OECD มองโอกาสเฟดลดดอกเบี้ยได้อีก 3 ครั้ง ก่อนกลางปี 2026 ท่ามกลางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัว
องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ประเมินว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังมีพื้นที่เพียงพอที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้อีก 3 ครั้ง ภายในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า (มี.ค. -พ.ค. 2026) แม้อัตราเงินเฟ้อยังสูงกว่ากรอบเป้าหมาย 2% โดยคาดว่าเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐฯ จะชะลอตัวลง รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจที่เผยแพร่ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา OECD คาดว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ จะถูกปรับลดลงสู่ระดับ 3.25%–3.5% ภายในฤดูใบไม้ผลิปีหน้า เนื่องจากภาษีการค้าสูงที่กดดันโมเมนตัมการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยคาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ปีนี้ มีแนวโน้มขยายตัวเพียง 1.8% ลดลงจาก 2.8% ในปี 2024 และจะชะลอต่อเนื่องเหลือ 1.5% ในปี 2026 อย่างไรก็ตาม การเติบโตของสหรัฐฯ ยังจะแซงหน้าประเทศสมาชิก G7 รายอื่นในปีนี้ โดยสหราชอาณาจักร คาดว่าจะเติบโตได้ 1.4% รองมาเป็นอันดับ 2 ขณะที่ เยอรมนี […]
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 23 ก.ย. 2568 ปิดตลาดที่ 1,273.20 จุด ลดลง 9.34 จุด (-0.73%)
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 23 ก.ย. 2568 ปิดตลาดที่ 1,273.20 จุด ลดลง 9.34 จุด (-0.73%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,272.68 จุด และสูงสุดที่ 1,290.84 จุด มูลค่าการซื้อขาย 40,147.95 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ DELTA ปิดที่ 167.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.50% (+3.41%) มูลค่าการซื้อ 3,304.10 ล้านบาท GULF ปิดที่ 43.50 บาท ลดลง 1.75% (-3.87%) มูลค่าการซื้อขาย 1,776.38 ล้านบาท ADVANC ปิดที่ 288.00 บาท ลดลง 4.00% (-1.37%) […]
ธปท.จ่อถกสมาคมค้าทองอีกรอบสัปดาห์หน้า งัดมาตรการ “เกาถูกที่คัน” ลดผลกระทบต่อค่าเงินบาทตรงจุด
น.ส.ภาวิณี จิตต์มงคลเสมอ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การหารือระหว่าง ธปท. กับสมาคมค้าทองคำ เพื่อหาแนวทางลดผลกระทบจากการซื้อขายทองคำต่อค่าเงินบาท คาดว่า จะหารือร่วมกันอีกครั้งประมาณต้นสัปดาห์หน้า เพื่อร่วมกันพิจารณาออกแบบมาตรการ หรือแนวทางที่จะทำให้การค้าทองคำ ส่งผลข้างเคียงต่อค่าเงินบาทให้น้อยที่สุด โดยเป็นการแก้ปัญหาได้จริงและตรงจุด ส่วนการดูแลค่าเงินนั้น ยืนยันว่า ธปท.ได้เข้าไปดูแลและลดความผันผวนของค่าเงินในบางช่วงบางจังหวะ แต่ก็ยอมรับว่ามีบางปัจจัยที่ทำให้ค่าเงินบาทผันผวนเพิ่มขึ้น และกำลังหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะสามารถทำอะไรได้เพิ่มเติม สาเหตุที่ทำให้เงินบาทของไทยเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐฯ แล้วแข็งค่ามากกว่าสกุลเงินอื่นๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะปัจจัยเฉพาะตัวของไทยเอง คือ ยอดดุลบัญชีเดินสะพัดดีกว่าที่คาด ปัญหาการเมืองไทยคลี่คลายกลับมามีเสถียรภาพได้เร็ว และพฤติกรรมของคนไทยลงทุนทองคำมากขึ้น เมื่อราคาทองสูงขึ้นก็จะมีการขายทำกำไร ยิ่งราคาทองคำสูงขึ้นมากก็จะยิ่งเป็นแรงกดดันให้เงินบาทแข็งค่าเร็วกว่าสกุลเงินอื่น “ปัจจัยหลักที่ทำให้บาทแข็งค่ามาจากดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า ซึ่งตั้งแต่ต้นปีดอลลาร์อ่อนค่าไปแล้ว 10% จึงทำให้เงินสกุลอื่นแข็งค่าขึ้น แต่กรณีเงินบาทที่แข็งค่าไปมากกว่าสกุลเงินอื่นในระยะหลังๆ มาจากปัจจัยเฉพาะของไทยเอง ทั้ง current account ดีกว่าคาด การเมืองคลี่คลาย มีเสถียรภาพเร็ว และพฤติกรรมของคนไทยที่นิยมลงทุนซื้อขายทองคำ เมื่อทองราคาสูงขึ้นก็ไปขายทำกำไร ร้านทองก็จะมาแลกดอลลาร์เป็นบาทไปให้ลูกค้า ดังนั้นเมื่อทองราคาสูงขึ้นมาก ก็จะเป็นแรงกดดันให้บาทแข็งค่ากว่าสกุลเงินอื่น” น.ส.ภาวิณี ระบุ น.ส.ชญาวดี […]
