อินโดนีเซียเล็งเสนอร่างกฎหมายแรงงานฉบับปรับปรุงในเดือน ม.ค. 2020
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า Mulyani Indrawati รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า รัฐบาลอินโดนีเซียวางแผนที่จะนำเสนอร่างกฎหมายแรงงานฉบับปรับปรุงให้สภาพิจารณาในช่วงต้นเดือน ม.ค. 2020 เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางกระตุ้นการจ้างงานของประเทศ ซึ่งถือว่ามีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Indrawati กล่าวว่า ร่างกฎหมายฉบับใหม่จะมีการลดกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดบางประการ ซึ่งเคยใช้ในกฎหมายแรงงานเมื่อปี 2003 เกี่ยวกับการรับสมัคร หรือเลิกจ้างพนักงาน การทบทวนกฎหมายแรงงาน ซึ่งถือว่ามีความอ่อนไหวทางการเมืองสูงเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ที่นักลงทุนต่างชาติหวังว่ารัฐบาลสมัยที่ 2 ของประธานาธิบดีโจโค วิโดโด (โจโควี) จะดำเนินการ ควบคู่ไปกับการปรับปรุงเรื่องการศึกษา กฎหมายแรงงานที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนั้น มีประเด็นเกี่ยวกับการจ่ายเงินชดเชย ที่ถือว่ามากเมื่อเทียบกับในโลก ซึ่งนักลงทุนมองว่า ประเด็นนี้เป็นอุปสรรคต่อการจ้างพนักงานอย่างเป็นทางการ “กฎหมายแรงงานที่มีอยู่เดิม ไม่ได้ช่วยให้เกิดการสร้างงานได้ง่ายๆ สำหรับคนที่เพิ่งจบใหม่” Indrawati กล่าว ทุกๆ ปี จะพบว่า มีจำนวนแรงงานใหม่ที่เข้าสู่ตลาดแรงงานประมาณ 110 ล้านคน ซึ่งกฎหมายฉบับเดิมนั้นเป็นประโยชน์อย่างมากเพียงผู้ที่มีงานทำอยู่เดิมแล้ว การออกกฎหมายฉบับปรับปรุงนี้ก็มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างโอกาสที่เหมือนๆ กัน ให้กับทุกคนในตลาดแรงงาน เพื่อให้ได้งาน ท่ามกลางสถานการณ์ที่บริษัทต้องการแรงจูงใจเพื่อยกระดับทักษะแรงงาน ที่ผ่านมาสหภาพแรงงานออกมาเดินขบวนประท้วงบนถนน […]
กองทุนเปิดบัวหลวงมันนี่มาร์เก็ตเพื่อการเลี้ยงชีพ (MM-RMF)
ประเด็นเด่นในตลาดตราสารหนี้ ประเด็นเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ที่มีท่าทีที่ผ่อนคลายขึ้น โดยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่า ทั้งสองประเทศได้บรรลุข้อตกลงในเบื้องต้น (First Phase of Trade Deal) อันจะส่งผลให้สหรัฐฯ มีการยกเลิกแผนการจัดเก็บภาษีนำเข้า 30% บนสินค้านำเข้าจากจีน มูลค่ารวม 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่จีนจะนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ มูลค่ารวม 40,000-50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึงจะทบทวนนโยบายการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา และการบริหารจัดการด้านอัตราแลกเปลี่ยนให้มีความเหมาะสมมากขึ้น ด้านสหรัฐฯ ผลการประชุมเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2562 คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) มีมติ 8-2 ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 25bps เป็น 1.50%-1.75% ตามที่ตลาดคาด นับเป็นการปรับดอกเบี้ยลงเป็นครั้งที่ 3 รวม 75bps ท่ามกลางความเสี่ยงจากพัฒนาการเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันเงินเฟ้อที่อ่อนแอ ในแถลงการณ์การประชุมรอบนี้ FED ได้นำประโยคที่ว่า “จะปรับเปลี่ยนนโยบายให้มีความเหมาะสมเพื่อหนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ต่อ” ออกจากแถลงการณ์หลังการประชุม ซึ่งอาจเป็นการส่งสัญญาณว่า […]
กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารหนี้ภาครัฐ (B-TREASURY)
