โกลด์แมน แซคส์ มองเศรษฐกิจอินเดียจะฟื้นตัวในปี 2020
ซีเอ็นบีซี รายงานว่า การเติบโตของเศรษฐกิจอินเดียชะลอตัวอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้ แต่โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจอินเดียจะกลับมาฟื้นตัวได้ในปี 2020 จากปัจจัยของโลกมีการปรับเปลี่ยน Jan Hatzius หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ และหัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจและตลาดโลก ธนาคารเพื่อการลงทุน โกลด์แมน แซคส์ กล่าวว่า เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน ตัวเลขเศรษฐกิจอินเดียไตรมาส 3 ออกมาเติบโต 4.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตต่ำสุดในรอบ 6 ปี ซึ่งโกลด์แมนแซคส์ ประเมินว่า อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจอินเดียจะลดลงมาเหลือ 5.1% ในปีนี้ จากที่เคยโตเฉลี่ย 7% ต่อปี ในปี 2017 และปี 2018 ส่วนในปี 2020 มองว่า ยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจอินเดีย แต่ โกลด์แมน แซคส์ ประมาณการว่า เศรษฐกิจอินเดียจะกลับมาเติบโตได้ 6.4% ในปีหน้า ปัจจัยที่สนับสนุนให้เศรษฐกิจกลับมาเติบโตดีขึ้นในปีหน้า […]
สำคัญมากหากอยากเกษียณ
สำคัญมากหากอยากเกษียณ โดย…อรพรรณ บัวประชุม CFP® ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงิน BF Knowledge Center “เกษียณ” ฟังดูแล้วเป็นเรื่องที่ดูไกล๊ไกล สำหรับใครหลายๆ คน ด้วยความคิดที่ว่า ยังมีเวลาอีกเยอะ มีเวลาอีกนานกว่าจะถึงวันนั้น รอให้ตัวเองมีรายได้มากกว่านี้ก่อนแล้วค่อยเตรียมก็ยังทัน แต่คนที่เห็นความสำคัญกับเรื่องอื่นมากกว่า ก็มักจะพลาดกับเรื่อง “เกษียณ” ไปอย่างน่าเสียดาย ในขณะที่เรานั้นยังลั้ลลา แต่บางคนที่เตรียมตัวกันก็เตรียมกันแบบเต็มที่อย่างกับเป็นนักกีฬาที่จะเข้าแข่งขันโอลิมปิก 2020 เลยทีเดียว และก็ยังมีอีกหลายคนที่ชอบคิดว่ามีแค่นี้ก็พอแล้ว แถมยังจะตัดสินใจเกษียณก่อนที่จะถึงเวลาเกษียณเสียอีก คราวนี้ลองมาดูกันซิว่า นอกจากเงินแล้ว ถ้าจะเกษียณ อะไรบ้างที่เราต้องเจอ!!! ถ้าเจอแล้ว เราปรับตัวกันหรือยัง เตรียมใจกับ Life Style ที่ไม่เหมือนเดิม ถามใจตัวเองก่อนว่าพร้อมเกษียณจากงานที่ทำอยู่หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นงานประจำ หรือธุรกิจส่วนตัวก็ตาม เพราะเมื่อเกษียณแล้วจากตำแหน่งที่เคยนั่งอยู่ ที่เคยติดอยู่ หัวโขนต่างๆ อำนาจบารมีเมื่อครั้งยังทำงานอยู่นั้นเป็นอันต้องจบลง การปรับตัว ปรับใจรับกับสิ่งใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่เคยอยู่ในตำแหน่งสูงๆ มีหน้าที่การงานใหญ่โต ต่างเป็นที่นับหน้าถือตาไม่ว่าจะกับลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน เพื่อนฝูง […]
ดัชนีหุ้นไทย 4 ธ.ค. 62 ปิดตลาด 1,565.45 จุด ลดลง 2.18 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 4 ธ.ค. 2562 ปิดตลาดที่ 1,565.45 จุด ลดลง 2.18 จุด หรือ-0.14% โดยระหว่างวันดัชนีสูงสุดที่ 1,570.39 จุด ต่ำสุดที่ 1,556.51 จุด มูลค่าการซื้อขาย 45,085.83 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.KBANK ปิดที่ 147.00 บาท ลดลง -5.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,112.41 ลบ. 2.PTT ปิดที่ 42.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,863.64 ลบ. 3.AOT ปิดที่ 74.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท […]
B-ACTIVE B-FLEX Product Update
