IMF เผยปี 64 “หนี้ทั่วโลก” ลดลงมากสุดรอบ 70 ปี แต่ยังสูงกว่าก่อนช่วงโควิด แตะ 235 ล้านล้านดอลล์

IMF เผยปี 64 “หนี้ทั่วโลก” ลดลงมากสุดรอบ 70 ปี แต่ยังสูงกว่าก่อนช่วงโควิด แตะ 235 ล้านล้านดอลล์

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2565 ว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า หนี้สาธารณะและหนี้เอกชนทั่วโลกลดลงมากที่สุดในรอบ 70 ปีในปี 2564 หลังจากแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากผลกระทบของโควิด-19 แต่โดยรวมแล้วยังคงอยู่เหนือระดับก่อนเกิดโรคระบาดโควิด-19  Global Debt Monitor ฉบับแรก IMF กล่าวว่า หนี้สาธารณะและเอกชนโดยรวมลดลง 10% เป็น 247% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ทั่วโลกในปี 2564 จากจุดสูงสุดที่ 257% ในปี 2563 ซึ่งเปรียบเทียบกับประมาณ 195% ของ GDP ในปี 2550 ก่อนเกิดวิกฤติการเงินโลก ในแง่เงินดอลลาร์ หนี้ทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้น แม้ว่าจะในอัตราที่ช้าลงมาก โดยแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 235 ล้านล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว Vitor Gaspar ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการคลัง […]

IMF มองศก.อาเซียนโตเด่น

IMF มองศก.อาเซียนโตเด่น

คริสตาลินา จอร์เจียวา กรรมการจัดการ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ส่งสัญญาณว่า ประเทศในเอเชียมีความเสี่ยงต่อแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจ จากแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น และเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเรียกร้องให้หน่วยงานกำหนดนโยบายในแต่ละประเทศเสริมสร้างกันชนสำหรับแรงกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ขณะเดียวกัน นายมาซัตสึกุ อาซาคาวะ ประธานธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของเอเชียตื่นตัวต่อสัญญาณกระแสเงินทุนไหลออกแบบฉับพลัน จากผลพวงของกรณีที่สหรัฐฯ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบต่อเนื่อง “เราเห็นความเสี่ยงจากการคุมเข้มนโยบายการเงินในเชิงรุกของสหรัฐฯ ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะเงินทุนไหลออกแบบฉับพลัน หรือเงินอ่อนค่าอย่างหนัก” นายอาซาคาวะ กล่าวผ่านระบบทางไกลต่อที่ประชุมอาเซียน+3 ณ ประเทศสิงคโปร์ จอร์เจียวา กล่าวต่อว่า สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน จะเป็นกลุ่มที่มีความสดใสมากที่สุดในเศรษฐกิจโลก โดยการเติบโตทางเศรษฐกิจคาดว่าจะอยู่ที่ 5% ในปีนี้ และลดลงเล็กน้อยในปี 2566 อย่างไรก็ตาม จอร์เจียวายังเตือนว่า แนวโน้มยังมีความไม่แน่นอน และถูกกดดันด้วยความเสี่ยง เช่น ผลกระทบจากสงครามระหว่างรัสเซีย และยูเครน การเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั่วโลก และการเติบโตในจีนที่ชะลอตัวลง “อีกปัจจัยที่สร้างความท้าทายไปทั่วโลก คือ เงินเฟ้อ แม้คาดการณ์ว่า […]

‘ไอเอ็มเอฟ’ เตือน ศก.โลกมืดมนกว่าคาด เตรียมเผชิญความท้าทายเพิ่มขึ้น กลุ่มจี 20 ส่งสัญญาณอ่อนแอ

‘ไอเอ็มเอฟ’ เตือน ศก.โลกมืดมนกว่าคาด เตรียมเผชิญความท้าทายเพิ่มขึ้น กลุ่มจี 20 ส่งสัญญาณอ่อนแอ

