จีนแซงหน้าสหรัฐฯ 3 เดือนแรกออกกรีนบอนด์ 1.57 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
จีนแซงหน้าสหรัฐฯ เพื่อเป็นผู้นำในการออกกรีนบอนด์ (Green Bond) ทั่วโลกในไตรมาสแรก โดยกรีนบอนด์เป็นตราสารหนี้ที่ผู้ออกมีเจตนาระดมทุนเพื่อนำเงินไปขยายธุรกิจผ่านโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ดีจำเป็นต้องมุ่งมั่นมากกว่านี้เพื่อดึงดูดนักลงทุนให้ช้วยสนับสนุนเงินทุนภายใต้นโยบายของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง วงเงินประมาณ 21 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ทั้งนี้ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องสร้างความตระหนักรู้ให้กับนักลงทุนเกี่ยวกับสภาพแวดล้อม การประสานกฎระเบียบต่างๆ ที่กระจัดกระจายและการจัดการกับการฟอกเขียว หรือ greenwashing ซึ่งคือการกล่าวอ้างว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือความพยายามของผู้ออกหลักทรัพย์ในการขยายข้อมูลรับรองสีเขียว เป็นต้น ตามข้อมูลของ Refinitiv พบว่า บริษัทผู้ออกตราสารหนี้ของจีนซึ่งรวมถึงธนาคาร นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ผู้ผลิตไฟฟ้าและผู้ให้บริการรถไฟได้ต่างขายพันธบัตรโดยพบว่ามีมูลค่า 1.57 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค.เพื่อระดมเงินทุนในโครงการสีเขียว เช่น พลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียน โดยปริมาณของกรีนบอนด์ส่วนใหญ่เป็นสกุลเงินหยวนซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่าจากปีก่อนหน้านี้ ขณะที่ มูลค่าเกินกว่าประมาณ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐของพันธบัตรดังกล่าว ออกโดยสหรัฐฯ ในไตรมาสแรกและช่วยผลักดันการออกพันธบัตรสีเขียวเพิ่มขึ้น 3 เท่าทั่วโลก Nathan Chow นักยุทธศาสตร์ของ DBS กล่าวว่า พันธบัตรสีเขียวกำลังอยู่ในความสนใจซึ่งรัฐบาลจีนกำลังจะพัฒนาตลาดนี้ในปีนี้
สรุปภาวะเศรษฐกิจไทยเดือน ก.พ.
BF Economic Research เศรษฐกิจไทยในเดือนก.พ. ทยอยปรับดีขึ้น หลังการแพร่ระบาดของ COVID-19 คลี่คลายลง โดยเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนทยอยฟื้นตัวตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ปรับดีขึ้น และได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการภาครัฐ ด้านเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวสูงขึ้นตามการนำเข้าสินค้าทุนที่ปรับดีขึ้น ขณะที่การส่งออกสินค้าไม่รวมทองคำยังขยายตัวต่อเนื่องสอดคล้องกับการฟื้นตัวของอุปสงค์ประเทศคู่ค้า ในรายองค์ประกอบ การบริโภคภาคเอกชนหดตัวลดลง -2.1% YoY (vs. -4.5% เดือนก่อน): โดยเป็นการหดตัวลดลงในทุกหมวด อาทิ สินค้ากึ่งคงทน (+3.3% vs. -2.7% เดือนก่อน), สินค้าไม่คงทน (-3.4% vs. -8.4% เดือนก่อน), สินค้าคงทน (-7.7% vs. -12.3% เดือนก่อน) และภาคบริการ (-18.3% vs. -29.1% เดือนก่อน) ทั้งนี้ รายได้ภาคเกษตร (+7.1% vs. +7.2% เดือนก่อน) ขยายตัวต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดแรงงานยังคงเปราะบาง การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวสูงที่ […]