ประเด็นเด่นในตลาดตราสารหนี้ ประเด็นเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ที่มีท่าทีที่ผ่อนคลายขึ้น โดยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่า ทั้งสองประเทศได้บรรลุข้อตกลงในเบื้องต้น (First Phase of Trade Deal) อันจะส่งผลให้สหรัฐฯ มีการยกเลิกแผนการจัดเก็บภาษีนำเข้า 30% บนสินค้านำเข้าจากจีน มูลค่ารวม 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่จีนจะนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ มูลค่ารวม 40,000-50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึงจะทบทวนนโยบายการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา และการบริหารจัดการด้านอัตราแลกเปลี่ยนให้มีความเหมาะสมมากขึ้น ด้านสหรัฐฯ ผลการประชุมเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2562 คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) มีมติ 8-2 ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 25bps เป็น 1.50%-1.75% ตามที่ตลาดคาด นับเป็นการปรับดอกเบี้ยลงเป็นครั้งที่ 3 รวม 75bps ท่ามกลางความเสี่ยงจากพัฒนาการเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันเงินเฟ้อที่อ่อนแอ ในแถลงการณ์การประชุมรอบนี้ FED ได้นำประโยคที่ว่า “จะปรับเปลี่ยนนโยบายให้มีความเหมาะสมเพื่อหนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ต่อ” ออกจากแถลงการณ์หลังการประชุม ซึ่งอาจเป็นการส่งสัญญาณว่า […]
กองทุนเปิดบัวหลวงธนทวี (B-TNTV)
ประเด็นเด่นในตลาดตราสารหนี้ ประเด็นเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ที่มีท่าทีที่ผ่อนคลายขึ้น โดยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่า ทั้งสองประเทศได้บรรลุข้อตกลงในเบื้องต้น (First Phase of Trade Deal) อันจะส่งผลให้สหรัฐฯ มีการยกเลิกแผนการจัดเก็บภาษีนำเข้า 30% บนสินค้านำเข้าจากจีน มูลค่ารวม 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่จีนจะนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ มูลค่ารวม 40,000-50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึงจะทบทวนนโยบายการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา และการบริหารจัดการด้านอัตราแลกเปลี่ยนให้มีความเหมาะสมมากขึ้น ด้านสหรัฐฯ ผลการประชุมเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2562 คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) มีมติ 8-2 ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 25bps เป็น 1.50%-1.75% ตามที่ตลาดคาด นับเป็นการปรับดอกเบี้ยลงเป็นครั้งที่ 3 รวม 75bps ท่ามกลางความเสี่ยงจากพัฒนาการเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันเงินเฟ้อที่อ่อนแอ ในแถลงการณ์การประชุมรอบนี้ FED ได้นำประโยคที่ว่า “จะปรับเปลี่ยนนโยบายให้มีความเหมาะสมเพื่อหนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ต่อ” ออกจากแถลงการณ์หลังการประชุม ซึ่งอาจเป็นการส่งสัญญาณว่า […]
กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (BFRMF)
ประเด็นเด่นในตลาดตราสารหนี้ ประเด็นเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ที่มีท่าทีที่ผ่อนคลายขึ้น โดยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่า ทั้งสองประเทศได้บรรลุข้อตกลงในเบื้องต้น (First Phase of Trade Deal) อันจะส่งผลให้สหรัฐฯ มีการยกเลิกแผนการจัดเก็บภาษีนำเข้า 30% บนสินค้านำเข้าจากจีน มูลค่ารวม 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่จีนจะนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ มูลค่ารวม 40,000-50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึงจะทบทวนนโยบายการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา และการบริหารจัดการด้านอัตราแลกเปลี่ยนให้มีความเหมาะสมมากขึ้น ด้านสหรัฐฯ ผลการประชุมเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2562 คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) มีมติ 8-2 ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 25bps เป็น 1.50%-1.75% ตามที่ตลาดคาด นับเป็นการปรับดอกเบี้ยลงเป็นครั้งที่ 3 รวม 75bps ท่ามกลางความเสี่ยงจากพัฒนาการเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันเงินเฟ้อที่อ่อนแอ ในแถลงการณ์การประชุมรอบนี้ FED ได้นำประโยคที่ว่า “จะปรับเปลี่ยนนโยบายให้มีความเหมาะสมเพื่อหนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ต่อ” ออกจากแถลงการณ์หลังการประชุม ซึ่งอาจเป็นการส่งสัญญาณว่า […]
กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารหนี้ (BFIXED)
ประเด็นเด่นในตลาดตราสารหนี้ ประเด็นเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ที่มีท่าทีที่ผ่อนคลายขึ้น โดยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่า ทั้งสองประเทศได้บรรลุข้อตกลงในเบื้องต้น (First Phase of Trade Deal) อันจะส่งผลให้สหรัฐฯ มีการยกเลิกแผนการจัดเก็บภาษีนำเข้า 30% บนสินค้านำเข้าจากจีน มูลค่ารวม 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่จีนจะนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ มูลค่ารวม 40,000-50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึงจะทบทวนนโยบายการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา และการบริหารจัดการด้านอัตราแลกเปลี่ยนให้มีความเหมาะสมมากขึ้น ด้านสหรัฐฯ ผลการประชุมเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2562 คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) มีมติ 8-2 ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 25bps เป็น 1.50%-1.75% ตามที่ตลาดคาด นับเป็นการปรับดอกเบี้ยลงเป็นครั้งที่ 3 รวม 75bps ท่ามกลางความเสี่ยงจากพัฒนาการเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันเงินเฟ้อที่อ่อนแอ ในแถลงการณ์การประชุมรอบนี้ FED ได้นำประโยคที่ว่า “จะปรับเปลี่ยนนโยบายให้มีความเหมาะสมเพื่อหนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ต่อ” ออกจากแถลงการณ์หลังการประชุม […]
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 26 พ.ย. 62 ปิดตลาดที่ 1,609.38 จุด ลดลง 5.42 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 26 พ.ย. 2562 ปิดตลาดที่ 1,609.38 จุด ลดลง 5.42 จุด หรือ -0.34% โดยระหว่างวันดัชนีสูงสุดที่ 1,620.60จุด ต่ำสุดที่ 1,608.64 จุด มูลค่าการซื้อขาย 87,951.52 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.GPSC ปิดที่ 86.50 บาท ลดลง -2.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 7,052.28 ลบ. 2.BGRIM ปิดที่ 54.00 บาท ลดลง -2.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 5,066.47 ลบ. 3.OSP ปิดที่ 41.25 บาท ลดลง -1.25 บาท […]
เซี่ยงไฮ้ขึ้นแท่นปลายทางการลงทุนอสังหาริมทรัพย์สำคัญที่สุดของจีน