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ออกมาเตือนเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโลกจะมืดมนกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยอ้างอิงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (พีเอ็มไอ) ที่ยังคงแย่ลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยในเดือนที่ผ่านมา ไอเอ็มเอฟได้ปรับลดตัวเลขการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจโลกปี 2023 ลงจาก 2.9% เป็น 2.7% ขณะที่ การจัดการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 จะมีขึ้นที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ในสัปดาห์นี้ ไอเอ็มเอฟ ระบุว่า ดัชนีชี้วัดที่มีความถี่สูงเมื่อเร็วๆ นี้ ยืนยันว่า แนวโน้มเศรษฐกิจมีทิศทางที่มืดมนลงกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรป โดยดัชนีพีเอ็มไอชี้ว่า กิจกรรมภาคการผลิตและการบริการส่งสัญญาณอ่อนแอในเขตเศรษฐกิจหลักส่วนใหญ่ของกลุ่มจี 20 ขณะที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มหดตัว สวนทางกับอัตราเงินเฟ้อยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง “ตัวเลขการเติบโตของกลุ่มจี 20 ได้เปลี่ยนขั้วจากอาณาเขตของการขยายตัวในช่วงต้นปีไปสู่ระดับที่ส่งสัญญาณถดถอย” ไอเอ็มเอฟ กล่าว พร้อมเสริมว่า “ความแตกแยกในระดับโลกจะยิ่งทำให้เกิดการบรรจบกันของความเสี่ยงขาลง” อีกทั้งยังระบุว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเผชิญความท้าทายอีกหลายประการในอนาคต และว่า สภาวะทางนโยบายในปัจจุบันมีความไม่แน่นอนอย่างผิดปกติ ไอเอ็มเอฟ […]

IMF มองเศรษฐกิจเอเชียมีโอกาสโตต่อเนื่อง

IMF มองเศรษฐกิจเอเชียมีโอกาสโตต่อเนื่อง

เศรษฐกิจเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เด่นสุด แม้โลกเผชิญภาวะถดถอย กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF มองว่าเอเชีย โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง แม้เศรษฐกิจทั่วโลกโดยรวมมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้าก็ตาม เอเชียเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่เห็นทิศทางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ด้วยความไม่แน่นอนต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การที่ธนาคารกลางหลายประเทศประกาศขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อสกัดกั้นปัญหาเงินเฟ้อ สงครามในยูเครน หลังจากรัสเซียเข้ารุกรานในเดือนกุมภาพันธ์ และสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในประเทศจีน เนื่องจากการบังคับใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เข้มขึ้น ทำให้การฟื้นตัวของชาติในเอเชียชะงักลง อย่างไรก็ตาม ในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจฉบับล่าสุด (Asia Sails Into Headwinds From Rate Hikes, War, and China Slowdown) IMF ประเมินว่า เอเชียยังคงเป็นภูมิภาคที่มีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวอยู่ IMF คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก จะขยายตัว 4% ในปีนี้ และ 4.3% ในปี 2566 […]