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 31 มี.ค. 2564 ปิดตลาดที่ 1,587.21 จุด ลดลง 2.32 จุด
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 31 มี.ค. 2564 ปิดตลาดที่ 1,587.21 จุด ลดลง 2.32 จุด หรือ -0.15% ระหว่างวัน ดัชนีสูงสุดที่ 1,593.93จุด และต่ำสุดที่ 1,585.58 จุด มูลค่าการซื้อขาย 72,418.48 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.PTT ปิดที่ 41.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,335.32 ลบ. 2.EA ปิดที่ 62.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,298.14 ลบ. 3.STGT ปิดที่ 41.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 […]
กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นอินเดียมิดแคปเพื่อการเลี้ยงชีพ (B-INDIAMRMF)
Highlight ในช่วงที่ผ่านมา ตลาดอินเดียมีผลการดำเนินงานดี โดยปัจจัยที่สนับสนุนให้หุ้นอินเดียกลับมาอยู่ในความสนใจของนักลงทุนต่างชาติอีกครั้งได้แก่ 1) การอัดฉีดเงินจำนวน 98,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน 2) การขายรัฐวิสาหกิจกลุ่มธนาคารและประกันภัย 3) รัฐจะกระตุ้นการผลิตในประเทศด้วยการขึ้นอัตราภาษีนำเข้า ผู้จัดการกองทุนหลักมีมุมมองบวกต่อตลาดหุ้นอินเดียจากกิจกรรมเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น ปัจจัยที่สำคัญมาจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งด้านการเงินและการคลัง ซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณอุปสงค์อย่างมาก อีกทั้งการฟื้นตัวของผลประกอบการจากภาคธุรกิจเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ในส่วนอัตราดอกเบี้ยนโยบายมองว่าน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และยังไม่มีแนวโน้มปรับขึ้นในอนาคตอันใกล้
กองทุนเปิดบัวหลวงภารตะ (B-BHARATA)
Highlight ในช่วงที่ผ่านมา ตลาดอินเดียมีผลการดำเนินงานดี โดยปัจจัยที่สนับสนุนให้หุ้นอินเดียกลับมาอยู่ในความสนใจของนักลงทุนต่างชาติอีกครั้งได้แก่ 1) การอัดฉีดเงินจำนวน 98,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน 2) การขายรัฐวิสาหกิจกลุ่มธนาคารและประกันภัย 3) รัฐจะกระตุ้นการผลิตในประเทศด้วยการขึ้นอัตราภาษีนำเข้า ผู้จัดการกองทุนหลักมีมุมมองบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอินเดีย จากแนวทางการเติบโตของเศรษฐกิจเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น และค่าเงินรวมถึงเงินเฟ้อของอินเดียที่มีเสถียรภาพ นอกจากนี้ภาครัฐยังคงเป็นปัจจัยสนุนสนุนตลาดด้วยนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ
กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นญี่ปุ่น (B-NIPPON)
Highlight หุ้นที่มีผลการดำเนินงานที่ดีตอนเกิดการแพร่ระบาด COVID-19 ปรับตัวลดลงอย่างมาก เช่น Pigeon, Chugai Pharmaceutical, Keyence, Unicharm และ Obic ในขณะที่ราคาหุ้นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบในปีที่แล้วอย่างมากปรับตัวเพิ่มขึ้น เช่น Fast Retailing, Recruit Holdings และ Kakaku.com ซึ่งเป็นผลมาจากความหวังด้านการแจกจ่ายวัคซีน กำไรของบริษัทจดทะเบียนสำหรับปีบประมาณที่จะสิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2021 มีแนวโน้มไม่ดีนัก เนื่องจากยังได้รับผลกระทบจาก COVID-19 อย่างไรก็ตามสำหรับปีงบประมาณที่จะสิ้นสุดมีนาคม 2022 มีแนวโน้มเติบโตกว่า 35.7% เมื่อดูในแต่ละภาคส่วน ณ ปัจจุบัน พบว่า ภาคการผลิตฟื้นตัวจากดีมานด์ตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ในขณะที่ภาคการบริการยังคงอ่อนแอจากการแพร่ระบาด
