บริษัทยักษ์ใหญ่ในธุรกิจระบบชำระเงินตบเท้าร่วมสนับสนุนโครงการคริปโตฯของเฟซบุ๊ก

บริษัทยักษ์ใหญ่ในธุรกิจระบบชำระเงินตบเท้าร่วมสนับสนุนโครงการคริปโตฯของเฟซบุ๊ก

ซีเอ็นบีซี รายงานว่า อูเบอร์ เพย์พาล วีซ่า และมาสเตอร์การ์ด ซึ่งล้วนเป็นผู้ให้บริการระบบชำระเงินรายใหญ่ ตกลงที่จะสนับสนุนโครงการบล็อกเชนที่เฟซบุ๊กกำลังทำอยู่ โดยจนถึงตอนนี้เฟซบุ๊กลงนามในสัญญาไปแล้วกับบริษัทมากกว่า 12 แห่ง ที่จะเข้ามาสนับสนุนโครงการบล็อกเชนที่ทำ ทั้งนี้ บริษัทในกลุ่มที่เข้ามาร่วมสนับสนุนโครงการของบล็อกเชน คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  เพื่อสนับสนุนการทำคริปโตเคอเรนซีของเฟซบุ๊ก สำหรับโครงการความร่วมมือนี้ คาดว่าจะมีการเปิดเผยรายละเอียดในสัปดาห์นี้ โดยรายงานข่าวจากหลายๆ แหล่งข่าวในช่วงเดือนที่ผ่านมา ต่างก็ระบุว่า เฟซบุ๊กพยายามจะนำเรื่องความพยายามในการสร้างคริปโตเคอเรนซี ซึ่งสามารถจะเชื่อมโยงกับมูลค่าของสกุลเงินที่รัฐบาลต่างๆ เป็นผู้ออก อย่างไรก็ดี เฟซบุ๊กยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับข่าวที่เกิดขึ้น    

เจาะเทคนิคการออมดีๆ ของคนรุ่นใหม่

เจาะเทคนิคการออมดีๆ ของคนรุ่นใหม่

  ทีมงานกองทุนบัวหลวงมีโอกาสร่วมลงพื้นที่มหาวิทยาลัยบูรพา เพื่อจัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง และธนาคารกรุงเทพ ภายใต้โครงการ The Stock Master University ในระหว่างกิจกรรมครั้งนี้ เราลองสอบถามเทคนิคที่น่าสนใจเกี่ยวกับการออมเงินของน้องๆ นักศึกษามหาวิทยาลัยบูรพามาฝากกัน เผื่อใครมองว่า ดี ก็สามารถนำไปปรับใช้ได้ เจ้าของเทคนิค มีชื่อว่า “ธนวัฒน์ สัตยวงศ์” นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาการเงิน คณะการจัดการและการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยบูรพา น้องธนวัฒน์ ระบุว่า เทคนิคการออม คือ เมื่อได้เงินค่าขนมมา 100% เขาจะหักเพื่อเก็บออมก่อนเลย 25% ส่วนอีก 75% จะเหลือไว้ใช้จ่ายทั้งเดือน แต่ถ้าเกิดเงินที่ใช้จ่ายไม่เพียงพอจริงๆ  ก็จะนำเงินเก็บมาใช้ โดยมีข้อแม้ว่า จะต้องมีอัตราดอกเบี้ยจ่ายคืนให้เงินเก็บของตัวเองในอัตราเดือนละ 10% เมื่อถามว่า ทำไมเราควรเก็บออม ธนวัฒน์ ระบุว่า คนส่วนใหญ่ใช้เงินกันไม่เป็น ต่อให้หาเงินมาได้แค่ไหนก็หมดไปกับค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย และสิ่งของที่อยากได้ […]