IMF แนะธนาคารในเอเชียเข้มนโยบายการเงิน หลังเสี่ยงหนี้ท่วม

IMF แนะธนาคารในเอเชียเข้มนโยบายการเงิน หลังเสี่ยงหนี้ท่วม

กฤษณะ ศรีนิวาสัน ผู้อำนวยการ แผนกเอเชียและแปซิฟิกของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ (IMF) กล่าวว่า นโยบายทางการเงินของธนาคารกลางเอเชียส่วนใหญ่ยังต้องรัดกุมและเข้มงวดต่อไป เนื่องจาก เงินเฟ้อสูงเกินเป้าหมาย และสกุลเงินอ่อนค่าลง จากแรงหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐอเมริกา สกุลเงินเอเชียจำนวนมากอ่อนค่าลง “ค่อนข้างมาก” เพราะค่าเงินสหรัฐฯ ตึงตัว นำไปสู่ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยที่กว้างขึ้น ผลักดันให้ต้นทุนการนำเข้าสำหรับประเทศต่าง ๆ เพิ่มขึ้น กฤษณะ ประเมินว่า เงินเฟ้อจะถึงจุดสูงสุดภายในสิ้นปี 2565 และการอ่อนค่าของอัตราแลกเปลี่ยนเงินจำนวนมาก จะเป็นฉนวนให้อัตราเงินเฟ้อสูงและอยู่นานขึ้น โดยเฉพาะช่วงที่ทั่วโลกขยับอัตราดอกเบี้ยอย่างเข้มข้น เราจึงต้องการให้ยกระดับนโยบายการเงินเอเชียให้เข้มงวดเร็วขึ้น “ปัจจัยเรื่องค่าเงินและดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ส่งผลให้เกิดความตึงเครียดทางการเงินในประเทศแถบเอเชีย ซึ่งมีหนี้สินสูง และขณะนี้ เอเชียเป็นลูกหนี้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว และหลายประเทศมีความเสี่ยงสูงที่จะมีปัญหาหนี้สิน” ด้าน Sanjaya Panth รองผู้อำนวยการ แผนกเอเชียและแปซิฟิกของ IMF เปิดเผยกับรอยเตอร์ วานนี้ (13 ตุลาคม 2565) ว่า หนี้ที่เพิ่มขึ้นของเอเชียส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในประเทศจีน แต่ยังเห็นได้ในประเทศเศรษฐกิจอื่นๆ “เราไม่สามารถตัดเรื่องความตึงเครียดในบางตลาดออกได้ แต่สถานะการเงินที่ค่อนข้างแข็งแกร่งในบางประเทศทำให้เราสบายใจ […]

ไอเอ็มเอฟชี้โลกเลี่ยงภาวะศก.ถดถอยได้โดยใช้นโยบายการคลังที่เหมาะสม

ไอเอ็มเอฟชี้โลกเลี่ยงภาวะศก.ถดถอยได้โดยใช้นโยบายการคลังที่เหมาะสม

นางคริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (3 ต.ค.) ว่า โลกสามารถหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ ถ้านโยบายการคลังของรัฐบาลต่าง ๆ มีความสอดคล้องกับนโยบายการเงินที่เข้มงวด นางจอร์เจียวา ระบุว่า ในบริบทของการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดนั้น รัฐบาลต่าง ๆ ไม่สามารถนิ่งเฉยกับนโยบายการคลังได้ เพราะวิกฤตค่าครองชีพกำลังส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วนของสังคมอย่างรุนแรง นางจอร์เจียวา ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า “เราต้องการให้ธนาคารกลางดำเนินการอย่างเด็ดขาด เพราะเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่สูงมาก ซึ่งไม่ดีต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ และเป็นเรื่องแย่มากสำหรับคนยากจน เงินเฟ้อคือภาษีของคนยากจน” นางจอร์เจียวา ระบุเสริมว่า นโยบายการคลังที่ช่วยเหลือทุกคนด้วยการลดราคาพลังงาน และการให้เงินอุดหนุนนั้น ขัดต่อวัตถุประสงค์ของนโยบายการเงิน สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า รัฐบาลทั่วโลกได้เข้าช่วยเหลือประชาชนของตนเอง ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อด้านอาหารที่สูงขึ้นและการขาดแคลน หลังการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินและเศรษฐกิจ ที่มา: รอยเตอร์

IMF ชี้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง Q3/65 คาดบางประเทศเข้าสู่ “ภาวะถดถอย” ในปี 2566

IMF ชี้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง Q3/65 คาดบางประเทศเข้าสู่ “ภาวะถดถอย” ในปี 2566