รายงานข่าวจากไชน่าเดลี ระบุว่า เซี่ยงไฮ้ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ที่สำคัญที่สุดของจีนและเป็นประตูสำหรับนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุน รายงานการคาดการณ์อสังหาริมทรัพย์ล่าสุดที่ชื่อว่า Emerging Trends in Real Estate Asia-Pacific 2020 จัดทำโดย Urban Land Institute (ULI) ร่วมกับ PwC ระบุว่า เซี่ยงไฮ้ยังคงสถานะเป็นจุดหมายปลายทางที่นักลงทุนชื่นชอบ สมกับฐานะที่เป็นศูนย์กลางทางการเงินของจีน โดยสรุปเป็นเมืองที่มีข้อตกลงข้ามพรมแดนมากที่สุดในประเทศ ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติกลับไปลงทุนที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีน แม้จะมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐก็ตาม โดยสถาบันระดับโลกเลือกที่จะกระจายพอร์ตไปยังเซี่ยงไฮ้ และยกให้เป็นปลายทางที่น่าสนใจของพวกเขา รายงานยังระบุว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ปริมาณธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ของจีนสูงเป็นประวัติการณ์แตะ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเซี่ยงไฮ้สร้างรายได้รวมทั้งสิ้น 1.09 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จนทำให้เซียงไฮ้กลายเป็นเมืองที่มีสภาพคล่องมากเป็นอันดับ 4 ของโลก รองจากนิวยอร์ก โตเกียว และปารีส ขณะที่ จำนวนและขนาดของธุรกรรมที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตรงกันข้ามกับเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากก่อนนี้นักลงทุนต่างชาติมักจะประสบปัญหาในการลงนามทำสัญญาในเมืองใหญ่ๆ ของจีน
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 25 พ.ย. ปิดตลาดที่ 1,614.80 จุด เพิ่มขึ้น 17.08 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 25 พ.ย. 2562 ปิดตลาดที่ 1,614.80 จุด เพิ่มขึ้น 17.08 จุด หรือ +1.07% ระหว่างวัน ดัชนีสูงสุดที่ 1,614.80 จุด ต่ำสุดที่ 1,601.76 จุด มูลค่าการซื้อขาย 47,419.83 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.KBANK ปิดที่ 156.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท (+1.96%) มูลค่าการซื้อขาย 2,671.87 ลบ. 2.TRUE ปิดที่ 4.38 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท (+3.30%) มูลค่าการซื้อขาย 2,377.13 ลบ. 3.PTT ปิดที่ 43.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท (0.58%) มูลค่าการซื้อขาย 1,682.96 ลบ. 4.SCC ปิดที่ 393.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท (+1.55%) มูลค่าการซื้อขาย 1,578.12 ลบ. 5.BGRIM ปิดที่ 56.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท (+3.23%) มูลค่าการซื้อขาย 1,410.44 ลบ.
มาเลเซียตั้งเป้าหมายเอสเอ็มอีเกือบทั้งประเทศจะเปลี่ยนสู่การทำธุรกรรมไร้เงินสดภายในปี 2022
นิว สเตรทไทม์ส รายงานว่า องค์กรวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ของมาเลเซีย คาดการณ์ว่า เอสเอ็มอีเกือบทั้งหมดจะใช้ประโยชน์จากการชำระเงินดิจิทัลหรือการทำธุรกรรมไร้เงินสดภายในปี 2022 Noor Azmi Mat ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร องค์กรเอสเอ็มอีของมาเลเซีย กล่าวว่า หน่วยงานพยายามอย่างหนักในการร่วมมือกับธนาคารนำเสนอการทำกิจกรรมด้านการธนาคาร ที่มีลักษณะทำงานร่วมกันอย่างสมบูรณ์เพื่อทำให้ธุรกิจมีประสิทธิภาพและความสามารถในการผลิตที่ดีขึ้น “การชำระเงินแบบไร้เงินสด เป็นขั้นตอนแรกของการนำไปสู่ดิจิทัล โดย ธนาคาร RHB เพิ่งนำเสนอโปรแกรมเชื่อมต่อการทำงานร่วมกันระหว่างแอปพลิเคชัน หรือ แอปพลิเคชัน โปรแกรมมิ่ง อินเตอร์เฟซ (เอพีไอ) เพื่อให้เอสเอ็มอีเข้าถึงระบบการชำระเงินอัตโนมัติ” Azmi กล่าว ทั้งนี้ การเข้าใช้งานดังกล่าวจะทำให้เอสเอ็มอีได้รับบันทึกทางการเงินโดยอัตโนมัติ เพราะแอปพลิเคชันจะเก็บข้อมูลธุรกรรมทั้งหมดเอาไว้ ช่วยแก้ปัญหาของเอสเอ็มอีเกี่ยวกับการบันทึกข้อมูลกิจกรรมที่ทำได้ นอกจากนี้ยังช่วยธุรกิจในการไปสู่ดิจิทัล เปิดโอกาสใหม่ ให้กับเอสเอ็มอี โดยคาดว่า การไปสู่ดิจิทัลของเอสเอ็มอีจะใช้เวลา 2-3 ปี หรืออาจพูดได้ว่าในช่วงเวลานั้น เอสเอ็มอีเกือบทั้งหมดจะใช้การชำระเงินแบบไร้เงินสดแล้ว