เศรษฐกิจอาเซียนในระยะข้างหน้าน่าจะเร่งขึ้นจากแรงส่งของอุปสงค์ภายในประเทศ

เศรษฐกิจอาเซียนในระยะข้างหน้าน่าจะเร่งขึ้นจากแรงส่งของอุปสงค์ภายในประเทศ

BF Asean Corner ผ่านมาเกือบครึ่งปีแล้วสำหรับปี 2019 สำหรับเศรษฐกิจของอาเซียนในไตรมาสแรกที่ผ่านมา ยังคงมีโมเมนตัมที่สามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง ซึ่งเศรษฐกิจของอินโดนีเซียและมาเลเซียขยายตัวชะลอลงจากไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมาเล็กน้อย แต่นับว่าดูดีเลยทีเดียวท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวนในขณะนี้ ขณะที่เศรษฐกิจของฟิลิปปินส์และสิงคโปร์จะขยายตัวได้น่าผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็มีปัจจัยเฉพาะที่สามารถอธิบายได้คือ ฟิลิปปินส์เป็นผลจากความล่าช้าในการผ่านร่างนโยบายงบประมาณ สำหรับสิงคโปร์เนื่องจากเป็นประเทศที่พึ่งพิงการส่งออกเป็นหลัก ก็ย่อมได้รับผลกระทบจากประเด็นกีดกันทางการค้า รวมถึงเป็นผลของฐานที่สูงของช่วงเดียวกับของปีที่ผ่านมาอีกด้วย แต่อย่างหนึ่งที่เหมือนกัน คือปัจจัยหลักที่ส่งผลให้เศรษฐกิจอาเซียนในไตรมาสแรกของปี สามารถทำให้เติบโตได้ดี คืออุปสงค์ภายในประเทศ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชนที่แข็งแกร่ง ขณะที่ การบริโภคภาครัฐบาลในบางประเทศ และการลงทุนในทุกประเทศอาเซียนยังไม่สามารถเติบโตได้ดีเท่าที่ควร สำหรับในระยะข้างหน้า เศรษฐกิจของประเทศอาเซียนน่าจะขยายตัวเร่งขึ้นจากไตรมาสแรก โดยมีปัจจัยสนับสนุน อย่างแรกคือการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ หลังการเลือกตั้งของอินโดนีเซียท่ามกลางชัยชนะของโจโควีที่ได้ก้าวสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 เช่นเดียวกับฟิลิปปินส์ที่เพิ่งผ่านพ้นการเลือกตั้งกลางเทอมเมื่อเดือนที่ผ่านมา ซึ่งพรรคของรัฐบาลภายใต้การนำของดูเตอร์เต้ได้กวาดชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ ความต่อเนื่องนโยบายของรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศที่เน้นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานน่าจะส่งผลให้การเบิกจ่ายงบประมาณมีประสิทธิภาพ ขณะที่รัฐบาลมาเลเซียภายใต้การนำของมหาเธร์ ก็น่าจะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการทบทวนนโยบายพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ อันที่ 2 คือ การลงทุนภาคเอกชน ซึ่งความเชื่อมั่นของนักลงทุนหลังการเลือกตั้งของประเทศอาเซียนซึ่งมีเสถียรภาพ จะส่งผลให้การลงทุนเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ การลงทุนภาคการก่อสร้างของสิงคโปร์ที่มีทิศทางที่ฟื้นตัวขึ้นตัวอย่างต่อเนื่องจากการลงทุนภาคอสังหาริมทรัพย์เพื่อดึงดูดการลงทุน อีกอันที่สำคัญคือการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลง โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งประเทศที่ได้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปแล้วคือมาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ส่วนอินโดนีเซียก็มีแนวโน้มที่จะปรับลดเช่นกัน ซึ่งการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายจะเป็นอีกหนึ่งแรงส่งสำคัญที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านต้นทุนทางการเงินที่ลดลง […]

ดัชนีหุ้นไทย 13 มิ.ย. ปิดตลาด 1,674.14 จุด เพิ่มขึ้น 3.03 จุด

ดัชนีหุ้นไทย 13 มิ.ย. ปิดตลาด 1,674.14 จุด เพิ่มขึ้น 3.03 จุด

ดัชนีหุ้นไทยประจำวันที่ 13 มิ.ย. 2562 ปิดตลาดที่ 1,674.14 จุด เพิ่มขึ้น 3.03 จุด หรือ 0.18% โดยระหว่างวันดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,675.84 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,663.39 จุดมูลค่าการซื้อขาย 55,324.82 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.BEM ปิดที่ 11.30 บาท ลดลง -0.10 บาท (-0.88%) มูลค่าการซื้อขาย 2,894.73 ลบ. 2.PTT ปิดที่ 47.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 2,481.36 ลบ. 3.CPALL ปิดที่ 82.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท (+1.22%) มูลค่าการซื้อขาย […]