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2565 ว่า เจอร์รี ไรซ์ โฆษกกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าว เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ยังมีความเสี่ยงด้านลบครอบงำแนวโน้มเศรษฐกิจโลก และบางประเทศคาดว่าจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2566 แต่ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่า จะเกิดภาวะถดถอยทั่วโลกในวงกว้างหรือไม่ โดยมีข้อมูลจำนวนมากที่สะท้อนว่า เศรษฐกิจโลกยังคงอ่อนแอในไตรมาสที่ 3 เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัญหาห่วงโซ่อุปทาน และสภาวะตลาดการเงินที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งกองทุนการเงินระหว่างประเทศในเดือนกรกฎาคมปรับลดการเติบโตทั่วโลกเป็น 3.2% ในปี 2565 และ 2.9% ในปี 2566 โดยจะเปิดเผยแนวโน้มใหม่ในเดือนหน้า “ชัดเจนว่าสิ่งที่เรามองว่าเป็นการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกได้ทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์และหลายเดือนที่ผ่านมาเท่านั้น การล็อกดาวน์จากโควิด-19 อย่างต่อเนื่องและปัญหาด้านอสังหาริมทรัพย์กำลังส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในจีน ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นมีผลกระทบต่อหลายประเทศ ความเสี่ยงด้านลบยังคงครอบงำแนวโน้มด้วยความไม่แน่นอนจำนวนมหาศาลที่ต้องนำมาพิจารณา คาดว่าบางประเทศจะเผชิญกับภาวะถดถอยในปี 2566″ ทั้งนี้ แม้ว่าบางประเทศจะไม่อยู่ในภาวะถดถอยในทางเทคนิค แต่ก็รู้สึกเหมือนเป็นภาวะถดถอยสำหรับผู้คนจำนวนมากทั่วโลก โดยไรซ์ตั้งข้อสังเกตว่า ในแอฟริกาเพียงประเทศเดียว ความหิวโหยเพิ่มสูงขึ้นถึง 1 ใน 3 ในช่วง 2 […]

ปากีสถานขอความช่วยเหลือทางการเงินสู้น้ำท่วม

ปากีสถานขอความช่วยเหลือทางการเงินสู้น้ำท่วม

ปากีสถาน เผยว่า ต้องการความช่วยเหลือทางการเงินในการรับมือกับอุทกภัยรุนแรง และหวังว่าสถาบันการเงินจะนำเรื่องผลกระทบทางเศรษฐกิจไปคำนวณในการจัดสรรความช่วยเหลือ ด้านยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา พุ่งขึ้นเป็น 1,061 คน นายบิลาวัล บุตโต-ซาร์ดารี รัฐมนตรีต่างประเทศ ปากีสถาน ให้สัมภาษณ์รอยเตอร์ส ว่า ไม่เคยเห็นการทำลายล้างรุนแรงเช่นนี้มาก่อน น้ำท่วมสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงจนยากที่จะอธิบายเป็นคำพูดได้ พืชผลจำนวนมากที่เลี้ยงปากท้องประชาชนถูกทำลายเสียหายหมดสิ้น ความรุนแรงนี้จะส่งผลกระทบอย่างสำคัญต่อเศรษฐกิจโดยรวมของปากีสถานที่อยู่ในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจอยู่แล้ว อัตราเงินเฟ้อสูง เงินรูปีอ่อนค่า และขาดดุลบัญชีเดินสะพัด นายบิลาวัล บุตโต-ซาร์ดารี กล่าวต่อไปว่า ปากีสถานต้องการความช่วยเหลือทางการเงิน เพื่อรับมือและฟื้นฟูจากเหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ เขาหวังว่า คณะกรรมการของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ (IMF) จะอนุมัติในสัปดาห์นี้เรื่องปล่อยสินเชื่องวดที่ 7 และ 8 รวม 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 43,700 ล้านบาท) ในโครงการที่ปากีสถานขอรับความช่วยเหลือจากไอเอ็มเอฟตั้งแต่ปี 2562 และหวังว่า ไอเอ็มเอฟจะนำเรื่องผลกระทบจากน้ำท่วมไปคำนวณเพื่อจัดสรรความช่วยเหลือในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ขณะนี้กำลังประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจอยู่ บางคนประเมินไว้ที่ 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว […]

