‘เวิลด์แบงก์’ หั่นคาดการณ์ GDP เอเชียเหลือโต 5% จีน-ไทย-เวียดนาม หนี้ภาคธุรกิจพุ่งเร็ว

‘เวิลด์แบงก์’ หั่นคาดการณ์ GDP เอเชียเหลือโต 5% จีน-ไทย-เวียดนาม หนี้ภาคธุรกิจพุ่งเร็ว

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2566 สำนักข่าว CNBC รายงานว่า ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตสำหรับประเทศเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก โดยระบุถึง จีนและดีมานด์ทั่วโลกที่ซบเซา ท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับสูงและการค้าที่ซบเซา เวิลด์แบงก์ กล่าวว่า ขณะนี้ คาดว่า ประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกจะเติบโต 5% ในปี 2566 ตามรายงานเดือนตุลาคม ซึ่งน้อยกว่าการคาดการณ์ 5.1% ในเดือนเมษายนเล็กน้อย สำหรับปี 2567 คาดว่าภูมิภาคนี้จะเติบโต 4.5% ลดลงจากการคาดการณ์ที่ 4.8% ในเดือนเมษายน ขณะเดียวกัน เวิลด์แบงก์คงการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจสำหรับจีนในปี 2566 ไว้ไม่เปลี่ยนแปลงที่ 5.1% แต่ได้ปรับลดประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2567 ลงเหลือ 4.4% จาก 4.8% โดยระบุถึงปัจจัยเชิงโครงสร้างในระยะยาว ระดับหนี้ที่สูงขึ้นในเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก และความอ่อนแอในภาคอสังหาริมทรัพย์เป็นเหตุผลในการปรับลดอันดับ เวิลด์แบงก์ กล่าวว่า “แม้ว่าปัจจัยภายในประเทศมีแนวโน้มที่จะมีอิทธิพลเหนือการเติบโตในจีน แต่ปัจจัยภายนอกจะมีอิทธิพลที่แข็งแกร่งต่อการเติบโตในพื้นที่ส่วนใหญ่ของภูมิภาค” แม้ว่าเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกส่วนใหญ่ฟื้นตัวจากเหตุการณ์ต่างๆ ตั้งแต่ปี 2563 […]

BBLAM Weekly Investment Insights 2-6 ตุลาคม 2023

BBLAM Weekly Investment Insights 2-6 ตุลาคม 2023

The Rise of Asia INVESTMENT STRATEGY BBLAM X INVESCO “หุ้นเอเชียปัจจุบันซื้อขายในมูลค่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว และยังถูกกว่าหุ้นของประเทศพัฒนาแล้วอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งๆ ที่ หลายๆ ประเทศมีปัจจัยพื้นฐานดี สำหรับจีน และฮ่องกง ผู้จัดการกองทุนก็ยังมองว่าลงทุน ณ ความเสี่ยงปัจจุบันก็มีโอกาสได้ผลตอบแทนดีในอนาคตเมื่อจังหวะมาถึง” ผู้จัดการกองทุนจาก Invesco ซึ่งบริหารจัดการกองทุนหลักให้กับ B-ASIA และกองทุนลดหย่อนภาษี ได้แก่ B-ASIARMF และ B-ASIASSF พูดถึงมุมมองการลงทุนในหุ้น ASIA – Ex Japan ว่าโอกาสลงทุนในภูมิภาคนี้ถูกบดบังโดยสิ้นเชิงจากการที่จีนทำความหวังได้แค่สั้นๆ เมื่อเปิดประเทศ แต่ต่อมาก็ประสบปัญหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่อ่อนแอเป็นอย่างมาก มากลบความเด่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความแข็งแกร่งของเงินออม และด้านงบดุลของประเทศ รวมไปถึงธุรกิจก็เริ่มปรับปรุงปัจจัยพื้นฐานได้ดีขึ้น สิ่งเหล่านี้ก็กระทบต่อตลาดหุ้นของจีนด้วย  สำหรับประเทศเอเชียอื่นๆ เมื่อพิจารณาแล้วต่างก็ได้ประโยชน์จากการที่รัฐบาลสามารถใช้นโยบายเศรษฐกิจแบบยืดหยุ่นได้อยู่ อย่างไรก็ตาม ประเทศเหล่านี้ตลาดหุ้นต่างๆ ก็ได้รับผลกระทบไปด้วย ทำให้มูลค่าหุ้นต่างก็ซื้อขายต่ำกว่าราคาพื้นฐานระยะยาวที่ควรจะเป็นและถูกกว่าตลาดพัมนาแล้ว อย่างเช่น สหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญ […]

