มูดี้ส์ เตือนอันดับเครดิตเวิลด์แบงก์เสี่ยงถูกกระทบ หากทรัมป์ตัดการสนับสนุน
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า มูดี้ส์ (Moody’s) สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือยักษ์ใหญ่ของโลก กล่าวเตือนว่า อันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารโลก หรือเวิลด์แบงก์ และสถาบันการเงินพหุภาคีชั้นนำอื่นๆ ในระดับ AAA อาจได้รับผลกระทบ หากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ตัดสินใจลดการสนับสนุนลง แม้จะระบุว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ก็ตาม เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งพิเศษฝ่ายบริหาร (Executive order) เพื่อตรวจสอบการสนับสนุนของรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อองค์กรระหว่างรัฐบาลระหว่างประเทศทั้งหมดที่ตนเป็นสมาชิก และถอนตัวจากหน่วยงานบางแห่งขององค์กรสหประชาชาติ (UN) มูดี้ส์ระบุในรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า “สหรัฐฯ เป็นผู้ถือหุ้นหลักในหลายธนาคารเพื่อการพัฒนาระหว่างหลายประเทศ (MDB) ที่ได้รับการจัดอันดับ ดังนั้น หากสหรัฐฯ ลดการสนับสนุนอย่างมีนัยสำคัญ นั่นจะเป็นปัจจัยลบต่อความน่าเชื่อถือทางเครดิต” โดยสหรัฐฯ เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดในกลุ่มธนาคารโลก ซึ่งมีสัดส่วนการถือครองหุ้น 16.4% ในธนาคารระหว่างประเทศเพื่อการบูรณะและการพัฒนา (IBRD) ซึ่งเป็นสถาบันที่ใหญ่ที่สุดของกลุ่ม และถือหุ้น 19% ในสมาคมการพัฒนาระหว่างประเทศ (IDA) ที่ให้เงินกู้และเงินช่วยเหลือแบบให้เปล่าแก่ประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก ทั้งนี้ ธนาคารโลก […]
‘เวิลด์แบงก์’ แนะทั่วโลกประเมินสถานการณ์-อย่าตื่นตูมนโยบายศก.ทรัมป์
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า นายอาเจย์ บังกา (Ajay Banga) ประธานธนาคารโลก หรือเวิลด์แบงก์ เปิดเผยว่า คณะผู้กำหนดนโยบายทั่วโลกไม่ควรรีบตอบสนองต่อการประกาศของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และควรเตรียมพร้อมเพื่อแสดงเหตุผลของตน ซึ่งในสัปดาห์แรกของการดำรงตำแหน่งของทรัมป์ เต็มไปด้วยคำสั่งฝ่ายบริหารและแผนนโยบายต่างๆ ตั้งแต่การกำหนดภาษีกับแคนาดา เม็กซิโก และจีน ไปจนถึงการทบทวนการให้ความช่วยเหลือในต่างประเทศ นายบังกา กล่าวในการให้สัมภาษณ์ระหว่างการประชุมสุดยอด Mission 300 Africa Energy Summit ที่เมืองดาร์เอสซาลาม เมืองหลวงทางการค้าของประเทศแทนซาเนีย ว่า “คำแนะนำเดียวของผมต่อทุกคน คือ อย่าเร่งรีบตอบสนอง หรือตัดสินใจเร็วเกินไป” พร้อมระบุว่า “คณะผู้กำหนดนโยบายควรรอดูว่ามีนโยบายใดบ้างที่ดำเนินการได้จริง ตนเคยทำงานร่วมกับทรัมป์มาก่อน เขาเป็นคนที่ปฏิบัติจริง เข้าใจตัวเลข เข้าใจการใช้ประโยชน์ และเข้าใจความได้เปรียบ คุณต้องไปหาเขาและอธิบายให้เขาฟังว่าคุณนำอะไรมาบ้าง” สหรัฐฯ และโคลอมเบีย ล่าถอยออกมาจากสงครามการค้าเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังทำเนียบขาว ระบุว่า โคลอมเบีย ซึ่งเป็นชาติคู่ค้าอันดับ 3 ของสหรัฐฯ ในภูมิภาคละตินอเมริกา […]
Economy News Update World Bank
ธนาคารโลกหวั่นนานาชาติใช้มาตรการโต้กลับภาษีสหรัฐฯ เตือนกระทบเศรษฐกิจโลก
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ธนาคารโลก หรือเวิลด์แบงก์ กล่าวเตือนว่า การที่สหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีนำเข้าแบบครอบคลุมที่ 10% อาจทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจโลกที่ซบเซาอยู่แล้ว ที่ระดับ 2.7% ในปี 2025 จะปรับตัวลดลงอีก 0.3% หากประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯ ตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าเช่นกัน ทั้งนี้ ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันจันทร์หน้า ได้เสนอการขึ้นภาษีนำเข้าทั่วโลก 