B-ASEAN B-ASEANRMF Product Update
กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นอาเซียน (B-ASEAN) กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นอาเซียนเพื่อการเลี้ยงชีพ (B-ASEANRMF)
Highlight ผู้จัดการกองทุนเพิ่มน้ำหนักหุ้นวัฏจักร (Cyclical) ได้แก่ กลุ่มธนาคาร และกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ รวมทั้งกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศ เช่น กลุ่มโรงแรมและสนามบิน ด้านรายประเทศ ผู้จัดการกองทุนมีมุมมองเชิงบวกกับเวียดนามและเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในเวียดนาม ปีที่แล้วเป็นปีที่หุ้นเทคโนโลยีมีผลการดำเนินงานโดดเด่น ในขณะที่หุ้นวัฏจักรไม่ได้รับการสนใจ ซึ่งในปีนี้จะเห็นภาพย้อนกลับเมื่อนักลงทุนหันมาสนใจหุ้นมูลค่าและวัฏจักร (Value and Cyclical) จากการกระตุ้นทางการคลังอย่างมากจากรัฐบาลทั่วโลก ความคาดหวังของเงินเฟ้อจึงเพิ่มสูงขึ้น สินค้าโภคภัณฑ์ได้รับประโยชน์จากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น และธนาคารจะได้รับประโยชน์จากผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้น เงินลงทุนต่างประเทศออกจากหุ้นอาเซียนอย่างมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา หากตลาดอาเซียนมีเสถียรภาพมากขึ้นอาจเป็นปัจจัยบวกให้เงินทุนไหลกลับเข้ามาได้
กองทุนรวมบัวหลวงหุ้นธรรมาภิบาลไทย (B-THAICG)
Highlight กลยุทธ์การลงทุนยังต้องมีความ Selective เนื่องจากระดับ Valuation ของตลาดโดยรวมยังอยู่ในระดับที่ตึงตัว อาจลดน้ำหนัก หุ้นเติบโต (Growth) เป็นการชั่วคราว และให้น้ำหนักกับหุ้นคุณค่า (Value) และหุ้นวัฏจักร (Cyclicals) Theme การลงทุนของกองทุนบัวหลวงปี 2564 คือ ‘ผ่านพ้นอุปสรรค เปิดรับ New Normal’ เน้นลงทุนในบริษัทที่ปรับตัวได้ดีและทนทานต่อการดิสรัปชัน รวมถึงการกระจายการลงทุนไปต่างประเทศเพราะหุ้นที่เกี่ยวกับนวัตกรรมและดิสรัปชั่นในต่างประเทศมีตัวเลือกที่หลากหลายกว่าในประเทศ มุมมองเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก จากการที่ประเทศต่างๆ เริ่มกลับมาผ่อนคลายมาตรการ Lockdown และการเริ่มฉีดวัคซีน ความกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อที่อาจเร่งตัวเพิ่มขึ้น สร้างความกังวลว่า Fed อาจลดการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเร็วขึ้น และส่งผลกดดันต่อระดับ Valuation ของตลาด โดยเฉพาะหุ้น Growth Stocks ที่ได้ผลประโยชน์สูงจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำในช่วงที่ผ่านมา ไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดระลอกสองได้ดี มีมาตรการพยุงการบริโภคในประเทศ ซึ่งจะเป็นตัวหนุนการใช้จ่ายในประเทศหลังการเปิดเมืองได้ และความคืบหน้าในการแจกจ่ายวัคซีน