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 29 ก.ย. 2566 ปิดตลาดที่ 1,471.43 จุด ลดลง 10.71 จุด (-0.72%) 

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 29 ก.ย. 2566 ปิดตลาดที่ 1,471.43 จุด ลดลง 10.71 จุด (-0.72%) 

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 29 ก.ย. 2566 ปิดตลาดที่ 1,471.43 จุด ลดลง 10.71 จุด (-0.72%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,471.43 จุด และสูงสุดที่ 1,484.62 จุด มูลค่าการซื้อขาย 73,067.53 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ DELTA ปิดที่ 82.50 บาท ลดลง 21.25 (-20.43%)  มูลค่าการซื้อขาย 13,726.44 ล้านบาท AOT ปิดที่ 69.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 (+0.72%) มูลค่าการซื้อขาย 2,286.71 ล้านบาท KBANK ปิดที่ 126.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 (+1.20%) […]

เศรษฐกิจเวียดนามไตรมาส 3 ขยายตัว 5.3%

เศรษฐกิจเวียดนามไตรมาส 3 ขยายตัว 5.3%

เศรษฐกิจของเวียดนามในไตรมาสที่ 3 ขยายตัว 5.3% เมื่อเทียบปีต่อปี ข้อมูลอย่างเป็นทางการเปิดเผยในวันนี้ (29 ก.ย. 66) แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า มีแนวโน้มที่จะพลาดเป้าหมายสิ้นปีที่รัฐบาลตั้งไว้ สำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุว่า การลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ การขยายเวลาชำระภาษี และการลงทุนภาครัฐที่เพิ่มขึ้น ล้วนส่งผลในเชิงบวก แต่นักวิเคราะห์เตือนว่า จะเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากสำหรับศูนย์กลางการผลิตเสื้อผ้า รองเท้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แห่งนี้ ที่จะบรรลุเป้าหมายการเติบโตที่ตั้งไว้ 6.5% สำหรับปี 2566 “เวียดนามจะเติบโตทางเศรษฐกิจสิ้นปีที่ราว 4.5%-4.7% เท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้มาก คาดว่า การเติบโตในไตรมาสที่ 4 จะอยู่ที่ประมาณ 6% ที่ส่วนใหญ่แล้วเป็นผลจากการผลิตและการส่งออกในภาคอุตสาหกรรมที่ดีขึ้น” หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบริษัท Rong Viet Stocks กล่าวกับเอเอฟพี จากข้อมูลของสำนักงานสถิติ ระบุว่า ความต้องการที่ลดต่ำลงส่งผลกระทบต่อการส่งออกของประเทศ หนึ่งในผู้ผลิตรองเท้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนามที่ผลิตสินค้าให้กับแบรนด์ต่างๆ เช่น Nike Adidas และ Reebok ประกาศในเดือนส.ค.ว่า จะเลิกจ้างงานเป็นครั้งที่ […]

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 28 ก.ย. 2566 ปิดตลาดที่ 1,482.14 จุด ลดลง 15.01 จุด (-1.00%) 

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 28 ก.ย. 2566 ปิดตลาดที่ 1,482.14 จุด ลดลง 15.01 จุด (-1.00%) 