10% ภาษีลงโทษ 25% สำหรับสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก จนกว่าทั้ง 2 ประเทศดังกล่าว จะปราบปรามยาเสพติดและผู้อพยพที่ข้ามพรมแดนเข้าสหรัฐฯ อย่างผิดกฏหมาย และภาษี 60% สำหรับสินค้าจากจีน ซึ่งล่าสุด มีบางประเทศ รวมถึงแคนาดาได้ประกาศแล้วว่าจะใช้มาตรการตอบโต้ ธนาคารโลก ระบุว่า การจำลองสถานการณ์โดยใช้แบบจำลองเศรษฐกิจมหภาคทั่วโลก แสดงให้เห็นว่า หากสหรัฐฯ ปรับเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากคู่ค้าทุกรายขึ้น 10% ในปี 2025 จะทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของโลกลดลง 0.2% ขณะเดียวกัน การตอบโต้ตามสัดส่วนจากประเทศคู่ค้า […]
เวิลด์แบงก์เพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจเอเชียใต้โต 6.4% ปีนี้ รับดีมานด์อินเดียแกร่ง
ธนาคารโลกปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของเอเชียใต้เป็น 6.4% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ที่ 6.0% โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งภายในประเทศอินเดียและการฟื้นตัวที่รวดเร็วขึ้นในประเทศที่ประสบกับภาวะวิกฤติ เช่น ศรีลังกาและปากีสถาน ธนาคารโลกปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจอินเดียสำหรับปีงบประมาณปัจจุบันที่จะสิ้นสุดในเดือนมี.ค. 2568 ขึ้นเป็น 7% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ในเดือนเม.ย.ที่ 6.6% ซึ่งเป็นผลจากการฟื้นตัวของผลผลิตการเกษตร และการบริโภคของภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้น มาร์ติน ไรเซอร์ รองประธานธนาคารโลก ประจำภูมิภาคเอเชียใต้ เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า “คุณมีกลุ่มผู้บริโภคใหม่ในอินเดียซึ่งกำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ คุณมีการฟื้นตัวจากวิกฤติในศรีลังกาและปากีสถาน นอกจากนี้ คุณยังมีการฟื้นตัวที่นำโดยการท่องเที่ยวในเนปาลและภูฏาน” สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า การปรับเพิ่มคาดการณ์นี้ยืนยันว่า เอเชียใต้เป็นภูมิภาคเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุด โดยธนาคารโลกยังคาดการณ์ด้วยว่า เอเชียใต้จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 6.2% ต่อปีในอีก 2 ปีถัดไป ไรเซอร์ กล่าวว่า “จะมีศักยภาพในการเติบโตที่มากขึ้น” หากประเทศในเอเชียใต้หลอมรวมเข้ากับเศรษฐกิจโลกมากขึ้น แต่ประเทศเหล่านี้จำเป็นต้องยึดมั่นในโครงการปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อรักษาแรงขับเคลื่อนดังกล่าว เมื่อวันพุธ (9 ต.ค.) ธนาคารกลางอินเดียยังคงคาดการณ์การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไว้ที่ 7.2% สำหรับปีงบประมาณปัจจุบัน และได้ปรับเปลี่ยนจุดยืนไปสู่นโยบายการเงินที่เป็นกลาง ธนาคารโลก […]
ธนาคารโลกเตือนปีหน้าเศรษฐกิจจีนชะลอต่อ อาจดึงเอเชียฝืดตาม
ธนาคารโลกเตือนว่า เศรษฐกิจจีนจะยังคงชะลอตัวต่อไป จากที่คาดว่าจะโต 4.8% ในปี 2024 จะชะลอลงเหลือโต 4.4% ในปี 2025 และอาจส่งผลให้เศรษฐกิจเอเชียชะลอลงตามไปด้วย วันที่ 8 ตุลาคม 2024 บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า ธนาคารโลก (World Bank) คาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลงอีกในปี 2025 สร้างความตึงเครียดให้เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกมากขึ้น แม้ว่าจะได้แรงกระตุ้นชั่วคราวจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาเมื่อเร็วๆ นี้ จากรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจรายครึ่งปีของธนาคารโลก ประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปี 2024 ไว้ที่ 4.8% และคาดการณ์ว่าจะชะลอลงเหลือโต 4.3% ในปี 2025 ส่งผลให้การเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกชะลอตัวลงตามไปด้วย จากประมาณการว่าจะโต 4.8% ในปี 2024 เหลือโต 4.4% ในปี 2025 ธนาคารโลก ระบุว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนส่งผลประโยชน์ไปยังประเทศเพื่อนบ้านมายาวนานกว่า 3 ทศวรรษ แต่ขนาดของแรงหนุนกำลังลดลงไป […]
