ส่องทิศทางเศรษฐกิจอาเซียนปี 2020 ตอน มาเลเซีย

ส่องทิศทางเศรษฐกิจอาเซียนปี 2020 ตอน มาเลเซีย

BF Asean Corner ไตรมาส 3 GDP มาเลเซีย ออกมาที่ 4.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2018 แต่ชะลอตัวลงเมื่อไปเทียบกับครึ่งปีแรกปีนี้ ที่เติบโต 4.7% โดยตัวที่ชะลอลงมา หลักๆ มาจากการบริโภคในประเทศ และการส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ที่มีความขัดแย้งกัน ซึ่งก็เริ่มเห็นชัดว่าส่งผลมาที่มาเลเซียแล้ว อีกประเด็นคือเรื่องการก่อสร้าง โดยตั้งแต่มาเลเซียได้รัฐบาลชุดใหม่มา ก็มีการชะลอการลงทุน และลดมูลค่าโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานหลายโครงการ เพื่อลดหนี้สาธารณะลง เพราะมองว่ารัฐบาลชุดเก่าก่อหนี้ไว้ค่อนข้างมาก ซึ่งทำให้ภาคการก่อสร้างโดยรวมของมาเลเซียชะลอลงต่อเนื่อง สำหรับปีหน้า เมื่อมอง Sentiment ต่างๆ อาจจะดูดีขึ้น แต่ตัวเลข เราให้ใกล้เคียงกับปี 2019 โดยในปีนี้มองว่าทั้งปีน่าจะเติบโต 4.5% ส่วนปีหน้า มองว่าจะเติบโต 4.4% คือเติบโตในอัตราใกล้เคียงกัน โดยมองว่า โครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ของมาเลเซียจะเริ่มกลับมา เพราะว่าครึ่งปีหลัง รัฐบาลเพิ่งประกาศว่าจะกลับมาลงทุนหลายโปรเจ็ก สร้างทางรถไฟ ถนน ซึ่งก็น่าจะช่วยให้การลงทุนปีหน้าดีขึ้นของฝั่งภาครัฐ และอาจส่งผลไปถึงเอกชนทำให้มีความคึกคักมากขึ้นในการลงทุน […]

กองทุนบัวหลวง พร้อมบริหารและขายกองทุน LTF ต่อในปี 2563  เป็นกองทุนรวมทั่วไป เปิดทางผู้ลงทุนสะสมเงินเพิ่ม ขยายโอกาสรับผลตอบแทนในระยะยาว

กองทุนบัวหลวง พร้อมบริหารและขายกองทุน LTF ต่อในปี 2563 เป็นกองทุนรวมทั่วไป เปิดทางผู้ลงทุนสะสมเงินเพิ่ม ขยายโอกาสรับผลตอบแทนในระยะยาว

กองทุนบัวหลวงยืนหยัดบริหารและขายกองทุน   LTF ทั้ง 4 กองทุนต่อ พร้อมไฟเขียวให้ลงทุนเพิ่มเติมได้ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป หลังกฎหมายประกาศชัดเจน  เพื่อขยายโอกาสรับผลตอบแทนระยะยาว ทั้งมั่นใจตลาดหุ้นไทยยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ หากคัดสรรหุ้นที่ดี นายวศิน วัฒนวรกิจกุล กรรมการผู้จัดการ Head of Business Distribution บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) เปิดเผยว่า เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วันแล้ว สำหรับการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีในปี 2562 สำหรับผู้ลงทุนที่ยังไม่ได้ซื้อกองทุน LTF สามารถซื้อได้จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2562 ส่วนผู้ลงทุนที่ซื้อกองทุน LTF แล้ว ตลอดช่วงที่ผ่านมาของปี 2562 และต้องการจะซื้อเพิ่มเติม ควรคำนวณสัดส่วนเงินลงทุนใน LTF เพื่อให้อยู่ภายใต้เงื่อนไขไม่เกินกว่า 15% ของเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี ทั้งนี้ กองทุนบัวหลวงขอให้ความมั่นใจกับผู้ลงทุนว่าจะเดินหน้าบริหารกองทุน LTF ทั้งหมด […]

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 23 ธ.ค. ปิดตลาดที่ 1,573.57 จุด เพิ่มขึ้น 0.65 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 23 ธ.ค. ปิดตลาดที่ 1,573.57 จุด เพิ่มขึ้น 0.65 จุด

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 23 ธ.ค. 2562 ปิดตลาดที่ 1,573.57 จุด เพิ่มขึ้น 0.65 จุด หรือ 0.04% โดยระหว่างวันดัชนีสูงสุดที่ 1,581.40 จุด ต่ำสุดที่ 1,571.30 จุด มูลค่าการซื้อขาย 42,879.54 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.CPALL ปิดที่ 74.75 บาท ลดลง -0.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,711.80 ลบ. 2.BBL ปิดที่ 160.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,354.57 ลบ. 3.ADVANC ปิดที่ 220.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 […]

บริษัทวิจัยคาดการณ์ธนาคารกลางอินโดนีเซียจะลดดอกเบี้ย 0.50% ในปี 2020

บริษัทวิจัยคาดการณ์ธนาคารกลางอินโดนีเซียจะลดดอกเบี้ย 0.50% ในปี 2020

เดอะ จาการ์ตา โพสต์ รายงานว่า หน่วยงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของฟิตช์ โซลูชัน ออกมาคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอินโดนีเซีย น่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายประมาณ 0.50% ในปี 2020 เพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจเติบโต  ท่ามกลางความต้องการในประเทศที่อ่อนแอ ที่ทำให้การลงทุนชะลอตัว เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาธนาคารกลางอินโดนีเซีย เพิ่งจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งก็คืออัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรระยะ 7 วัน ไว้ที่ 5% เนื่องจากเงินเฟ้อยังไม่น่าเป็นห่วงและปัจจัยภายนอกยังมีเสถียรภาพ แต่ก็ยังคงตระหนักว่า จำเป็นต้องปรับปรุงเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว “มองไปข้างหน้า เราคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอินโดนีเซียจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ตลอดทั้งปี 2020 เพื่อสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการเติบโตของสินเชื่อ โดยมีความต้องการในประเทศที่อ่อนแอเป็นแรงขับเคลื่อนการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยเราคาดการณ์ว่าการเติบโตของเศรษฐกิจอินโดนีเซียในปี 2019 จะอยู่ที่ 5.1% และปรับขึ้นเป็น 5.2% ในปี 2020” ฟิตช์ โซลูชั่น เขียนไว้ในรายงานที่นำเสนอ

ขอเชิญชวนนักลงทุนร่วมตอบแบบสำรวจ Bualuang Fund Market Survey

ขอเชิญชวนนักลงทุนร่วมตอบแบบสำรวจ Bualuang Fund Market Survey

กองทุนบัวหลวง จัดทำแบบสำรวจ Bualuang Fund Market Survey ขึ้นมา จึงขอเชิญชวนนักลงทุนทุกท่าน มาร่วมตอบแบบสำรวจ เพื่อมีส่วนร่วมในการออกแบบการลงทุนที่เหมาะสมร่วมกัน โดยสามารถคลิกเพื่อทำแบบสำรวจได้ที่นี่ https://www.bblam.co.th/market-survey/?channel=BF

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 20 ธ.ค. ปิดตลาด 1,572.92 จุด ลดลง 0.59 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 20 ธ.ค. ปิดตลาด 1,572.92 จุด ลดลง 0.59 จุด

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 20 ธ.ค. 2562 ปิดตลาดที่ 1,572.92 จุด ลดลง 0.59 จุด หรือ -0.04% โดยระหว่างวันดัชนีสูงสุดที่ 1,576.43 จุด ต่ำสุดที่ 1,566.77 จุด มูลค่าการซื้อขาย 54,902.31 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.CPALL ปิดที่ 75.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,807.21 ลบ. 2.PTT ปิดที่ 44.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,635.59 ลบ. 3.BBL ปิดที่ 158.00 บาท ลดลง -1.00 บาท […]

จีนจะแซงหน้าสหรัฐในการเป็นผู้นำเอไอใน 5-10 ปีข้างหน้า

จีนจะแซงหน้าสหรัฐในการเป็นผู้นำเอไอใน 5-10 ปีข้างหน้า

เซาท์ ไชน่า มอนิ่ง โพสต์ รายงานว่า แม้ขณะนี้จีนจะเป็นอันดับ 2 ด้านความสามารถแข่งขันในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) รองจากสหรัฐ แต่ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า หากการเติบโตด้านเอไอของจีนยังเป็นเช่นปัจจุบันต่อไป ก็คาดว่าจีนจะแซงหน้าขึ้นมาเป็นอันดับ 1 แทนที่สหรัฐได้ ทั้งนี้ Tortoise Intelligence. จัดทำดัชนีเอไอโลก หรือ Global AI Index ออกมา โดยระบุว่า จำนวนบริษัทเอไอทั่วโลกเพิ่มขึ้นมาเท่าตัวในเวลา 4 ปี โดยปัจจุบันมีกว่า 20,000 บริษัท ที่กำลังพัฒนาเทคโนโลยีเอไอ ตั้งแต่ใช้ในรถยนต์ไร้คนขับไปจนถึงอัลกอริธึ่มด้านการแพทย์ โดยมากกว่า 10,000 บริษัทด้านเอไอ ก่อตั้งในปี 2015 ซึ่งสามารถดึงดูดเงินลงทุนได้ 37,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสหรัฐเป็นผู้นำด้านการพัฒนาเอไอ  แต่จีนถือว่าเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตรวดเร็วมากด้านเอไอ และน่าจะแซงหน้าสหรัฐได้ใน 5-10 ปีข้างหน้า หากการเติบโตต่อจากนี้ยังเป็นเหมือนปัจจุบัน สำหรับการจัดทำดัชนีครั้งนี้ […]

ดัชนีหุ้นไทย 19 ธ.ค. 2562 ปิดตลาดที่ 1,573.51 จุด เพิ่มขึ้น 9.77 จุด

ดัชนีหุ้นไทย 19 ธ.ค. 2562 ปิดตลาดที่ 1,573.51 จุด เพิ่มขึ้น 9.77 จุด

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 19 ธ.ค. 2562 ปิดตลาดที่ 1,573.51 จุด เพิ่มขึ้น 9.77 จุด หรือ 0.62% โดยระหว่างวันดัชนีสูงสุดที่ 1,576.50 จุด ต่ำสุดที่ 1,552.88 จุด มูลค่าการซื้อขาย 65,486.19 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.BBL ปิดที่ 159.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,417.61 ลบ. 2.BTS ปิดที่ 13.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,000.63 ลบ. 3.PTT ปิดที่ 44.25 บาท ลดลง -0.50 […]

ผู้ผลิตรถยนต์จะมีต้นทุนเพิ่ม 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากภาษีนำเข้าใหม่ USMCA

ผู้ผลิตรถยนต์จะมีต้นทุนเพิ่ม 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากภาษีนำเข้าใหม่ USMCA

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า สำนักงานงบประมาณรัฐสภาสหรัฐ คาดการณ์ว่า จากการที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้ทบทวนกฎเกณฑ์การค้า จะส่งผลให้ผู้ผลิตรถยนต์มีต้นทุนเพิ่มขึ้นเกือบ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากภาษีนำเข้าที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงทศวรรษข้างหน้า สำหรับรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ที่ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่ภูมิภาคนี้กำหนดไว้สูงขึ้นในช่วงทศวรรษหน้า การคาดการณ์นี้ อยู่ในประมาณการต้นทุนที่เกิดขึ้นจากการใช้ข้อตกลงใหม่สหรัฐ-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA) ที่ได้รับการพิจารณาโดยสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ สำหรับรถยนต์จะได้รับการยกเว้นภาษีกันระหว่าง 3 ประเทศ ต้องมีสัดส่วนชิ้นส่วนที่ผลิตในภูมิภาคนี้ 75% เพิ่มขึ้นจากข้อกำหนดเดิมภายใต้ ข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ซึ่งอยู่ที่ 62.5% พร้อมกับรายละเอียดใหม่เกี่ยวกับการใช้เหล็กและอลูมิเนียมอเมริกาเหนือ ทั้งนี้ 40-45% ของการผลิตยานยนต์จะต้องมาจากพื้นที่ที่จ่ายค่าแรงสูงกว่า 16 ดอลลาร์สหรัฐต่อชั่วโมง ซึ่งก็คือในสหรัฐและแคนาดา ส่วนยานยนต์บางรายการที่ผลิตในเม็กซิโกเป็นหลัก โดยใช้ชิ้นส่วนจากเม็กซิโกและนอกภูมิภาคจะไม่มีสิทธิเข้าถึงการยกเว้นภาษีนำเข้า  

ดัชนีหุ้นไทย 18 ธ.ค. 2562 ปิดตลาดที่ 1,563.74 จุด เพิ่มขึ้น 15.09 จุด

ดัชนีหุ้นไทย 18 ธ.ค. 2562 ปิดตลาดที่ 1,563.74 จุด เพิ่มขึ้น 15.09 จุด

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 18 ธ.ค. 2562 ปิดตลาดที่ 1,563.74 จุด เพิ่มขึ้น 15.09 จุด หรือ 0.97% โดยระหว่างวันดัชนีสูงสุดที่ 1,566.27 จุด ต่ำสุดที่ 1,554.99 จุด มูลค่าการซื้อขาย 50,326.55 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.BBL ปิดที่ 156.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,939.30 ลบ. 2.ADVANC ปิดที่ 218.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,295.11 ลบ. 3.PTT ปิดที่ 44.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 […]