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 28 ก.ย. 2566 ปิดตลาดที่ 1,482.14 จุด ลดลง 15.01 จุด (-1.00%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,481.52 จุด และสูงสุดที่ 1,505.69 จุด มูลค่าการซื้อขาย 59,098.00 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ PTTEP ปิดที่ 170.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,488.07 ล้านบาท SCB ปิดที่ 101.00 บาท ลดลง 2.00 (-1.94%) มูลค่าการซื้อขาย 2,883.36 ล้านบาท PTT ปิดที่ 33.50 บาท ลดลง 0.50 (-1.47%) มูลค่าการซื้อขาย 2,559.45 ล้านบาท […]

BBLAM Knowledge Tips: จำให้ขึ้นใจ ก่อนลงทุนใน RMF

BBLAM Knowledge Tips: จำให้ขึ้นใจ ก่อนลงทุนใน RMF

โดย อรพรรณ บัวประชุม CFP® BBLAM ลงทุนใน RMF มาก็หลายปี แต่ก็ลื้มลืม ลืมนู่น ลืมนี่ตลอด จะมีวิธีไหนที่ช่วยให้ไม่ลืมได้มั้ยเนี่ย ต้องถามคนโน้น คนนี้ประจำเลย ง่ายมากค่ะ เพียงแค่ 4 ข้อ จำให้ขึ้นใจ เมื่อลงทุนใน RMF ก็จะช่วยให้เราจำเงื่อนไขต่างๆ ของกองทุนรวม RMF ได้ อย่าซื้อผิดวัตถุประสงค์ (เก็งกำไร) อย่าลืมซื้อ อย่าซื้อเกินสิทธิ อย่าขายก่อน (เข้าใจผิดเรื่องการถือครอง) อย่างแรกคือ อย่าซื้อผิดวัตถุประสงค์ โดยเฉพาะใครที่เห็นว่าไม่มีค่าธรรมเนียมเข้า-ออก แล้วใช้โอกาสนี้ลงทุนเพื่อเก็งกำไร แบบนี้ไม่ดีเลยค่ะ เพราะวัตถุประสงค์ของกองทุนรวม RMF คือต้ องการให้เราลงทุนอย่างสม่ำเสมอ สะสมไว้ จะได้มีเงินใช้หลังเกษียณ แต่การลงทุนผิดวัตถุประสงค์ นอกจากจะไม่ได้รับการยกเว้นภาษีแล้ว กำไรที่ได้รับยังต้องนำมาคิดเป็นเงินได้ในปีที่ขายคืนด้วย ดังนั้น ไม่ควรซื้อผิดวัตถุประสงค์ค่ะ อย่างที่ 2 สำคัญมาก คือ อย่าลืมซื้อ เพราะตามเงื่อนไขการลงทุน สามารถลืมลงทุนได้ […]