World Bank ปรับลดคาดการณ์เติบโตของ ศก.ไทยปี 67 เหลือ 2.8%
สำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า ธนาคารโลก (World Bank) ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยปี 2567 ลงเหลือ 2.8 เปอร์เซ็นต์ จากการคาดการณ์ครั้งก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนธันวาคม 2566 ที่คาดว่าจะโต 3.2 เปอร์เซ็นต์ และปรับคาดการณ์การเติบโตของปี 2568 เหลือ 3.0 เปอร์เซ็นต์ จากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ ที่คาดว่าจะโต 3.1 เปอร์เซ็นต์ ธนาคารโลกกล่าวว่า การท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนจะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตหลักของเศรษฐกิจไทย โดยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทยในปี 2567 นี้จะเพิ่มขึ้นสูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ของระดับก่อนเกิดโรคระบาดโควิด-19 ที่มา: รอยเตอร์
China News Update Thailand Vietnam World Bank
‘เวิลด์แบงก์’ หั่นคาดการณ์ GDP เอเชียเหลือโต 5% จีน-ไทย-เวียดนาม หนี้ภาคธุรกิจพุ่งเร็ว
เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2566 สำนักข่าว CNBC รายงานว่า ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตสำหรับประเทศเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก โดยระบุถึง จีนและดีมานด์ทั่วโลกที่ซบเซา ท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับสูงและการค้าที่ซบเซา เวิลด์แบงก์ กล่าวว่า ขณะนี้ คาดว่า ประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกจะเติบโต 5% ในปี 2566 ตามรายงานเดือนตุลาคม ซึ่งน้อยกว่าการคาดการณ์ 5.1% ในเดือนเมษายนเล็กน้อย สำหรับปี 2567 คาดว่าภูมิภาคนี้จะเติบโต 4.5% ลดลงจากการคาดการณ์ที่ 4.8% ในเดือนเมษายน ขณะเดียวกัน เวิลด์แบงก์คงการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจสำหรับจีนในปี 2566 ไว้ไม่เปลี่ยนแปลงที่ 5.1% แต่ได้ปรับลดประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2567 ลงเหลือ 4.4% จาก 4.8% โดยระบุถึงปัจจัยเชิงโครงสร้างในระยะยาว ระดับหนี้ที่สูงขึ้นในเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก และความอ่อนแอในภาคอสังหาริมทรัพย์เป็นเหตุผลในการปรับลดอันดับ เวิลด์แบงก์ กล่าวว่า “แม้ว่าปัจจัยภายในประเทศมีแนวโน้มที่จะมีอิทธิพลเหนือการเติบโตในจีน แต่ปัจจัยภายนอกจะมีอิทธิพลที่แข็งแกร่งต่อการเติบโตในพื้นที่ส่วนใหญ่ของภูมิภาค” แม้ว่าเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกส่วนใหญ่ฟื้นตัวจากเหตุการณ์ต่างๆ ตั้งแต่ปี 2563 […]
‘เวิลด์แบงก์’ ปรับเพิ่มคาดการณ์ ‘เศรษฐกิจโลก’ ปีนี้โต 2.1%
เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2566 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ออกรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก โดยปรับเพิ่มแนวโน้มการเติบโตทั่วโลกในปี 2566 เนื่องจากสหรัฐฯ จีน และประเทศเศรษฐกิจหลักอื่นๆ ได้พิสูจน์แล้วว่า มีความยืดหยุ่นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้นจะส่งผลกระทบมากขึ้นในอนาคต เวิลด์แบงก์ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ สู่ระดับ 2.1% สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ในเดือน ม.ค.ที่ระดับ 1.7% แต่ต่ำกว่าการขยายตัวในปี 2565 ที่ระดับ 3.1% นอกจากนี้ ธนาคารโลกได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2567 สู่ระดับ 2.4% ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ในเดือนม.ค.ที่ระดับ 2.7% โดยอ้างถึงผลกระทบที่ล้าหลังของการคุมเข้มทางการเงินของธนาคารกลางและเงื่อนไขสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งลดการลงทุนทางธุรกิจและที่อยู่อาศัย ปัจจัยเหล่านี้จะชะลอการเติบโตต่อไปในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 และในปี 2567 แต่ธนาคารได้ออกการคาดการณ์การเติบโตทั่วโลกใหม่ในปี 2568 ที่ 3.0% Indermit Gill หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลก กล่าวถึง การคาดการณ์ใหม่ที่น่าเศร้า โดยกล่าวว่าปี […]
