กองทุนผสมบีซีเนียร์สำหรับวัยเกษียณ (B-SENIOR)
วัตถุประสงค์การลงทุน: ลงทุนในประเทศ ได้แก่ ตราสารแห่งหนี้และเงินฝาก ไม่น้อยกว่า 70% ของ NAV ตราสารแห่งทุน ขณะใดขณะหนึ่งไม่เกิน 30% ของ NAV และหรือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมในประเทศ กองทุนรวมทองคำ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (REITs) กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน และ/หรือกองทุนรวมอีทีเอฟ (ETF) เป็นต้น ซึ่งเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลดภาระการบริหารเงินในวัยเกษียณ และต้องการโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนภายใต้ความเสี่ยงที่เหมาะสม Bloomberg Code: BSENIOR TB Fund Size: 20,642 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 31 พ.ค. 2019) Morningstar Category: Conservative Allocation สรุปภาพรวมตลาดตราสารทุนไทย ม.ค. – พ.ค. 2019 ตลาดหุ้นไทยเปิดปี 2019 ด้วยความสดใส […]
กองทุนผสมบีซีเนียร์สำหรับวัยเกษียณ เอ็กซ์ตร้า (B-SENIOR-X)
วัตถุประสงค์การลงทุน กระจายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ในหลักทรัพย์ดังต่อไปนี้ ตราสารหนี้ เช่น ตราสารหนี้ภาครัฐ ตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น ตราสารหนี้ที่มีลักษณะคล้ายเงินฝาก ตราสารหนี้ภาคสถาบันการเงิน ตราสารหนี้ภาคเอกชน ไม่น้อยกว่า 70% ของ NAV, ตราสารทุน ไม่เกิน 30% ของ NAV, หน่วยลงทุนของกองทุนรวม เช่น กองทุนรวมทองคำ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน หน่วยทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) กองทุนรวมอีทีเอฟ (ETF) เป็นต้น หน่วยลงทุนของกองทุนรวมภายใต้การจัดการของบริษัทจัดการไม่เกิน 60% ของ NAV, เงินฝากหรือตราสารเทียบเท่าเงินฝาก โดยมีสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศไม่เกิน 79% ของ NAV ซึ่งเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการลดภาระการบริหารเงินในวัยเกษียณ และต้องการโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนภายใต้ความเสี่ยงที่เหมาะสม Bloomberg Code: BSENIORX TB Fund Size: 14,645 ล้านบาท (ณ วันที่ […]
กองทุนเปิดบัวหลวงอินคัม (B-INCOME)
วัตถุประสงค์การลงทุน กระจายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ในหลักทรัพย์ดังต่อไปนี้ ตราสารหนี้ และ/หรือ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ตราสารทุน หน่วยลงทุนของกองทุนรวม เช่น กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน หน่วยทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) กองทุนรวมอีทีเอฟ (ETF) เป็นต้น หน่วยลงทุนของกองทุนรวมภายใต้การจัดการของบริษัทจัดการ ในสัดส่วน 60% ของ NAV เงินฝากหรือตราสารเทียบเท่าเงินฝาก ทั้งนี้ กองทุนอาจลงทุนใน Derivatives และ/หรือ Structured Note ในสัดส่วน 0-100% ของ NAV และสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศไม่เกิน 79% ของ NAV ซึ่งเหมาะกับนักลงทุนที่คาดหวังให้เงินลงทุนระยะยาวได้ผลตอบแทนที่ดีจากหุ้นและตราสารหนี้ โดยรับความเสี่ยงได้ปานกลางถึงสูง Bloomberg (A): BINCOME TB Fund Size: 5,942 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 31 […]
ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,653.50 จุด เพิ่มขึ้น 0.09 จุด
ดัชนีหุ้นไทยประจำวันที่ 7 มิ.ย. 2562 ปิดตลาดที่ 1,653.50 จุด เพิ่มขึ้น 0.09 จุด หรือ 0.01% โดยระหว่างวันดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,658.93 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,650.30 จุดมูลค่าการซื้อขาย 36,707.98 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.PTT ปิดที่ 47.00 บาท ปิดไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 1,466.50 ลบ. 2.PTTEP ปิดที่ 125.00 บาท ปิดไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 1,454.91 ลบ. 3.AOT ปิดที่ 66.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,331.40 ลบ. 4.KTC […]
ประชากรเกิดใหม่ในญี่ปุ่นทำสถิติต่ำสุดในปีที่ผ่านมา
นิกเกอิ เอเชียน รีวิว รายงานว่า กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการสังคมของญี่ปุ่น ออกมาเปิดเผย0ว่า ปีที่ผ่านมา ญี่ปุ่นมีสถิติประชากรเกิดใหม่ 918,397 คน นับเป็นยอดการเกิดใหม่ที่ทำสถิติต่ำสุด โดยสถิตินี้คิดเป็นเพียง 1 ใน 3 ของจำนวนประชากรเกิดใหม่ของญี่ปุ่นที่เคยสูงสุดเมื่อปี 1949 ซึ่งช่วงเวลานั้นถือเป็นช่วงที่ผู้คนจำนวนมากแต่งงาน ทั้งนี้ สถิติที่ออกมาทำให้รัฐบาลต้องเร่งหาแนวทางการจัดการกับเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นประเทศพัฒนาแล้วที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเร็วที่สุดในโลก โดยสถิติการเกิดใหม่ของประชากรในปี 2018 นั้น ลดลงจากปี 2017 ประมาณ 27,668 คน และถือเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันที่จำนวนประชากรเกิดใหม่ของญี่ปุ่นอยู่ต่ำกว่า 1 ล้านคน ขณะที่ปี 1949 ที่เคยมีจำนวนประชากรเกิดใหม่สูงสุดนั้นมีถึง 2.69 ล้านคน อัตราการเจริญพันธุ์ ซึ่งหมายถึงจำนวนบุตรเฉลี่ยของผู้หญิงแต่ละคนที่ให้กำหนดลดลงเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันเช่นกัน โดยอยู่ที่ 1.42 คนเท่านั้น ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นต้องการเพิ่มอัตราการเจริญพันธุ์ให้เป็น 1.8 […]
B-FUTURE Product Update Uncategorized
กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเพื่อคนรุ่นใหม่ (B-FUTURE)
ภาวะตลาดหุ้นทั่วโลกตั้งแต่ช่วงต้นปี ตลาดสินทรัพยเสี่ยงทั่วโลกรวมถึงตลาดหุ้นปรับขึ้นถ้วนหน้า นับตั้งแต่ต้นปี 2019 จนกระทั่งถึงเดือน เม.ย. โดยดัชนี MSCI All Country World Index ปรับขึ้นถึง 16.8% โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ดัชนี Dow Jones Industrial Average ปรับตัวขึ้นมาสู่ระดับสูงสุดในประวัติการณ์ ขับเคลื่อนด้วยความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ปรับตัวดีขึ้นจากตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวได้ดี ประกอบกับจากการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนมีทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งนักลงทุนคาดว่า ทั้งสองประเทศจะสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้ากันได้ ในขณะที่ปัจจัยด้านการดำเนินนโยบายรัดกุมของธนาคารกลางขนาดใหญ่ เช่น FED, ECB ที่เป็นหนึ่งความเสี่ยงหลักในช่วงปีที่แล้วผ่อนคลายลงเช่นเดียวกัน ส่งผลให้นักลงทุนมีความหวังว่าสภาพคล่องจากทางธนาคารกลางจะยังคงสนับสนุนตลาดการเงินต่อไป สำหรับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมหลักที่กองทุน B-FUTURE ลงทุน ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2019 จนถึง เม.ย. หุ้นกลุ่ม Technology สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่า (Outperform) ตลาดหุ้นทั่วโลก และปรับตัวขึ้นได้สูงสุดเมื่อเทียบกับหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ นำโดยหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ ที่ดัชนี Philadelphia Semiconductor ซึ่งเป็นดัชนีที่แสดงความเคลื่อนไหวของหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ปรับขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน […]
B-INNOTECH B-INNOTECHRMF Product Special Technology
B-INNOTECH และ B-INNOTECHRMF
ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา (15-31 พ.ค. 2019) ราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐฯ เช่น Google Facebook Amazon Apple ลดลงจากการที่คณะกรรมมาธิการทางการค้าสหรัฐฯ หรือ the US government’s Federal Trade Commission (FTC) และกระทรวงยุติธรรม หรือ Department of Justice (DOJ) บรรลุข้อตกลงร่วมกันต่อการจัดการด้านการผูกขาดทางธุรกิจ (Source: https://www.ft.com/content/34993834-8609-11e9-97ea-05ac2431f453) ทั้งนี้ DOJ มีแนวโน้มเรียก Google และ Apple เข้ามาไต่สวน ขณะที่ FTC จะตรวจสอบ Facebook และ Amazon ข่าวดังกล่าวเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ราคาหุ้นโกลบอลเทคโนโลยี ร่วงลงในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม แม้บริษัทขนาดใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยี (Mega cap Tech stock) กำลังจะถูกเพ่งเล็งเข้มข้นขึ้น […]
คณะกรรมาธิการยุโรปเตรียมควบคุมงบการคลังของอิตาลีอีกครั้ง หลังดำเนินนโยบายไม่สอดคล้องกับกฎของอียู
BF Economic Research คณะกรรมาธิการยุโรป หรือ European Commission (EC) รายงานผลการประเมินนโยบายการคลังของอิตาลีเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ในปี 2018 รัฐบาลอิตาลีได้ดำเนินนโยบายการคลังอย่างขาดความรอบคอบ และไม่สอดคล้องกับกฎระเบียบของอียูในการควบคุมหนี้สาธารณะของตัวเอง รวมทั้งมีแนวโน้มจะเป็นเช่นนี้ไปจนถึงปี 2020 สำหรับหนี้สาธารณะของอิตาลีนั้นมีสูงถึง 132.2% ต่อจีดีพีในปี 2018 ซึ่งมากกว่าระดับที่อียูกำหนดไว้ ทั้งนี้ อียูมีความกังวลเกี่ยวกับระดับหนี้สาธารณะของอิตาลีเป็นอย่างมาก เนื่องจากอิตาลีมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ในอียูโซน แต่กลับมีหนี้สาธารณะสูงถึงอันดับ 2 ในอียูโซน ทำให้จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอียูในภาพรวมอย่างมีนัยสำคัญ ถ้าหากพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีเกิดผิดนัดชำระหนี้ (Default) ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า คณะกรรมการด้านเศรษฐกิจและการเงินของอียู ซึ่งประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และผู้ว่าธนาคารกลางของแต่ประเทศสมาชิก จะหารือร่วมกันว่าจะดำเนินมาตรการทางวินัยกับอิตาลีหรือไม่ ซึ่งถ้าคณะกรรมการฯ มีความเห็นว่าควรดำเนินมาตรการ คณะกรรมาธิการยุโรปจะเรียกร้องให้อิตาลีลดการขาดดุลงบประมาณการคลังลง จนอยู่กรอบของอียูภายในระยะเวลา 3-6 เดือน ผ่านการปรับอัตราภาษีขึ้น และลดการใช้จ่ายของรัฐบาลลง […]
วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,653.41 จุดเพิ่มขึ้น 4.95 จุด
ดัชนีหุ้นไทยประจำวันที่6 มิ.ย. 2562 ปิดตลาดที่ 1,653.41 จุดเพิ่มขึ้น4.95 จุดหรือ0.30% โดยระหว่างวันดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,655.33 จุดและทำระดับต่ำสุดที่1,643.27 จุดมูลค่าการซื้อขาย49,878.7 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด5 อันดับได้แก่ 1.PTTEP ปิดที่125.00 บาทลดลง-1.50 บาทมูลค่าการซื้อขาย2,031.26 ลบ. 2.CK ปิดที่28.75 บาทเพิ่มขึ้น1.50 บาทมูลค่าการซื้อขาย1,752.83 ลบ. 3.AOT ปิดที่65.00 บาทเพิ่มขึ้น0.25 บาทมูลค่าการซื้อขาย1,600.22 ลบ. 4.LH ปิดที่11.10 บาทเพิ่มขึ้น0.10 บาทมูลค่าการซื้อขาย1,471.90 ลบ. 5.CPALL ปิดที่81.75 บาทลดลง-0.25 บาทมูลค่าการซื้อขาย1,471.18 ลบ.
จีน-รัสเซียเดินหน้ายกระดับความสัมพันธ์และร่วมมือเชิงกลยุทธ์กันมากขึ้น
สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า จีนและรัสเซียตกลงจะยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อเป็นพันธมิตรร่วมมือในเชิงกลยุทธ์กันมากขึ้นสำหรับยุคใหม่นี้ โดยการตัดสินใจนี้เกิดขึ้นระหว่างการประชุมที่นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีนไปเยือนรัสเซียและพบปะกับนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ทั้งนี้ระหว่างการประชุม ผู้นำของทั้ง 2 ประเทศ ประเมินผลการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศตลอด 70 ปีที่ผ่านมา และเห็นด้วยที่จะยกระดับความสัมพันธ์อันดีนี้เพิ่มขึ้น เพื่อเป็นประโยชน์ร่วมกัน พัฒนาความสัมพันธ์ในการเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ด้วยการทำข้อตกลงทวิภาคดี เพื่อประโยชน์ของคนทั้ง 2 ประเทศและทั่วโลก สี กล่าวว่า การไปเยือนรัสเซียของเขาในครั้งนี้ นับเป็นการเยือนครั้งแรกหลังจากที่เขาได้รับเลือกตั้งกลับเข้ามาเป็นประธานาธิบดีเมื่อปีที่ผ่านมา และถือเป็นครั้งที่ 8 ที่เขาเดินทางไปเยือนรัสเซีย นับตั้งแต่ปี 2013 โดยเชื่อว่าหลังจากนี้จะเห็นความสัมพันธ์ระหว่างจีนและรัสเซียพัฒนาต่อไป และมองเห็นการพัฒนาในระดับที่สูงขึ้น และดีที่สุดเท่าที่เคยมีในประวัติศาสตร์มา สี กล่าวอีกว่า ทั้ง 2 ประเทศ จะสนับสนุนเศรษฐกิจและการค้าร่วมกัน เพิ่มความร่วมมือในโครงการกลยุทธ์หลักๆ เช่นเดียวกับในด้านใหม่ๆ พร้อมทั้งยกระดับความร่วมมือตั้งแต่ระดับท้องถิ่น ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน พลังงาน เทคโนโลยี อากาศยาน การเชื่อมโยงระหว่างประเทศ ภาคเกษตรกรรม […]