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 22 ก.ย. 2568 ปิดตลาดที่ 1,282.54 จุด ลดลง 10.18 จุด (-0.79%)
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 22 ก.ย. 2568 ปิดตลาดที่ 1,282.54 จุด ลดลง 10.18 จุด (-0.79%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,282.54 จุด และสูงสุดที่ 1,296.42 จุด มูลค่าการซื้อขาย 31,595.35 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ EA ปิดที่ 3.54 บาท ลดลง 0.06% (-1.67%) มูลค่าการซื้อขาย 1,751.29 ล้านบาท PTT ปิดที่ 33.00 บาท ลดลง 0.25% (-0.75%) มูลค่าการซื้อขาย 1,707.69 ล้านบาท KBANK ปิดที่ 163.00 บาท ลดลง 1.50% (-0.91%) […]
UN เตือนเวียดนามเสี่ยงสูญมูลค่าส่งออกกว่า 2.5 หมื่นล้านดอลล์ หลังสหรัฐฯ เก็บภาษีนำเข้า คาดกระทบ GDP 5%
โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) เตือนว่า เวียดนามกำลังเผชิญความเสี่ยงหนักที่สุดในบรรดาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน จากการเก็บภาษีนำเข้าใหม่ของสหรัฐฯ ซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนส.ค. ที่ผ่านมา โดยประเมินว่า ภาษีดังกล่าว อาจทำให้การส่งออกของเวียดนามไปสหรัฐฯ ลดลงเกือบ 1 ใน 5 หรือมากกว่า 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอาจทำให้ GDP เวียดนามหายไปราว 5% ข้อมูลระบุว่า ในปีที่ผ่านมา เวียดนามเป็นชาติผู้ส่งออกอันดับ 6 ไปยังตลาดสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่ากว่า 136,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่ผลิตจากโรงงานของบริษัทข้ามชาติสัญชาติสหรัฐฯ และต่างชาติ รวมถึงเครือข่ายผู้ผลิตที่ป้อนให้กับแบรนด์ดังระดับโลก โดยฟิลิป เชลเลเคนส์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกของ UNDP เปิดเผยว่า ในกรณีเลวร้ายที่สุด ซึ่งเงินเฟ้อในสหรัฐฯ สูงขึ้นจากภาษี 20% ที่เก็บจากสินค้านำเข้าจากเวียดนาม อาจทำให้ยอดส่งออกของเวียดนามหดตัวลงกว่า 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเกือบ 1 ใน 5 […]
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 19 ก.ย. 2568 ปิดตลาดที่ 1,292.72 จุด ลดลง 4.29 จุด (-0.33%)
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 19 ก.ย. 2568 ปิดตลาดที่ 1,292.72 จุด ลดลง 4.29 จุด (-0.33%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,292.41 จุด และสูงสุดที่ 1,302.49 จุด มูลค่าการซื้อขาย 47,981.93 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ PTT ปิดที่ 33.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25% (+0.76%) มูลค่าการซื้อขาย 4,996.68 ล้านบาท DELTA ปิดที่ 161.00 บาท ลดลง 1.50% (-0.92%) มูลค่าการซื้อขาย 1,761.80 ล้านบาท BDMS ปิดที่ 20.70 บาท ลดลง 0.40% (-1.90%) […]
เฟดลดดอกเบี้ย 0.25% เปิดทางแบงก์ชาติเอเชียผ่อนคลายนโยบายการเงิน สู้ปัจจัยลบสงครามการค้า – พยุงเศรษฐกิจ
การปรับลดอัตราดอกเบี้ยล่าสุด 0.25% ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) พร้อมกับส่งสัญญาณว่า จะปรับลดเพิ่มเติมในอนาคต อาจทำให้ธนาคารกลางในเอเชียมีพื้นที่มากขึ้น ในการผ่อนคลายนโยบายทางการเงิน ท่ามกลางปัจจัยลบต่อการค้าและแรงกดดันเรื่องค่าเงิน การลดดอกเบี้ยรอบล่าสุด ทำให้ดอกเบี้ยของเฟด อยู่ที่ระดับ 4.00–4.25% โดยนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด กล่าวว่า จุดประสงค์ที่ตัดสินใจลดดอกเบี้ยรอบนี้ เพื่อจัดการความเสี่ยง ไม่ใช่เพื่อพยุงเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และยังส่งสัญญาณว่า จะลดดอกเบี้ยอีกสองครั้งในปีนี้ เพ่ยเฉียน