‘เวิลด์แบงก์’ ชี้ 6 ประเทศในแปซิฟิกมีความเสี่ยงสูงต่อปัญหาหนี้สิน
เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2566 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) รายงานว่า 6 ประเทศในแปซิฟิกมีความเสี่ยงสูงต่อปัญหาหนี้สิน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการใช้จ่ายของรัฐบาลเพื่อตอบสนองต่อวิกฤตโควิด-19 ตามรายงาน Raising Pasifika ระบุว่า การรวมบัญชีการเงินเป็นสิ่งจำเป็นในคิริบาส สาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ สหพันธรัฐไมโครนีเซีย ซามัว ตองกา และตูวาลู เนื่องจากประเทศเหล่านี้ขาดตลาดตราสารหนี้ในประเทศและการเข้าถึงตลาดทุนระหว่างประเทศ ในบรรดาประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค วานูอาตูจัดอยู่ในอันดับความเสี่ยงปานกลาง ขณะที่ หนี้ของปาเลาและนาอูรูอยู่ในระดับที่ยั่งยืน “ในขณะที่ ระดับหนี้สาธารณะ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนต่อ GDP ยังคงอยู่ในระดับปานกลางในพื้นที่ส่วนใหญ่ แต่ภูมิศาสตร์ทางเศรษฐกิจและฐานรายได้ที่ผันผวนของ PIC9 หมายความว่า ความเสี่ยงด้านหนี้สินยังคงเพิ่มสูงขึ้น” ทั้งนี้ หนี้เพิ่มขึ้นในภูมิภาคตั้งแต่ปี 2562 เนื่องจากเศรษฐกิจที่พึ่งพาการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากการปิดพรมแดนของโควิด-19 การค้าได้รับผลกระทบจากความท้าทายด้านโลจิสติกส์และเหตุการณ์สภาพอากาศที่สร้างความเสียหาย เมื่อเดือนที่แล้ว ธนาคารโลก กล่าวว่า ฟิจิต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อลดภาระหนี้ สตีเฟน เอ็นเดกวา ผู้อำนวยการธนาคารโลก ประจำประเทศปาปัวนิวกินีและหมู่เกาะแปซิฟิก […]
หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ “เวิลด์แบงก์” เรียกร้องให้มีแนวทางใหม่ ในการจัดการ “วิกฤตหนี้”
เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2566 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า Indermit Gill หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) เรียกร้องให้มีแนวทางใหม่ เพื่อจัดการกับวิกฤตหนี้ที่ทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งหลายประเทศกำลังเผชิญอยู่ รวมถึงขั้นตอนในการพิจารณาปัจจัยการกู้ยืมในประเทศในการประเมินความยั่งยืนของหนี้ของประเทศ Indermit Gill กล่าวกับรอยเตอร์ว่า กรอบร่วมที่จัดตั้งขึ้นโดยกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลัก 20 แห่ง เพื่อช่วยเหลือประเทศที่ยากจนที่สุดส่งผลให้มีความคืบหน้าเพียงด้านเดียว เนื่องจากไม่ได้คิดเป็น 61% ของหนี้ต่างประเทศของประเทศกำลังพัฒนาที่ถือโดยเจ้าหนี้เอกชน ซึ่งเป็นสัดส่วนที่มากกว่า ขณะที่มีเพียง 4 ประเทศ ได้แก่ แซมเบีย ชาด เอธิโอเปีย และกานา ที่ยื่นขอผ่อนปรนภายใต้กลไก G20 ที่ตั้งขึ้นในปลายปี 2563 ในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ของโควิด-19 แม้ว่ากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) จะประเมินว่าอีก 60% ของระดับต่ำสุดอยู่ในหรือมีความเสี่ยงสูงที่จะมีปัญหาหนี้สิน และมีเพียงชาดเท่านั้นที่บรรลุข้อตกลงปลดหนี้กับเจ้าหนี้ ขณะที่ อัตราดอกเบี้ยที่พุ่งสูงขึ้นในสหรัฐ และประเทศเศรษฐกิจก้าวหน้าอื่นๆ จะทำให้เงินไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ได้ระยะหนึ่ง เช่นเดียวกับในช่วงปี 1980 […]