ปีนังอนุมัติการลงทุนในภาคการผลิตไตรมาสแรกทำสถิติสูงสุดเท่าที่เคยมี

ปีนังอนุมัติการลงทุนในภาคการผลิตไตรมาสแรกทำสถิติสูงสุดเท่าที่เคยมี

นิว สเตรทไทม์ส รายงานว่า ปีนังอนุมัติการลงทุนในภาคการผลิต 8,800 ล้านริงกิต ในไตรมาสแรกที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 768% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นับเป็นสถิติสูงสุดเท่าที่เคยมีมา สำหรับการอนุมัติลงทุนทั้งหมดนั้น  8,470 ล้านริงกิต เป็นเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) ที่เข้ามาลงทุนในภาคการผลิต เพิ่มขึ้น 1,360% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 42% ของเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศทั้งหมดที่มาลงทุนในมาเลเซีย โดยเงินลงทุนในภาคการผลิตหลักๆ ในปีนัง ครอบคลุมโครงการของบริษัท ไมครอน เทคโนโลยี และ จาบิล เซอร์กิต Chow Kon Yeow หัวหน้าคณะรัฐมนตรี มาเลเซีย กล่าวว่า ระหว่างเดือน ม.ค.-มี.ค. ปีนังอนุมัติโครงการลงทุนไปทั้งหมด 41 โครงการ มูลค่าประมาณ 8,850 ล้านริงกิต คิดเป็น 35% ของยอดอนุมัติการลงทุนในภาคการผลิตทั้งหมดของมาเลเซีย โดยคาดว่า การอนุมัติเงินลงทุนทั้งหมดในไตรมาสแรกจะช่วยสร้างงานใหม่ในมาเลเซียถึง […]

กองทุนรวมบัวหลวงหุ้นธรรมาภิบาลไทย (B-THAICG)

กองทุนรวมบัวหลวงหุ้นธรรมาภิบาลไทย (B-THAICG)

BBLAM’s 2019 INVESTMENT THEMES “รุ่งเรืองด้วยโครงสร้างพื้นฐาน บนสายพานของโลจิสติกส์” ภาพรวมตลาดหุ้น ในเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง เนื่องจากความคืบหน้าของสถานการณ์การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ไม่เป็นไปตามคาด หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ได้เพิ่ม Huawei เข้าสู่บัญชีดำการซื้อขาย ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถซื้อชิ้นส่วนหรือสินค้าจากสหรัฐฯ ได้ ส่วนทางจีนได้ตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐฯ มูลค่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้สหรัฐฯ มีท่าทีอ่อนลงโดยการยืดระยะเวลาการคว่ำบาตรสินค้า Huawei ออกไป 3 เดือน ความกังวลต่อสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ของน้ำมันดิบ ทำให้ทิศทางราคาน้ำมันดิบและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อ่อนตัวลงตามทิศทางตลาดหุ้น ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เริ่มส่งสัญญาณการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย นอกจากนี้ยังมีปัจจัยความกังวลเกี่ยวกับการแยกตัวออกจากกลุ่มสหภาพยุโรป (EU) ของสหราชอาณาจักร (Brexit) หลังนางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ […]

กองทุนรวม คนไทยใจดี (BKIND)

กองทุนรวม คนไทยใจดี (BKIND)

BBLAM’s 2019 INVESTMENT THEMES “รุ่งเรืองด้วยโครงสร้างพื้นฐาน บนสายพานของโลจิสติกส์” ภาพรวมตลาดหุ้น ในเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง เนื่องจากความคืบหน้าของสถานการณ์การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ไม่เป็นไปตามคาด หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ได้เพิ่ม Huawei เข้าสู่บัญชีดำการซื้อขาย ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถซื้อชิ้นส่วนหรือสินค้าจากสหรัฐฯ ได้ ส่วนทางจีนได้ตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐฯ มูลค่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้สหรัฐฯ มีท่าทีอ่อนลงโดยการยืดระยะเวลาการคว่ำบาตรสินค้า Huawei ออกไป 3 เดือน ความกังวลต่อสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ของน้ำมันดิบ ทำให้ทิศทางราคาน้ำมันดิบและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อ่อนตัวลงตามทิศทางตลาดหุ้น ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เริ่มส่งสัญญาณการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย นอกจากนี้ยังมีปัจจัยความกังวลเกี่ยวกับการแยกตัวออกจากกลุ่มสหภาพยุโรป (EU) ของสหราชอาณาจักร (Brexit) หลังนางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ […]

กองทุนเปิดบัวหลวงโกลด์ฟันด์ (BGOLD) และกองทุนเปิดบัวหลวงโกลด์เพื่อการเลี้ยงชีพ (BGOLDRMF)

กองทุนเปิดบัวหลวงโกลด์ฟันด์ (BGOLD) และกองทุนเปิดบัวหลวงโกลด์เพื่อการเลี้ยงชีพ (BGOLDRMF)