‘เจพีมอร์แกน’ คาดอินเดียติด 1 ใน 3 ตลาดเอเชียโตเร็วสุดในปี 67

‘เจพีมอร์แกน’ คาดอินเดียติด 1 ใน 3 ตลาดเอเชียโตเร็วสุดในปี 67

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเจพีมอร์แกน กล่าวว่า อินเดียอาจติด 1 ใน 3 ของตลาดที่โตเร็วที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในปีหน้า ควบคู่ไปกับออสเตรเลียและญี่ปุ่น นายฟิลิปโป โกริ ซีอีโอ ของเจพีมอร์แกน ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ ว่า “ผู้คนเริ่มรู้สึกตื่นเต้นกับนโยบายจีนบวกหนึ่ง (China-plus-one) และขณะที่ประเทศต่างๆ ได้รับประโยชน์ อินเดียก็อาจเป็นผู้รับผลประโยชน์รายใหญ่ที่สุด” ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ต้องการสร้างความหลากหลายด้านห่วงโซ่อุปทาน นอกเหนือจากจีน นายโกริ กล่าวเสริมว่า นั่นเป็นเพราะอินเดียมีตลาดขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับห่วงโซ่อุปทานซึ่งบริษัทจำนวนมากทั่วโลกต้องการ บริษัทระดับโลกอย่าง แอปเปิ้ล อิงค์ ได้เพิ่มการผลิตในอินเดีย ขณะที่บริษัทอื่นๆ เช่น เทสลา กำลังหารือกับรัฐบาลอินเดียเพื่อเริ่มการผลิตในประเทศด้วย รายงาน ระบุว่า เศรษฐกิจอินเดียซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเอเชียจะเติบโต 6.5% ในปีงบประมาณที่สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มี.ค. 2567 ซึ่งเร็วที่สุดในบรรดาประเทศเศรษฐกิจรายใหญ่ และกำลังพยายามดึงดูดบริษัทระดับโลกด้วยข้อเสนอด้านภาษีและมาตรการจูงใจอื่น ๆ ทั้งนี้ นายโกริ […]

กองทุน B-VIETNAM, B-VIETNAMRMF และ B-VIETNAMSSF Q3/2023

กองทุน B-VIETNAM, B-VIETNAMRMF และ B-VIETNAMSSF Q3/2023

กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเวียดนาม (B-VIETNAM) กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเวียดนามเพื่อการเลี้ยงชีพ (B-VIETNAMRMF) กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเวียดนามเพื่อการออม (B-VIETNAMSSF)  “ผู้จัดการกองทุนมองว่า ในอนาคตนโยบายภาครัฐช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และลดความเสี่ยงจากภาคอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงตลาดตราสารหนี้ได้ และมีแนวโน้มจะเห็นผลการดาเนินงานไตรมาส 4/2023 ของบริษัทจดทะเบียนปรับตัวดีขึ้น ผู้จัดการกองทุนเห็นโอกาสเข้าลงทุนในหลากหลายบริษัทที่ราคาปรับตัวลงมา โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารและกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย” การปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วและรุนแรงส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจเวียดนาม เพราะเป็นการลดดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและเงินกู้ ทำให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทลดลง และทำให้มีสภาพคล่องในตลาดหุ้นมากขึ้น อัตราการเติบโตของสินเชื่อและธุรกรรมมีมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเศรษฐกิจสำหรับไตรมาสที่ 2 ยังมีความอ่อนแออยู่บ้างโดยการเติบโตของ GDP ไตรมาส 2 ปี 2566 อยู่ที่ 4.14% yoy ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการบรรลุเป้าหมายการเติบโตของ GDP ที่ 6.5% และผลประกอบการของบริษัทที่อาจจะอ่อนแอในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคการส่งออก ในด้านตลาดหุ้นนักลงทุนรายย่อยได้ลงทุนในตลาดมากขึ้น เนื่องจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ส่งผลให้เงินทุนไหลเข้าเพิ่มขึ้นและสภาพคล่องในตลาดสูงขึ้น นอกจากนี้มีแนวโน้มว่าสภาพคล่องในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กอาจปรับเพิ่มขึ้น จากการปรับน้ำหนักของ MSCI Vietnam ที่ให้น้ำหนักกับหุ้นขนาดกลางและเล็กมากขึ้นด้วย ผู้จัดการกองทุนมองว่า ในอนาคตนโยบายภาครัฐช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและลดความเสี่ยงจากภาคอสังหาริมทรัพย์รวมถึงตลาดตราสารหนี้ได้และมีแนวโน้มจะเห็นผลการดำเนินงานไตรมาส4/2023 ของบริษัทจดทะเบียนปรับตัวดีขึ้นผู้จัดการกองทุนเห็นโอกาสเข้าลงทุนในหลากหลายบริษัทที่ราคาปรับตัวลงมา โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารและกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย […]