ถือเป็นความหวังเชิงบวกต่อภาคการท่องเที่ยวที่จะเริ่มกลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเต็มรูปแบบได้อีกครั้ง แม้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจยังไม่กลับมาเหมือนเดิม แต่การเริ่มกระจายวัคซีนให้ประชาชนและการเปิดให้ดำเนินกิจกรรมได้ตามปกติ ทำให้เห็นแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งช่วยหนุนให้ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น กลยุทธ์การลงทุนยังต้องมีความ […]
B-IR-FOF B-IR-FOFRMF Product Update
กองทุนเปิดฟันด์ออฟฟันด์บัวหลวงโครงสร้างพื้นฐานและอสังหาริมทรัพย์ (B-IR-FOF) กองทุนเปิดฟันด์ออฟฟันด์บัวหลวงโครงสร้างพื้นฐานและอสังหาริมทรัพย์เพื่อการเลี้ยงชีพ (B-IR-FOFRMF)
Highlight PF&REITs ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระแสเงินสดอย่างสม่ำเสมอ ในสถานการณ์อัตราดอกเบี้ยและอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจอยู่ในระดับต่ำ ปัจจัยบวกต่อสินทรัพย์กลุ่ม PF&REITs มี 3 ปัจจัย ได้แก่ ปัจจัยแรก ระดับราคาปรับตัวลงมาค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมา จนทำให้ Valuation อยู่ในระดับน่าสนใจมากขึ้น ปัจจัยที่สอง ด้วยระดับราคาที่ปรับลงมา ทำให้ Dividend Yield น่าจูงใจ และสุดท้าย ผลบวกจากมาตรการเปิดเมืองที่ผ่อนคลายมากขึ้น ตามการพัฒนาของวัคซีน และการกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวของรัฐบาล ทำให้ REITs เริ่มกลับมาเป็นที่น่าสนใจอีกครั้งหนึ่ง
เพย์พาลเปิดตัวบริการชำระเงินด้วยคริปโต
ซีเอ็นบีซี รายงานว่า เพย์พาลจะอนุญาตให้ผู้บริโภคในสหรัฐฯ ใช้คริปโตเคอเรนซีที่พวกเขาถืออยู่ในการชำระเงินกับร้านค้าออนไลน์ทั่วโลกกว่าหลายล้านแห่งที่เป็นเครือข่ายได้ ซึ่งความเคลื่อนไหวนี้มีนัยสำคัญในการกระตุ้นให้เกิดการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลในกิจกรรมเชิงพาณิชย์ที่เกิดขึ้นทุกวัน ผู้บริโภค ที่ถือครองบิตคอยน์ อีเธอเรียม บิตคอยน์ แคช และไลท์ คอยน์ ในกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของเพย์พาล จะได้รับอนุญาตให้แปลงคริปโตเคอเรนซีเหล่านี้ที่ถือครองอยู่เป็นเงินสกุลท้องถิ่นเพื่อชำระรายการซื้อขายกับร้านค้าได้ บริการนี้ เพย์พาลเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว โดยจะพร้อมให้ใช้ได้กับร้านค้ากว่า 29 ล้านแห่งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า “นี่เป็นครั้งแรกที่คุณจะใช้คริปโตเคอเรนซีได้แบบไร้รอยต่อในแนวทางเดียวกับบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตที่อยู่ในวอลเล็ทเพย์พาล” Dan Schulman ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประกาศอย่างเป็นทางการ การชำระเงินโดยใช้คริปโตเคอเรนซีจะเพิ่มความสามารถให้ผู้ใช้งานเพย์พาลที่ซื้อ ขาย และถือครองคริปโตเคอเรนซี ขณะที่ในซานโฮเซ แคลิฟอเนีย ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัท เปิดตัวการใช้งานนี้ไปตั้งแต่เดือน ต.ค. 2020 แล้ว ทั้งนี้ การนำเสนอทางเลือกนี้ ทำให้เพย์พาลเป็นหนึ่งในบริษัทการเงินกระแสหลักที่ใหญ่ที่สุดที่เปิดเครือข่ายของตัวเองรับคริปโตเคอเรนซี และช่วยเพิ่มแรงวิ่งของราคาเหรียญดิจิทัลด้วย