กองทุนเปิดบีเฟล็กซ์ (B-FLEX) และกองทุนเปิดบีแอ็คทีฟ (B-ACTIVE)
กลยุทธ์การลงทุน ในด้านของตราสารทุน ผู้จัดการกองทุนเน้นลงทุนในหุ้นที่ศักยภาพในการเติบโต (Growth Stock) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่มีระดับความเสี่ยงมากกว่าดัชนี ประเทศ โดยในช่วงเดือน ต.ค. ผู้จัดการกองทุนยังคงไม่เปลี่ยนแปลงน้ำหนักการลงทุนในหุ้น มีการลดระดับความเสี่ยงของพอร์ตออกไปบ้าง ด้วยการขายหุ้นบางบริษัทที่คาดว่าถึงระดับเต็มมูลค่าแล้วออกมาบางส่วน เช่น กลุ่มพลังงาน เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้จัดการกองทุนยังคงเน้นการลงทุนในหุ้นของบริษัทคุณภาพที่มีรูปแบบธุรกิจที่เข้มแข็ง มีศักยภาพเติบโตต่อเนื่อง มีฐานะการเงิน แข็งแกร่ง มีกระแสเงินสดสูง โดยมุ่งเน้นไปยังหุ้นที่อิงกับนโยบายภาครัฐและการบริโภคภายในประเทศเพื่อลดทอนผลกระทบจากความผันผวนภายนอกประเทศ เช่น กลุ่มค้าปลีก กลุ่มโรงไฟฟ้า กลุ่มธนาคาร กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม เป็นต้น สำหรับกองทุน B-FLEX ตราสารหนี้ยังคงเป็นสินทรัพย์หลักที่มีคุณค่าสำหรับพอร์ตการลงทุน โดยผู้จัดการกองทุนยังคงมุ่งหวังผลตอบแทนระยะสั้นถึงกลางให้สูงกว่าดัชนีชี้วัดโดยเน้นการลงทุนทั้งในตราสารภาครัฐและเอกชนที่ให้ผลตอบแทนสอดคล้องและเหมาะสมกับความเสี่ยง ด้วยอายุเฉลี่ยของตราสารหนี้ที่ประมาณ 1.8 ปี ทั้งนี้ ในส่วนของหุ้นกู้ภาคเอกชน ผู้จัดการกองทุนยังคงเลือกที่ผู้ออกมีฐานะทางการเงินมั่นคงที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับ A- ขึ้นไป รวมถึงได้ Credit spread ที่น่าจูงใจเหมาะสมกับระดับความเสี่ยง โดยเน้นการลงทุนในหุ้นกู้ที่มีอายุไม่เกิน 5 ปี มุมมองต่อการลงทุนของทีมผู้จัดการกองทุน ผู้จัดการกองทุนยังคงมีมุมมองที่ค่อนข้างระมัดระวังต่อการลงทุน ด้วยเชื่อว่า […]
กองทุนเปิดบีซีเนียร์สำหรับวัยเกษียณ เอ็กซ์ตร้า (B-SENIOR-X)
กลยุทธ์การลงทุน ผลการดำเนินงานของกองทุนตั้งแต่ต้นปี 2019 ปรับตัวขึ้นได้เป็นอย่างดีที่ 4.11% และมากกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ 0.52% ตราสารทุนสามารถยังคงสร้างผลตอบแทนได้ดีแม้ว่าจะเผชิญกับสภาวะตลาดผันผวน โดยอุตสาหกรรมที่กองทุนมีสัดส่วนการลงทุนสูง ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มขนส่ง กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงกลุ่มพาณิชย์สามารถปรับตัวขึ้นดี อีกทั้ง กองทุนมีการลงทุนใน PF/REITs/IFF ทำให้ได้รับประโยชน์จากการปรับตัวขึ้นของดัชนีกลุ่มนี้เช่นเดียวกัน ขณะเดียวกัน ผลตอบแทนประมาณครึ่งหนึ่งมาจากสัดส่วนของตราสารหนี้ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาผูจัดการกองทุนได้มีการขายทำกำไรในหุ้นกู้ภาคเอกชนบางส่วน โดยตราสารหนี้เป็นส่วนที่ช่วยบริหารความเสี่ยงทางขาลงได้ดีในช่วงที่ตลาดผันผวน ในด้านของตราสารทุน ผู้จัดการกองทุนเน้นลงทุนในหุ้นที่ศักยภาพในการเติบโต (Growth Stock) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่มีระดับความเสี่ยงมากกว่าดัชนีประเทศ โดยในช่วงเดือน ต.ค. ผู้จัดการกองทุนยังคงไม่เปลี่ยนแปลงน้ำหนักการลงทุนในหุ้น โดยมีการลดระดับความเสี่ยงของพอร์ตออกไปบ้างโดยขายหุ้นบางบริษัทที่คาดว่าถึงระดับเต็มมูลค่าแล้วออกมาบางส่วน เช่น กลุ่มปิโตรเคมิคอล เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้จัดการกองทุนยังคงเน้นการลงทุนในหุ้นของบริษัทคุณภาพที่มีรูปแบบธุรกิจที่เข้มแข็ง มีศักยภาพเติบโตต่อเนื่อง มีฐานะการเงิน แข็งแกร่ง มีกระแสเงินสดสูง โดยมุ่งเน้นไปยังหุ้นที่อิงกับนโยบายภาครัฐและการบริโภคภายในประเทศเพื่อลดทอนผลกระทบจากความผันผวนภายนอกประเทศ เช่น กลุ่มค้าปลีก กลุ่มโรงไฟฟ้า กลุ่มธนาคาร กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม เป็นต้น อีกทั้ง ผู้จัดการกองทุนยังได้ปันเงินลงทุนบางส่วนเข้าลงทุนใน กลุ่มสินทรัพย์ PF/REITs/IFF […]
กองทุนเปิดบีซีเนียร์สำหรับวัยเกษียณ (B-SENIOR)
กลยุทธ์การลงทุน ผลการดำเนินงานของกองทุนตั้งแต่ต้นปี 2019 ปรับตัวขึ้นได้เป็นอย่างดีที่ 4.28% แต่มากกว่าเกณฑ์มาตรฐานเล็กน้อยที่ 4.12% ตราสารทุนสามารถยังคงสร้างผลตอบแทนได้ดีแม้ว่าจะเผชิญกับสภาวะตลาดผันผวน โดยอุตสาหกรรมที่กองทุนมีสัดส่วนการลงทุนสูง ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มขนส่ง กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงกลุ่มพาณิชย์สามารถปรับตัวขึ้นดี อีกทั้ง กองทุนมีการลงทุนใน PF/REITs/IFF และทองคำอยู่ส่วนหนึ่ง ทำให้ได้รับประโยชน์จากการปรับตัวขึ้นของดัชนีกลุ่มนี้และราคาทองคำโลกเช่นเดียวกัน ขณะเดียวกัน ผลตอบแทนประมาณครึ่งนึงมาจากสัดส่วนของตราสารหนี้ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาผูจัดการกองทุนได้มีการขายทำกำไรในหุ้นกู้ภาคเอกชนบางส่วน โดยตราสารหนี้เป็นส่วนที่ช่วยบริหารความเสี่ยงทางขาลงได้ดีในช่วงที่ตลาดผันผวน ในด้านของตราสารทุน ผู้จัดการกองทุนเน้นลงทุนในหุ้นที่ศักยภาพในการเติบโต (Growth Stock) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่มีระดับความเสี่ยงมากกว่าดัชนีประเทศ โดยในช่วงเดือน ต.ค. ผู้จัดการกองทุนยังคงไม่เปลี่ยนแปลงน้ำหนักการลงทุนในหุ้น โดยมีการลดระดับความเสี่ยงของพอร์ตออกไปบ้างโดยขายหุ้นบางบริษัทที่คาดว่าถึงระดับเต็มมูลค่าแล้วออกมาบางส่วน เช่น กลุ่มพลังงาน เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้จัดการกองทุนยังคงเน้นการลงทุนในหุ้นของบริษัทคุณภาพที่มีรูปแบบธุรกิจที่เข้มแข็ง มีศักยภาพเติบโตต่อเนื่อง มีฐานะการเงิน แข็งแกร่ง มีกระแสเงินสดสูง โดยมุ่งเน้นไปยังหุ้นที่อิงกับนโยบายภาครัฐและการบริโภคภายในประเทศเพื่อลดทอนผลกระทบจากความผันผวนภายนอกประเทศ เช่น กลุ่มค้าปลีก กลุ่มโรงไฟฟ้า กลุ่มธนาคาร กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม เป็นต้น อีกทั้ง ผู้จัดการกองทุนยังได้ปันเงินลงทุนบางส่วนเข้าลงทุนใน กลุ่มสินทรัพย์ […]
B-INNOTECHRMF B-TOPTENRMF BERMF BFLRMF Press Release
กองทุนบัวหลวง นำเสนอทางเลือก RMF และ LTF ครบครัน แนะนักลงทุนคว้าโอกาสรับผลตอบแทนระยะยาว พร้อมลดหย่อนภาษีก่อนสิ้นปี 2562
กองทุนบัวหลวง นำเสนอทางเลือก RMF 18 กองทุน ตอบทุกโจทย์ที่นักลงทุนต้องการ และ LTF 4 สไตล์ที่โดนใจ เพื่อเป้าหมายทางการเงินและผลตอบแทนในระยะยาว ด้วยสิทธิ์ลดหย่อนภาษี พร้อมเผย 4 เคล็ดลับ ถ้ารู้แล้ว ตัดสินใจซื้อได้เลย ไม่ต้องรอให้ถึงสิ้นปี นายวศิน วัฒนวรกิจกุล กรรมการผู้จัดการ Head of Business Distribution บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) เปิดเผยว่า หากนักลงทุนกำลังมองหากองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) เพื่อเป้าหมายทางการเงินและต้องการผลตอบแทนที่น่าพอใจจากการลงทุนในระยะยาว อีกทั้งยังจะได้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีสำหรับปี 2562 นี้ กองทุนบัวหลวงมีกองทุน RMF ให้เลือกครบครันถึง 18 กองทุน ไม่ว่าจะเป็น กองทุนที่ลงทุนในหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ หุ้นเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรม ตราสารหนี้ สินทรัพย์ทางเลือก หรือกองทุนที่ผสมผสานสินทรัพย์หลากหลายประเภท […]
กองทุนเปิดบัวหลวงอินคัม (B-INCOME)
กลยุทธ์การลงทุน ผลการดำเนินงานของกองทุนตั้งแต่ต้นปี 2019 จนถึง ณ สิ้นเดือน ต.ค. ปรับตัวขึ้นได้เป็นอย่างดีที่ 7.54% และสามารถสร้างผลตอบแทนชนะเกณฑ์มาตรฐานที่ 4.02% โดยได้รับแรงหนุนจากทุกประเภทสินทรัพย์ โดยสินทรัพย์ประเภทกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (มีสัดส่วนการลงทุนประมาณ 19%) ให้ผลตอบแทนสูงสุดแก่กองทุนโดยเฉพาะกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ของไทย ด้วยดัชนี SETPREIT และดัชนี FTSE ST REIT ที่ปรับขึ้นมามากกว่า 20% ตั้งแต่ช่วงต้นปี ซึ่งนับว่าผลการดำเนินที่ดีในช่วงที่ผ่านมามาจาก Asset Allocation อย่างแท้จริง ซึ่งแม้ว่าผลการดำเนินงานจะปรับขึ้นมาได้ดี แต่กองทุนยังคงสามารถรักษาระดับความผันผวนให้ไม่สูงจนเกินไปด้วยลักษณะของตราสารและบริษัทที่ลงทุน ในด้านของตราสารทุน ผู้จัดการกองทุนเน้นลงทุนในหุ้นที่ 1) มีประวัติการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ 2) มีอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) ในระดับสูง 3) มองเห็นแนวโน้มการเจริญเติบโตของธุรกิจและเงินปันผล มีรูปแบบธุรกิจที่เข้มแข็ง มีศักยภาพเติบโตต่อเนื่อง มีฐานะการเงิน แข็งแกร่ง มีกระแสเงินสดสูง โดยมุ่งเน้นไปยังหุ้นที่อิงกับการบริโภคภายในประเทศเพื่อลดทอนผลกระทบจากความผันผวนภายนอกประเทศ โดยในช่วงเดือน ต.ค. […]
ดัชนีหุ้นไทย 3 ธ.ค. 62 ปิดตลาด 1,567.63 จุด ลดลง 1.90 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 3 ธ.ค. 2562 ปิดตลาดที่ 1,567.63 จุด ลดลง 1.90 จุด หรือ -0.12% โดยระหว่างวันดัชนีสูงสุดที่ 1,574.12 จุด ต่ำสุดที่ 1,561.46 จุด มูลค่าการซื้อขาย 44,022.45 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.AOT ปิดที่ 74.25 บาท ลดลง -0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,205.79 ลบ. 2.ADVANC ปิดที่ 211.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,432.43 ลบ. 3.PTT ปิดที่ 41.75 บาท ลดลง -0.75 […]
ธุรกิจเดือดร้อน ยอดค้าปลีกฮ่องกงร่วงหนักด้วยตัวเลขสองหลัก ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4
สำนักข่าวซินหัว ระบุว่า รัฐบาลฮ่องกง ออกมาเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกในเดือน ต.ค. ที่ปรับตัวลดลงรุนแรง โดยมูลค่าลดลงถึง 24.3% และปริมาณค้าปลีกลดลง 26.2% ทำสถิติร่วงลงด้วยเลขสองหลักติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ทั้งในแง่มูลค่าและปริมาณ จากผลกระทบของเหตุการณ์ประท้วงรุนแรงที่ยืดเยื้อเป็นเวลานานเกือบ 6 เดือน ประกาศจากรัฐบาลเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ระบุว่า การยุติความรุนแรงและการฟื้นฟูระเบียบสังคมเป็นสิ่งสำคัญต่อการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อธุรกิจค้าปลีกให้ฟื้นตัว และรัฐบาลจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงผลกระทบต่อตลาดแรงงานและเศรษฐกิจโดยรวม การทรุดตัวลงของยอดค้าปลีก มาจากยอดขายเครื่องประดับ นาฬิกา และของขวัญที่มีค่า ทรุดลงอย่างหนักที่สุด โดยลดลง 42.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน ยอดขายเครื่องแต่งกายและรองเท้า ร่วงลง 37% และยอดขายยาและเครื่องสำอาง ลดลง 33.5%