เงินเฟ้อพุ่งป่วนไลฟ์สไตล์ ‘คนอเมริกัน-ชาวอินโดฯ’
ภาวะเงินเฟ้อในหลายประเทศของโลกกำลังเล่นงานชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในประเทศนั้นๆ โดยเฉพาะชาวอเมริกันที่ตอนนี้เจอปัญหาเงินเฟ้อพุ่งทำลายสถิติ ส่งผลให้ชาวอเมริกันเกือบครึ่งแบกรับภาระหนี้สินก้อนโต เพราะต้องไปหากู้ยืมเงินเพื่อนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ขณะที่อินโดนีเซียก็มีปัญหาเรื่องนี้เหมือนกัน โดยธนาคารกลางอินโดนีเซีย เผยว่า อัตราเงินเฟ้อของประเทศทะยานสูงสุด ในรอบ 7 ปี แตะที่ 4.94% ในเดือนก.ค. สูงกว่ากรอบเป้าหมายไปเยอะ เว็บไซต์ซีเอ็นบีซี รายงานผลการศึกษาหลายฉบับที่มีการเปิดเผยออกมาเมื่อไม่นานมานี้ว่า ภายใต้ภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งทำลายสถิตินับตั้งแต่ปี 2524 ของสหรัฐ โดยชาวอเมริกันเกือบครึ่งต่างเจอปัญหาในด้านการใช้จ่ายและหนี้สิน และส่วนใหญ่จำเป็นต้องลดการออมเงินเพื่อใช้ยามฉุกเฉินให้น้อยลง เพื่อออมเงินสู่เป้าหมายทางการเงินในระยะยาว ผลสำรวจล่าสุดเกี่ยวกับสถานภาพทางการเงินในครัวเรือนและความพร้อม จัดทำโดยอเมริกัน คอนซูเมอร์ เครดิต คอนซัลติง (American Consumer Credit Counseling) บ่งชี้ว่า เกือบ 40% ของผู้บริโภคชาวอเมริกันไม่สามารถเก็บออมเงินได้เลย ขณะที่ 19% บอกว่า จำเป็นต้องตัดลดสัดส่วนเงินออมเพื่อนำมาใช้จ่าย เมื่อไตรมาสที่สองของปีนี้ 48% ของผู้บริโภคกล่าวว่า ค่าใช้จ่ายพื้นฐานที่เพิ่มขึ้นส่งผลกระทบต่อไลฟ์สไตล์ของครอบครัว โดยตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างมาก จากไตรมาสแรกซึ่งอยู่ที่ 39% “อัลเลน อะมาดิน” ประธานและประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร […]
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 2 ส.ค. 2565 ปิดตลาดที่ 1,589.16 จุด ลดลง 4.08 จุด (-0.26%)
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 2 ส.ค. 2565 ปิดตลาดที่ 1,589.16 จุด ลดลง 4.08 จุด (-0.26%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,585.71 จุด และสูงสุดที่ 1,598.54 จุด มูลค่าการซื้อขาย 59,464.45 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ DELTA ปิดที่ 490.00 บาท ลดลง 20.00 (-3.92%) มูลค่าการซื้อขาย 4,672.66 ลบ. PTTEP ปิดที่ 159.00 บาท ลดลง 0.50 (-0.31%) มูลค่าการซื้อขาย 2,499.18 ลบ. PTT ปิดที่ 35.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,889.93 ลบ. BANPU ปิดที่ 13.10 บาท ลดลง […]
BBLAM เสนอขายครั้งเดียว ‘ASIATRIGGER’ วันที่ 2-4 ส.ค.นี้ ตอบโจทย์แสวงหาโอกาสรับผลตอบแทนการลงทุน 6% ภายใน 1 ปี
BBLAM เสนอขายครั้งเดียวกับกองทุนเปิดบัวหลวงเอเชียทริกเกอร์ หรือ ‘ASIATRIGGER’ ระหว่างวันที่ 2-4 สิงหาคม 2565 ตั้งเป้าพิชิตผลตอบแทนลงทุน 6% ภายใน 1 ปี จากการลงทุนในภูมิภาคเอเชีย โดยมองว่าปัจจัยลบต่างๆ ที่กดดันตลาดหุ้นในเวลานี้ เป็นโอกาสเข้าลงทุนในบริษัทคุณภาพดี นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ BBLAM เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2565 ตลาดหุ้นหลายแห่งในภูมิภาคเอเชียปรับตัวลดลงมาพอสมควร ตามตลาดหุ้นทั่วโลกที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเงินเฟ้อและความกังวลต่อสภาวะเศรษฐกิจถดถอยในอนาคต ทั้งที่ในความเป็นจริง สถานการณ์ของหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 และอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับไม่สูงมากนัก รวมไปถึงศักยภาพการบริหารผลประกอบการและกำไรของบริษัทในหลายอุตสาหกรรมที่ยังสามารถขยายตัวได้ จึงมองว่าเป็นโอกาสในการเข้าลงทุนหุ้นของบริษัทคุณภาพดี แนวโน้มกำไรเติบโตได้ในระยะยาว และยังมีมูลค่าไม่สูงมาก สำหรับประเทศที่น่าสนใจเข้าลงทุน เช่น จีน เวียดนาม และอินโดนีเซีย โดยในส่วนของจีน แม้จะมีการใช้นโยบาย ‘Zero COVID’ ซึ่งอาจทำให้เศรษฐกิจในประเทศชะงักงัน แต่สถานการณ์นั้นน่าจะทยอยผ่อนคลายได้มากขึ้นในอนาคต รวมทั้งบริษัทต่างๆ เริ่มสามารถปรับตัวให้เข้ากับต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้นได้ ทางด้านเวียดนามซึ่งตลาดหุ้นปรับตัวลงมามาก […]
‘สี จิ้นผิง’ เตือน ‘ไบเดน’ อย่าเล่นกับไฟเรื่องไต้หวัน
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เตือนระหว่าง สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ นานกว่า 2 ชั่วโมงว่า อย่าเล่นกับไฟในเรื่องไต้หวัน ไม่เช่นนั้น อาจจะถูกไฟเผาได้ พร้อมตกลงที่จะพบเจอกันแบบตัวเป็นๆ ครั้งแรก สำนักข่าวซินหัว สื่อทางการจีน รายงานว่าผู้นำทั้งสองคนสนทนาทางโทรศัพท์ เป็นเวลานาน 2 ชั่วโมง 17 นาที เมื่อ วันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐฯ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เตือนประธานาธิบดีไบเดนว่า ไม่ควรละเมิดความเห็นสาธารณะ หากเล่นกับไฟก็จะถูกไฟเผา เขาหวังว่า สหรัฐฯ จะตระหนักในเรื่องนี้อย่างชัดเจน ขอให้สหรัฐฯ ให้ความเคารพต่อนโยบายจีนเดียว ซึ่งมีไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน ด้านไบเดน ยืนยันว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงให้ความเคารพต่อหลักการจีนเดียว แต่ขณะเดียวกันสหรัฐฯ ก็ต่อต้านการใช้กำลังทหารคุกคามไต้หวัน ซึ่งที่ผ่านมาสหรัฐฯ ได้ขายอาวุธให้กับไต้หวันจำนวนมาก เพื่อให้ไต้หวันได้ใช้ป้องกันตัวเอง ขณะที่ทำเนียบขาว แถลงว่า ประธานาธิบดีไบเดนย้ำกับประธานาธิบดีสี ว่า นโยบายสหรัฐในเรื่องไต้หวันยังคงไม่เปลี่ยนแปลง […]
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 1 ส.ค. 2565 ปิดตลาดที่ 1,593.24 จุด เพิ่มขึ้น 16.83 จุด (+1.07%)
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 1 ส.ค. 2565 ปิดตลาดที่ 1,593.24 จุด เพิ่มขึ้น 16.83 จุด (+1.07%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,581.24 จุด และสูงสุดที่ 1,596.66 จุด มูลค่าการซื้อขาย 82,256.81 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ DELTA ปิดที่ 510.00 บาท เพิ่มขึ้น 36.00 (+7.59%) มูลค่าการซื้อขาย 7,032.96 ลบ. CPALL ปิดที่ 59.75 บาท ลดลง 1.50 (-2.45%) มูลค่าการซื้อขาย 3,263.07 ลบ. PTT ปิดที่ 35.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 (+1.44%) มูลค่าการซื้อขาย 3,119.75 ลบ. KBANK ปิดที่ 145.00 บาท […]
B-CHINAARMF B-CHINE-EQ B-CHINESSF BBLAM Weekly Investment Insights
BBLAM Weekly Investment Insights 1 – 5 สิงหาคม 2022
INVESTMENT STRATEGY หุ้นจีนขาขึ้นรอบนี้จะให้มั่นใจต้องตอบได้ว่า เป็นขาขึ้นรอบใหม่? อะไรทำให้วิ่งขึ้นต่อ? ยังหวังมั่งคั่งกับหุ้นจีนได้ไหม? ลงทุนเลยหรือรอ? ช่วงที่ผ่านมา ตลาดหุ้นจีนพบเจอกับความเสี่ยงรอบด้าน เช่น ปัญหาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของจีน 150 แห่ง ใน 63 เมืองที่หยุดการก่อสร้าง จนทำให้ผู้ซื้อบ้านในโครงการใหม่เหล่านี้รวมตัวกันไม่จ่ายค่างวด สังเกตได้ว่า ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากฝั่งผู้ซื้อไม่มีเงินจ่าย แต่มาจากฝั่งผู้ประกอบการโครงการใหม่ ซึ่งแม้จะส่งผลกระทบต่อภาคธนาคารในแง่หนี้เสีย และกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่ยอดขายถูกชะงักไปบ้าง แต่ความจริงแล้ว ประเด็นนี้อาจไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด..เนื่องจากเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเฉพาะแค่โครงการใหม่ ซึ่งมีมูลค่าสินเชื่อเพียง 6% ของสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด และส่วนใหญ่อยู่ในเมืองรอง ๆ ไม่ใช่หัวเมืองใหญ่ ที่สำคัญ ล่าสุดมีข่าวว่า ธนาคารจีนกลับมาอัดสภาพคล่องแล้ว จึงเชื่อว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน จะสามารถเดินหน้าเพื่อสร้างโครงการใหม่ให้เสร็จจนได้ ส่วนในโลกตลาดทุน สิ่งที่หลายคนอยากรู้คือ ตลาดหุ้นจีนจะกลับมาเป็นขาขึ้นรอบใหม่หรือยัง? คุณมทินา วัชรวราทร CFA® Head of Investment Strategy จาก BBLAM อธิบายข้อมูลไว้อย่างน่าสนใจ ดังนี้ แม้ว่าขาลงของตลาดหุ้นจีนในรอบล่าสุด จะหนักกว่าครั้งก่อน ๆ โดยเฉพาะกลุ่มเทคจีน แต่ในช่วง 2 […]
จีนส่งซิกเศรษฐกิจโตต่ำกว่าเป้า
จีนได้ส่งสัญญาณว่า เศรษฐกิจอาจจะโตต่ำกว่าเป้า เนื่องจากมาตรการคุมโควิดส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลก คณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์ (โปลิตบูโร) ตั้งเป้าว่า จะรักษาการเติบโตให้อยู่ภายในช่วงที่มีเหตุผล แต่ไม่ได้พูดถึงเป้าหมายการเติบโตอย่างเป็นทางการที่ก่อนหน้านี้กำหนดไว้ที่ 5.5% แถลงการณ์หลังประชุมรายไตรมาสของโปลิตบูโร ซึ่งมีสมาชิก 25 คน และมีประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เป็นประธาน ระบุว่า ผู้นำจะมุ่งมั่นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ แต่ก็เรียกร้องให้มณฑลต่างๆ ทำงาน เพื่อให้มีการเติบโตตามเป้าของตัวเอง นักวิเคราะห์ กล่าวว่า จีนไม่พูดถึงจีดีพีอย่างเห็นได้ชัด แม้นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า จีนจะโต 5.5% ตามเป้าได้ยาก นอกจากนี้ จีนกำลังเรียกร้องให้มณฑลใหญ่ๆ ชดเชยการเติบโตให้กับมณฑลที่ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ ก่อนหน้านี้จีนแถลงว่า เศรษฐกิจได้หดตัวอย่างรุนแรงในช่วงไตรมาสสองของปีนี้ เนื่องจากเมืองใหญ่ เช่น เซี่ยงไฮ้ ถูกล็อกดาวน์ทั้งหมดหรือบางส่วนในช่วงนั้น นอกจากนี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เคยบูมก็ซบเซารุนแรง และยอดขายบ้านลดลง 11 เดือนติดต่อกัน