หลิว (Peiqian Liu) นักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคเอเชีย จาก Fidelity International กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของเฟด อาจช่วยลดช่องว่างระหว่างผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ และเอเชียลง ทำให้ความกังวลเรื่องค่าเงินลดลง อีกทั้งยังเปิดทางให้บางประเทศในเอเชีย โดยเฉพาะประเทศที่เผชิญกับปัจจัยลบภายในประเทศที่รุนแรง มีพื้นที่ในการลดดอกเบี้ยมากขึ้น ซึ่งภาพรวมการดำเนินนโยบายการเงินของภูมิภาคมีแนวโน้มผ่อนคลายมากขึ้น ขณะที่ ธนาคารกลางบางแห่งในเอเชียได้เริ่มลดดอกเบี้ยไปก่อนเฟดแล้ว เพื่อลดผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ อาทิ ธนาคารแห่งเกาหลี (BOK) ที่ลดอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบสามปี เมื่อเดือนพ.ค. ขณะที่ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสองปีไปเมื่อเดือนส.ค. […]
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 18 ก.ย. 2568 ปิดตลาดที่ 1,297.01 จุด ลดลง 9.68 จุด (-0.74%)
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 18 ก.ย. 2568 ปิดตลาดที่ 1,297.01 จุด ลดลง 9.68 จุด (-0.74%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,292.73 จุด และสูงสุดที่ 1,312.74 จุด มูลค่าการซื้อขาย 44,929.51 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ EA ปิดที่ 3.58 บาท ลดลง 0.10% (-2.72%) มูลค่าการซื้อขาย 2,548.90 ล้านบาท CRC ปิดที่ 22.40 บาท ลดลง 2.20% (-8.94%) มูลค่าการซื้อขาย 2,040.93 ล้านบาท DELTA ปิดที่ 162.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,733.12 ล้านบาท […]
Fed Interest Rate News Update USA
ตามคาด! เฟดลดดอกเบี้ย 0.25% พยุงตลาดแรงงาน แม้เงินเฟ้อยังสูง จับตามีโอกาสลดอีก 2 ครั้งปีนี้
ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% พร้อมส่งสัญญาณอาจจะปรับลดอีก 2 ครั้งก่อนสิ้นปีนี้ เนื่องจากความกังวลในตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ที่เพิ่มสูงขึ้น แม้แนวโน้มเงินเฟ้อยังคงมีอยู่ก็ตาม คณะกรรมการ FOMC มีมติ 11 ต่อ 1 ให้ลดดอกเบี้ยลง โดยมีเพียง สตีเฟน มีแรน ผู้ว่าการเฟดคนใหม่ ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้ง โหวตลดดอกเบี้ย 0.50% ด้านมิเชล โบว์แมน และคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เช่นกัน โหวตให้ลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% แถลงการณ์หลังการประชุม ระบุว่า คณะกรรมการเฟด ย้ำอีกครั้งว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวลง และเพิ่มเติมว่า การจ้างงานก็ชะลอตัวลง ขณะที่ อัตราเงินเฟ้อยังเพิ่มขึ้นและยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง ซึ่งการเติบโตของการจ้างงานที่ลดลงและอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นนั้น ขัดแย้งกับภารกิจคู่ขนานของเฟดในการรักษาเสถียรภาพด้านราคาและภาวะการจ้างงานเต็มที่ แถลงการณ์ของเฟด ระบุว่า “ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจยังคงมีสูง […]
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 17 ก.ย. 2568 ปิดตลาดที่ 1,306.69 จุด ลดลง 1.50 จุด (-0.11%)
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 17 ก.ย. 2568 ปิดตลาดที่ 1,306.69 จุด ลดลง 1.50 จุด (-0.11%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,304.67 จุด และสูงสุดที่ 1,311.80 จุด มูลค่าการซื้อขาย 48,098.33 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ PTT ปิดที่ 33.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,268.84 ล้านบาท EA ปิดที่ 3.68 บาท เพิ่มขึ้น 0.62% (+20.26%) มูลค่าการซื้อขาย 3,016.33 ล้านบาท KBANK ปิดที่ 163.50 บาท ลดลง 0.50% (-0.30%) มูลค่าการซื้อขาย 2,766.13 ล้านบาท […]