ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 2 ต.ค. 2563 ปิดตลาดที่ 1,237.54 จุด ลดลง 10.05 จุด
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 2 ต.ค. 2563 ปิดตลาดที่ 1,237.54 จุด ลดลง 10.05 จุด หรือ -0.81% โดยระหว่างวันสูงสุดที่ 1,246.78 จุด ต่ำสุดที่ 1,246.78 จุด มูลค่าการซื้อขาย 54,248.70 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.STGT ปิดที่ 88.50 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 6,114.86 ลบ. 2.PTTEP ปิดที่ 75.00 บาท ลดลง -4.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,754.84 ลบ. 3.PTT ปิดที่ 32.25 บาท ลดลง -0.75 […]
ผู้ให้บริการเงินทุนทางเลือกทั่วโลกเติบโตรวดเร็ว หลังโควิด-19 ท้าทายแบงก์ต้องเร่งปรับตัว
รายงานล่าสุดจาก PwC ระบุว่า บทบาทหลักของธนาคารแบบดั้งเดิม กำลังเผชิญกับความท้าทายสำคัญบนเส้นทางหลังการระบาดของโควิด-19 โดยกลุ่มผู้ให้บริการทางการเงินที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (นอนแบงก์) ตามรายงานของ PwC เรื่อง “Securing your tomorrow, today – The future of financial services” คาดการณ์ว่า ผู้ให้บริการเงินทุนทางเลือกได้กลายเป็นส่วนสำคัญของระบบการเงินทั่วโลก ตลอดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จะพบว่า กลุ่มผู้ให้กู้ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ไม่ใช่ธนาคารได้เติบโตแซงหน้าผู้ให้กู้แบบดั้งเดิม โดยผู้ให้บริการทางการเงินที่ไม่ใช่สถาบันการเงินมีอัตราการเติบโตของการปล่อยสินเชื่อต่อปี (CAGR) อยู่ที่ 2.3% เทียบกับกลุ่มธนาคารที่เติบโตเพียง 0.6% ทั้งนี้แนวโน้มดังกล่าวมีโอกาสที่จะเร่งตัวขึ้น จากปัจจัยอัตราส่วนเงินทุนหลักที่ลดลงจากการด้อยค่าของสินทรัพย์อันเป็นผลมาจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้ธนาคารมีข้อจำกัดด้านความสามารถในการปล่อยสินเชื่อ ขณะที่ปี 2019 ที่ผ่านมาผู้ให้บริการทางการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารซึ่งรวมถึงกองทุนหุ้นเอกชน และกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ ยอดให้กู้ยืมสูงถึง 41 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับผู้ให้กู้แบบดั้งเดิมอยู่ที่ 38 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ การวิเคราะห์โดย PwC แสดงให้เห็นว่า หนี้ภาคเอกชน […]
ยูบีเอสแนะนักลงทุนให้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในทองคำ
โดย…ทนง ขันทอง ราคาทองคำมีความผันผวนในช่วงที่ผ่านมา หลังจากที่ทำสถิติสูงสุดที่ระดับ 2,089 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ในวันที่ 7 สิงหาคมปีนี้ หลังจากนั้นราคาทองคำมีการปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไร โดยล่าสุดในช่วงเช้าของวันที่ 1 ตุลาคม ราคาทองคำลงไปอยู่ที่ระดับ 1,892 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ยูบีเอส ซึ่งเป็นธนาคารยักษ์ใหญ่ของสวิตเซอร์แลนด์ได้แสดงความเห็นว่า ราคาทองคำมีการปรับตัวลงมาทั้งๆ ที่สถานการณ์โดยรวมยังไม่มีความแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก๊อกสองของสหรัฐฯ การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ส่อเค้าว่าจะวุ่นวาย การระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่สิ้นสุด และความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน เพราะว่าตามปกติแล้วในสภาพแวดล้อมที่ไม่แน่นอนเช่นนี้ ทองคำควรมีราคาสูงขึ้น