แบงก์ชาติศรีลังกาเตือนอาจต้องปิดประเทศ หากไร้รัฐบาลที่มั่นคง

แบงก์ชาติศรีลังกาเตือนอาจต้องปิดประเทศ หากไร้รัฐบาลที่มั่นคง

ผู้ว่าแบงก์ชาติศรีลังกาเตือน ศรีลังกาอาจต้องปิดประเทศ ถ้าหากยังปราศจากรัฐบาลที่มั่นคง และความคืบหน้าการเจรจาขอความช่วยเหลือจากไอเอ็มเอฟ ขึ้นอยู่กับศรีลังกามีรัฐบาลที่มั่นคงหรือไม่ พร้อมปฏิเสธไม่สนใจตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ นันดาลัล วีระสิงเห ผู้ว่าการธนาคารกลางศรีลังกา กล่าวว่า ศรีลังกาอาจต้องปิดประเทศ หากยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลที่มีความมั่นคงได้ในเร็วๆ นี้ และความคืบหน้าในการได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ขึ้นอยู่กับ ศรีลังกามีรัฐบาลที่มั่นคงหรือไม่ วีระสิงเห เตือนว่า เงินที่ศรีลังกา เหลืออยู่ในขณะนี้ เพียงสามารถซื้อน้ำมัน ดีเซลได้ 3 ครั้งเท่านั้น จนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ และซื้อน้ำมันปิโตรเลียมได้อีก 1 หรือ 2 ครั้งเท่านั้น แต่หลังจากนั้น มีความไม่แน่นอนอย่างสูงว่า ศรีลังกาจะสามารถหาเงินตราต่างประเทศได้มากพอ เพื่อซื้อน้ำมันปิโตรเลียมที่จำเป็นสำหรับประเทศนี้ได้หรือไม่ เขายังมองไม่เห็นหนทางข้างหน้าว่า จะจัดหาสิ่งของจำเป็นได้อย่างไร หากปราศจากรัฐบาลที่มั่นคง พร้อมกับเตือนว่า ศรีลังกาต้องมีนายกรัฐมนตรี ประธานาธิบดี และรัฐบาลที่มีอำนาจตัดสินใจ ไม่เช่นนั้นศรีลังกาจะต้องปิดประเทศ และความทุกข์ยากจะตกแก่ประชาชน ขณะเดียวกัน วีระสิงเหเอง ถูกมองว่า อาจได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของศรีลังกา แต่เขาตัดโอกาสดังกล่าวโดยสิ้นเชิง ระบุว่า […]

IMF มองตลาดอาจจะผันผวนมากขึ้นหลังธนาคารกลางขึ้นดอกเบี้ย

IMF มองตลาดอาจจะผันผวนมากขึ้นหลังธนาคารกลางขึ้นดอกเบี้ย

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกมาเตือนว่าอาจจะได้เห็นความปั่นป่วนเกิดขึ้นในตลาดการเงินในอนาคต โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่รัฐบาลทั่วโลกกำลังปรับแนวทางเข้าสู่ช่วงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ Tobias Adrian ที่ปรึกษาทางการเงินและผู้อำนวยการตลาดการเงินและตลาดทุนของ IMF กล่าวว่า การที่ธนาคารกลางเริ่มหันมาใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดและควบคุมเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น จะผลักดันให้หุ้นที่มีความเสี่ยงสูงปรับตัวลดลง แม้ผู้กำหนดนโยบายจะให้คำมั่นว่าจะทำให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างราบรื่นก็ตาม “เราอาจได้เห็นภาวะตลาดเงินที่ตึงตัวแน่นอน และนั่นก็หมายความว่า สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง เช่น หุ้น อาจถูกขายออกไปอีก” Adrian กล่าว สำหรับปฏิกิริยาของตลาดที่มีจะขึ้นอยู่กับความสามารถของธนาคารกลางในการสื่อสารเจตนารมณ์ที่มีออกมา ที่มา : CNBC