สรุปภาวะการลงทุนในทองคำ “ราคาทองคำคาดว่าจะอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นและอาจมีแนวโน้มขึ้นไปทดสอบระดับแนวต้านสำคัญที่ 1,350 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ โดยมีปัจจัยหลักจากอุปสงค์ต่อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยสำหรับพอร์ตการลงทุนเร่งตัวขึ้น ด้วยตลาดการเงินและสภาวะเศรษฐกิจโลกในปีนี้ยังคงต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนจากความเสี่ยงทางด้านขาลง” หลังจากที่ราคาทองคำอยู่ในขาลงมาโดยตลอดทั้งปี 2018 ทว่าตั้งแต่เดือน ม.ค. ปีนี้ ราคาทองคำปรับฟื้นตัวมาเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1,270 – 1,340 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคาทองได้ปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,340 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ในช่วงเดือน ก.พ. ก่อนที่จะย่อลงมาสวนทางกับตลาดหุ้นทั่วโลกที่เดินหน้าปรับตัวขึ้น จากความหวังเรื่องการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ – จีนมีสัญญาณความคืบหน้า ส่งผลให้ผลตอบแทนของทองคำในช่วง ม.ค. – พ.ค. อยู่ที่ 1.9% อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำในช่วงเดือน พ.ค. ส่งสัญญาณกลับตัวเพิ่มอีกครั้งเมื่อความเสี่ยงเรื่องสงครามการค้าเร่งตัวขึ้น หลังจากสหรัฐฯ ประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้ากับจีนอีกครั้ง พร้อมกับความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ทำให้เป็นที่ค่อนข้างแน่ชัดว่าช่วงเวลาของอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นของโลกสิ้นสุดลงแล้ว จากการที่ทางธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ออกมาส่งสัญญาณว่าพร้อมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงหากมีความจำเป็น รวมถึงธนาคารกลางอื่นๆ ล้วนส่งสัญญาณดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรทั่วโลกส่วนมากปรับตัวลดลงและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ซึ่งส่งผลบวกต่อราคาทองคำด้วยความสัมพันธ์ที่ผกผันกันระหว่างราคาทองคำกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ด้านอุปสงค์ต่อทองคำในช่วงไตรมาสแรกของปี 2019 เพิ่มขึ้น 7% […]

ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดที่ 1,671.11 จุด เพิ่มขึ้น 0.70 จุด หรือ 0.04%

ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดที่ 1,671.11 จุด เพิ่มขึ้น 0.70 จุด หรือ 0.04%

ดัชนีหุ้นไทยประจำวันที่ 12 มิ.ย. 2562 ปิดตลาดที่ 1,671.11 จุด เพิ่มขึ้น 0.70 จุด หรือ 0.04% โดยระหว่างวันดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,672.50 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,665.02 จุดมูลค่าการซื้อขาย 44,224.96 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.BEM ปิดที่ 11.40 บาท ลดลง -0.60 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,945.57 ลบ. 2.SCB ปิดที่ 134.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,030.60 ลบ. 3.BEAUTY ปิดที่ 4.42 บาท เพิ่มขึ้น 0.24 บาท […]

ลงทุนตามเทรนด์คนรุ่นใหม่ไปกับ B-FUTURE

ลงทุนตามเทรนด์คนรุ่นใหม่ไปกับ B-FUTURE

ลงทุนตามเทรนด์คนรุ่นใหม่ไปกับ B-FUTURE โดย…ศรศักดิ์ สร้อยแสงจันทร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงิน BF Knowledge Center กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเพื่อคนรุ่นใหม่ (B-FUTURE) เป็นกองทุนที่ต้องการตอบสนองการลงทุนสำหรับคนรุ่นใหม่ โดยลงทุนในหุ้นที่มีโอกาสเติบโตไปกับแนวโน้มที่โดดเด่น ในอนาคต 2 ประการ การบริโภคของกลุ่ม Millennial คนรุ่น Millennial หรือ Generation Y คือคนที่เกิดในช่วงปี คศ 1980-2000 เป็นคนรุ่นหนุ่มสาวในวัยทำงานที่เป็นกลุ่มผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบันต่อเนื่องไปอีก 20-30 ปีข้างหน้า โดยมีสัดส่วน 25% ของประชากรโลก ซึ่งมีทั้งอำนาจซื้อและความต้องการบริโภคสินค้าบริการที่สูงกว่ากลุ่มอื่นๆ Gen Y จะมีพฤติกรรมและมุมมองการใช้ชีวิต ทั้งด้านการทำงาน การกินอยู่ บริโภค ท่องเที่ยว การดูแลสุขภาพ ที่แตกต่างไปจากคนรุ่นก่อนค่อนข้างมาก ซึ่งก่อให้เกิดกระแสความต้องการสินค้าและบริการที่สามารถตอบสนอง Life style ของพวกเขา เช่น การใช้ชีวิตผ่านระบบ digital/On-line ในเกือบทุกด้าน ที่ต้องสะดวก รวดเร็ว หรือ […]