Fund Comment ตุลาคม 2025: มุมมองตลาดตราสารหนี้

Fund Comment ตุลาคม 2025: มุมมองตลาดตราสารหนี้

ภาพรวมตลาดในเดือนต.ค. มีปัจจัยทั้งในและต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ โดยประเด็นหลัก ได้แก่ 1) คณะกรรมการนโยบายการเงินของไทยมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ว่า จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง   2) กระแสเงินไหลออกจากกองทุนรวมประเภทตราสารหนี้  ทำให้เกิดแรงเทขายในตลาดพันธบัตร  และ 3) เฟด ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 3.75% – 4.00%  ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินครั้งที่ 5/2568 (8 ต.ค. 2568) มีมติ 5 ต่อ 2 เสียงให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% โดยมีคณะกรรมการ 2 ท่านเห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% โดยคณะกรรมการคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2568 และ 2569 มีแนวโน้มขยายตัวในระดับที่ใกล้เคียงกับที่เคยประเมินไว้จากผลกระทบของการส่งออกที่จะเริ่มได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ และการบริโภคภายในประเทศที่ชะลอตัวลง ขณะที่ อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มต่ำกว่าที่ประเมินจากราคาสินค้าหมวดพลังงานและอาหารสด แต่ยังไม่เห็นการปรับลดลงของราคาสินค้าเป็นวงกว้างทำให้ยังไม่ใช่การเข้าสู่ภาวะเงินฝืด ทั้งนี้ คณะกรรมการคาดว่า อัตราเงินเฟ้อจะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายของธปท.ที่ 1%- 3% ในปี 2570   ในช่วงเดือนก.ย.-ต.ค. มีกระแสเงินไหลออกจากกองทุนรวมประเภทตราสารหนี้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดการแรงเทขายในตลาดตราสารหนี้จากกลุ่มบลจ.โดยเฉพาะกลุ่มตราสารหนี้ที่มีอายุคงเหลือมากกว่า 3 ปีที่มีแรงขายรวมกว่า 55,000 […]

Fund Comment กันยายน 2025: มุมมองตลาดตราสารหนี้

Fund Comment กันยายน 2025: มุมมองตลาดตราสารหนี้

ภาพรวมตลาดในเดือนก.ย. มีปัจจัยทั้งในและต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ โดยประเด็นหลัก ได้แก่ 1) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรต่างประเทศปรับเพิ่มสูงขึ้น 2) Fitch rating ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของรัฐบาลฝรั่งเศสจาก AA- เป็น A+ 3) Fitch rating ปรับลดมุมมองไทยเป็น “ลบ” (Negative) จาก “มีเสถียรภาพ” (Stable) และ 4) เฟด ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 4.00-4.25% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรต่างประเทศปรับเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลหลายประเทศในยุโรป รวมถึงสหรัฐฯ ที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นจากความไม่แน่นอนทางการเมืองและความกังวลต่อสถานะทางการคลัง หนี้สาธารณะที่อยู่ในระดับสูง ทำให้นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินและการคลังของประเทศเศรษฐกิจใหญ่ๆ หลายแห่ง  เช่น ผลลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีของอังกฤษ พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 5.64% ด้วยสาเหตุหลักมาจากภาวะเงินเฟ้อที่สูง อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่ำ และความไม่แน่นอนทางการเมือง ขณะเดียวกัน ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีของฝรั่งเศส ก็พุ่งไปอยู่ที่ 4.45% ทะลุระดับสูงสุดในรอบ […]

SUPEREIF จ่ายเงินลดทุนครั้งที่ 6 ในอัตรา 0.155 บาทต่อหน่วย วันที่ 11 ธันวาคม 2568 นี้ 

SUPEREIF จ่ายเงินลดทุนครั้งที่ 6 ในอัตรา 0.155 บาทต่อหน่วย วันที่ 11 ธันวาคม 2568 นี้ 