กองทุน BGOLD และ BGOLDRMF Q3/2023

กองทุน BGOLD และ BGOLDRMF Q3/2023

กองทุนเปิดบัวหลวงโกลด์ฟันด์ (BGOLD) กองทุนเปิดบัวหลวงโกลด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (BGOLDRMF) ภาพของราคาทองคำยังคงเชื่อมโยงกับการคาดการณ์ถึงระยะเวลาการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายของ Fed และระดับTerminal Rate ซึ่ง ณ ปัจจุบัน (25 กันยายน 2566) ตลาดมองว่ามีโอกาสที่ Fed จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นได้อีกครั้งในช่วงการประชุมเดือน พ.ย. และจะคงระดับไว้จนถึงช่วงปีหน้า เพื่อยังคงต่อสู้กับเงินเฟ้อที่ยังคงค้างอยู่ในระดับสูง ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้น รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรได้ปรับเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันกับที่ ตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ออกมาในเชิงแข็งแกร่งและตลาดสินทรัพย์เสี่ยงยังคงมีแนวโน้มที่ดีส่งผลให้ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยลดลง สำหรับมุมมองในระยะถัดไป ตลาดจะยังคงให้ความสำคัญกับทิศทางของค่าเงินดอลลาร์ และการคาดการณ์ในเรื่องการอัตราดอกเบี้ยของ Fed อย่างไรก็ตาม ด้วยความไม่แน่นอนทั้งจากประเด็นภูมิรัฐศาสตร์ และสภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงการถือครองทองคำเพิ่มของธนาคารกลางต่างๆ อย่างต่อเนื่องจะช่วยจำกัดความเสี่ยงขาลงของราคาทองคำ โดยคาดการณ์ราคาทองคำในระยะถัดไปมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในระดับเฉลี่ยที่ 1,850 – 2,000 ดอลลาร์ฯต่อออนซ์ Disclaimer: เอกสารนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยการรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ ทั้งนี้ บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ครบถ้วน หรือความสมบูรณ์ของข้อมูลดังกล่าวได้ และบริษัทฯ […]

กองทุน B-GLOB-INFRA, B-GLOB-INFRARMF และ B-GLOB-INFRASSF Q 3/2023

กองทุน B-GLOB-INFRA, B-GLOB-INFRARMF และ B-GLOB-INFRASSF Q 3/2023

กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นโกลบอล อินฟราสตรัคเจอร์ (B-GLOB-INFRA) กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นโกลบอล อินฟราสตรัคเจอร์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (B-GLOB-INFRARMF) กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นโกลบอล อินฟราสตรัคเจอร์ เพื่อการออม (B-GLOB-INFRASSF)  “ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา กองทุนทยอยเพิ่มน้ำหนักในหุ้น Defensive โดยเฉพาะในกลุ่มสาธารณูปโภค เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีรายได้สม่ำเสมอ โดยมีสัดส่วนมากกว่า 70% แต่สำหรับกลุ่มที่เน้นการสื่อสารและเดินทาง กองทุนให้น้ำหนักน้อยกว่า อยู่ที่ประมาณ 20% เนื่องจากมีเป็นหุ้นกลุ่มที่ได้รับเชิงลบจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม เมื่อตลาดคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวแบบ Soft Landing ทำให้ราคาหุ้นเติบโต รวมทั้งหุ้นสื่อสารปรับตัวเพิ่มขึ้น จึงทำให้พอร์ตการลงทุนไม่ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่”  ในช่วง12 เดือนที่ผ่านมา กองทุนทยอยเพิ่มน้ำหนักในหุ้น Defensive โดยเฉพาะในกลุ่มสาธารณูปโภค เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีรายได้สม่ำเสมอ โดยมีสัดส่วนมากกว่า 70% แต่สำหรับกลุ่มที่เน้นการสื่อสารและเดินทาง กองทุนให้น้ำหนักน้อยกว่า อยู่ที่ประมาณ 20% เนื่องจากมีเป็นหุ้นกลุ่มที่ได้รับเชิงลบจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม เมื่อตลาดคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจะชะลอตัวแบบ Soft Landing […]