ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 11 ส.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,535.16 จุด เพิ่มขึ้น 1.75 (+0.11%)
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 11 ส.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,535.16 จุด เพิ่มขึ้น 1.75 (+0.11%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,528.85 จุด และสูงสุดที่ 1,540.19 จุด มูลค่าการซื้อขาย 61,820.21 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ CPALL ปิดที่ 61.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 (+2.93%) มูลค่าการซื้อขาย 4,784.39 ล้านบาท KBANK ปิดที่ 128.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 (+0.79%) มูลค่าการซื้อขาย 4,230.52 ล้านบาท BANPU ปิดที่ 9.35 บาท ลดลง 0.25 (-2.60%) มูลค่าการซื้อขาย […]
‘โพลรอยเตอร์ส’ ฟันธง ก.ย. 66 ECB คงดอกเบี้ยที่ 3.75% ตามราคาตลาด
ผลการสำรวจความคิดเห็นบรรดานักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังของรอยเตอร์ส ฟังธงธนาคารกลางยุโรปอาจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 3.75% ตามราคาตลาด หลัง “คริสติน ลาการ์ด” ประธานอีซีอี กล่าวชัด ยังไม่มีเหตุผลให้ขึ้นดอกเบี้ย สำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) รายงานผลการสำรวจความคิดเห็นบรรดานักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังของรอยเตอร์ส วันนี้ (11 ส.ค.) ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจหยุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. ที่จะถึงนี้ แต่หากอัตราเงินเฟ้อยังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่อีซีอีอาจยังขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อ ทั้งนี้ อีซีบีขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องแบบติดต่อกันมาตั้งแต่เดือนก.ค. ปี 2565 แต่ คริสติน ลาการ์ด (Christine Lagarde) ประธานธนาคารกลาง เริ่มปูทางสำหรับการหยุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยชั่วคราวหลังจากการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เมื่อเดือนที่แล้ว “ตอนนี้เรายังมีพื้นที่ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกไหม ณ จุดนี้ ผมมองว่าไม่” หรือ “Do we have more ground to cover? At this point, I wouldn’t say so.” […]
SUPEREIF เตรียมจ่ายปันผลครั้งที่ 15 ในอัตรา 0.15798 บาทต่อหน่วย วันที่ 7 กันยายน 2566 นี้
นายพรชลิต พลอยกระจ่าง รองกรรมการผู้จัดการ Head of Real Estate & Infrastructure Investment บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ BBLAM เปิดเผยว่า กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้า ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี (SUPEREIF) จะจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 15 จากผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 หรือระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2566 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2566 และกำไรสะสม ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.15798 บาท โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อกำหนดสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 24 สิงหาคม 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 7 กันยายน 2566 เมื่อนับรวมตั้งแต่จัดตั้งกองทุน จนถึงการประกาศจ่ายเงินปันผลครั้งล่าสุด SUPEREIF จ่ายเงินปันผลรวม 15 […]
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 10 ส.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,533.41 จุด เพิ่มขึ้น 5.11 (+0.33%)
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 10 ส.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,533.41 จุด เพิ่มขึ้น 5.11 (+0.33%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,518.62 จุด และสูงสุดที่ 1,533.41 จุด มูลค่าการซื้อขาย 57,881.49 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ PTTEP ปิดที่ 166.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 (+2.15%) มูลค่าการซื้อขาย 3,296.40 ล้านบาท KBANK ปิดที่ 127.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,257.93 ล้านบาท BH ปิดที่ 246.00 บาท เพิ่มขึ้น 17.00 (+7.42%) มูลค่าการซื้อขาย 2,939.37 ล้านบาท PTT […]
ตามคาด! ‘แบงก์ชาติอินเดีย’ ตรึงดอกเบี้ยที่ 6.5% ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3
ธนาคารกลางอินเดีย มีมติเอกฉันท์ตรึงอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร (Repo Rate) ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 6.5% แต่ลดปริมาณเงินสดในระบบธนาคารลง เพราะเงินเฟ้อจากราคาอาหารสูงขึ้นตามฤดูกาล สำนักข่าวรอยเตอร์ส (Reuters) รายงานวันนี้ (10 ส.ค.) ว่า ธนาคารกลางอินเดีย (RIB) คงอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร (Repo Rate) ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 6.5% ในการประชุมวันนี้ ตลาดคาดไว้ แต่ลดปริมาณเงินสดในระบบธนาคารลง เนื่องจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อกลับมาปรากฏอีกครั้ง หลังจากราคาอาหารพุ่งสูงขึ้นตามฤดูกาลในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของอินเดีย ซึ่งมีสมาชิก 3 คน จากธนาคารกลาง และสมาชิกภายนอกอีก 3 คนมีความเห็นเป็น “เอกฉันท์” ให้คงอัตราดอกเบี้ยซื้อคืน (Repo Rate) ไม่เปลี่ยนแปลงที่ 6.50% ซึ่ง นับเป็นครั้งที่สาม ติดต่อกันที่คณะกรรมการตัดสินใจคงอัตราดังกล่าวไว้ โดยกระทรวงสถิติอินเดีย เปิดเผยในช่วงกลางเดือนก.ค. ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 4.81% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 4.25% ในเดือนพ.ค. […]
JASIF เตรียมจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 34 ในอัตรา 0.23 บาทต่อหน่วย วันที่ 6 ก.ย. นี้
นายพรชลิต พลอยกระจ่าง รองกรรมการผู้จัดการ Head of Real Estate Infrastructure Investment บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ BBLAM เปิดเผยว่า กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน บรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF เตรียมจ่ายเงินปันผลต่อเนื่องครั้งที่ 34 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.23 บาทจากกำไรสะสม คิดเป็นเงินปันผลที่จ่ายออกไปทั้งสิ้น 1,840.00 ล้านบาท โดยจะปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนในวันที่ 23 สิงหาคม 2566 เพื่อกำหนดสิทธิในการรับเงินปันผล ซึ่งมีกำหนดจ่ายเงินในวันที่ 6 กันยายน 2566 เมื่อนับรวมตั้งแต่จัดตั้งกองทุน JASIF จนถึงการประกาศจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 34 นี้ กองทุนจ่ายเงินปันผลรวมทั้งสิ้น 7.67 บาทต่อหน่วยลงทุน ขณะเดียวกันมีการจ่ายเงินลดทุนไปแล้วทั้งหมด 3 ครั้ง รวมเป็นเงิน 0.1484 […]
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 9 ส.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,528.30 จุด เพิ่มขึ้น 9.86 (+0.65%)
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 9 ส.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,528.30 จุด เพิ่มขึ้น 9.86 (+0.65%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,514.38 จุด และสูงสุดที่ 1,528.30 จุด มูลค่าการซื้อขาย 50,039.62 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ KBANK ปิดที่ 127.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 (+3.25%) มูลค่าการซื้อขาย 3,854.16 ล้านบาท KCE ปิดที่ 45.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.75 (+8.93%) มูลค่าการซื้อขาย 2,658.14 ล้านบาท CPALL ปิดที่ 59.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 (+1.27%) มูลค่าการซื้อขาย […]
หุ้นวอลสตรีทร่วง หลังมูดี้ส์ลดอันดับความน่าเชื่อถือธนาคารมะกัน 10 แห่ง
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ดัชนีหุ้นหลักทั้ง 3 ตัวของตลาดหุ้นวอลสตรีท รวมถึงหุ้นของบรรดาธนาคารในประเทศสหรัฐอเมริกาปรับลดลงในวันที่ 8 สิงหาคม หลังบรรดานักลงทุนยังคงแสดงความกังวลต่อสภาพคล่องของธนาคารและเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หลังมูดี้ส์ (Moody’s) บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ได้ปรับลดความน่าเชื่อถือของธนาคารสหรัฐฯ ขนาดเล็กและขนาดกลาง 10 แห่งลง 1 อันดับ และยังประกาศรายชื่อธนาคารยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ 6 แห่งไว้ในบัญชีที่จะพิจารณา ซึ่งอาจมีการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือตามมาอีกด้วย มูดี้ส์ได้ออกมาเตือนว่า ธนาคารสหรัฐฯ จะทำกำไรได้ยากขึ้น เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยและต้นทุนทางการเงินยังคงพุ่งสูง รวมถึงมีสัญญาณของการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย และยังมีข้อห่วงกังวลของความเสี่ยงของธนาคารบางแห่งเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์อีกด้วย ภายหลังจากที่มีการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารระดับภูมิภาคสหรัฐฯ ดัชนีหุ้น S&P 500 Banks ลดลง 1.1% ขณะที่ดัชนี KBW Regional Banking Index ลดลง 1.4% ด้านหุ้นของธนาคารที่ถูกมูดี้ส์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ อาทิ M&T Bank, Pinnacle Financial Partners และ […]
Fund Comment มิถุนายน 2566: ภาพรวมตลาดหุ้น
ภาพรวมตลาดหุ้น ตลาดหุ้นโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ด้วยแรงหนุนจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยเฉพาะหุ้นที่ไม่ใช่กลุ่มเทคโนโลยีที่กลับมาปรับขึ้นตามกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฟดมีมุมมองที่ดีขึ้นต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เป็น +1% จากเดิมที่ +0.4% และมองโอกาสจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยมีน้อยลงสำหรับปี 2023 นี้ แต่ก็เพิ่มความกังวลต่ออัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวลดลงช้ากว่าคาดเช่นกัน ซึ่งทำให้ผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีสหรัฐฯ กลับมาอยู่เหนือ 4% อีกครั้งในรอบ 4 เดือน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นในสินทรัพย์เสี่ยงได้ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่มี Valuation ค่อนข้างตึงตัว แต่เชื่อว่าตลาดสหรัฐฯ อาจจะไม่ได้ปรับตัวลงแรงมาก เพราะความคาดการณ์การสิ้นสุดวงจรอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นถึงจะยาวนานออกไปแต่ก็น่าจะไม่ได้ปรับขึ้นอีกมาก ทางด้านเศรษฐกิจจีนยังไม่ส่งสัญญาณการฟื้นตัวเท่าที่ควร จึงคาดว่าในระยะสั้น บรรยากาศของตลาดหุ้นในต่างประเทศอาจจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นบ้าง ทางด้านปัจจัยภายในประเทศไทย ดัชนี SET Index ปรับลดลงประมาณ 2% ในเดือนมิถุนายน ซึ่งนับว่าอ่อนแอกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาค ด้วยความไม่แน่นอนของการจัดตั้งรัฐบาลที่กระทบต่อบรรยากาศการลงทุนของธุรกิจในประเทศ ผลกระทบจากการที่จำนวนนักท่องเที่ยวจีนชะลอลง ซึ่งเป็นผลจากความซบเซาของเศรษฐกิจจีนและมาตรการเพิ่มความเข้มงวดในการออกวีซ่าให้นักท่องเที่ยวจีน ประกอบกับสัญญาณที่แสดงถึงความซบเซาของเศรษฐกิจไทย เช่น ยอดการส่งออกที่ชะลอลง กำลังซื้อของประชาชนที่ลดน้อยลงโดยเฉพาะตลาดระดับล่างที่สะท้อนผ่านปัญหา NPL ในกลุ่มสินเชื่อผู้บริโภคที่อาจจะยังไม่ผ่านจุดสูงสุดอย่างที่เคยคาดการณ์ หรือ ยอดขายร้านค้าปลีกบางประเภทที่อ่อนแอ […]
Fund Comment
Fund Comment กรกฎาคม 2566: ภาพรวมตลาดหุ้น
ภาพรวมตลาดหุ้นโลก ในเดือนกรกฎาคมปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.9% สะท้อนถึงมุมมองเชิงบวกต่อตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ออกมา โดยหลายฝ่ายได้คาดการณ์ว่า โอกาสที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ ในปีนี้และปีหน้านั้นลดลง และตัวเลข CPI ของสหรัฐในเดือนมิถุนายนปรับตัวเพิ่มขึ้น 3% YoY ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี ซึ่งอัตราเงินเฟ้อที่ทยอยปรับตัวลดลง ส่งผลให้ธนาคารกลางมีแนวโน้มพิจารณาหยุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในอีกไม่ช้า นอกจากนี้ ในเดือนที่ผ่านมายังเป็นช่วงฤดูการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ในสหรัฐ ซึ่งบริษัทต่างๆ สามารถทำกำไรออกมาได้ดีกว่าตลาดคาด โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ในขณะที่หุ้นในกลุ่ม Growth มีผลประกอบการที่คละกันไป อย่างไรก็ตาม แม้สัญญาณทางเศรษฐกิจและผลประกอบการจะออกมาค่อนข้างดี แต่ราคาหุ้นหลายตัวกลับเริ่มปรับตัวลดลงสะท้อนให้เห็นถึงการที่ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมาได้สะท้อนความคาดหวังของตลาดไปค่อนข้างมาก ทั้งในแง่การเติบโตของยอดขายและกำไรของบริษัท ในส่วนตลาดหุ้นจีน ตัวเลข GDP ที่ออกมาก็มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ตลาดมีความคาดหวังว่าจะเห็นมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมามีปริมาณที่มากขึ้น และขนาดที่ใหญ่ขึ้น โดยล่าสุดจากการประชุม Politburo ในช่วงปลายเดือนที่ผ่านมาก็เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนอีกครั้ง และยังเป็นการส่งสัญญาณเชิงบวกให้กับตลาดจีนต่อจากนี้ แม้ว่าจะยังมีข่าวความเสี่ยงจากปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์เป็นระยะๆ ก็ตาม โดยรวมแล้ว นับว่าปัจจัยทางเศรษฐกิจในต่างประเทศน่าจะไม่ได้ส่งผลทั้งในเชิงลบต่อตลาดหุ้นไทยอย่างมีนัยสำคัญในช่วงระยะสั้น แต่จะส่งผลบวกทางอ้อมมากกว่าต่อราคาพลังงาน ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศน่าจะมีน้ำหนักต่อความผันผวนของตลาดมากกว่า ซึ่งตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ด้วยความหวังในการเห็นการจัดตั้งรัฐบาลมากขึ้นในช่วงต้นเดือน […]