นายพรชลิต พลอยกระจ่าง กรรมการผู้จัดการ Head of  Real Estate & Infrastructure Investment บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ BBLAM เปิดเผยว่า กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้า ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี (SUPEREIF) จะจ่ายเงินลดทุนครั้งที่ 6 จากผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 หรือระหว่างวันที่  1   กรกฎาคม  2568   ถึงวันที่  30  กันยายน 2568 ในอัตราหน่วยลงทุนละ  0.155 บาท  โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน  เพื่อกำหนดสิทธิรับเงินลดทุน ในวันที่  26 พฤศจิกายน  2568  อีกทั้งกำหนดจ่ายเงินลดทุนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 11 ธันวาคม 2568 เมื่อนับรวมตั้งแต่จัดตั้งกองทุน จนถึงการประกาศจ่ายเงินครั้งล่าสุด  SUPEREIF จ่ายเงินปันผลรวม 22 ครั้ง คิดเป็นเงิน 3.88670 บาทต่อหน่วย […]

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 11 พ.ย. 2568 ปิดตลาดที่ 1,300.47 จุด ลดลง 5.79 จุด (-0.44%)

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 11 พ.ย. 2568 ปิดตลาดที่ 1,300.47 จุด ลดลง 5.79 จุด (-0.44%)

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 11 พ.ย. 2568 ปิดตลาดที่ 1,300.47 จุด ลดลง 5.79 จุด (-0.44%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,297.63 จุด และสูงสุดที่ 1,309.86 จุด มูลค่าการซื้อขาย 32,340.64 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่  KBANK ปิดที่ 181.00 บาท ลดลง 1.00% (-0.55%) มูลค่าการซื้อขาย 2,131.13 ล้านบาท SCB ปิดที่ 128.50 บาท ลดลง 1.50% (-1.15%) มูลค่าการซื้อขาย 1,607.25 ล้านบาท BDMS ปิดที่ 18.50 บาท ลดลง 0.10% (-0.54%) […]

เวียดนามแซงไทย ขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งจีนแห่เที่ยว – คาดนทท.ต่างชาติทะลุ 22 ล้านคนปีนี้

เวียดนามแซงไทย ขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งจีนแห่เที่ยว – คาดนทท.ต่างชาติทะลุ 22 ล้านคนปีนี้

เวียดนามแซงหน้าประเทศไทย ขึ้นแท่นจุดหมายท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวจีน โดยมีแนวโน้มต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 22 ล้านคนในปีนี้ ซึ่งถือว่าสูงกว่าสถิติสูงสุดก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นอย่างมาก รัฐบาลเวียดนามตั้งเป้าดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ได้ถึง 25 ล้านคนในปี 2025 ขณะที่ บริษัทวิจัย BMI ภายใต้เครือ Fitch Solutions ประเมินว่า ตัวเลขปีนี้จะอยู่ที่ราว 22 ล้านคน และคาดว่า ปีหน้า (2026) จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะทำลายสถิติเดิมที่ 18 ล้านคนในปี 2019 ซึ่งจะช่วยให้ภาคการท่องเที่ยวของเวียดนามฟื้นตัวเกือบสมบูรณ์ จากผลกระทบของโควิด-19 โดยหนึ่งในเหตุผลสำคัญ คือ เสถียรภาพทางการเมืองที่มั่นคง ภายใต้การปกครองพรรคเดียว ซึ่งแตกต่างจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างไทยและกัมพูชา ที่ยังมีข้อพิพาทชายแดนยืดเยื้อ รวมถึงอินโดนีเซีย ที่ยังได้รับผลกระทบจากการประท้วงเมื่อ 2 เดือนก่อน นอกจากนี้ รัฐบาลเวียดนาม ยังช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว ด้วยการขยายระยะเวลาพำนักปลอดวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจาก 12 ประเทศ โดยนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาเพื่อลิ้มลองอาหารท้องถิ่น ศึกษาประวัติศาสตร์สงคราม ชมเกาะสีมรกต […]

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 10 พ.ย. 2568 ปิดตลาดที่ 1,306.26 จุด เพิ่มขึ้น 3.35 จุด (+0.26%)

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 10 พ.ย. 2568 ปิดตลาดที่ 1,306.26 จุด เพิ่มขึ้น 3.35 จุด (+0.26%)

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 10 พ.ย. 2568 ปิดตลาดที่ 1,306.26 จุด เพิ่มขึ้น 3.35 จุด (+0.26%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,299.29 จุด และสูงสุดที่ 1,310.71 จุด มูลค่าการซื้อขาย 29,428.77 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่  KBANK ปิดที่ 182.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00% (+1.11%) มูลค่าการซื้อขาย 1,847.29 ล้านบาท ADVANC ปิดที่ 316.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00% (+0.32%) มูลค่าการซื้อขาย 1,755.83 ล้านบาท BDMS ปิดที่ 18.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.10% (+0.32%) มูลค่าการซื้อขาย […]

สหรัฐฯ จ่อพ้นวิกฤต วุฒิสภามีมติ 60-40 เปิดทางร่างงบฯ ชั่วคราว หลังชัตดาวน์ยืดเยื้อ 40 วัน

สหรัฐฯ จ่อพ้นวิกฤต วุฒิสภามีมติ 60-40 เปิดทางร่างงบฯ ชั่วคราว หลังชัตดาวน์ยืดเยื้อ 40 วัน

วุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติ 60-40 เสียงในการลงคะแนนเบื้องต้น ซึ่งจะเปิดทางไปสู่การผลักดันร่างกฎงบประมาณชั่วคราว เพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางกลับมาดำเนินงานได้ตามปกติ ซึ่งจะนำไปสู่การยุติการชัตดาวน์ที่ยืดเยื้อมานานถึง 40 วัน ในการลงคะแนนเสียงตามขั้นตอน สมาชิกวุฒิสภาได้ผลักดันร่างกฎหมาย ซึ่งจะมีการแก้ไข เพื่อจัดสรรเงินทุนชั่วคราวแก่รัฐบาลไปจนถึงวันที่ 30 ม.ค. และจะมีการรวมร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณเต็มปีจำนวนสามฉบับไว้ด้วยกัน หากวุฒิสภาผ่านร่างกฎหมายนี้ ข้อเสนอดังกล่าวต้องได้รับการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรอีกรอบ ก่อนส่งให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนาม ซึ่งขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาหลายวัน ภายใต้ข้อตกลงกับสมาชิกพรรคเดโมแครตสายกลางจำนวน 8 คน ซึ่งเห็นต่างไปจากแกนนำพรรค ฝั่งรีพับลิกันได้ตกลงจะนำร่างงบประมาณเพื่อต่ออายุกฎหมาย Affordable Care Act หรือโครงการโอบามาแคร์ ซึ่งไม่ได้รวมในการโหวตครั้งนี้ เข้าสู่การลงมติภายในกลางเดือนธ.ค. โดยกฎหมายดังกล่าวกำลังจะหมดอายุสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ฝั่งเดโมแครตพยายามต่อรองมาโดยตลอด การลงมติในครั้งนี้ถือเป็นการยุติการอภิปรายคัดค้านในสภาของฝั่งเดโมแครต ซึ่งเป็นการอภิปรายของเสียงข้างน้อย เพื่อถ่วงเวลาการออกกฎหมายที่ฝั่งตนเองไม่เห็นด้วย ที่เรียกว่า “Filibuster” แหล่งข่าว ระบุว่า ชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาฝั่งเดโมแครต ลงมติคัดค้านในการโหวต ก่อนที่ข้อตกลงจะได้รับการไกล่เกลี่ยจากสว.พรรคเดโมแครตจากรัฐนิวแฮมป์เชียร์ สองคน คือ แม็กกี้ […]

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 7 พ.ย. 2568 ปิดตลาดที่ 1,302.91 จุด ลดลง 10.40 จุด (-0.79%) 

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 7 พ.ย. 2568 ปิดตลาดที่ 1,302.91 จุด ลดลง 10.40 จุด (-0.79%) 

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 7 พ.ย. 2568 ปิดตลาดที่ 1,302.91 จุด ลดลง 10.40 จุด (-0.79%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,302.46 จุด และสูงสุดที่ 1,314.63 จุด มูลค่าการซื้อขาย 29,054.05 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่  KBANK ปิดที่ 180.00 บาท ลดลง 3.00% (-1.64%) มูลค่าการซื้อขาย 1,970.25 ล้านบาท BDMS ปิดที่ 18.50 บาท ลดลง 0.10% (-0.54%) มูลค่าการซื้อขาย 1,649.07 ล้านบาท TRUE ปิดที่ 11.80 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,484.49 ล้านบาท […]

บริษัทสหรัฐฯ ปลดพนักงานกว่า 1.53 แสนตำแหน่งในต.ค. มากสุดในรอบกว่า 20 ปี เหตุใช้ AI แทนคน – ลดภาระต้นทุน

บริษัทสหรัฐฯ ปลดพนักงานกว่า 1.53 แสนตำแหน่งในต.ค. มากสุดในรอบกว่า 20 ปี เหตุใช้ AI แทนคน – ลดภาระต้นทุน

ข้อมูลจาก Challenger, Gray & Christmas Inc บริษัทจัดหางานและให้คำปรึกษาด้านการปรับโครงสร้างองค์กร ระบุว่า บริษัทในสหรัฐฯ ประกาศแผนปลดพนักงานรวม 153,074 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่มาจากภาคเทคโนโลยีและคลังสินค้า ซึ่งกำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาใช้ในกระบวนการทำงาน รวมถึงความพยายามลดต้นทุนและชะลอการจ้างงานใหม่ของหลายบริษัท ตัวเลขดังกล่าว เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และถือเป็นจำนวนการปลดพนักงานในเดือนต.ค. ที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2003 ซึ่งในขณะนั้น การถือกำเนิดของโทรศัพท์มือถือ ก็ส่งผลกระทบต่อแรงงานในหลายภาคส่วนเช่นกัน โดยแอนดี แชลเลนเจอร์ (Andy Challenger) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ของบริษัท ระบุว่า “บางอุตสาหกรรมกำลังปรับตัว หลังการจ้างงานเกินตัวในช่วงโควิด-19 แต่ในขณะเดียวกัน การนำ AI มาใช้ การใช้จ่ายของผู้บริโภคและภาคธุรกิจที่ชะลอตัว และต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น ต่างผลักดันให้เกิดการรัดเข็มขัดและการหยุดจ้างงานใหม่” พร้อมเสริมว่า “ผู้ที่ถูกปลดในตอนนี้กำลังหางานใหม่ได้ยากขึ้น ซึ่งอาจยิ่งทำให้ตลาดแรงงานอ่อนแรงลง” เมื่อพิจารณาตลอดปี พบว่า ตัวเลขการปลดพนักงานสะสม ทะลุ […]

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 6 พ.ย. 2568 ปิดตลาดที่ 1,313.31 จุด เพิ่มขึ้น 18.02 จุด (+1.39%) 

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 6 พ.ย. 2568 ปิดตลาดที่ 1,313.31 จุด เพิ่มขึ้น 18.02 จุด (+1.39%) 

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 6 พ.ย. 2568 ปิดตลาดที่ 1,313.31 จุด เพิ่มขึ้น 18.02 จุด (+1.39%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,298.16 จุด และสูงสุดที่ 1,316.59 จุด มูลค่าการซื้อขาย  38,139.64 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่  ADVANC ปิดที่ 314.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00% (+0.32%) มูลค่าการซื้อขาย 2,492.89 ล้านบาท KBANK ปิดที่ 183.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50% (+0.27%) มูลค่าการซื้อขาย 2,426.07 ล้านบาท TRUE ปิดที่ 11.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.40% (+3.51%) […]