ธนาคารโลกเผยประเทศมีรายได้สูงระบบขนส่งดี เอื้อค้าชายต่างแดน
ธนาคารโลก เปิดเผยรายงานล่าสุดเกี่ยวกับประสิทธิภาพระบบขนส่งของแต่ละประเทศทั่วโลก ชี้ให้เห็นถึงช่องว่างระหว่างประเทศที่มีรายได้สูง กับประเทศที่มีรายได้ต่ำ พบว่า ประเทศที่มีรายได้สูง ส่วนใหญ่ถึง 48% มีระบบขนส่งที่ดีกว่าประเทศที่มีรายได้ต่ำ ทั้งนี้ ดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพระบบขนส่ง (LPI) ปี 2018 พบว่า 5 อันดับประเทศที่มีคะแนนสูงสุด ได้แก่ เยอรมนี (4.20) สวีเดน (4.05) เบลเยียม (4.04) ออสเตรีย (4.03) และญี่ปุ่น (4.03) ขณะที่กลุ่มประเทศที่มีรายได้ต่ำ พบว่า เวียดนาม (3.27) อินโดนีเซีย (3.18) และอินเดีย (3.15) มีคะแนนโดดเด่นสุด ธนาคารโลก ระบุเพิ่มเติมว่า ระบบขนส่งเป็นหัวใจสำคัญที่มีต่อประสิทธิภาพในการส่งสินค้าและบริการต่างๆ ทั้งภายในและนอกประเทศ หากประเทศไหนให้ความสำคัญกับระบบขนส่ง ก็ยิ่งจะทำให้การค้าขายโดยเฉพาะกับตลาดต่างประเทศเติบโตได้ดี นอกจากนี้ กระบวนการขนส่งสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (eco-friendly logistics) ถือเป็นเทรนด์ใหม่ที่ทั้งประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา ต่างให้ความสนใจ อีกทั้งยังเริ่มหันมาใส่ใจกับภัยไซเบอร์มากขึ้นด้วย
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคฝรั่งเศสทรงตัว ขณะที่อัตราว่างงานพุ่ง
สำนักงานสถิติแห่งชาติฝรั่งเศส (Insee) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคทรงตัวเป็นเดือนที่ 3 ในเดือนส.ค. โดยอยู่ที่ระดับ 97 จุด และยังคงอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในระยะยาว รายงานของ Insee ระบุว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคฝรั่งเศสที่มีต่อสถานการณ์ด้านการเงินในอนาคต ทรงตัวที่ระดับ -11 จุด ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในช่วงหลายเดือนข้างหน้าปรับตัวขึ้น 3 จุด อย่างไรก็ดี ดัชนีคาดการณ์อัตราว่างงานพุ่งขึ้น 9 จุด แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2559
กองทุนผสมบีซีเนียร์สำหรับวัยเกษียณเอ็กซ์ตร้า (B-SENIOR-X)
วัตถุประสงค์การลงทุน: กระจายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ในหลักทรัพย์ดังต่อไปนี้ ตราสารหนี้ เช่น ตราสารหนี้ภาครัฐ ตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น ตราสารหนี้ที่มีลักษณะคล้ายเงินฝาก ตราสารหนี้ภาคสถาบันการเงิน ตราสารหนี้ภาคเอกชน ไม่น้อยกว่า 70% ของ NAV, ตราสารทุน ไม่เกิน 30% ของ NAV, หน่วยลงทุนของกองทุนรวม เช่น กองทุนรวมทองคำ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน หน่วยทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) กองทุนรวมอีทีเอฟ (ETF) เป็นต้น หน่วยลงทุนของกองทุนรวมภายใตเการจัดการของบริษัทจัดการไม่เกิน 60% ของ NAV, เงินฝากหรือตราสารเทียบเท่าเงินฝาก โดยมีสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศไม่เกิน 79% ของ NAV ซึ่งเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการลดภาระการบริหารเงินในวัยเกษียณและต้องการโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนภายใต้ความเสี่ยงที่เหมาะสม Bloomberg (A): BSENIORX TB Fund Size: 18,174 ล้านบาท Morningstar Category: Conservative […]
หุ้นไทยปิดตลาดบวกเล็กน้อย 0.91 จุด อยู่ที่ 1,718.15 จุด
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ปิดวันนี้ ( 28 ส.ค. 2018) อยู่ที่ระดับ 1,718.15 จุด เพิ่มขึ้น 0.91 จุด หรือ 0.05% โดยระหว่างวันดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,728.22 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,716.57 จุด มูลค่าการซื้อขาย 50,616.92 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.PTT ปิดที่ 52.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 4,881.41 ลบ. 2.CPALL ปิดที่ 68.75 บาท ลดลง -0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,409.14 ลบ. 3.BEAUTY ปิดที่ […]
สั่งคมนาคม โอน 4 สนามบิน ให้ AOT บริหาร
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ว่า ได้สั่งการไปยังกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้โอนท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของกรมท่าอากาศยาน (ทย.) จำนวน 4 แห่ง คือ ท่าอากาศยานอุดรธานี สกลนคร ตาก และ ชุมพร ไปให้บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) เป็นผู้รับผิดชอบในการบริหารจัดการ ส่วนอากาศยานในความรับผิดชอบของกรมท่าอากาศยาน ที่เหลืออยู่อีก 24 แห่ง ให้เร่งจัดทำแผนการบริหารจัดการท่าอากาศยานแต่ละแห่งให้เหมาะสมและชัดเจนด้วย ขณะเดียวกันให้เร่งหาข้อสรุปจากผลการศึกษาความเหมาะสมและเป็นไปได้ในการลงทุนพัฒนาท่าอากาศยานในภูมิภาค เช่น ท่าอากาศยานภูเก็ตแห่งที่ 2 ท่าอากาศยานเชียงใหม่แห่งที่ 2 เพี่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ทั้งนี้ AOT ทำธุรกิจหลักประกอบด้วย การจัดการ การดำเนินงาน และการพัฒนาท่าอากาศยาน โดยมีท่าอากาศยานในความรับผิดชอบ 6 แห่ง คือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]
กองทุนเปิดบัวหลวงอินคัม (B-INCOME)
วัตถุประสงค์การลงทุน: กระจายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ในหลักทรัพย์ดังต่อไปนี้ ตราสารหนี้ และ/หรือ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ตราสารทุน หน่วยลงทุนของกองทุนรวม เช่น กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน หน่วยทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) กองทุนรวมอีทีเอฟ (ETF) เป็นต้น หน่วยลงทุนของกองทุนรวมภายใต้การจัดการของบริษัทจัดการ ในสัดส่วน 60% ของ NAV เงินฝากหรือตราสารเทียบเท่าเงินฝาก ทั้งนี้ กองทุนอาจลงทุนใน Derivatives และ/หรือ Structured Note ในสัดส่วน 0-100% ของ NAV และสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศไม่เกิน 79% ของ NAV ซึ่งเหมาะกับนักลงทุนที่คาดหวังให้เงินลงทุนระยะยาวได้ผลตอบแทนที่ดีจากหุ้นและตราสารหนี้ โดยรับความเสี่ยงได้ปานกลางถึงสูง Bloomberg (A): BINCOME TB Fund Size: 6,480 ล้านบาท Morningstar Category: Aggressive Allocation […]
ประธานาธิบดีอินโดนีเซียชี้จะเร่งแก้ปัญหาขาดดุลบัญชีเดินสะพัด
เดอะสเตรทไทม์ รายงานว่า ประธานาธิบดี โจโค วิโดโด ของอินโดนีเซีย ได้ให้คำมั่นว่าจะแก้ปัญหาการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ที่คาดว่าปีนี้จะแตะระดับ 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วยการเพิ่มรายได้ด้านท่องเที่ยวและเพิ่มการใช้ไบโอดีเซลเพื่อลดการนำเข้าพลังงานโดยรวม ทั้งนี้ อินโดนีเซีย เผชิญภาวะเงินทุนไหลออก กดดันตลาดตราสารหนี้และตลาดหุ้น ขณะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลเพราะได้รับผลกระทบจากดุลการค้าขาดดุล จากการนำเข้าสินค้าและบริการมากกว่าส่งออก ที่ผ่านมา โจโค วิโดโด ได้พบนักลงทุนอินโดนีเซียเพื่อถกประเด็นความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่กระทบตลาดเกิดใหม่ซึ่งรวมอินโดนีเซีย ซึ่งเขาได้นำเสนอกลยุทธ์ที่รัฐบาลใช้เพื่อรับมือความสี่ยงนี้ “คนกังวลในสงครามการค้าจีน-สหรัฐ อีกทั้งเวลานี้มีวิกฤติตุรกีเพิ่มมาอีก และเราไม่รู้ว่าอะไรเป็นจุดเริ่มต้นต่อไปของความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก” นายโจโค กล่าว สำหรับวิกฤติการเงินของตุรกี ทำให้เราเห็นค่าเงินลีราเทียบกับดอลลาร์สหรัฐตกลงมา 40% สร้างความวิตกให้นักลงทุนทั่วโลกจนเกิดการย้ายเงินลงทุนออกจากตลาดเกิดใหม่ รวมทั้งอินโดนีเซีย โดยคาดว่าจะมีการดึงเงินทุนต่างชาติที่ลงทุนผ่านตราสารหนี้และหุ้นอินโดนีเซีย ออกไป 3,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังเกินดุลบัญชีเดินสะพัด 3 ปีติดกัน ส่วนครึ่งปีแรกดุลการค้าอินโดนีเซีย ขาดดุลแล้ว 1,020 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของอินโดนีเซีย กระทบค่าเงินรูเปียห์ ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันเงินรูเปียห์เทียบดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าแล้วมากกว่า 7% กดดันทำให้ธนาคารกลางอินโดนีเซียต้อขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 3 […]
สหรัฐฯ และเม็กซิโกบรรลุข้อตกลงทางการค้าเบื้องต้น โดยจะนำมาใช้แทน NAFTA (สหรัฐฯ เม็กซิโก และแคนาดา)
BF Economic Research สหรัฐฯ และเม็กซิโกสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเบื้องต้นร่วมกันเมื่อวานนี้ (27 ส.ค.) ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการให้ใช้ข้อตกลงดังกล่าวแทนข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ซึ่งประกอบไปด้วยสหรัฐฯ เม็กซิโก และแคนาดา ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ 16 ปี และจะทำการทบทวนทุก 6 ปี โดยประเด็นที่สำคัญในข้อตกลงนี้คือ ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่กำหนดให้รถที่จะขายในสหรัฐฯ จะต้องใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในสหรัฐฯ หรือเม็กซิโกในสัดส่วนที่ไม่ต่ำกว่า 75% ต่อคัน เพิ่มขึ้นจากข้อตกลงเดิมใน NAFTA ที่กำหนดให้ใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในสหรัฐฯ เม็กซิโก หรือแคนาดาไม่ต่ำกว่า 62% นอกจากนี้ สหรัฐฯ จะไม่จำกัดการนำเข้ารถยนต์ขนาดเล็กจากเม็กซิโก แต่ภาษีนำเข้าเหล็ก (25%) และอลูมิเนียม (10%) ที่สหรัฐฯ ได้ประกาศไปแล้วในวันที่ 1 มิ.ย. จะยังคงมีผลบังคับใช้กับเม็กซิโกตามเดิม ในด้านแคนาดาที่เป็นอีกหนึ่งสมาชิก NAFTA นั้น สหรัฐฯ จะเจรจาในวันนี้ […]
เงินเฟ้อในเวเนซุเอลาเอาไม่อยู่
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ คาดการณ์ว่า เงินเฟ้อในเวเนซุเอลาจะแตะ 1,000,000%ในปีนี้ เท่ากับว่าอำนาจการซื้อของประชาชนถูกทำลายโดยสิ้นเชิง ทาง rt.com ได้รายงานสรุปให้เห็นภาพว่าสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวันของชาวเวเนซุเอลาที่ถูกสหรัฐแซงชั่นทางเศรษฐกิจมีราคาแพงขึ้นจากเงินเฟ้ออย่างไร โดยเงินโบลิวาร์กำลังกลายเป็นเศษกระดาษ เนื่้อ 1 กิโลกรัม มีราคา 9,500,000 โบลิวาร์ หรือ 1.45 ดอลลาร์สหรัฐ ไก่น้ำหนัก 2.4 กิโลกรัม มีราคา 14,600,000 โบลิวาร์หรือ 2.22 ดอลลาร์สหรัฐ ข้าวห่อ1กิโลกรัม มีราคา 2,500,000 โบลิวาร์หรือ 0.38 ดอลลาร์สหรัฐ เนย 1 กิโลกรัม มีราคา 7,500,000 โบลิวาร์ หรือ 1.14 ดอลลาร์สหรัฐ กระดาษชำระ 1 ม้วน มีราคา 2,600,000 โบลิวาร์หรือ 0.40 ดอลลาร์สหรัฐ พาสต้า1ห่อ มีราคา 2,500,000 โบลิวาร์ หรือ 0.38 ดอลลาร์สหรัฐ […]
หุ้นไทยปิดตลาดวันนี้บวกกว่า 13 จุด มาอยู่ที่ 1,717.24 จุด
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ปิดวันนี้ ( 27 ส.ค. 2018) อยู่ที่ระดับ 1,717.24 จุด เพิ่มขึ้น 13.42 จุด หรือ 0.79% โดยระหว่างวันดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,717.45 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,708.94 จุด มูลค่าการซื้อขาย 47,124.94 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.BEAUTY ปิดที่ 10.80 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,671.61 ลบ. 2.PTT ปิดที่ 52.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,660.38 ลบ. 3.CPALL ปิดที่ […]