่าเริ่มเห็นการกลับมาของเม็ดเงินลงทุนต่างชาติในช่วงปลายเดือน ก.ค. แต่ระยะเวลาในการกลับมาของเม็ดเงินลงทุนยังมีความไม่แน่นอนว่าจะกลับมาอย่างต่อเนื่องหรือเป็นเพียงช่วงสั้น เนื่องจากปัจจัยเรื่องสถานการณ์สงครามการค้าอาจกลับมากดดันตลาดหุ้นได้ใหม่ ประเด็นเรื่องสงครามการค้าเริ่มเห็นการตอบโต้กันระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนมากขึ้น สหรัฐอเมริกาออกมาเพิ่มภาษีจากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 25 บนสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่ารวม 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐในช่วงเดือน ก.ย. นี้ ส่วนจีนตอบโต้ด้วยมาตรการการตั้งภาษีร้อยละ 5-25 บนสินค้านำเข้าจากสหรัฐอเมริกามูลค่ารวม 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เป็นต้น อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าผลกระทบต่อบริษัทจดทะเบียนในไทยยังประเมินได้ยาก เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนในข้อสรุปของข้อตกลงการกีดกันการค้าครั้งนี้ นอกจากนี้ แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาตัวเลขเศรษฐกิจไทยที่ประกาศออกมาจะยังคงขยายตัวได้ในระดับกลาง […]