เนื่องจากเป็นทรัพย์สินที่ถือว่าเป็น safe haven ยูบีเอส กล่าวในรายงานว่า การอ่อนค่าของราคาทองคำในช่วงเวลานี้ไม่ใช่เป็นการเริ่มต้นของการปรับราคาลงต่อไป แต่น่าจะเป็นเรื่องปรับราคาระยะสั้นมากกว่า พร้อมกับกล่าวเพิ่มเติมว่า มีเหตุผล 3 ประการ ที่นักลงทุนควรถือโอกาสในช่วงจังหวะเวลานี้เพื่อเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในทองคำ 1. มาตรการทางการเงินของเฟด หรือธนาคารกลางของสหรัฐฯ เนื่องจากสภาคอนเกรซยังคงงัดข้อกันเรื่องงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 รวมทั้งปัญหาโควิด-19 ที่ยังไม่สิ้นสุด เฟดจะยังคงดำเนินนโยบายการเงินที่เอื้อตลาดการเงินในเรื่องของสภาพคล่อง อันเห็นได้จากการที่เฟดได้ประกาศว่าจะคงดอกเบี้ยที่ระดับ 0% […]
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 1 ต.ค. 2563 ปิดตลาดที่ 1,247.59 จุด เพิ่มขึ้น 10.55 จุด
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 1 ต.ค. 2563 ปิดตลาดที่ 1,247.59 จุด เพิ่มขึ้น 10.55 จุด หรือ +0.85% โดยระหว่างวันสูงสุดที่ 1,251.11 จุด ต่ำสุดที่ 1,232.81 จุด มูลค่าการซื้อขาย 44,863.49 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.MICRO ปิดที่ 5.45 บาท เพิ่มขึ้น 2.80 บาท (+105.66%) มูลค่าการซื้อขาย 3,963.38 ลบ. 2.SCC ปิดที่ 337.00 บาท เพิ่มขึ้น 15.00 บาท (+4.66%) มูลค่าการซื้อขาย 1,616.06 ลบ. 3.ฺBANPU ปิดที่ 6.40 บาท […]
สหรัฐฯ เตรียมตรวจสอบเวียดนาม กรณีปั่นค่าเงิน เล็งออกประกาศสัปดาห์นี้
รายงานข่าวจากบลูมเบิร์ก ระบุว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ มีแผนที่จะประกาศการตรวจสอบความเคลื่อนไหวในสกุลเงินดองของเวียดนาม ทั้งนี้ การตรวจสอบจะดำเนินการตามมาตรา 301 ของกฎหมายการค้า ซึ่งบัญญัติไว้เมื่อปี 1974 โดยคาดว่าจะมีการประกาศภายในสัปดาห์นี้ การตรวจสอบเกิดขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ระบุไว้เมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมาว่า เวียดนามมีทีท่าว่าจะปั่นค่าเงิน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมซื้อขายยางรถยนต์ ด้านโฆษกกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ยังคงปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับรายงานข่าวดังกล่าว เวียดนามเป็น 1 ใน 10 ประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ขณะที่สหรัฐฯ มียอดขาดดุลการค้ากับเวียดนามสูงถึง 3.48 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นยอดขาดดุลสูงสุด รองจากการขาดดุลกับจีน เม็กซิโก และสวิตเซอร์แลนด์ ที่ผ่านมาคณะบริหารของทรัมป์เคยใช้การตรวจสอบดังกล่าวตามกฎหมายการค้ามาตรา 301 เพื่อเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นต้นตอของสงครามการค้าระหว่าง 2 ประเทศ อย่างไรก็ดี การตรวจสอบกรณีการปั่นค่าเงินนั้นมักจะต้องใช้เวลานานหลายเดือนซึ่งไม่น่าเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 3 พ.ย.นี้
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอาจจะต้องชี้ชะตาผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
โดย…ทนง ขันทอง ความชุลมุนวุ่นวายของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทวีความเข้มข้นขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะว่าทั้งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และโจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครตต่างก็ตั้งป้อมแล้วว่าจะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ถ้าหากว่าตัวเองแพ้ จนทำให้นักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์ว่า คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ (Supreme Court) ของสหรัฐฯ อาจจะต้องเป็นผู้ชี้ชะตาผลการเลือกตั้ง ฮิลลารี่ คลินตัน ผู้ที่พ่ายแพ้ต่อทรัมป์ในการเลือกตั้งในปี 2016 ได้ออกมาให้คำแนะนำกับไบเดนว่า อย่าได้ประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นอันขาด ส่วนทรัมป์เองก็ออกมาพูดชัดเจนหลายครั้งแล้วว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พฤศจิกายน นี้ จะเป็นการเลือกตั้งที่สกปรกที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐฯ และเขาจะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง เพราะฝ่ายเดโมแครตเตรียมกลโกงสารพัด ทรัมป์ บอกว่า การเลือกตั้งผ่านการการส่งบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์ แทนการไปโหวตที่คูหาเลือกตั้ง เนื่องจากหลายรัฐเป็นกังวลใจกับการระบาดของไวรัสโคโรนาจะเปิดโอกาสให้พวกเดโมแครตขโมยการเลือกตั้งประธานาธิบดีในครั้งนี้ ผ่านการโกงการนับคะแนน แต่ไบเดนย้ำว่า การโหวตผ่านไปรษณีย์ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ไม่สามารถที่จะโกงได้ เพราะว่ามีหลายฝ่ายช่วยกันตรวจสอบ นอกจากนี้ ทรัมป์ยังพูดในระหว่างการดีเบตกับไบเดนนัดแรกในวันอังคารที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมาว่า พวกเดโมแครตไปสอดแนมแคมเปญการเลือกตั้งของทีมงานของเขาในการเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีที่แล้ว นอกจากนี้ ฝ่ายตรงข้ามพยายามทุกอย่างที่จะทำลายเขา […]
กิจกรรมเศรษฐกิจในเดือน ส.ค.ของไทยปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน ตามการส่งออก-การผลิต-การลงทุนภาคเอกชนที่หดตัวน้อยลง
BF Economic Research กิจกรรมเศรษฐกิจในเดือน ส.ค. ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน ตามการส่งออก การผลิต และการลงทุนภาคเอกชนที่หดตัวน้อยลง ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวต่อเนื่อง ดังนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเป็นศูนย์ต่อเนื่อง (-100% YoY) จากมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศนับตั้งแต่เดือน เม.ย. การส่งออก (ข้อมูลกระทรวงพาณิชย์) เดือน ส.ค.-20 อยู่ที่20,212.3 ล้านดอลลาร์ฯ vs. prev 18,819.5 ล้านดอลลาร์ฯ หรือ -7.94%YoY (vs. prev.-11.25%YoY) ถ้าไม่รวมทองจะอยู่ที่ -14.09%YoY (vs. prev.-14.14%YoY) YTD Export Growth =-7.8% vs.prev.-7.71% สินค้าที่ขยายตัวได้ดีส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่ได้รับอานิสงส์จาก WFH เช่นกลุ่มโทรคมนาคม และผลิตภัณฑ์จากยาง ส่วนคู่ค้ารายประเทศที่ยอดออเดอร์ส่งออกขยายตัวเป็นบวกได้แก่ สหรัฐฯ หนุนโดยสินค้ากลุ่มเครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ, ผลิตภัณฑ์จากยาง, และอาหารกระป๋อง มูลค่านำเข้าไทย ในเดือน […]
BF Monthly Economic Review – ก.ย. 2563
BF Economic Research สรุปประเด็นที่น่าสนใจ ก้าวเข้าสู่ 3 เดือนสุดท้ายของปี 2020 แล้ว มีประเด็นเกิดขึ้นมากมาย แต่ประเด็นสำคัญๆ จริงๆ มี 3 ประเด็น เศรษฐกิจ – อาจจะฟื้นตัวแต่ช้าลง นโยบายการเงิน-การคลัง – หากจะมีการกระตุ้นด้วย Policy Push คงไม่ได้กระตุ้นในระดับที่แรงเท่ากับก่อนหน้านี้ การเมืองในสหรัฐฯ – ต้องติดตามเพราะทุกครั้งที่มีการดีเบต คะแนนเสียงจะมีการวิ่งว่า ใครจะเริ่มชอบใครมากกว่า